|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
จามจุรีที่รัก
 | |  | |

ชื่อภาพ : คุณปู่ฉำฉา สถานที่ : บ้านโฮ่ง ลำพูน เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ ขนาด : ๒๘ x ๓๘ นิ้ว
จามจุรีที่รัก
คุณครับ
คุณคงคุ้นชินกับจามจุรีดีใช่ไหม เพราะคุณคือหนึ่งในผู้ผ่านประตูเทวาลัยนั้น และคงจะจำได้ว่าผมเปิดฉากนวนิยายเล่มหนึ่งของผมที่นั่น ริมสระน้ำมหาวิทยาลัยขณะจามจุรีสีชมพูร่วงพราวบนสนามหญ้า...
"นกสีฟ้า" นั่นยังไง พอนึกออกรึยัง ศรัทธาและความหวังซื่อใสของนักศึกษาหนุ่มสาวที่หวังจะเห็นแสงดาวบนดิน พวกเขาจึงออกโบยบินไปสู่ชนบท...
ขอโทษที...วันานผ่านไปแล้ว ผมไม่ได้ภูมิใจกับนกสีฟ้าตัวนั้นสักเท่าไหร่หรอก และวันนี้ผมกำลังจะพูดเรื่องของฉำฉาบ้านป่าเมืองดอยต่างหาก มิใช่จามจุรีสีทองรองเรือง หรือสีชมพูเลิศหรูและแสนหวาน
ฉำฉาเป็นไม้หัวไร่ปลายนาอยู่คู่ป่าคู่เมืองเรามานาน บางบ้านก็เรียกว่าก้ามปู หรือต้นลัง ทางบ้านผมเรียกสำสา (คนเหนือเราออกเสียง ช.ช้าง ฉ.ฉิ่ง ไม่ถนัดหรอก)
ฉำฉาหรือสำสา นี่ผมผูกพันมาแต่ชั้นประถม ต้นโปรดอยู่ที่ท่าน้ำหน้าโรงเรียนศรีถ้อย ยืนต้นใหญ่บะฮึ่มยึดชายตลิ่งคู่กับซอมพอยักษ์ที่เด็กทโมนชายชอบไปปีนป่าย กระโจนลงเล่นผาดโผนหน้าน้ำนอง ส่วนดงฉำฉาใหญ่ยักษ์ที่ขึ้นเป็นดงดำคล้ำครึ้ม ก็อยู่ในเขตป่าช้าท้ายหมู่บ้าน
ป่าช้าสมัยนั้น เขายังใช้วิธีเผากันจะ-จะตา และผีตายโหงก็จะฝัง ปักไม้กางเขนไว้ให้รู้ เจอร่มครึ้มของฉำฉา ตั้งแต่สองฝั่งไปป่าช้า น่ากลัวมาก-มาก อย่าว่าแต่กลางคืนเลย กลางวันแสก ๆ ใจก็ยังเต้นระส่ำระสาย
ถึงกลัวแค่ไหนก็ต้องไป เพราะต้องไปช่วยน้าชายเก็บครั่ง ไม่เช่นนั้นก็อดได้พบกับพระเอกขวัญใจ-แมน ดำเกิงเดช น้าเล่นเอา "อินทรีแดง" มาเป็นข้อแลกเปลี่ยนแรงงานผม
ฉำฉาที่ผูกพันสมัยป.ต้น ก็อยู่ที่แถววังคำ ริมฝั่งกก เชิงดอยมุงเมือง เชียงราย ฉำฉานั้นอายุร้อยปีขึ้น เป็นคุณปู่ฉำฉาก็ว่าได้
เขาปลูกไว้ยึดตลิ่ง ให้ร่มเงาคนผ่านทางมากกว่าจะเอาไว้ปล่อยครั่งเหมือนฉำฉาที่อำเภอบ้านเกิด ครั่งนี่เอาไปทำแผ่นเสียงนะครับ ช่วงปี ๒๕oo เป็นต้นไป เป็นยุคทองของแผ่นเสียง (น่าจะประมาณยุค ๕o-๖o ของฝรั่ง) ผมเรียนอยู่ ม.ศ.๓ ได้ฟังเพลงจากแผ่นเสียงครั้งแรกในชีวิตที่บ้านเพื่อนลูกพ่อเลี้ยงโรงบ่มใบยาสูบ เป็นเพลงของวงเดอะบีเทิลส์ที่ปกเป็นภาพสี่เต่าทองเดินข้ามทางม้าลายบนถนนแอบบี
ยุคที่แผ่นเสียงครองโลก ครั่งราคาดีสุด-สุด นั่นทำให้ต้นฉำฉากลายเป็นไม้ป็อบปูลาร์ก็ตาม ต้นใช้เลี้ยงครั่ง แถมลายไม้ยังสวยเลิศ เหมาะสำหรับจะเอาไปแกะสลักทำเฟอร์นิเจอร์
ประโยชน์อย่างหลังนี้เพิ่งจะมารู้ค่า เห็นฉำฉาอยู่ในสายตา ก็เมื่อหมดยุคแผ่นเสียงและไม้สักหมดป่า ไม่เนื้ออ่อนริมทางที่มีทรงพุ่มแผ่(สวยกว่าไม้ใดในโลกก็ว่าได้ในสายตาผม) ซ้ำแผ่พุ่มใบไม้ให้ร่มเงากว้างขวาง-ชวนนอนฝันไกล
หน้าร้อนถ้าคุณได้นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ฉำฉา คุณจะเย็นสบายอุราหาที่เปรียบไม่ได้ ยิ่งคราสิงหา-กุมภา ฉำฉาออกดอกคลี่พัดสีชมพู โบกลมพลิ้วปลิวฟ้า หอมอ่อนอ้อนจมูก เย็นระรื่นชื่นใจ ชวนให้ไม่อยากจากไปหาร่มไม้ไหน
เสียดาย เสียใจ ไม้ฉำฉาเริ่มหายาก ต้นคุณปู่หน้าโรงเรียนก็ล้มแล้ว ต้นเพื่อนคุณปู่ในโรงบ่มเก่าบ้านขัวตาดก็ถูกโค่นแล้ว ต้นคุณยายหลายคนโอบที่แผ่ร่มเงาผาสุกให้ผู้คน-กลางหมู่บ้าน ก็ถูกรานขายสล่าแกะสลักไม้จากบ้านหลุกไปแล้ว (เขาอาสามาตัดโค่นให้ชาวบ้านเสร็จสรรพ)
เห็นฉำฉาที่อยู่ในโรงบ่มใบยาสูบร้าง ที่บ้านโฮ่ง เวียงหละปูน ผมจึงให้ชื่นตาชื่นใจ เหมือนผมได้พบกับคุณปู่ในวัยเยาว์อันแสนสุขอีกครั้ง แทบกระโดดเข้าไปกราบและโอบกอด
เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๒๕ พ.ค. ๒๕๕๗ กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์

| |  | |  |
บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ
บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100
Free TextEditor
Create Date : 26 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 22:37:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2971 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|