ยอดคนสองภาค
ตั้งแต่ดูกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างฟอร์มูล่าวัน โมโต้จีพี หรือแรลลี่มา เราก็ได้เห็นได้รู้จักนักแข่งระดับสุดยอดตั้งหลายคน แต่คนที่อยากเขียนถึงวันนี้ เป็นคนที่ถือว่าพิเศษสุดจริงๆ ค่ะ เพราะเขาเป็นคนเดียวบนโลกนี้ที่เป็นทั้งแชมป์ฟอร์มูล่าวันและแชมป์มอเตอร์ไซค์!
แรงบันดาลใจที่เขียนถึง จอห์น เซอร์ทีส์ (John Surtees) อดีตนักแข่งวัย 77 ปีผู้นี้ก็เพราะเห็นข่าวที่เมื่อวันก่อนคุณปู่เซอร์ทีส์ได้ไปเยี่ยมเฟอร์รารี่บ้านเก่าของเขา นอกจากจะเดินชมโรงงานที่มาราเนลโล่ ชมพิพิธภัณฑ์ที่ยังเก็บหมวกกันน็อกของเขาในปีที่ได้แชมป์โลกกับเฟอร์รารี่ รวมทั้งได้พบทีมงานคนเก่าคนแก่ที่เคยร่วมสู้กันมาในอดีต เขายังได้เสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองกับนักขับคนปัจจุบันของทีม เฟอร์นันโด อลอนโซ่ อีกด้วย ซึ่งเซอร์ทีส์ได้กล่าวว่า เมื่อมองตาอลอนโซ่ เขาก็พบว่านักขับรุ่นลูกคนนี้มีความมุ่งมั่นเหมือนสมัยที่เขายังแข่งอยู่เลยทีเดียว
คนสองวัยแต่หัวใจเดียวกัน
เซอร์ทีส์เป็นชาวอังกฤษ เกิดเมื่อปี 1934 ที่เซอร์เรย์ เริ่มการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก (สมัยนั้นยังไม่เรียกโมโต้จีพี) ในปี 1952 ขณะอายุ 18 ปี โดยลงแข่งครั้งแรกในรุ่น 500 ซีซีในรายการอัลสเตอร์ กรังด์ปรีซ์ ที่ไอร์แลนด์เหนือ เขาลงแข่งหลายรุ่นในคราวเดียวกัน และได้เป็นแชมป์โลกทั้งในรุ่น 500 ซีซี รวม 4 สมัยในปี 1956 1958 1959 1960 และรุ่น 350 ซีซี ในปี 1958 1959 1960 ซึ่งปี 1960 นั้นนับเป็นปีสุดท้ายที่เขาลงแข่งขันในโลกของมอเตอร์ไซค์ ด้วยสถิติชนะรวม 38 ครั้ง จบบนโพเดียม 45 ครั้ง และทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด 34 ครั้ง แต่น่าแปลกที่เขาไม่เคยสตาร์ทจากตำแหน่งโพลเลย
เพื่อมองหาความท้าทายใหม่ๆ ในปี 1960 เขาได้ย้ายมาขับ 4 ล้อดูบ้างขณะอายุได้ 26 ปี โดยเริ่มต้นอาชีพนักขับฟอร์มูล่าวันกับทีมโลตัส ลงแข่งครั้งแรกในรายการโมนาโค กรังด์ปรีซ์ ซึ่งในสนามต่อมาที่อังกฤษ เขาสามารถขึ้นโพเดียมในอันดับที่ 2 ได้ทันทีและยังได้โพลโพซิชั่นในการแข่งขันครั้งที่ 3 ในรายการปอร์ตุกีส กรังด์ปรีซ์ อีกด้วย
จอห์น เซอร์ทีส์ ในรถเฟอร์รารี่ เมื่อปี 1964 ที่อังกฤษ
หลังจากขับให้กับโลตัสและย้ายไปทีมอื่นๆ บ้าง ในปี 1963 เขาย้ายมาขับให้กับเฟอร์รารี่ นับเป็นยุครุ่งเรืองของเขาเมื่อสามารถคว้าแชมป์โลกกับทีมได้ในปี 1964 อยู่ที่นั่นเขามีฉายาว่า "figlio del vento" หรือ "son of the wind" จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเร็วขนาดไหน
อยู่กับเฟอร์รารี่ไม่นาน ในปี 1965 เขาย้ายไปขับให้คูเปอร์ ฮอนด้า และยังมีทีมอื่นๆ โดย 3 ฤดูกาลสุดท้ายระหว่างปี 1970-1972 เขาได้ลงแข่งในนามทีมของตนเอง แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จได้เท่าสมัยอยู่เฟอร์รารี่อีกเลย เมื่อสิ้นสุดปี 1972 แล้วเขาก็หันหลังให้กับวงการฟอร์มูล่าวันด้วยสถิติชนะ 6 ครั้ง โพเดียม 24 ครั้ง โพลโพซิชั่น 8 ครั้ง และทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด 10 ครั้ง
ถึงเวลาจะผ่านมาหลายทศวรรษ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะเป็นทั้งแชมป์โลกมอเตอร์ไซค์และฟอร์มูล่าวันได้อีก และคนเขียนก็เชื่อว่าจะยังไม่มีใครทำแบบนี้ได้ไปอีกนานแสนนานเลยค่ะ
**********************************
กลับมาในยุคปัจจุบันกันบ้าง...
เมื่อวานนี้เอชอาร์ทียืนยันแล้วว่าทีมได้เซ็นสัญญากับเร้ดบูลในการดึงตัว ดาเนียล ริคเคียร์โด (ได้ยินคนพากย์ฝรั่งเขาอ่านแบบนี้ล่ะค่ะ) มาขับเป็นตัวจริงตั้งแต่สนามหน้าที่ซิลเวอร์สโตนเป็นต้นไป โดยคาดว่าน่าจะมาแทนนาเรน คาร์ธิเคยัน อย่างไรก็ตาม นักขับอินเดียคนนี้อาจยังมีโอกาสได้ลงเป็นตัวจริงอีกครั้งที่บ้านเกิดในรายการอินเดียน กรังด์ปรีซ์
สำหรับริคเคียร์โด ซึ่งอายุ 22 ปีเต็มในวันนี้ เป็นนักขับสำรองให้ค่ายเร้ดบูลโดยปกติแล้วเขาทำหน้าที่ลงฝึกซ้อมวันศุกร์ให้กับโตโร รอสโซ มาตั้งแต่เปิดฤดูกาล การเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นความต้องการของเร้ดบูลที่อยากพัฒนานักขับเยาวชนของตนโดยพยายามสร้างโอกาสเพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้มากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าริคเคียร์โดอาจได้เป็นตัวจริงในฤดูกาลหน้าแทนเซบาสเตียน บูเอมี่ หรือไฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ ก็เป็นได้
และข่าวสุดท้ายวันนี้ เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนบริติช กรังด์ปรีซ์ ที่อังกฤษเขากำลังมีงาน "Goodwood Festival of Speed" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม จริงๆ แล้วงานนี้จัดกันเป็นประจำทุกปีค่ะ จะมีรถแข่งเก่าๆ สวยๆ มาโชว์เต็มไปหมด ที่สำคัญบรรดานักแข่งและบุคคลสำคัญในวงการฟอร์มูล่าวัน โดยเฉพาะคนที่มีสายเลือดสหราชอาณาจักร ก็จะมารวมตัวกันในงานนี้ด้วย สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.goodwood.co.uk/festival-of-speed/welcome.aspx
*ข้อมูลจาก ferrari.com / formula1.com / wikipedia.org / autosport.com/f1 ภาพจาก ferrari.com / wikipedia.org / redbullracing.com
Create Date : 01 กรกฎาคม 2554 |
|
11 comments |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 12:03:21 น. |
Counter : 1075 Pageviews. |
|
|
|
สงสัยเราคงต้องรอให้ The Doctor มาลงแข่งในวงการ 4 ล้อ แล้วกระมังครับ