Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Cheers ... อย่างนี้ด้องฉลอง

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ กินได้ นอนหลับและยังมีอวัยวะครบ 32 สามารถมาเขียนหนังสือเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือเล็กๆในถนนข้าวสารให้ได้อ่านฆ่าเวลากันอีกสัปดาห์ หลังจากพายุฝน "นารี" ... (หวังว่าคงเป็นลูกสุดท้ายแล้ว หลังจากตกแทบทั้งวัน ำม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ทำยังกะ "มาคอนโด" ก็ไม่ปาน) ... สลายตัวไป เหลือปลายๆหางที่ตวัดมาทางบ้านเราบ้างเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นก็เติมน้ำจนเต็มเขื่อนไปหลายเขื่อน แถมทำเอาโซนตะวันออกเจอมวลน้ำเข้าไปจนจุกเหมือนกัน น้ำเหนือก็แหววๆมาพร้อมกับที่ปทุม / นนท์ มีประกาศด่วนให้ชาวบ้านริมแม่น้ำเตรียมตัวยกของขึ้นที่สูงอีก 50 เซ็นฯ

ในขณะที่บางพื้นที่เริ่มหนาวกันแล้ว ผมขับรถผ่านข้าม 4 จังหวัดกรุงเทพ-นนท์-ปทุม-อยุธยา ตอนเช้าจะเริ่มเห็นอากาศขมุกขมัวบ้าง บางวันริมถนนวงแหวนตะวันตกมองไปไกลๆสุดสายตาเหนือนาข้าวข้างทาง จะเห็นหมอกขาวบางๆลอยบังตาอยู่ตามคันนาปะปนกับต้นไม้สูง แซมไปด้วยนกบินเดี่ยวบ้าง เกาะกลุ่มกันเป็นฝูงบ้าง ดูบรรยากาศชนบทผ่อนคลาย ช่วยให้เส้นทาง 75 กิโลเมตรพอรื่นรมย์ ไม่น่าเบื่อเกินไปนัก แม้จะต้องบู๊กับรถบรรทุก รถกระบะเจ้าที่บ้าง ก็ยังไหวอยู่


หมอกจางๆยามเช้า ลอยเรี่ยๆอยู่บนผืนนาริมทาง ถนนวงแหวนตะวันตก ... ปีก่อน บางวันหมอกจะลงหนักจนแทบจะมองไม่เห็นทาง คล้ายฉากหลังในหนังเรื่อง "The Mist" ของสตีเ้ฟน คิง


เหล่านกข้างทางที่เจออยู่เสมอๆ ณ ริมถนนวงแหวนตะวันตก บรรยากาศธรรมชาติชนบทที่พานพบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ส่วนอากาศนอกบ้านเรา เท่าที่ถามลูกค้าร้านหนังสือก็หนาวแล้วครับสำหรับบางประเทศ ลูกค้าสาวสวยชาวนิวซีแลนด์ที่มากับแม่ บอกว่าอากาศที่นั่นหนาวแล้ว ตั้งแต่ที่เธอเริ่มเดินทางออกมาในเดือนกันยายน ก่อนแวะมาซื้อหนังสือที่ร้าน เหมือนๆกับที่หนุ่มเยอรมันหนีหนาวมาจากยุโรปแวะเข้ามาซื้อโลนลีแพลนเน็ตลาว 2010 โดยปลายทางเห็นบอกว่าจะไปยังหลวงน้ำทา ไปเดินป่าเทรคกิ้งขึ้นเขา ล่องแพ ประมาณปายบ้านเรานั่นแหละ อากาศเย็นสบาย ผมเลยอาสาเปิดภาพในกูเกิลให้ดูว่าใกล้เคียงกับที่คาดไว้หรือเปล่า ดูๆไปสักพักก็พยักหน้าน่าจะโอเค ถึงแม้จะเป็นป่า-ภูเขา อากาศน่าจะหนาวเย็นกว่าในเมือง แต่ก็คงจะดีกว่าติดหิมะอยู่ในเยอรมันยันคริสต์มาส

ไล่ๆกันไม่นานนักแก๊งค์ลูกค้าเยอรมันอีก 3 คนที่เอาโลนลีแพลนเน็ตกัมพูชาภาษาเยอรมันกลับมาคืน พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าไปกัมพูชาเที่ยวนี้อะไรๆก็โอเคดี ของก็ถูก แต่ขาไปพี่แกนั่งรถตู้ไปจากข้าวสารนี่ 3-4 ชั่วโมงถึงด่านอรัญก่อนจะไปเปลี่ยนรถฝั่งโน้น แกบอกว่าคราวหลังไม่เอาดีกว่า ถ้าไปอีกคงหารถใหญ่หรือไม่ก็เครื่องบินไปเลย

"ยูรู้ไหม รถมันเล็กแคบน่ะ เพดานก็เตี้ย นั่งไปแล้วอึดอัดมาก ไม่ไหว คราวหน้าไม่เอาแล้ว ไปทางอื่นดีกว่า รถตู้ไม่เอาดีกว่า สภาพมันเหมือนนรกดีๆนี่เอง ... (เอ่อม แปลไม่ผิดครับ มี Hell ด้วย)" ทั้งแก๊งค์นั้นรูปร่างสูงใหญ่ เนื้อเยอะ ส่ายหน้ากันหมด ทำเอาผมนึกภาพออกเลยว่าผู้โดยสารฝรั่งไซส์ "XL" เจอกับรถตู้หลังคาเตี้ยไซส์คนไทยนั่งรถเขย่าไปตลอดทางถึงด่านจะรู้สึกยังไง

"ไอแว๊บๆเห็นบางสายการบินเขาเปิดเส้นทางบินกรุงเทพ-เสียมเรียพแล้วนะ ราคาน่าจะไม่แพงด้วยเพราะใกล้กว่าบินขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ หรือบินลงใต้ไปภูเก็ต ยังไงยูลองเช็คดูอีกทีก็ได้ คราวหน้าจะได้ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น ราคาน่าจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับยูแน่เลย" ผมตอบยิ้มๆก่อนพลิกหนังสือที่คืนมา เช็คสภาพอยู่ในมือ

ครับ ... ร้านหนังสือยังคงเปิดอยู่รับลมหนาว พร้อมกับลูกค้าที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คสำหรับท่องเที่ยวต่างประเทศในภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะโลนลีแพลนเน็ตทั้งใหม่มือหนึ่ง และเก่ามือสอง โดยลูกค้าสามารถเอาหนังสือมาขายคืนได้ครึ่งราคาหลังใช้งาน หรือไม่ก็ซื้อขาดไปเลยในราคาลด 20% เดือนก่อนนี้ก็มีลูกค้าสาวคนไทย 2 คนมาซื้อโลนลีแพลนเน็ตเนเธอร์แลนด์ไป เห็นบอกว่าจะไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อน แต่เพื่อนยังไม่มีแผนชัดเจน ส่วนเธอนั้นอยากไปเนเธอร์แลนด์นานแล้ว คงได้ไปแน่รอบนี้ ส่วนอีก 1 หนุ่มไทยร่างใหญ่มาซื้อโลนลีแพลนเน็ตอัมสเตอร์ดัมปกเก่าไป เขาเล่าว่าจะไปเรียนต่อโทเพิ่มเติม เพราะค่าใช้จ่ายน่าจะน้อยกว่าไปเรียนที่อเมริกาหรืออังกฤษ แถมเวลาก็น่าจะสั้นกว่าด้วย อาจจะปีหรือปีครึ่ง ไม่ถึง 2 ปี ทำให้ไม่ต้องหางาน-หารายได้เสริมเยอะ เพื่อนที่รู้จักกันบอกว่า ถ้าไปเรียนที่อเมริกาบางทีอาจจะต้องหางานเสริม 2-3 งานเลยทีเดียว ...

เดือนนี้โลนลีแพลนเน็ตญี่ปุ่นออกใหม่มาแล้ว ลูกค้าหนุ่มซื้อเล่มแรกไปพร้อมกับโลนลีแพลนเน็ตเกาหลีในราคาสุดพิเศษ ไล่ๆกันกับที่โลนลีแพลนเน็ตญี่ปุ่นปกเก่าค้างสต็อคเล่มสุดท้ายถูกซื้อไปจากชั้นวาง ทำเอาผมโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง น่าจะเป็นเพราะญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าให้คนไทยแน่เลย ... แต่ เอ๊ะ ลูกค้าเป็นฝรั่งนี่นา ไม่ใช่คนไทยสักหน่อย ... เอาเถอะ ยังไงก็เป็นสถิติที่ต้องบันทึกไว้ทีเดียวเชียวสำหรับการขายไกด์บุ๊คญี่ปุ่นไป 2 เล่มติดๆกันภายในสัปดาห์เดียว เพราะปกติไม่ค่อยเจอบ่อย ญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายสูง ต้องเป็นลูกค้าแบ็คแพ็คเกอร์กระเป๋าหนักเท่านั้นที่ซื้อไกด์บุ๊คไปเที่ยวเป็นเดือนๆ ซึ่งหาไม่ได้บ่อยนัก


Lonely planet Japan / 13th Edition / Publish on September 2013 / 29.99 USD / 880 pages / 256 paper colors / 176 maps

แถมด้วยโลนลีแพลนเน็ตดิสโคเวอร์อินเดีย 2011 เล่มสุดท้ายก็ถูกซื้อไปโดยสาวน้อยที่บินเดี่ยว แวะเข้ามาในร้านยามดึกเมื่อเดือนก่อน เธอไม่เลือกฉบับมือสองเล่มใหญ่ปกติเพราะหนักเกิน และเวลาเพียงเดือนเดียวในอินเดียสำหรับเธอน่าจะพอเหมาะ (สำหรับฉบับดิสโคเวอร์ที่เล่มบางกว่าเพราะเลือกเอาเฉพาะที่เที่ยวไฮไลท์สำคัญและพิมพ์ 4 สี) ก่อนที่จะบินกลับบ้าน เป็นที่น่ายินดีกับเธอมากที่เจอไกด์บุ๊คเล่มนั้นในเวลาวิกฤติก่อนที่เธอจะออกบินสู่เดลฮีในวันรุ่งขึ้น-เธอบอก และเป็นที่น่ายินดีสำหรับผมเหมือนกันเพราะ เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่โลนลีแพลนเน็ตอินเดียฉบับใหม่ล่าสุดออกวางตลาด


Lonely planet India / 15th Edition / Publish on October 2013 / 34.99 USD / 1248 pages / 224 color pages / 256 maps

เรื่องน่ายินดีเรื่องสุดท้ายสำหรับวันนี้คือ ผลการตรวจร่างกายประจำปีของผมออกแล้ว ผลการตรวจโคเลสเตอรอลในเลือดที่สูงและค่อนสูงมาหลายปีลดลงมาเหลือเพียง 150 กว่าๆ เป็นผลจากความกลัวตาย หลังจากวิเคราะห์พฤติกรรมการกินอาหารแล้วพบว่า กินอาหารที่เพิ่มเติมโคเลสเตอรอลเป็นประจำ และบ่อยเกินไป อาทิเช่น ข้าวสวย + เกาเหลาเลือดหมู มื้อเช้า / ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ / ข้าวหมกไก่ + ซุปหางวัว / ข้าวราดหมูผัดพริกแกง + ไข่ดาว มื้อเที่ยง /  ก๋วยจั๊บน้ำข้น มื้อค่ำ ... เป็นประจำและบ่อยๆ

พอผลเลือดสูงติดพันกันมาหลายปี เลยทำให้พยายามคุมอาหารจริงๆจังๆ เลยมีเมนูข้าวราดปลาดุกผัดเผ็ดเข้ามาแทน / ก๋วยจั๊บหรือเกาเหลาเลือดหมูนี่แทบจะเลิกทานไปเลย / ปลาหมึกนี่ก็แทบจะไม่คบเป็นเพื่อนมานานแล้ว / ดื่มน้ำชาร้อนๆแทนน้ำ เติมผักผลไม้เข้ามาในมื้ออาหารแต่ละวันอย่างที่เขารณรงค์กัน "ผักครึ่งนึงอย่างอื่นครึ่งนึง" ... และออกกำลังไม่วิ่งก็ว่ายน้ำ วันทำงานไม่มีเวลาเพราะต้องทำงาน-เดินทางขับรถไกล ก็วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ยังดี

หลังจากเล่มผลการตรวจร่างกายถูกอ่านจนจบ ผมกำมือชกอากาศด้วยความดีใจ "เยสสส์ ... วันนี้ต้องฉลอง ... ไปหาข้าวขาหมูเนื้อหนังคากิพิเศษกินดีกว่า ฮ่า ฮ่า"

ยาฮู้

เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858่

ปล. วันนี้มีภาพโปสการ์ดสวยๆมาฝาก จากลูกค้าส่งไปที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม จากตัวหนังสือนั้นภาษาอะไรไม่แน่ใจ แต่ไม่ใช่อังกฤษแน่ๆ ภาพบนโปสการ์ดเป็นนาข้าวสุกเหลืองอร่ามรอเคียว ตัวหนังสือแถวล่างพิมพ์ไว้ ด้านซ้าย "Doi Inthanon National Park" ส่วนด้านขวา "บ้านแม่กลางหลวง / Chiangmai Thailand"




Create Date : 19 ตุลาคม 2556
Last Update : 19 ตุลาคม 2556 21:30:20 น. 1 comments
Counter : 1454 Pageviews.

 
เห็นปุ๊บก็ต้องเข้ามาอ่านทันทีเหมือนเดิม
เห็นรายการอาหารแล้วอิจฉา ยอมตายเลยแหละถ้าได้กินอย่างนี้บ้าง (ทุกวัน)


โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:23:55:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.