หวานอย่างไรให้ได้ประโยชน์
ความหวาน...เป็นรสชาติหนึ่งของอาหารที่คนรา “ติด” กันมากที่สุด นั่นเพราะความหวาน ทำให้รสชาติอาหารกลมกล่อม น้ำตาลจึงเป็นสิ่งที่ถูกใส่ลงในอาหารนานาชนิด อย่างเช่น น้ำอัดลมมีน้ำตาล 3 ช้อนชา เครื่องดื่มชาเขียวมีน้ำตาลสูงถึง 15.6 ช้อนชา หรือแม้แต่ เครื่องปรุงอย่างซอสมะเขือเทศก็ยังมีส่วนผสมของน้ำตาลแฝงอยู่เช่นกัน น้ำตาลจึงดูจะเป็นสิ่ง ที่เราหลีกเลี่ยงได้ยากและในความเป็นจริงน้ำตาลก็มีประโยชน์กับร่างกายอยู่เหมือนกัน เช่น ให้พลังงานแก่ร่างกายและทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ในทางการแพทย์ยังมีการนำน้ำตาลไปช่วยรักษาแผลติดเชื้ออย่างได้ผล เพราะน้ำตาลจะช่วยระงับการลุกลามของเชื้อและทำให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย
แต่ถึงจะมีประโยชน์ น้ำตาลก็มีผลเสียหลายประการต่อร่างกายเช่นกัน เช่น ทำให้การทำงาน ของฮอร์โมนไม่สมดุลรวมทั้งภูมิต้านทานในร่างกายลดลง ผลวิจัยยังพบว่า น้ำตาลยังทำให้ ร่างกายรับแร่ธาตุต่างๆได้น้อยลง ส่งผลต่ออารมณ์โดยตรงไม่ว่าจะทำให้รู้สึกตื่นตัว ซึมเศร้า กังวล หรือขาดสมาธิ น้ำตาลยังมีส่วนทำให้เกิดฟันผุ เพิ่มคอเลสเตอรอล ทำให้คลื่นสมองทำงานด้อยประสิทธิภาพ เป็นต้น
ในเมื่อมีข้อดีและข้อเสียอย่างนี้ ก็คงไม่จำเป็นถึงกับต้องตัดเป็นตัดตายกับความหวานไปเสีย เลยทีเดียว แต่ก็ควรเลือกรับประทานความหวานให้พอเหมาะพอดีและสอดคล้องกับความต้อง การของร่างกาย เช่น ผู้ที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย อาจต้องการแป้งและเนื้อสัตว์มากกว่า คนทั่วไป คนที่มีอาการหน้ามืดวิงเวียนง่ายก็ควรทานน้ำตาลมากขึ้น ส่วนถ้าต้องการควบคุม น้ำหนักก็ควรแก้ไขพฤติกรรมการกินโดยรวม โดยเลือกกินอาหารที่มีน้ำตาลน้อยลง หรือเลือกรับประทานอาหารที่ใช้สารแทนความหวานเพราะมีแคลอรีต่ำ และมีประโยชน์คือ ช่วยให้หวานได้เหมือนน้ำตาล เพื่อให้ร่างกายยังได้รับความหวานที่ช่วยควบคุมความ อยากอาหารได้ในปริมาณที่พอเหมาะ หวานแต่พอดีๆ ก็มีประโยชน์ได้เหมือนกัน
ที่มา Lisa
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2552 19:58:25 น. |
Counter : 822 Pageviews. |
|
|
|