ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน รางวัลสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์
สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ดีใจครับที่ยังมีอวัยวะครบ 32 ประการอยู่เหมือนเดิม และได้มาเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวในร้านหนังสือให้ได้ฟังกันอีกครั้ง ในบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ... ร้านหนังสือยังเปิดอยู่ครับ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศใช้งาน ทั้งใหม่และเก่า ซื้อขาดหรือเช่าก็ได้ ไม่มีปัญหา เดือนสิงหาคม เดือนที่ฟ้าฉ่ำฝนนี้เป็นเดือนที่มีโลนลีแพลนเน็ตออกใหม่ 4 ประเทศ ประกอบไปด้วย ประเทศอาร์เจนตินา / ประเทศโคลัมเบีย / ประเทศเอกวาดอร์และหมู่เกาะกาลาปากอส / ประเทศอิหร่าน ... ซึ่งไม่ค่อยจะมีลูกค้าถามหาสักเท่าไหร่ ... ส่วนอีก 3 เมืองที่ออกมาพร้อมกันก็มี นิวยอร์ค โตเกียว และบอสตัน
Lonely Planet New York City 8th. Edition - 19.99 USD โลนลีแพลนเน็ตเคลมว่า นิวยอร์คซิตี้ไกด์ เล่มนี้นั้นเป็นท็อปเทนเบสต์เซลเลอร์ ที่ทำยอดขายไปมากกว่า 12000 เล่มในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (ปกเก่าพิมพ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว) ... ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ครับมันขายดีมากในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่น่าจะไม่ใช่ที่ร้านของผม ฝรั่งที่มาที่นี่ไม่มีใครไปเที่ยวต่อนิวยอร์ค นานๆทีถึงจะมีซื้อไกด์บุ๊คสำหรับอเมริกาบ้าง อเมริกาใต้บ้าง เช่น บราซิล อาร์เจนตินา เปรู ... หรือไม่ก็รวมเป็น เซาท์อเมริกาออนชูสตริง ไปเลย ไม่เหมือนกับเดือนก่อนที่ออกปกใหม่เป็นของหนักทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น เซาท์อีสเอเชียออนชูสตริง / ไทยแลนด์ไอส์แลนด์แอนด์บีช / เนปาล / อียิปต์ / อีสต์อาฟริกา / กัวแอนด์มุมไบ / จอร์แดน / ศรีลังกา และ อิสราเอลแอนด์ปาเลสติเนียนเทอร์ริทอรีส์ ... โดยเฉพาะศรีลังกาที่ถูกถามหาเยอะพอสมควรเหมือนกันตอนประมาณเดือน 3-4 ... ส่วน เซาท์ฯ กับ ไทยแลนด์บีชฯ นั้นเป็นท็อปเท็นแน่นอนอยู่แล้ว
Lonely Planet Thailand's Islands & Beaches 8th. Edition - 22.99 USD
Lonely Planet Southeast Asia on a Shoestring 16th. Edition - 26.99 USD ส่วนที่ร้านหนังสือ ... โลนลีแพลนเน็ตไทยแลนด์ภาษาสเปนเล่มนั้นได้ออกเดินทางอีกครั้งแล้วครับ โดยคาดว่าน่าจะกลับมาบ้านประมาณ 10 วันให้หลัง ว่าแต่ลูกค้าหนุ่มสเปนสองคนนั้นเข้ามาที่ร้านแบบ จะดึกไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน คือเกือบๆเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว แต่ด้วยอารามรีบๆจะปิดร้านอยู่แล้ว ผมได้แค่ทักทายไปนิดหน่อยเกี่ยวกับสภาพทั่วๆไปของเศรษฐกิจสเปน "ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสเปนว่าไม่ค่อยดีนัก จริงๆแล้วมันเป็นยังไงบ้างเหรอ" "มันแย่กว่าที่คิด ... ใช่ มันน่าอายมากเลย" ชายหนุ่มหัวเราะเขินๆ กล่าวตอบพร้อมส่ายหน้าเบาๆ "มันเพิ่งเริ่มนะ และยังไม่มีใครรู้ด้วยว่าจะจบยังไง เมื่อไหร่" ผมเองยังนึกภาพคนตกงาน 25 เปอร์เซนต์ หรือ 1 ใน 4 ไม่ออกเลยว่าเป็นยังไง อาจจะเพราะเมืองไทยเรามีภาคการเกษตรรองรับ พร้อมกับพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ที่สเปนนั้น อาชีพหลักคือภาคบริการกับการท่องเที่ยว ... แถมตอนนี้ สเปนประกาศเลิกกีฬาสู้วัวกระทิงไปแล้วด้วย ทีนี้นักท่องเที่ยวจะไปดูอะไรล่ะ ... วันรุ่งขึ้น ดึกดื่นประมาณเดียวกันเลย ลูกค้าหนุ่มอิสราเอล 2 หน่อที่เข้ามาเหมา 5 เล่มหนังสือฮีบรูว์ก่อนบินกลับบ้าน พร้อมๆกับยื่นแบงก์ 100 ดอลลาร์ให้ผม "คุณไม่มีเงินไทยเหรอ" ผมรับธนบัตรฉบับนั้นมาพลิกดูอยู่ในมือ หางตาชำเลืองนาฬิกาข้อมือ เข็มนาฬิกาบ่งบอกเวลาล่วงเลยเที่ยงคืนไปหลายเลข เคาเตอร์แลกเงินที่ไหนมันยังจะเปิดอยู่เหรอเนี่ย "ไม่มีเลย เรากำลังจะกลับบ้าน ... คุณไม่อยากได้แบงก์นี้เหรอ ... 100 ดอลลาร์ก็สามพันกว่าบาทนะ" ดวงตาใต้คิ้วเข้มหนามองมาที่ผม "ไม่ล่ะ ขอเป็นเงินไทยดีกว่า" ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ยอมตัดใจไม่เสี่ยงกับแบงก์เก๊ ที่อาจจะทำให้เสียฟรีทั้งเงินทอนและหนังสืออีก 5 เล่ม สองคนส่งภาษากันพร้อมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดดูสักครู่ ผมเห็นมีเงินไทยอยู่แค่สองสามใบเอง "คุณรอสักครู่แล้วกัน เดี๋ยวเรามา" เสียงบอกก่อนเดินออกจากร้านไปไม่เกิน 5 นาทีก็เดินกลับมาพร้อมเงินที่กำอยู่ในมือ ... ผมหยิบหนังสือทั้ง 5 เล่มใส่ลงในถุงพลาสติก 1 ในนั้นมีหญิงสาวกับรอยสักมังกรติดไปด้วย "5 เล่มนี้สำหรับบนเครื่องบินกลับบ้านหรือ" ผมถามยิ้มๆ "ใช่แล้ว สำหรับกลับบ้าน มันนานจริงๆ แล้วผมก็จะได้นอนอ่านหนังสือสบายๆเสียที" ชายหนุ่มหัวเราะพร้อมเอ่ยคำว่า "เครซี่" หลายครั้ง ... คำๆนี้สะกิดให้ผมนึกถึงลูกค้ามันส์ๆ 2-3 คนขึ้นมาได้ การสนทนาออกรสออกชาติแปลกๆระคนขำๆ ประมาณชื่อคอนเสิร์ต "ขุนช้างตกมัน" ของป้าง - นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ..... ปีก่อน หนุ่มยิวคนนั้นเดินเข้ามาดูหนังสือโลนลีแพลนเน็ต หน้าตาคล้าย "Shia Labeouf" พระเอกทรานสฟอร์มเมอร์ตอนไม่ได้โกนหนวด "หนังสือท่องเที่ยวของคุณเยอะดีนี่ ... คุณมีโลนลีแพลนเน็ตมองโกเลียหรือเปล่า" เสียงถามมาพร้อมนิ้วชี้ไล่ทีละเล่ม "มีสิ" ผมชี้ไปที่ล็อกตัวอักษรเอ็ม แถวบนเป็นหนังสือใหม่ฉบับพิมพ์ล่าสุด แถวล่างเป็นหนังสือเก่าฉบับพิมพ์ก่อนหน้า "เฮ้ย คุณมีด้วย ... ผมเพิ่งมาจากมองโกเลียนี่แหละ" ตาเป็นประกาย-เสียงสูง พร้อมหยิบเล่มใหม่มาพลิกดูในมือ "มองโกเลียเป็นไงบ้าง ลูกค้าของผมเคยบอกว่าไม่มีผักกินเลยนี่ ... ใช่ไหม" ผมถามยิ้มๆ "มันเครซี่มากเลย ... คุณรู้ไหม พื้นที่ที่นั่นเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่มาก ไม่มีตึกรามบ้านช่องอย่างที่นี่ สภาพเป็นธรรมชาติสุดๆ ผมเที่ยวอยู่ในทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายที่นั่นนานมาก" ชายหนุ่มทำมือทำไม้ พร้อมยิ้มกว้าง "หือ ... ทะเลทราย ก็แห้งแล้งลำบากสิ ผมเคยดูหนังสารคดีผจญภัยในเคเบิล มันขนาดนั้นเลยหรือเปล่า" ผมถามไปพลางนึกถึง แบร์ กิลล์ แห่งรายการผจญภัยสุดขั้ว "ใช่เลย มันประมาณนั้นแหละ มันเครซี่สุดๆ ผมยังจำได้ตอนที่ต้องไปดื่มน้ำในป่าที่ไหลมาตามธรรมชาติ รสชาติของมันวิเศษมากเลย มันส์ เครซี่จริงๆ" เล่าพร้อมพยักหน้าอย่างเมามันส์ "คุณมีโลนลีแพลนเน็ตมิดเดิลอีสต์ด้วยนี่ แล้วเซ็นทรัลเอเชียล่ะ" "มีสิ ผมมีเล่มใหม่กับเล่มเก่าอยู่อย่างละเล่ม" ผมหยิบหนังสือออกมาพลิกดู มันประกอบไปด้วยประเทศ คาซัคสถาน อุซเบกิซสถาน อะไรสถานๆ อีกประมาณ 3-4 ประเทศนี่แหละ "ผมก็เคยไปมาแล้ว" ชายหนุ่มหัวเราะก๊าก เล่าให้ฟังความมันส์ของการเดินทางระหว่างท่องเที่ยวตะวันออกกลางช่วงนั้น "มันกันดารมากเลย ที่นั่นนะ .... ...... ........" หลังจากเล่ายาวววว ชายหนุ่มว่าต่อ "นี่หลังจากสมบุกสมบันมานาน ผมกะว่าจะมาแวะพักที่เมืองไทยสักหน่อย ก่อนจะวางแผนเดินทางต่อ" ผมจำได้ไม่หมด และจำไม่ได้ด้วยว่าได้ขายหนังสือหรือเปล่า แต่จำได้อย่างหนึ่งว่า สนุกกับสิ่งที่ลูกค้าเล่าให้ฟัง สนุกกับสำเนียง "เครซี่" ของชายหนุ่มและบรรยากาศการพูดคุยอย่างสนุกสนาน
จากแผนที่โลก กลุ่มประเทศตะวันออกกลางต่อเนื่องกับเอเชียกลาง ... นอกจากนี้แล้วก็ยังมีสาวใหญ่ด๊อยช์ลันด์อีกคนที่เข้ามาในร้าน จำได้ว่าเธอเอาหนังสือมาให้ 2-3 เล่ม แลกกับคำถามที่ทำให้เจ้าของร้านหนังสือต้องอึ้งไปพักใหญ่ "คุณรู้จัก สปา แถวนี้บ้างไหม" เธอถาม "นี่ไง ที่ถนนข้าวสารก็มีเยอะแยะ ทำผม นวดหน้า นวดเท้า สปาปลา ยังมีเลย" ผมแจกแจงไป รวมถึงร้านใหญ่กลางซอยข้าวสาร ที่มี 2 ห้อง - ห้องหนึ่งมีเตียงเสริมสวยวางเรียงราย อีกห้องหนึ่งมีลูกค้านั่งแช่เท้าให้ปลาตอดในอ่างปลาขนาดใหญ่ หน้าร้านมีเตียงผ้าใบสำหรับนวดเท้าวางเป็นตับทั้งบนทางเดินและบนถนน
ร้านเสริมสวยกลางซอยถนนข้าวสาร "โน ... ไม่ใช่ ฉันหมายถึง ร้านสปาขนาดใหญ่ที่มีครบทุกอย่างน่ะ" เธอส่ายหน้าหัวเราะยิ้มๆ "อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว ถ้างั้นคุณอาจจะต้องนั่งรถไปสัก 2-3 ป้ายรถเมล์น่ะ ... คุณเป็นลูกค้าคนแรกนะที่ถามหาร้านเสริมสวยขนาดใหญ่ ... แบ็คแพ็คเกอร์ที่ผมเห็นไม่ค่อยเสริมสวยกัน คุณจะกลับบ้านแล้วรึ" ผมชวนคุยพร้อมพลิกหนังสือ 2-3 เล่มไปมา มันมีหนังสืออ่านภาษาเยอรมันพร้อมไกด์บุ๊คไทยแลนด์ปนอยู่ด้วยเล่มหนึ่ง ... ดูท่าทางเธอไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว "ใช่ ฉันเหลือเวลาว่างอีก 1 วันก่อนไฟลท์วันมะรืน เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ฉันจะทำสวยให้ฉ่ำเลย ... Fuck up the trip, Fuck up the travelling." เธอหัวเราะเสียงดัง "คุณดูสิ หน้า-ผมของฉันโทรมดูไม่ได้เลย เล็บมือ-เล็บเท้าก็แห้งแตกไปหมด เนี่ย ... ดูซิ" เธอว่าต่อพร้อมยื่นหน้า เอียงคอสางผม ชูมือให้ดูเป็นพัลวัน ผมหัวเราะก๊าก ก่อนจะรีบหากระดาษเขียนแผนที่คร่าวๆ ให้เธอเลือกเอาเอง ทั้งสถานเสริมความงาม 3-4 แห่งใกล้ๆกันแถวๆห้างพาต้าปิ่นเกล้า หรือไม่ก็เลยไปหน่อย ขึ้นห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าไปเลย ที่เหลือก็อยู่ที่เธอเลือกแล้ว ว่าจะไปเทกระเป๋าที่ไหน ... ดีใจกับสถานเสริมความงามสำหรับลูกค้าสาวกระเป๋าหนัก "หลังจากคุณทำสวยเสร็จแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือ อย่าลืมแวะมาให้ผมดูด้วยนะ" ผมหยอดเล็กน้อยพร้อมเช็คแฮนด์กับเธอก่อนออกจากร้านไป
Create Date : 29 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2555 22:22:58 น. |
|
2 comments
|
Counter : 4258 Pageviews. |
|
|