Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน It's my life ... ชีวิตนี้ ใช้ซะ

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ ครบ 32 กินได้ นอนหลับ และมีโอกาสได้มาเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือเล็กๆในถนนข้าวสาร ให้ได้อ่านเล่นฆ่าเวลากันอีกสัปดาห์หนึ่ง ท่ามกลางอากาศร้อนจัด เป็นการโหมโรงก่อนเข้าสู่เทศกาลสาดน้ำสงกรานต์กันอีกปี

(กลุ่มย่อยของเรื่องเล่าอาทิตย์นี้ เป็นครั้งแรกที่ผมระบุเป็น "กิจกรรมน่าสนใจ" ... มาไงไปไง ตามมาครับ ผมจะเล่าให้ฟัง)

ข่าวครึกโครมที่สะท้านไปทั้งโลกช่วงนี้ก็คงไม่มีข่าวไหนที่ดังไปกว่า ข่าวล่องหนของเครื่องบินโดยสารสัญชาติมาเลย์ โบอิง-777 เที่ยวบิน MH370 กับข่าวรัสเซียปฏิบัติการยึดไครเมียและผนวกดินแดนดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย (ซึ่งๆหน้าหรือที่เรียกว่ายึดกันดื้อๆเนี่ยแหละ) จนกระทั่งเกิดมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้กันระหว่างหมีขาวกับพญาอินทรีแห่งโลกเสรี ... ข่าวทั้งสองนี้ตีตื้นมานิดหน่อยกับข่าวการเมืองบ้านเราในหน้าหนังสือพิมพ์ภาษาไทยนะครับ แต่ในสำนักข่าวต่างประเทศนั้น เป็นข่าวใหญ่ทีเดียวทั้ง CNN ทั้ง BBC ตามติดความเคลื่อนไหวกันตลอดเวลา แต่ข่าวเครื่องบินจากมาเลเซียนี้สะท้อนให้เห็นอยู่อย่างหนึ่งครับในมุมมองของผมว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอแม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิด เห็นๆกันอยู่ว่ากฎระเบียบการบินของมาเลเซียเข้มงวดเพียงใด (เอ้อ ... ไม่รวมภาพถ่ายกับสาวในห้องกัปตันนะครับ แหะ แหะ) เทคโนโลยีการบินสูงเพียงใด เครื่องบินติดระบบเต็มรูปแบบก็ยังสามารถเกิดปัญหาขึ้นมาได้เฉยๆซะงั้น ... ยังไงก็แล้วแต่ ยังไม่จบครับทั้ง 2 เหตุการณ์ ก็คงต้องตามกันยาวๆว่าตกลงแล้ว เครื่องบินอยู่ไหน ประสพอุบัติเหตุไปแล้วหรือไง ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัยดีหรือเปล่า หรือจะเป็นปฏิบัติการณ์ช็อคโลก ถูกไฮแจ็คโดยสลัดอากาศจากไหนสักแห่ง (แต่ผมคาดการณ์ล่วงหน้าไว้เลยว่า หลังจากฝุ่นควันของเหตุการณ์จางบางลง คงจะต้องมีการพัฒนาระบบความปลอดภัยการบินกันขนานใหญ่อย่างแน่นอน ... แต่ไอ้เรื่องพาสปอร์ตปลอม-หายจากบ้านเรา ก็ ... คงเดิมๆนะ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ หึ หึ ) ส่วนวิกฤตไครเมียนั้นจะเป็นชนวนลุกลามไปสู่สงครามใหญ่อย่างที่ใครๆหลายคนคาดกันหรือเปล่า ความขัดแย้งครั้งนี้ พญาอินทรีคงต้องคิดหนัก เพราะหมีขาวรัสเซียนั้นไม่ใช่อิรักหรือปากีสถานที่จะให้เถือได้ง่ายๆ ... "วลาดิเมียร์ ปูติน" นะครับ ไม่ใช่ "ซัดดัม ฮุสเซ็น" หรือ "บิน ลาเด็น" ... ตามข่าวต่างประเทศช่วงนี้ สนุกสนานราวกับ "สามีตีตรา" ก็ไม่ปาน ... อิ อิ

ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โลนลีแพลนเน็ตก็มีปกใหม่-สำคัญออกมาอีก 1 ปกครับ นั่นคือโลนลีแพลนเน็ตลาว หลังจากห่างหายไป 4 ปี คือตั้งแต่อีดิชัน 7 ออกตอนเดือนธันวาคม 2010 ก็ยิงยาวข้ามมาถึงกุมภาพันธ์ 2014 นับว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ปกที่ยังพิมพ์ห่างกัน 3 ปีเศษ เห็นในเว็บบอกไว้ว่ารอบหน้าจะอยู่ที่ มิถุนายน 2017 ก็นับว่ายังงระยะห่าง 3 ปีกว่าๆไว้ แต่ถึงยังไงก็นานกว่าเมืองไทยอยู่ดีที่เป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ โลนลีแพลนเน็ตถึงได้อัพเดทถี่ที่สุด 2 ปี / ครั้ง

Lonely Planet Lao / 8th. Edition / 344 pages / 96 pp colours / 53 maps / 27.99 USD หน้าปกเป็นภาพเณร 2 รูปทัศนาอยู่บนหินหน้าน้ำตก สะท้อนความชุ่มชื่นของธรรมชาติบ้านลาวอย่างดี

ครับ ... ส่วนร้านหนังสือก็ยังเปิดอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทย-เทศ ที่ต้องการไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศประกอบการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน ฮีบรู หรือภาษาอื่นๆ หลากหลายยี่ห้อ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ไม่ว่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ท ราฟท์ไกด์ อินไซด์ไกด์ สเตฟานโรเซ (เยอรมัน) ดูมองท์ (เยอรมัน) รุทตาร์ท (ฝรั่งเศส) ปาสคาล (โปล) หรืออื่นๆ อีกทั้งยังมีเฟรสบุ๊คให้ได้เตรียมตัวพูดภาษากันแต่เนิ่นๆก่อนออกเดินทาง และแผนที่ท่องเที่ยวของประเทศต่างๆด้วยครับ ... แถมตอนนี้ ก็ยังเพิ่งได้โลนลีแพลนเน็ทฟิลิปปินส์เวอร์ชันล่าสุดสภาพดีไล่ๆกันมา 2 เล่ม พร้อมกับเวียตนามอีกเล่มหนึ่ง ... ถ้าใครสนใจก็แวะชม หรือสอบถามกันมาได้ครับ Smiley

หลังปีใหม่มานี้ก็เพิ่งมีลูกค้าหนุ่มฟินน์ที่ไปเที่ยวพม่ามาถามซื้อเฟรสบุ๊คพม่าไป ก่อนออกไปก็ได้หัดสปีค "มิง-กาลาบา" กันหลายรอบอยู่ หลังจากนั้นประมาณเดือนนึงก็กลับมาขายคืน สภาพดีน่าใช้อยู่ พ่อหนุ่มบอกว่า พม่าสวยดี น่าเที่ยวอยู่เหมือนกัน เสียดายที่ได้วีซ่าแค่เดือนเดียว ไม่งั้นจะอยู่เที่ยวต่อ พร้อมๆกันกับที่มาฝากส่งโปสการ์ดสวยๆของตลาดน้ำบ้านเรา ซึงก็ยังเรียกลูกค้านักท่องเที่ยวได้ดีอยู่ และเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวเริ่มรู้แล้วว่ามันมีตลาดน้ำหลายที่นะ (แต่ดูท่าจะยังแยกไม่ออกระหว่างตลาดน้ำจำลองที่ถูกขุดขึ้นพร้อมกับเอาน้ำใส่ลงในสระ แล้วก็สร้างร้านขายของ-ร้านอาหารเอาไว้ดูดเงินนักท่องเที่ยว กับตลาดน้ำของจริงที่แม่ค้าพายเรือมาขายของจากลำคลองข้างนอก) ถ้าจะเอาใกล้ๆก็ตลาดน้ำตลิ่งชัน อยู่หลังโรงพยาบาลเจ้าพระยาไปหน่อย แต่มันจะไม่เหมือนกับตลาดน้ำดำเนินสะดวกในหนังฮอลลีวู้ดนะ นอกจากนั้นก็มีตลาดน้ำอัมพวา มีที่ต้องไปดู "Fireflies" ยามดึก พาลไปถึงตลาดรถไฟหรือตลาดร่มหุบที่เขาเห็นเป็นของแปลก แต่บ้านเรามันไม่แปลก มันเป็นเพราะไม่มีที่ขายกับไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยกันมากกว่า --- ลองนึกดู ฝรั่งได้ยินเสียงหวูดมาพร้อมกับขบวนรถไฟค่อยๆวิ่งมาตามราง ส่วนแม่ค้าก็เก็บๆๆๆๆๆๆ หลบหัวรถจักรที่วิ่งผ่าน พอท้ายขบวนเลยไปแล้วก็วางใหม่ ... ฝรั่งเห็นแล้วก็คงนึกว่า "โอ้ พระเจ้า ... แม่ค้ากับพนักงานประจำหัวรถจักรนี่ช่างทำงานกันเป็นทีมเวิร์คได้เยี่ยมสุดๆ ดูแล้วปลอดภัยกว่านั่งรถตู้ทางด่วนเป็นไหนๆ"


โปสการ์ดภาพตลาดน้ำในฝัน ซึ่งสวยงามดูสงบเรียบร้อยดี ไม่มีเรือเครื่องซิ่งเสียงดังเป็นที่น่ารำคาญ





นี่ก็เป็นโปสการ์ดตลาดน้ำอีกใบหนึ่งที่ลูกค้าดัชท์ฝากส่งกลับไปที่เนเธอร์แลนด์ ภาพผลไม้ในเรือกับพ่อค้า-แม่ค้า ดูน่าสนใจดี ... แต่ ... เอ้อ ... น้ำในแม่น้ำ ทำไมดูมันดำไปหน่อยไหมครับ จะว่าเป็นเงาสะท้อนก็ ... ไม่ใช่มั้ง Smiley ... ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนจะเป็นแบบไหน แม่น้ำในตลาดน้ำจะใสกว่านี้หรือเปล่า

สัปดาห์ก่อน ตอนหัวค่ำ ... ชายหนุ่มในชุดนักปั่นเต็มยศ ก้าวเข้ามาในร้านพร้อมกับเดินเล็งโลนลีแพลนเน็ตอยู่พักใหญ่ ท่าทางกังวลกับจักรยานที่จอดพิงเสาไฟฟ้าหน้าร้านจนผมต้องบอกว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูให้ ... ชายหนุ่มจึงถอดหมวกออกและสำรวจหนังสือที่ชั้นเต็มที่ ก่อนจะถามหาหนังสือเป้าหมายเพราะหาไม่เจอ

"พี่มีโลนลีแพลนเน็ตเทรคกิ้งเนปาล-หิมาลัย ไหมครับ" ชายหนุ่มออกปากถาม หลังจากมองหาไม่เห็น

"มีครับ" ผมพยักหน้า แล้วเดินไปหยิบหนังสือเล่มเป้าหมายออกมาจากชั้น มันถูกวางหลบสายตาอยู่ติดกับขาตั้งชั้นสีดำพอดี เป็นอีดิชันล่าสุด ปี 2009 เป็นหนังสือใหม่ที่ผมลดราคาพิเศษไว้สำหรับลูกค้าคนพิเศษที่ต้องการตามหามันจริงๆ

"ทำไมมันเป็นปีเก่าละครับ มันมีเล่มใหม่กว่านี้หรือเปล่า พอดีผมเห็นว่ามีปี 2012 อยู่" ชายหนุ่มเม้มปาก ก่อนถามมาอย่างไม่มั่นใจ

"อ๋อ ปี 2012 เป็นฉบับที่เป็นเนปาลทั้งประเทศน่ะครับ จะเป็นคนละปกกันกับเทรคกิ้งเล่มนี้ เพราะมันเป็นเส้นทางเดินท่องป่า ซึ่งไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก" ผมอธิบายพร้อมกับเปิดเว็บของโลนลีแพลนเน็ตให้ดู

"อ๋อ ถ้างั้นเล่มนั้นก็มีอยู่ ผมเพิ่งซื้อมา" ชายหนุ่มพยักหน้า

"แล้วข้อมูลเทรคกิ้งหิมาลัย มีไหมครับ" ผมถามไปอีกทีพร้อมกับชี้ให้ดูฉบับเต็ม 2012 ในเว็บ

"มีอยู่นิดเดียวเองครับ ไม่กี่หน้า" ชายหนุ่มทำนิ้วให้เห็น

"แล้วจะไปเมื่อไหร่ครับนี่" ผมถามไปยิ้มๆ ลูกค้าท่าทางจะซื้อแน่นอน

"น่าจะเดือนหน้านี่ละครับ ผมขอเปิดดูได้ไหม" ลูกค้าถาม ขอดูเพื่อความมั่นใจ

"ได้ครับ" ผมพยักหน้าพร้อมชี้ให้ดูในเว็บ "นี่ไงครับ เล่มนี้เป็นอีดิชันล่าสุด พิมพ์ครั้งที่ 9 ปี 2009 ถ้าจะใหม่กว่านี้ก็ต้องรอปลายปีนี้ เป็นเดือนสิงหาคม พิมพ์ครั้งที่ 10 ห่างกัน 5 ปี ... ถ้าไปเดือนหน้าก็ไม่ทันเล่มใหม่ ต้องใช้เล่มนี้แหละ"

ชายหนุ่มนั่งเล็งดูอยู่สักพักก็ตกลงตัดสินใจ "โอเคครับ"

ผมยิ้มก่อนชวนคุยเพิ่มเติม ชายหนุ่มเป็นลูกค้าคนไทยคนแรกที่ซื้อเทรคกิ้งเนปาล-หิมาลัย "ไปถึงไหนครับนี่ นานไหม"

"ผมว่าจะไปถึงเบสแคมป์นี่แหละครับ สักเดือนน่าจะได้" ชายหนุ่มตอบและยิ้มพร้อมกับชำระค่าหนังสือ

"เพิ่งเรียนจบหรือครับ หรือว่าลางานไป" ผมถาม เพราะในชุดนักปั่น ไม่สามารถประมาณการอายุได้แน่นอน

"ผมลาออกจากงานเลยครับ กลับมาค่อยว่ากันใหม่" ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเอ่ยชื่อกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่ทำงานอยู่

"โฮ่ๆๆ ... แหม คนหนุ่มสมัยนี้นี่ใช้ชีวิตคุ้มดีจริง" ผมหัวเราะพร้อมกับยกหัวแม่มือให้ ... ปั่นจักรยานไปทำงาน ... ลาออกเพื่อบินเดี่ยวไปเดินป่าภูเขาหิมาลัย ... ชีวิตเอ๊กซ์ตรีมที่ไม่มีในเจนเอ๊กซ์ หรือเบบี้บูมเมอร์จะจินตนาการถึง

"ไม่ได้หรอก พี่ ... ผมเห็นผู้ใหญ่-รุ่นพี่ที่รู้จักหลายคนแล้ว บ่นกันทั้งนั้นว่าแก่แล้วไม่ได้เที่ยว เที่ยวไม่ไหว ... ตอนนี้ผมเลยต้องเอาให้คุ้มก่อน ไม่งั้นจะหมดโอกาสซะ" ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย



ภาพชายหนุ่มเจนเนอเรชันล่าสุดกับชีวิตยุคใหม่ ... ใช้ซะ !!!

( จบเรื่องเล่าอาทิตย์นี้แล้ว น่าสนใจไหมครับกับ "กิจกรรมน่าสนใจ" ประเภท "ลาออกไปท่องป่าที่ภูเขาหิมาลัยสักเดือน" ... ถ้าสนใจก็ลองดู )

แล้วคุณล่ะ ได้ไป ที่ชอบ ที่ชอบ ... ได้ทำ ที่ใช่ ที่ใช่ แล้วหรือยัง SmileySmileySmiley

เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858
jettajan227@yahoo.com



ภาพจากมิวสิควิดีโอมันส์ๆของ "Bon Jovi" กับ "It's my life"

..........

It's my life, it's now or never. .......... มันเป็นชีิวิตของข้านี่ ... ต้องตอนนี้แหละ ไม่งั้นก็ไม่ต้องเลย
But I ain't going to live forever. .......... ก็ข้าไม่ได้เป็นอมตะ
I just want to live while I'm alive. .......... แล้วข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตตอนที่ยังมีชีวิตนี่นา
It's my life. .......... เพราะมันเป็นชีวิตของข้า

My heart is like an open highway. .......... ใจข้าเหมือนกับทางสายใหญ่
Like Frank, he said "I did it my way". .......... อย่างที่แฟรงค์ (ซินาตร้า) บอกไว้ว่า "ข้าทำของข้าเอง"
I just want to live while I'm alive. .......... ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตตอนที่ยังมีชีวิต
It's my life. .......... เพราะมันเป็นชีวิตของข้าเองไง

..........



Create Date : 29 มีนาคม 2557
Last Update : 29 มีนาคม 2557 10:31:10 น. 0 comments
Counter : 2368 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.