Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Riding Thailand @ world end

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้มาเขียนบล็อกเล่าเรื่่องจากร้านหนังสือในข้าวสารให้ฟังกันอีก ในบรรยากาศอุ่นสบายของกลางเดือนธันวาคม เดือนที่ธรรมดาแล้วจะหนาวที่สุดในรอบปี ... "หนาวหรือยังครับ" "ไม่เห็นหนาวเลยนะพี่" เป็นประโยคที่มักจะใช้ในการทักทายโอภาปราศัยในยามนี้ ยามที่ปฏิทินของชาวมายันกำลังจะจบลงในวันสุดท้ายที่ 21 ธ.ค. 2555 ... คือพอดีร้านมันอยู่กลางกรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่บนดอยที่ออกข่าวว่า "เหมยขาบ" ปรากฏกายเมื่อวันก่อนจนบรรดานักท่องเที่ยวแห่กันไปกางเต๊นท์ ถ่ายรูปสัมผัสลมหนาวกันเยอะแยะ ... ส่วนอากาศกลางกรุงเทพฯมันก็อย่างที่เห็นๆกันอยู่ ... มัน "อุ่น" จนฝรั่งหนุ่มๆบางคนเดินถอดเสื้อเทิ่งๆ ทั้งๆที่มันเป็นกลางฤดูหนาว ซึ่งแย้งกับข่าวดินฟ้าอากาศต่างประเทศสัปดาห์ก่อนที่พายุหิมะพัดถล่มยุโรปตะวันออกหนักสุดในรอบ 50 ปี


Residents walk on a snow covered street in downtown Zagreb, Croatia, Saturday, Dec. 8, 2012. Parts of eastern and central Europe were hit hard by heavy snow and freezing temperatures.


Read more here: //www.tri-cityherald.com/2012/12/09/2199366/5-dead-as-heavy-snow-hits-balkans.html#storylink=cpy

ร้านหนังสือยังคงเปิดให้บริการอยู่ครับ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศทั้งมือหนึ่งและมือสอง ไม่ว่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ต ราฟไกด์ หรืออินไซด์ไกด์ นอกจากนั้นยังมีภาษาต่างๆอีกหลากหลาย เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮีบรูว์ หรืออื่นๆ หลังจากใช้งานแล้ว ลูกค้ายังสามารถนำมาขายคืนให้กับทางร้านอีกในอัตราครึ่งราคา เพียงแต่อย่าฉีกหน้าใดหน้าหนึ่งออก และอย่าให้มันเปียกน้ำ กระดาษย่นทั้งเล่ม ... วันก่อนนี้ลูกค้าสาวสวยคนหนึ่งก็เพิ่งจะเอาโลนลีแพลนเน็ตคัมโบเดียฉบับใหม่ล่าสุดมาคืน ก่อนจะเปลี่ยนเอาโลนลีแพลนเน็ตบาหลีปีล่าสุดไปโดยเพิ่มเงินเพียงแค่ร้อยกว่าบาท เธอรีบคว้าบาหลีเล่มสุดท้ายนั้นไปอย่างยินดี

หนึ่งในลูกค้าที่หนีหนาวมาวันก่อนคือ คู่สามี-ภรรยาจากโครเอเชีย ประเทศนี้ตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางรอยต่อระหว่างยุโรปกลาง ยุโรปใต้ และ ยุโรปตะวันออก เป็นหนึ่งในประเทศที่เจอพายุหิมะพัดเข้าถล่มตอนต้นธันวาคมที่ผ่านมาเหมือนกัน ทั้งคู่เข้ามาซื้อโปสการ์ดก่อนจะไปเดินด้อมๆมองๆหาแผนที่ภาคเหนือของประเทศไทยมาได้ 1 แผ่น ขอเปิดดูเส้นทางจากเชียงใหม่ไล่ลงมายังตอนล่าง แต่หลังจากเล็งๆดูสักพักก็ส่ายหน้า

"ทำไมล่ะ มันใช้ไม่ได้เหรอ" ผมถามไปยิ้มๆ

"เส้นทางถนนมันเล็กไปน่ะ เราอยากได้ที่มันใหญ่และละเอียดกว่านี้" สามีร่างใหญ่ตอบมา

"ผมมีแอทลาสไทยแลนด์อยู่เล่มหนึ่ง คุณสนใจจะดูไหมล่ะ ว่าแต่คุณจะเอาแผนที่เส้นทางถนนละเอียดขนาดนั้นไปทำอะไรเหรอ" ผมเดินไปหยิบแผนที่เล่มใหญ่มาเปิดออกให้ดู

"เราจะขี่รถไล่ลงมาจากเชียงใหม่น่ะ" คนภรรยาผมยาวสีทองสวยตอบมา ในมือพลิกดูโปสการ์ดรูปวัดพระแก้วอย่างสนอกสนใจ

"อ้อ ... ไอ ซี" ผมพยักหน้าพลางเปิดแผนที่ไปที่หน้าจังหวัดเชียงใหม่ไล่ลงมาทีละหน้า อธิบายสัญลักษณ์ทางรถไฟ ถนนใหญ่สายหลัก-สายรอง ให้ฟังคร่าวๆ ลูกค้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ พลิกดูต่อทีละหน้าก่อนจะควักกระเป๋าออกมาหยิบเงินจ่ายอย่างง่ายๆ เพราะได้ของถูกต้องตรงตามที่ต้องการ

"แผนที่นี้มีสัญลักษณ์แสดงจุดตั้งเต๊นท์ เพื่อวางแคมป์พักแรมด้วยหรือเปล่า" คนสามีถามเพิ่มเติมมา

"ไม่น่าจะมีนะ แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจนัก คุณลองเช็คดูตรงสัญลักษณ์อีกทีดีกว่า ... เพราะว่านักท่องเที่ยวคนไทยที่ไปกางเต๊นท์นอนกันนั้น ปกติจะเป็นสถานที่ที่กำหนดให้ในอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นถ้าคุณมองหาอุทยานแห่งชาติ คุณจะเจอเอง ... แต่ถ้าคุณจะขี่จักรยานพเนจรไปเรื่อยๆละก็ คุณต้องหาที่นอนเหมาะๆเอาเองในแต่ละวันแล้วล่ะ จะเป็นวัดหรืออะไรก็แล้วแต่" ผมอธิบายธรรมชาติของคนไทยให้ฟัง

"โอเค เข้าใจแล้ว ... ทีนี้อีกอย่างหนึ่ง คุณรู้ไหมว่าเราจะหาแหล่งขายจักรยานได้ที่ไหน มอเตอร์ไซค์ด้วยก็ดี เอาในกรุงเทพฯใกล้ๆนี่นะ" คนสามีถามมา

"Wo-ra-jak / วรจักร" ผมปิ๊งขึ้นมาทันที แล้วเปิดแผนที่แอทลาสเล่มนั้นไปที่หน้ากรุงเทพฯ เอาปากกาไฮไลท์ขีดลงไปบนเส้นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนจักรวรรดิและถนนจักรพรรดิพงษ์


แหล่งขายจักรยานและอะไหล่ยนตร์แหล่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งมีโอกาสได้ลูกค้ากระเป๋าหนัก ... หนึ่งในแผนธุรกิจในอนาคตของผมคือ เปิดร้านจักรยานให้นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อหรือเช่า ... ท่าจะสนุก ... หุหุ เรื่องนี้ต้องถึงหูครูอังคณาแน่นอน

"พรุ่งนี้วันอาทิตย์ เขาเปิดหรือเปล่านี่" หญิงสาวถามมา เงยหน้าจากปึกโปสการ์ด

"ถ้าจะให้ดี คุณไปก่อนเที่ยงละกัน เพราะตอนบ่ายวันอาทิตย์ ร้านน่าจะปิดซะเยอะ" ผมประมาณการณ์ให้ฟัง

"แล้วร้านมอเตอร์ไซค์ล่ะ" ลูกค้าไม่ลืมอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเดินทาง

"คุณมีใบขับขี่สากลถูกต้องไหม" ผมถามย้อนไปก่อน

"ใช่ เรามี แต่เราไม่แน่ใจเรื่องสิทธิ์ในการถือครองพาหนะ เพราะในยุโรปแถวบ้านเราบางประเทศ นักท่องเที่ยวจะถือครองยานพาหนะไม่ได้ อาจจะได้แค่เช่า มันเป็นกฎหมายบังคับไว้" ลูกค้าสาวบอกข้อข้องใจมา

"เข้าใจล่ะ" ผมพยักหน้า สำหรับบ้านเรา คนซื้อรถก็ต้องไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ต้องมีข้อมูลและขั้นตอนดำเนินการหลายอย่างของเจ้าของ ผู้ถือครอง ... แล้วถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติล่ะ ผมพอนึกออกว่าฝรั่งนักท่องเที่ยว มีเงินพวกนี้จะซื้อมอเตอร์ไซค์สักคัน ขับไปเรื่อยๆสักเดือน พอจะกลับก็ขายทิ้ง ค่าใช้จ่ายอาจจะพอกัน แต่สะดวกกว่าตรงที่ไม่ต้องวนกลับมาคืนที่เดิม ... ผมเคยเห็นบริษัทจัดหารถเช่าใหญ่ๆบางแห่ง ที่มีหลายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ลูกค้าสามารถเช่าจากที่หนึ่งแล้วไปคืนอีกที่หนึ่งได้ แต่มันเป็นรถเก๋ง ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน ที่ราคาอาจจะถูกกว่า กำรี้กำไรอาจจะน้อยกว่า ก็เลยไม่ค่อยมีใครทำกัน

"ผมว่าคุณถามที่ร้านขายมอเตอร์ไซค์ได้ แต่ถ้าเอาคำตอบแน่นอนและถูกต้องตามกฎหมายด้วย ผมแนะนำให้ถามที่สถานฑูตของคุณน่าจะได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุด พอดีผมเองก็ไม่ค่อยแม่นเรื่องนี้เท่าไหร่" ผมให้คำแนะนำเพิ่มเติมไป

"I see." หญิงสาวซึ่งดูท่าจะคล่องภาษาอังกฤษมากกว่า หันไปพูดอธิบายกับสามีของเธอ

ก่อนออกจากร้านไป สามีของเธอได้หมวกผ้าครอบผมสำหรับสิงห์มอเตอร์ไซค์ไปอีก 1 อัน ภรรยาหันมาหัวเราะขำท่าทางของสามีที่โชว์หมวกให้ดูอย่างดีอกดีใจ

พูดถึงรถยนตร์ขึ้นมาทำให้นึกถึงงานมอเตอร์โชว์ 2012 ที่ปิดฉากไปกับยอดจองถล่มทลาย 85,XXX คันภายในระยะเวลา 11 วัน พร้อมๆกับเสียงวิจารณ์ผ่านสื่อถึงพริตตี้สาวสวยใส่ชุดว่ายน้ำแบบบิกินี 2 ชิ้นที่ปรากฏกายขึ้นในการแสดงโชว์รถยนตร์หรูยี่ห้อหนึ่ง ... ก็เป็นนานาทรรศนะจากแต่ละคน ที่ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง แล้วแต่คนครับ บางคนก็ไปถ่ายรูปอย่างเดียว บางคนก็ไปเที่ยวเล่นเอาสนุก บางคนที่ผมรู้จักก็ "จองมาจากบ้านแล้ว" คือไปถึงก็เดินไปที่ค่ายรถเป้าหมาย เรียกเซลส์มากรอกเอกสาร จ่ายตังค์ดสร็จ เดินสักรอบแล้วก็กลับ ... ก็ว่ากันไป อย่าคิดมาก เสียสุขภาพเปล่าๆ เอาเวลาไปหายใจท่าจะดีกว่า

เก็บตกมาฝากกันเบาๆ จากงานมอเตอร์โชว์ 2012 ที่พอดีผมแวะไปทำธุระเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา


มุมกล้อง 4-5 ตัวที่เล็งมานั้น จะติดบางส่วนของรถบ้างหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ... ฟ้องด้วยภาพก็แล้วกันครับ ... ประมาณ "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม" ประมาณนั้น ... หุหุ


ลองเปลี่ยนจากพริตตี้สาวสวย นุ่งน้อยห่มน้อย มาเป็นพรีเซนเตอร์เด็กดูไหมครับ เจ๊เบียบเขาจะได้เลิกบ่น ฝาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา เจ้าพ่อมอเตอร์โชว์ จากค่ายกรังปรีซ์ อินเตอร์เนชันแนลพิจารณาด้วยละกัน

ป.ล. ว่าแต่ว่า นี่เราผ่านเลขกล 1 กับ 2 มาแล้วใช่ไหมครับ ทั้ง

- วันที่ 12 เดือน 12 ปี '12 ซึ่งคนชอบตัวเลขตองคงแฮปปี้ มีความสุขกันทั่วหน้า เห็นคนแห่ไปจดทะเบียนสมรสกันเต็มที่ว่าการอำเภอ

- วันที่ 21 เดือน 12 ปี '12 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินมายัน ที่หลายคนเกรงว่าโลกจะแตก พายุสุริยะจะส่งผลมาถึงโลก สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลง แกนโลกเอียงพลิกคว่ำ ... ต่างๆนานๆ ... ข่าวคนต่างประเทศนัดไปฆ่าตัวตายกันบ้าง ผมจำได้คล้ายๆตอน 12 ปีที่แล้ว "ปีมิลเลนเนียม" ที่เลข ค.ศ. 2000 มีข่าวว่าจะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์รวนส่งผลต่างๆ ... ลองคิดดู คนทำปฏิทินชาวมายันก็ทำปฏิทินให้ล่วงหน้าเป็นพันๆปี ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองก็อายุไม่ถึงอยู่แล้ว ก็คงเห็นว่าพอสมควรแล้ว เวลาที่ล่วงไปในอนาคตเนิ่นนานไปกว่านั้น ก็น่าจะเป็นหน้าที่ของคนอนาคตจะต้องรับผิดชอบตัวเองได้

... พอผ่านวันศุกร์ที่ 21 มา หลายคนคงดีใจ ตะโกน "ไม่ตายแล้วโว้ย"

... และโลกก็ยังคงเดินต่อไป ... สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งคริสต์มาสอันอบอุ่นและกลิ่นแห่งปีใหม่ 2013 โชยระรินในสายลม




Create Date : 24 ธันวาคม 2555
Last Update : 24 ธันวาคม 2555 18:11:18 น. 0 comments
Counter : 3789 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.