Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Postcard from Thailand

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ยินดีที่ได้พบกันอีกครับกับเรื่องเล่าจากร้านหนังสือในถนนข้าวสาร ในบรรยากาศสายลมเย็นๆกำลังสบายในตอนเช้า และร้อนแห้งตอนช่วงกลางวัน แดดนั้นแผดจ้าพอๆกับกลางเมษาหน้าร้อน แต่พอตอนค่ำก็กลับเป็นเย็นอีก สภาพอากาศเปลี่ยนเร็วแบบนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่ายๆ นี่เห็นข่าวที่สหรัฐเจอไข้หวัดชนิดตายอยู่จนหลายประเทศประกาศเตือนผู้ที่จะเดินทางเข้าไปให้ระมัดระวังตัวหรือหลีกเลี่ยงเสียก่อน ก็ขอให้ระมัดระวังสุขภาพกันด้วยก็แล้วกันครับ

ร้านหนังสือยังเปิดอยู่ครับ สำหรับลูกค้าทั้งไทย-เทศที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คเพื่อประกอบการเดินทางไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ทั้งใหม่และมือสอง นี่ผมก็เพิ่งได้ไกด์บุ๊คมือสองเข้ามาใหม่หลายเล่มอยู่ ทั้งฟลอเรนซ์ บูดาเปสท์ มอสโคว์ และอีกมากมายหลายปก ส่วนสาวกขาช็อปกับนักท่องแดนกิมจิก็เตรียมตัวเฮกันได้ครับ เพราะโลนลีแพลนเน็ตออกใหม่เดือนมกราคม มีทั้งโลนลีแพลนเน็ตปารีสเล่ม 9 สำหรับนักช็อปกระเป๋าหนักที่ชอบไปยุโรป และสำหรับนักช็อปบ้านเราที่ชอบนั่งเครื่องบินไปใกล้ๆ ก็ยังมีโลนลีแพลนเน็ตฮ่องกง 15 ออกมาด้วย โดยเปลี่ยนชื่อเล็กน้อยจากฉบับก่อนคือ "Hong kong & Macau" มาเป็น "Hong kong" อย่างเดียว (โลนลีแพลนเน็ตเคลมว่าขายดี มากกว่า 8000 เล่มเข้าไปแล้ว "Over 8000 sold")



"Lonely Planet Hong kong" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 15 เดือนมกราคม 2013 นี้ น้ำหนัก 0.42 กิโลกรัม เนื้อหา 384 หน้า พร้อม 51 แผนที่ ราคาหน้าปก 21.99 ดอลลาร์ ... ดูหน้าปกแล้วน่ารักดี ดูดูไปเหมือนกับอาหมวยน้อยวัยทีนสดใส ในหนังจีนกำลังภายในตอนเด็กประมาณนั้น

ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ก็มีเฟรสบุ๊คหลากหลายภาษาพิมพ์ออกมาใหม่ให้ได้เลือกใช้กัน ทั้งอิตาเลียน เยอรมัน ฝรั่งเศส และ บลาๆๆๆ แต่ปกที่สำคัญที่สุดโดยเฉพาะสำหรับสาวกเกาหลี ชาวกังนัม น่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ตเกาหลี 9 ฉบับนี้นี่เอง


"Lonely Planet Korea" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ 2013 นี้ น้ำหนัก 0.4 กิโลกรัม เนื้อหา 416 หน้า พร้อมหน้าสี 128 หน้าและ 102 แผนที่ ราคาหน้าปก 26.99 ดอลลาร์ ... หน้าปกใหม่นี้ทำให้นึกถึงทรงผมของนางเอกหนังซีรี่ส์เกาหลียุคแดจังกึมตอนแต่งเต็มยศเข้าวัง ยังไงยังงั้น



ขออนุญาตนำภาพประกอบจาก "//nw-kana.exteen.com" ภาพยนตร์ซีรี่ส์เกาหลี "Princess hours - เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" มาเปรียบเทียบให้ดูทรงผมของนางเอกกับภาพหน้าปกโลนลีแพลนเน็ตฉบับพิมพ์ใหม่ ... ให้เห็นกันจะจะว่าทรงเดียวกันเพียงใด

จะว่าไปแล้วสำหรับโลนลีแพลนเน็ตเกาหลีนี้ เป็น 1 ในไม่กี่เล่มที่ผมบริหารสต็อคกับยอดขายได้ ลงตัวกันพอดีคือ หลังจากปกเก่าฉบับพิมพ์ครั้งที่ 8 เล่มสุดท้ายถูกขายไปเมื่อเดือนก่อน ผมก็รอฉบับพิมพ์ใหม่ที่จะออกตอนต้นปี 2013 เลย ไม่เหมือนกับโลนลีแพลนเ็น็ต "ปาปัวนิวกินีและโซโลมอนไอส์แลนด์" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 8 เล่มนั้นที่เพิ่งขายเล่มสุดท้ายไปได้เมื่อวาน หลังจากที่ฉบับพิมพ์ใหม่ครั้งที่ 9 ออกมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน จนต้องเอามาให้ส่วนลดทิ้งไว้ตั้ง 4 เดือน ... นี่ผมก็ยังเหลือโลนลีแพลนเน็ตนิวซีแลนด์ปกเก่าอยู่อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งปรับราคาลดลงมาตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว ยังค้างอยู่บนชั้นอยู่เลย

เช้านี้ลูกค้าสาวใหญ่ผิวขาวผมทองคนหนึ่งเข้ามาซื้อโลนลีแพลนเน็ตเฟรสบุ๊คอังกฤษ-ไทยไเล่มหนึ่ง แล้วถามผมว่าแถวนี้มีช้างไหม เธออยากดูช้างตัวเป็นๆที่เดินไปเดินมาได้น่ะ ผมก็ไม่รู้จะบอกเธอยังไงว่าให้ไปหาที่นั่งกินข้าวผัดกระเพราไก่ไข่ดาวตอนค่ำๆตามตลาดโต้รุ่ง แล้วจะมีคนพาช้างมาเดินให้ป้อนกล้วยบ้าง อ้อยบ้าง หรือบางทีถ้ากล้าๆหน่อยก็อาจจะเดินลอดท้องช้างเป็นศิริมงคล โดยมีค่าใช้จ่ายนิดๆหน่อยๆให้ควาญช้างเขาไป ก็เลยได้แต่บอกไปว่าให้ไปที่นี่เลย "เขาดิน" นั่งตุ๊กๆไปแค่ไม่ถึง 20 นาทีได้เจอแน่ คุยไปคุยมาสักครู่ถึงได้รู้ว่ามาจากแคนาดา ที่นั่นไม่มีช้างให้ดู มีแต่นกเพนกวิน กับ หมีขั้วโลก

... ว่าแต่พูดถึงเรื่องช้างแล้วจำได้ว่าเคยมีอยู่ทีนึง ลูกค้ามือใหม่คล้ายๆกันนี้มาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรก เธอบอกว่าอยากมาดูช้างตัวเป็นๆที่ไม่ได้อยู่ในกรงในสวนสัตว์ จะหาดูได้ที่ไหน ... ผมได้แต่ตอบไปว่า ใกล้สุดก็สวนสัตว์ "เขาดิน" นี่แหล่ะ แล้วก็เขาไม่ได้ขังกรงไว้ เขาเพียงแต่ล่ามขามันไว้ด้วยโซ่เส้นใหญ่เท่านั้นเอง แล้วก็มีรั้วไฟฟ้ากั้นอีกทีนึง ... (เล่ามาถึงตอนนี้ ทำให้นึกถึงจูราสสิกปาร์กภาคแรก ตอนที่ไฟดับทั้งเกาะ ทำให้ไดโนเสาร์ยักษ์ไทรันโนเซารัสหลุดออกมาจากรั้ว พร้อมทั้งแรพเตอร์แสนรู้ฝูงนั้นด้วย) ... ทีนี้ถ้าไม่ใช่ในสวนสัตว์ก็ใกล้ๆน่าจะเป็นฟาร์มจระเข้ สวนสามพราน ซึ่งเขาจะฝึกช้างให้ทำการแสดงต่างๆได้ หรือจะไปอยุธยาก็มีปางช้างให้ชม-ขี่ช้างเดินเล่นใกล้ๆได้ ยวบยาบนิดหน่อยพอหวาดเสียวแบบท้วมๆ แต่ถ้าจะเอาแบบขี่ช้างเดินท่องป่า-ลำธารตื้นๆ ก็น่าจะไปกาญจนบุรีเลย เป็นไปได้ แต่วันเดียวน่าจะไม่พอไป-กลับ หรือถ้าเธอมีเวลาเหลือเฟือก็ไปถึงเชียงใหม่ก็ได้ ที่นั่นมีปางช้างหลายที่และน่าจะมีออพชั่นให้เลือกมากพอสมควรทีเดียว

นอกร้านหนังสืออีกนิด ... จำได้ว่าเพื่อนผมเคยเล่าให้ฟังพร้อมหัวเราะไปด้วย ประมาณว่าไปดื่มกันที่ตลาดโต้รุ่งไหนสักแห่งนี่แหล่ะกับเพื่อนๆ หลายคนอยู่ กำลังได้ที่ก็มีมือยื่นอ้อยมาให้มัดหนึ่ง พร้อมกับถามว่า "ป้อนช้างไหมพี่" เพื่อนก็รับอ้อยมัดนั้นส่งให้ช้างเคี้ยวอย่างอร่อย เสร็จแล้วเพื่อนก็ดื่มต่อ เสียงบอกมาว่า "ค่าอ้อย 20 บาทครับ" เพื่อนบอกกลับไปว่า "เอ้า ก็ยื่นอ้อยมาให้ป้อน ก็ป้อนให้แล้ว ต้องเสียตังค์ด้วยเหรอ" เล่าเสร็จก็หัวเราะตลก ... ผมเองฟังไปแค่นั้นก็ไม่ได้ถามต่อ ว่าจบยัีงไง มีการแจกหมากแจกแว่นกันบ้างหรือเปล่า ก็ได้แต่หัวเราะอย่างปลงๆ

เมืองไทยเราเองก็มีสัญลักษณ์เป็นช้าง จำได้ว่าธงชาติสมัยก่อนมีช้างอยู่ตรงกลาง ฟุตบอลทีมชาติบ้านเราก็เรียกสมญาว่า "ทีมช้างศึก" ไกด์บุ๊คไทยแลนด์ก็เคยมีช้างขึ้นปกกับเขาเหมือนกัน แต่เป็นราฟท์ไกด์ปี 2006



"Rough Guide Thailand" ปี 2006 ก็มีโอกาศได้ขึ้นปกเป็นรูปช้างกับเขาเหมือนกัน นอกจากตุ๊กๆ กับพระ



โปสการ์ดภาพลูกช้างกินนมคน โดยลูกค้าฟินแลนด์ เป็นภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ



โปสการ์ดโดยคุณ อเนก นาวิกมูล เพื่อบ้านพิพิธภัณฑ์ สมาคมกิจวัฒนธรรม

สาวอาร์ตเยอรมันหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง มาฝากส่งโปสการ์ดไปบ้านเกิดปึกหนึ่ง ผมนั่งดูภาพบนโปสการ์ดเรื่อยเปื่อย ภาษาด๊อยช์นั้นอ่านไม่ออกอยู่แล้ว ส่วนภาพบนหน้าโปสการ์ดก็มาตรฐานชายไทย ... ชายหาด ตลาดน้ำ วัด พระ ช้าง ... จัดว่าเป็นชุดเบญจภาคีขายดีตลอดกาล แต่ดูข้อความที่เธอบรรจุลงไปนั้น เปิดร้านมาหลายปีก็เพิ่งเคยเห็นฝรั่งอารมณ์ศิลป์ครั้งนี้เอง



โปสการ์ดทั้งปึกจำได้ว่า 13 ฉบับ กับภาพวิวท่าบังคับ ... ชายหาด ตลาดน้ำ วัด พระ ช้าง ... ดูสวยงามดีตามมาตรฐานโปสการ์ดจากเมืองไทย แต่ดูตัวหนังสือที่เธอบรรจงเขียนนี่สิ ...



เธอหาปากกาสีเขียวมาเขียนโปสการ์ดส่งบ้านเกิดที่เยอรมัน ตัวหนังสือภาษาเยอรมันอัดแน่นเต็มพื้นที่ ... ก็สีสวยดี ใช้ได้



ฉบับนี้เธอเขียนแนวขวาง พลิกมาฝั่งขวา ... จบข้อความบรรทัดสุดท้ายในแนวตั้ง ด้วยคำว่า "Postcard from Thailand" ตัดเส้นด้วยหมึกแดง



ฉบับนี้พลิกมาขวางฝั่งซ้าย แนวตรงได้ระดับ พร้อมฝากหัวใจสีแดงให้ไปด้วยอีก 12 ดวง ... น่าร้ากก



ตะแคงซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ... ชักเบื่อ เธอเลยเติมปูน้อยลงไปอีกฉบับละ 1 ตัว ก้ามห้อยมาด้านหน้า ลูกตาดำแรเงาไว้ ดูเหมือนมีชีวิต



หึ หึ ... ฉบับนี้ ด้วยความไม่มั่นใจตัวหนังสือ ผมเลยพลิกกลับไปมาดูอยู่ 2 รอบ ... ใช่แน่ๆ ข้อความสลับหัวกับที่อยู่ แต่ผมไม่รู้จริงๆ เดาไม่ถูกว่าเธอกลับโปสการ์ดมาเขียนอีกด้านหนึ่ง หรือว่า ... เธอเขียนตัวหนังสือกลับหัวได้ !!!!!!



ฉบับสุดท้าย เธอเขียน ... "วนเป็นวงกลม" ... เต็มพื้นที่ว่างสำหรับเขียนข้อความด้านซ้ายอย่างพอดิบพอดี ... ผมว่า พ่อหนุ่ม "Christian Becker" คนรับโปสการ์ที่โคโลญจน์ต้องชอบใจแน่ๆเลย

ปล. ดูความตั้งใจแล้วต่างจากลูกค้าตาตี่ข้างล่างนี่ลิบลับ บางฉบับเขียนอยู่แค่ 4-5 คำ ... เห็นๆกันอยู่ ฉบับกลางมี "Good luck" อยู่คำเดียว ส่วนฉบับล่างก็ จ่าหน้าชื่อ-ที่อยู่ผู้รับเฉยๆ ส่วนพื้นที่เขียนข้อความด้านซ้าย ... คงเว้นไว้สำหรับเตะตะกร้อ ... ( เฮ้อ ไม่ส่งน่าจะดีกว่ามั้ง พี่ )



โปสการ์ดจากเมืองไทยไปเมืองจีน ... ฉบับล่างด้านหน้า พี่แกเว้นว่างไว้ให้คนรับเขียน "คิดถึง" เอาเอง

เจตตจัน
085-8035412
087-0719858
jettajan227@yahoo.com



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2556 19:06:52 น. 1 comments
Counter : 3909 Pageviews.

 
whoah this weblog is magnificent i like studying your articles. Keep up the great paintings! You understand, lots of individuals are hunting round for this info, you can help them greatly.
Discount Louis Vuitton speedy 30 //www.cornellpump.com/info.html


โดย: Discount Louis Vuitton speedy 30 IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:15:39:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.