กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มกราคม 2568
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
13 มกราคม 2568
space
space
space

การนั่งสมาธิไม่มีในพระพุทธศาสนาเลย

235 เขาว่าว่า 450 "การนั่งสมาธิไม่มีในพระพุทธศาสนาเลย"  ปฏิเสธเด็ดขาดให้มันรู้กันไปเลยว่าใครเป็นใคร      121  

การนั่งสมาธิไม่มีในพุทธศาสนาจริงหรือ?? - YouTube


- พุทธพจน์แสดงวิธีปฏิบัติ

       เบื้องแรก  พึงทราบวิธีปฏิบัติตามแนวพุทธพจน์ ดังนี้

        "ภิกษุทั้งหลาย   อานาปานสติ   เจริญอย่างไร   ทำให้มากอย่างไร   จึงจะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ? 

            ภิกษุในธรรมวินัยนี้

       ก. ไปสู่ป่า ก็ดี ไปสู่โคนไม้ ก็ดี ไปสู่เรือนว่าง ก็ดี

       ข. นั่งคู้บัลลังก์  ตั้งกายตรง  ดำรงสติเฉพาะหน้า  (= เอาสติมุ่งต่อกรรมฐาน คือ ลมหายใจที่กำหนด)

       ค. เธอมีสติหายใจเข้า   มีสติหายใจออก

ฯลฯ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=31-10-2023&group=82&gblog=104


235 เขาพูดถึงปฏิจจสมุปบาทกับอริยสัจด้วย เพราะฉะนั้น พิจารณาการเนื่องกันระหว่างปฏิจจสมุปบาทกับอริยสัจด้วย

- อริยสัจ กับ ปฏิจจสมุปบาท

     เมื่อมีผู้ถามว่า  "พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ?"  อาจตอบว่า  ตรัสรู้อริยสัจ ๔ หรืออาจตอบว่า ตรัสรู้ปฏิจจสมุปบาท ก็ได้  คำตอบทั้งสองนั้น  ต่างก็มีพุทธพจน์เป็นที่อ้างยืนยันได้

     ข้อควรทราบก็คือ   คำตอบทั้งสองอย่างนั้น   ตามที่จริงแล้ว  ก็ถูกต้องด้วยกัน และมีความหมายลงกันได้   เป็นอันหนึ่งอันเดียว  กล่าวคือ  ปฏิจจสมุปบาทก็เป็นเนื้อหาสำคัญของอริยสัจ และอริยสัจก็มีความหมายครอบคลุมปฏิจจสมุปบาท   เรื่องนี้  เป็นอย่างไร  พึงพิจารณาเริ่มตั้งแต่หลักฐานที่มาในคัมภีร์


     คัมภีร์วินัยปิฎก เล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เริ่มต้นเมื่อตรัสรู้ใหม่ๆ กำลังทรงเสวยวิมุตติสุข และพิจารณาทบทวนปฏิจจสมุปบาท ทั้งโดยอนุโลม (กระบวนการเกิดทุกข์) และโดยปฏิโลม (กระบวนการดับทุกข์) ตลอดเวลา ๑ สัปดาห์ ครั้นสิ้นระยะเสวยวิมุตติสุข ๗ สัปดาห์แล้ว เมื่อปรารภการที่จะทรงประกาศธรรมแก่ผู้อื่นต่อไป ทรงพระดำริว่า

        “ธรรมที่เราได้บรรลุแล้วนี้  เป็นของลึกซึ้ง  เห็นได้ยาก  รู้ตามได้ยาก ฯลฯ สำหรับหมู่ประชา ผู้เริงรมย์  รื่นระเริงอยู่ในอาลัย  ฐานะอันนี้   ย่อมเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก  กล่าวคือ หลักอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท  แม้ฐานะนี้  ก็เห็นได้ยาก  กล่าวคือ ... นิพพาน”  


     ส่วนในพระสูตร เมื่อปรากฏข้อความเกี่ยวกับพุทธประวัติตอนนี้ ก็จะเล่าความแนวเดียวกัน  เริ่มแต่พุทธดำริที่เป็นเหตุให้เสด็จออกผนวช  การเสด็จออกผนวช  การศึกษาในสำนักอาฬารดาบส และอุทกดาบส  การบำเพ็ญและการละเลิกทุกรกิริยา  การทรงกลับเสวยพระกระยาหาร แล้วบรรลุฌาน และตรัสรู้วิชชา ๓

ฯลฯ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=17-11-2023&group=82&gblog=119
 



บัลลังก์ ในคำว่า “นั่งขัดบัลลังก์” หรือ “นั่งคู้บัลลังก์” คือ นั่งขัดสมาธิ

ค้นคำว่า บัลลังก์ ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์


235 เสริมเรื่องกรรมให้มองให้กว้างขึ้นอีกว่า กรรม ปฏิจจสมุปบาท อริยสัจ  เนื่องกันยังไง 


- กรรม   ในฐานะหลักธรรมที่เนื่องอยู่ในปฏิจจสมุปบาท

     หลักธรรมต่างๆ  ไม่ว่าจะมีชื่อใดๆ  ล้วนสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งสิ้น  เพราะแสดงถึงหรือสืบเนื่องมาจากสัจธรรมเดียวกัน และเป็นไปเพื่อจุดหมายเดียวกัน  แต่นำมาแสดงในชื่อต่างๆ กัน โดยชี้ความจริงเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งคนละส่วนละตอนกัน บ้าง  เป็นความจริงอันเดียวกัน แต่แสดงคนละรูปละแนว   เพื่อวัตถุประสงค์คนละอย่าง บ้าง  ด้วยเหตุนี้  หลักธรรมบางข้อจึงเป็นเพียงส่วนย่อยของหลักใหญ่   บางข้อเป็นหลักใหญ่ด้วยกัน   ครอบคลุมความหมายของกันและกัน   แต่มีแนวหรือรูปแบบการแสดง และความมุ่งหมายจำเพาะในการแสดงต่างกัน

     ปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักธรรมใหญ่ที่แสดงความเป็นไปของชีวิตไว้ทั้งหมด  มีขอบเขตกว้างขวางครอบคลุมหลักธรรมปลีกย่อยในระดับต่างๆ อย่างทั่วถึง  เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการแห่งชีวิต หรือกระบวนธรรมเบ็ดเสร็จ   ถ้าเข้าใจปฏิจจสมุปบาทแล้ว  ก็ชื่อว่าเข้าใจชีวิต หรือเข้าใจพระพุทธศาสนาทั้งหมด   ดังพุทธพจน์ที่ว่า   “ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม” 

     หลักธรรมส่วนย่อยของปฏิจจสมุปบาท  ที่นิยมอธิบายกันมากที่สุด คงได้แก่ หลักกรรม  การนำหลักกรรมมาอธิบาย  อาจมองได้ทั้งในแง่ที่ ว่า กรรมเป็นเรื่องน่าสนใจในตัวของมันเอง และในแง่ที่ว่า ความเข้าใจเกี่ยวกับกรรมนั้น  เป็นบันไดสำคัญที่จะก้าวสู่ความความเข้าใจหลักปฏิจจสมุปบาท

     ว่าที่จริง   การอธิบายหลักกรรมตามเนื้อหาอย่างตลอดสาย ก็คือ วิธีการที่ง่ายขึ้นอย่างหนึ่ง ในการอธิบายหลักปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง


     กรรม เป็นเพียงส่วนหนึ่งในกระบวนการแห่งปฏิจจสมุปบาทซึ่งเห็นได้ชัด เมื่อแยกส่วนในกระบวนการนั้นออกเป็น ๓ วัฏฏะ (วน,วังวน) คือ กิเลส กรรม และวิบาก  หลักปฏิจจสมุปบาทแสดงถึงกระบวนการทำกรรม  และการให้ผลของกรรมทั้งหมด  ตั้งต้นแต่กิเลสที่เป็นเหตุให้ทำกรรม จนถึงวิบากอันเป็นผลที่จะได้รับ   เมื่อเข้าใจปฏิจจสมุปบาทดีแล้ว ก็เป็นอันเข้าใจหลักกรรมชัดเจนไปด้วย

ฯลฯ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=08-11-2023&group=88&gblog=82


อีกคลิปหนึ่งคนๆเดียวกัน    450 

ที่ ๔๐ "การนั่งสมาธิ " ไม่ใช่ "อานาปนสติ " และ"อานาปนสติ "ก็ไม่ใช่ "การนั่งสมาธิ"เลย (แก่ชื่นขวัญ) - YouTube


235 ทำความรู้จักเข้าใจคำว่า "อานาปานสติ" ที่ 450

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=07-04-2022&group=5&gblog=35


แน่ะ ขยันทำคลิปด้วย  121

ที่ ๔๒ "การนั่งสมาธิ " เป็นกาม ,เป็นนิวรณฺ ๕ ของผู้นั่งสมาธิ ทุกคน (แก่ชื่นขวัญ) - YouTube


 

 




 


Create Date : 13 มกราคม 2568
Last Update : 15 มกราคม 2568 19:47:55 น. 0 comments
Counter : 152 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space