Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน คนตกปลา

สวัสดีครับ คุณผู้อ่านที่ไม่รู้จัก ... ยินดีที่ยังมีชีวิต กินข้าวได้ และนอนหลับอยู่เช่นเคย

วันนี้ตื่นเช้าด้วยเจตนาดีว่าจะไปวิ่งเพื่อออกกำลังและรักษาสุขภาพตามปกติ แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจเลย ออกจากบ้านได้ไม่ถึง 100 เมตร ละอองฝนที่ลงเม็ดพรำๆ กลับเปลี่ยนเป็นเทกระหน่ำลงมาชนิดไม่ลืมหูลืมตา นานเกือบครึ่งชั่วโมงได้

ผมชำเลืองหางตาแวบ แล้วหลบเข้าหาที่หลบฝนจำเป็นข้างทาง ไม่ใช่อะไรหรอกครับ มันคือตู้โทรศัพท์ที่ประตูหายไปเฉยๆ เหลือแต่ตู้กับเครื่องที่ไม่รู้ว่าโทรได้ไหม มีเพื่อนหลบฝนอยู่ในตู้ข้างๆเป็นหนุ่มขี้เมาที่หลับอย่างบรมสุข แม้ว่าจะต้องผันกายลุกขึ้นนั่งหลับจากเดิมที่นอนคู้อยู่อย่างนั้น แต่เพื่อนก็ยังไม่ออกจากนิทราอยู่นั่นเอง

จนกระทั่งฝนซา ก็เปลี่ยนความตั้งใจจากไปวิ่ง กลายเป็นเดินไปใส่บาตรที่ตลาดดีกว่า พอกลับมาถึงบ้านทำธุระเสร็จเรียบร้อย เปิดร้านเสร็จไม่เท่าไหร่ ลูกค้ารายแรกของเดือนก็เข้ามา เธอเป็นหญิงสาวหน้าตาประมาณ นาตาลี พอร์ตแมน ที่เป็นนางเอกของสตาร์สอร์สย้อนยุคน่ะครับ แต่งตัวสะอาด แขวนกระพรวนเล็กน่ารักติดข้อมือกรุ๋งกริ๋ง

"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" ผมเงยหน้าจากหนังสือเวย์ ฉบับ 40 หน้าปก เป้ - อารักษ์

"คุณมีโลนลีแพลนเน็ตนิวซีแลนด์ไหม ขอเป็นมือสองก็ได้ แต่ฉันอยากได้ฉบับปีล่าสุด 2010" ลูกค้าสาวเอ่ยเสียงใส

"มีครับ" ผมพยักหน้า แล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบหนังสือจากชั้นหนังสือไกด์บุ๊คมือสองส่งให้

เธอยิ้มดีใจ พลิกหนังสือในมือแล้วถามว่า "ฉันขอดูสภาพด้านในได้ไหม"

ผมพยักหน้าพร้อมแกะห่อพลาสติกออก

"แล้วคุณรับซื้อด้วยหรือเปล่า ฉันมีหนังสือไกด์บุ๊คเล่มนึง" เธอรับหนังสือโลนลีแพลนเน็ตนิวซีแลนด์ พร้อมกับอีกมือหนึ่งเปิดกระเป๋าเป้ข้างตัว หยิบหนังสือเล่มหนึ่งส่งให้ผม

มันเป็นหนังสืออินไซด์ไกด์ศรีลังกา ปี 2009 ผมรับมา จ้องมองดูหน้าปกแล้วยิ้มมุมปาก

"คุณยิ้มอะไรเหรอ" เธอถามสงสัย

"อ๋อ หน้าปกมันคอนเซปท์เดียวกันกับโลนลีแพลนเน็ตปี 2009 เลย คุณดูสิ" ผมอธิบายสาเหตุ พร้อมหยิบอีกเล่มมาเปรียบเทียบกันให้ดู ไม่รู้ใครลอกใคร ในใจผมหัวเราะเอื่อยๆ บอกว่า "มาอีกแล้ว ศรีลังกา มาบ่อยแฮะ ช่วงนี้ 3 อาทิตย์นี้ ได้แต่ศรีลังกามา 5-6 เล่มแล้ว เดือนหน้าจะครบโหลไหมนี่"


ภาพเปรียบเทียบหน้าปกคนตกปลา

"แล้วไอ้วิธีการตกปลาท่านี้มันเป็นท่าบังคับหรือไงกัน" ในใจผมถามไปยังนายแบบปกทั้ง 2 เล่ม

"คุณไปศรีลังกานานไหม แล้วเขาตกปลากันอย่างนี้จริงๆเหรอ" ถามยิ้มยิงฟันถามเธอ

"2 เดือนน่ะ แต่ฉันไม่ได้ไปเห็นวิธีการตกปลาของเขาหรอก" เธอหัวเราะเสียงใส

ผมบอกราคารวมส่วนลดจากหนังสือของเธอ เธอพยักหน้าตกลงพร้อมหยิบเงินชำระค่าหนังสือ ผมขอหนังสือมาแปะป้ายราคาพร้อมตราประทับประจำร้านเป็นรูปเต่าให้ไป ผมยื่นหนังสือให้ไปพร้อมบอกว่า

"ถ้าคุณผ่านกลับมาที่ร้านอีก แล้วหนังสือนี่คุณไม่เก็บไว้ ก็ขายให้ผมได้ครึ่งราคานะ"

เธอเลิกคิ้ว เอียงคอยิ้มเล็กน้อย "เหรอ ดีเหมือนกัน ขอบคุณนะ"

ผมอวยพรให้เธอเดินทางโดยสวัสดิภาพ เธอเดินออกจากร้านไป ปล่อยผมทิ้งไว้กับไกด์บุ๊คศรีลังกาเล่มที่ 7 ในรอบ 3 สัปดาห์

ผมหยิบหนังสือเล่มนั้นมาตกแต่งนิดหน่อย เธอใช้งานค่อนข้างถนอมหนังสือ สภาพจึงดูดีกว่าหนังสือมือสองทั่วไป หลังจากนั้นก็นำไปแทรกเก็บไว้บนชั้นไกด์บุ๊คมือสอง รวมกับเพื่อนๆอีกหลายเล่ม ถ้าเป็นการ์ตูนเรื่องทอยสตอรี คืนนี้ไกด์บุ๊คศรีลังกาคงรับน้องใหม่กันตรึม



ภาพครอบครัวไกด์บุ๊คศรีลังกาพร้อมเพื่อนๆ

เห็นภาพคนตกปลาในหนังสือแล้ว ผมลองเดินสำรวจดูว่ามีหนังสือเกี่ยวกับคนตกปลาเล่มไหนบ้าง ก็เจออยู่ 2 เล่ม หนึ่งในนั้นคือ "The Living Mekong" เป็นหนังสือภาพชีวิตท้องถิ่นของคนในที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ก็ดูดีน่าเก็บสะสมไว้ให้ลูกให้หลาน เพราะอีกไม่นานผมว่าแม่น้ำโขงคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ลำพัง "เขื่อน 3 ผา" ของจีนก็น่าจะแย่อยู่แล้ว นี่อ้ายลาว น้องข้างบ้านก็ว่าจะสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าขายเมืองไทยซะอีก แล้วมันจะแม่น้ำไหนล่ะ นอกจากแม่น้ำโขงที่จะโดนกั้นทำเขื่อน เฮ้อ ... แล้ว 15 ค่ำเดือน 11 จะหาบั้งไฟพญานาคได้อีกไหมหนอ


"The Living Mekong"

แล้วอีกเล่มที่เจอล่ะ นี่ไงครับ "The old man and the sea" หนึ่งในท็อปไฟว์ของผม ผู้ชนะทั้งรางวัลโนเบลและพูลิตเชอร์ หน้าตาเขาเป็นแบบนี้ครับ


The old man and the sea

หนังสือเล่มนี้มีของนะครับ เออเนสต์ เฮมมิงเวย์ แต่งไว้อย่างน่าสนุก ชายชราชาวประมง "ซานติอาโก" ที่จับปลาไม่ได้มา 85 วัน ผู้ไม่ยอมแพ้ออกทะเลเพื่อพิสูจน์ตัวเองจากการจับ ปลามาร์ลิน (กระโทงแทง) ขนาดยักษ์ สู้กันอยู่ 3 วันจนหมอบกระแตกันทั้ง 2 ข้าง ปลาถูกจับ ส่วนชายชราก็หมดแรงป้องกันปลาจากฝูงฉลามที่เข้ามารุมทึ้งเนื้อปลาจนเหลือแต่โครงกระดูก ชายชราชนะในการต่อสู้แต่ก็พ่ายแพ้ในเวลาเดียวกัน

ประโยคอมตะของ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ กล่าวไว้ว่า "มนุษย์นั้นมิได้เกิดมาเพื่อจะพ่ายแพ้ มนุษย์อาจถูกทำลายได้ แต่จะให้มนุษย์พ่ายแพ้นั้นทำไม่ได้"
สุดท้ายแล้ว หลังจากป่วยสารพัดโรคอยู่นานก็เลยฆ่าตัวตายเป็นการทำลายตัวเองเสียเลย แทนการยอมแพ้ต่อโรคร้ายจนไม่อาจจะสร้างงานเขียนได้อีกต่อไป

จากภาพปกของ "The old man and the sea" ริ้วคลื่นคลั่งสาดกระหน่ำซัดสู่ท้องทะเลในห้วงคำนึง นึกถึงชื่อวรรณนิพนธ์ "เพลงน้ำระบำเมฆ" งานเขียนของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2552 รวมทั้ง "ฤดูกาล" งานเล่มแรก และอีกหลากหลายเล่มที่ตามมาเป็นซีรีย์ชุดใหญ่ นึกถึงบรรยากาศสระน้ำหลังมหาวิทยาลัยคอแนลล์ / "เก๋าดอกหมาก สากสีเหลือง" / "เทร้าทะเลสาบ" และ .....

...................

เกือบ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยออกทะเลกับเพื่อนสมัยเรียนอุดมศึกษา ไปเที่ยวเกาะหมากกัน จำได้ว่าเพื่อนชาวระยองเจ้าภาพทริปนั้นจัดหาเบ็ดตกปลามาให้หลายคัน คนรู้ใจที่ไปด้วยกันนั้นตกได้ปลาเก๋า ปลาเสือมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่ผมนั่งกุมเบ็ดห่างกันไม่ถึง 2 เมตรกลับไม่ได้ปลาเลยสักตัว กลับจากบ่ายนั้นเพื่อนแซวว่าทำบาปไม่ขึ้น

เอ๊ะ ... หรือจะลองดูอีกซักที ดีไหม




Create Date : 01 พฤษภาคม 2554
Last Update : 2 พฤษภาคม 2554 0:17:26 น. 1 comments
Counter : 1721 Pageviews.

 
เขียนดีครับ ผมชอบ :)


โดย: p IP: 57.73.28.5 วันที่: 26 ตุลาคม 2554 เวลา:13:04:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.