Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
นอกร้านหนังสือ ... ตอน ตลาดเช้าบางลำพู

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ยินดีที่ได้พบกันอีกครับสำหรับเรื่องเล่านอกร้านหนังสือ พอดีวันนี้เป็นวันหยุด ผมจึงขออนุญาตแนะนำทริปท่องเที่ยวดีๆใกล้ๆ สำหรับคนตื่นเช้าที่อยู่แถวๆนี้นะครับ ใช้เวลาเพียงสักชั่วโมงเดียวก็โอเคครับ ... เดินได้ด้วยเท้า ไม่จำเป็นต้องใช้ Segway หรือปั่นจักรยานพร้อมเครื่องแบบชุดใหญ่ครับ แล้วก็ไม่ต้องไปถึงตลาดน้ำตอนเช้า เดินย่ำโคลนตอนบ่าย ล่องเรือดูไฟกระพริบ ... เอ้ย ... หิ่งห้อยตอนค่ำ .... แล้วก็ผมไม่ได้พาไปชิมของอร่อยนะครับ เพราะฉะนั้นร้านที่เอ่ยถึงวันนี้ ไม่มีป้าย "...ชวนชิม" นะครับ

... คือบางทีฝรั่งถามผมว่าคุณรู้จักตลาดน้ำ "Floating market" แนะนำให้บ้างไหม ... ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกันเพราะหลายปีหลังๆมานี้ ตลาดน้ำเต็มไปหมด ทั้งเก่าใหม่ ไกลใกล้ คนไทยไปตลาดน้ำกันทั้งวัน เช้า สาย บ่าย เย็น ... ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำอำพวา ตลาดน้ำบางผึ้ง ตลาดน้ำหลังซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยา เรื่อยไปยัง ตลาดดอนหวาย ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำสี่ภาค จนถึงนู่น ตลาดน้ำหัวหิน ตลาดน้ำสามพันนาม พร้อมแพ็คเกจเสริม นั่งเรือดูเขาทำน้ำตาลบ้าง แถมกินอาหารท้องถิ่น หยอดหอยหลอด คลองโคน ... สารพัดสำหรับคนไทยโดยเฉพาะชาวกรุงผู้เป็นโรคตลาดน้ำลิซึ่มกันถ้วนทั่ว



Lonely planet Bangkok ฉบับพิมพ์ใหม่ครั้งที่ 10 ออกเดือนกันยายน 2555 นี้ หน้าปกเป็นรูปตลาดน้ำ ดูสวยงามเหมือนฝัน ไม่รู้ว่าอัมพวา หรือ ดำเนินสะดวก

... แล้วก็โปรแกรมเดินสายไหว้พระ 9 วัดด้วยครับ มีทั้งโครงการ 9 วัดของ ขสมก. ที่เอารถเมล์ร้อนมาวิ่งฟรีให้ในวันนักขัตฤกษ์พิเศษ ที่กว่าจะจบก็บ่าย ถ้าวันไหนรถติดก็เย็นย่ำ หรือเมื่อก่อนนี้เห็นเป็นแพ็คเกจต้องไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ ราคา 100 กว่าบาท จนตอนนี้คนเริ่มติดพิธีกรรมไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคลบ้าง สะเดาะเคราะห์บ้าง ... ล่าสุดสัปดาห์ก่อน ผมเจอแท็กซี่จอดรอผู้โดยสารอยู่คันหนึ่ง พี่คนขับเอากระดาษแผ่นหนึ่งจดชื่อวัดมาถามผม แกรู้จักวัดพระแก้ว ... แต่ไม่รู้ว่า "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" อยู่ไหน แล้วก็แกรู้จักวัดโพธิ์ที่อยู่ด้านหลังวัดพระแก้ว ... แต่แกชี้ให้ผมบอกทางไป "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร" ให้หน่อย แกไปไม่ถูก ... ผมก็เฉลยไปให้ฟังว่า ชื่อยาวๆอันแรกนั่นแหละวัดพระแก้ว ส่วนชื่อยาวๆอันหลังนั่นก็คือวัดโพธิ์ ส่วนในใจก็สงสัยว่าลูกค้าที่เหมารถแท็กซี่ทั้งวัน 1500 ค่าแก๊ซต่างหากคนนั้น จะรู้พอๆกันกับคนขับแท็กซี่หรือเปล่าหนอ ... ไม่อยากจะคิดว่า โยนโพยรายชื่อวัดให้ 9 วัด โดยไม่ได้ถามไถ่เพราะตัวเองคนเหมาก็ไม่รู้เหมือนกัน คนขับพาไปไหนก็ไปวะ ขอให้ครบๆ 9 วัดเป็นใช้ได้


เส้นทางไหว้พระอารามหลวง 9 วัด ยอดนิยมใจกลางกรุงเทพ

... เอ้อ นอกเรื่องมานานแล้ว เข้าสู่ทริปท่องเที่ยวตลาดสุดหรูของเราดีกว่าครับ ... ขออนุญาต เรียกว่า แพ็คเกจทัวร์ตลาดเช้าบางลำพู ใน 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเป็นแบงก์ร้อยใบเดียวน่าจะมีเงินทอนครับ

เช้านี้เป็นวันหยุด ถึงแม้ว่าเมื่อคืนผมจะนอนดึก แต่วันนี้หกโมงกว่าผมก็ตื่นแล้ว อาจจะด้วยเริ่มอายุมากขึ้นทำให้นอนน้อยลง ก็เลยถือโอกาสไปใส่บาตรเช้าเสียเลย ผมเดินผ่านร้านกาแฟสตาร์บัคส์ที่เปิดแล้วแต่เช้า ผ่านห้างตั้งฮั่วเส็งที่ยังปิดอยู่ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ตลาดเช้าบางลำพู ... กระเพาะปลาไม่ใส่เส้น พร้อมกับ กล้วยบวชชี อย่างละ 1 ถุงคือสิ่งที่ถวายไป ก่อนจะเดินเลยไปสุดทางถนนไกรสีห์ และนั่งลงที่โต๊ะติดกำแพงร้านทองด้านซ้ายมือที่ "ร้านเนสกาแฟพรรณี"

ร้านนี้เป็นร้านแผงลอยชั่วคราวขายตอนเช้าเท่านั้น ขายหลายอย่างครับ ทั้งเครื่องดื่มชนิดชงมาตรฐานอันประกอบด้วย ชา กาแฟ ทั้งร้อนและเย็น รวมไปถึง น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ไข่ลวก ขนมปังปิ้ง โดยมีอุปกรณ์หลักอยู่ 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคืออุปกรณ์การต่อสู้ของแม่ค้าอันประกอบด้วย 5 สเตชันหลัก

1) ชุดรถเข็นพร้อมอุปกรณ์เสริมทั้งที่ปั้นแป้ง กะทะน้ำมันและเตาแก๊ซ สำหรับทอดปาท่องโก๋ ในราคาขายตัวละ 2 บาท
2) รถเข็นใส่ถังน้ำแข็ง 1 ถัง
3) รถชงกาแฟมาตรฐาน ระบุยี่ห้อของเนสกาแฟ ชัดเจน
4) โต๊ะขนมปังปิ้ง เนย นม น้ำตาล แยม
5) รถเข็นขายน้ำเต้าหู้ พร้อมเครื่องเติมเสร็จสรรพ ... เอ่ออม ร้านนี้ยังคงใช้ "ลูกเดือย" ใส่ในน้ำเต้าหู้อยู่นะครับ ไม่ใช่ "ข้าวบาร์เลย์" คือบางร้านนั้นใส่ "ข้าวบาร์เลย์" ชัดเจนนะครับ แต่พอผมถามว่าไม่มี "ลูกเดือย" หรือพี่ ... เพ่แกก็จะตอบว่า นี่แหละ "ลูกเดือย" ผมก็งงๆ หลังๆบางทีจะเลี่ยงไปใส่เม็ดแมงลักแทน ด้วยขี้เกียจไปเอานิยมนิยายอะไรกับมัน สู้เอาเวลาไปหายใจดีกว่า ... ไม่ใช่อะไรครับ รสชาติมันไม่เหมือนกัน "ลูกเดือย" นั้นมีแกนเวลาเคี้ยวจะรู้สึกกรุบๆนิดๆ ส่วน "ข้าวบาร์เลย์" นั้นไม่มีแกนและมันลื่นลิ้น เวลาจะเคี้ยวก็ปลิ้นหนีฟัน เพราะฉะนั้นผมมักจะนิยมชมชอบน้ำเต้าหู้ใส่ลูกเดือยมากกว่า นัยว่าเวลาเคี้ยวแล้วจะทำให้ได้รับรสสัมผัสที่แตกต่างออกไป .... คือสงสัยประมาณ แม่ไม่เข้าใจตุ้ม จริงๆ คล้ายๆเวลา สั่งต้มยำ แล้วเจอนมสดคาร์เนชันโรยหน้ามาให้ด้วย ... เอ๊ะ ตกลงเราสั่งอะไรไปกินกับข้าวกันแน่เนี่ย ต้มยำ หรือ ชานมเย็น ... เฮ้อ ....

ส่วนที่สองคืออุปกรณ์การต่อสู้ของลูกค้าครับ อันประกอบด้วย โต๊ะพับ 3-4 ตัว / เก้าอี้นั่งพลาสติกไม่มีพนัก / พร้อมอุปกรณ์เสริมคือ กาน้ำชา ถาดใส่ปาท่องโก๋ ขวดพริกไทย-ซอสแมกกี้ และที่ใส่กระดาษทิชชู่

แม่ทัพคือป้าพรรณีที่ยิ้มแต้มแก้มตลอดเวลา มีขุนพลหลักคือลูกสาวร่างอวบ ลีลาการพูดการจาและน้ำเสียงก็มาตรฐานบางลำพูนิดหน่อย พองาม กำลังดี ที่เหลือคือนายกองไซด์ไลน์ 2-3 คนคล้ายๆช่างภาพสมัครเล่น บางทีก็หนุ่มใหญ่กลางคนหรือไม่ก็สาวใหญ่วัยไล่เลี่ย น่าจะเป็นญาติๆกัน บางวันไปเจอเป็นเด็กหนุ่มวัยทีนที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกหรือหลาน หรือบางวันออกรบกัน 2 คน บรรยากาศร้านกาแฟโอเพ่นแอร์ก็จะ "มาคุ" นิดหน่อย ประมาณรีบกิน-รีบไปเว้ยเฮ้ย ... ก็ แหม ทั้งทอดป้างโก๋ ชงกาแฟ ลวกไข่ น้ำเต้าหู้ก็จะขาย หนมปังก็ต้องปิ้ง แม่ค้าก็มีกันอยู่แค่ 2 คน ก็เหนื่อยสิ ... วันนี้ รีบกิน-รีบไป เว้ย เฮ้ย

ครับ ... บรรยายมาซะนาน สำหรับวันนี้อากาศเย็นสบาย บรรยากาศ "ไม่มาคุ" เพราะแม่ทัพ-นายกองรวม 4 คน ผมนั่งชิลล์ๆ สั่งน้ำเต้าหู้ใส่ "ลูกเดือย" มาจิบพร้อมกับปาท่องโก๋ สายตามองไปที่บรรยากาศของตลาดเช้าบางลำพูที่ผู้คนเดินจับจ่ายสินค้ากัน ทอดสายตาไปฝั่งตรงข้าม เป็นกำแพงวัดบวรนิเวศ ลูกค้าร่วมร้านกาแฟทั้งชาย หญิง 6-7 คน ยืนบ้าง นั่งบ้าง ปะปนกัน และชายพิเศษอีกคู่หนึ่ง นั่งโต๊ะติดกัน คนหนึ่งนั่งดูแทบเล็ต ส่วนอีกคนหนึ่งนั่งกินกระเพาะปลา ... ที่ว่า "พิเศษ" นั้นดูออกง่ายจากลีลาการจับช้อนที่ยกปลายนิ้วก้อยอย่างสวย สอดคล้องกับเสียงพูดอย่างชัดเจน

เลยไปไม่ไกลนัก พระชราใส่แว่นรูปหนึ่งนั่งรถเข็นรอรับบาตรอยู่อย่างสงบ พระบางรูปเดินก้มหน้าดูสำรวมผ่านไปเรื่อยๆ ขณะที่พระบางรูปเดินวนไปกลับ หัวตลาดยันท้ายตลาด ... หลายรอบ จีวรปลิวลมไสว สายตาสอดส่ายหาผู้ปรารถนาจะใส่บาตร พระชราบางรูปมีลูกศิษย์เดินตามช่วยถือบาตร ในขณะที่บางรูปเดินเดี่ยว บางรูปมีจุดแวะพักคือถุงพลาสติกขนาดใหญ่ใส่ถุงอาหารที่เต็มจนล้นบาตรฝากไว้ที่ร้านขายอาหารของพ่อค้าแม่ค้า ถุงนั้นค่อนข้างใหญ่และหนัก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร ได้ของเต็มหลายถุง ก็จะเรียกรถตุ๊กๆบ้าง แท็กซี่บ้าง บรรทุกถุงอาหารเหล่านั้นออกจากตลาดไป ... ก็ไม่ว่าจะเอาไปแบ่งให้พระรูปอื่นที่บิณฑบาตรไม่ได้ แบ่งลูกศิษย์ลูกหาที่ปรนนิบัติพัดวี ปันไปให้กับผู้ยากไร้ที่พึ่งใบบุญวัด ขายคืนแลกเป็นเงิน ... อื่นๆอีกมากมายครับ

ไข่ลวกค่อนสุก 2 ฟองวางมาให้ที่โต๊ะ หลังจากน้ำเต้าหู้หมดไปแล้ว ผมนั่งทอดอารมณ์กวาดสายตามองผู้คนที่สัญจรไปมา ลมเย็นพลิ้วแผ่วเย็นสบาย ป้าร่างผอมเข็นรถขนมครกรุ่นเก่าผ่านไป วันนี้หมดเร็วคงขายดี หลายปีก่อนที่ผมเป็นลูกค้าประจำ ป้ากับลุงจะยิ้มแย้มทักทายลูกค้าอย่างอัธยาศัยดี ขณะใช้ช้อนสั้นแคะขนมแต่ละเบ้าอย่างพิถีพิถันหลังจากแป้งสุก ... โดยส่วนตัวผมชอบมันมากกว่าขนมครกสมัยใหม่ สมัยแดกด่วนที่ไม่ต้องแคะทีละเบ้า แต่ใช้วิธีเทแป้งให้ท่วมจนล้นเบ้าและแข็งติดกันทั้งชิ้น เวลาแป้งสุกก็ใช้กรรไกรแซะขึ้นมาเป็นแผ่นใหญ่ๆแผ่นเดียวก่อนตัดออกจากกัน ขนมครกแดกด่วนจะหยิบง่ายสบายมือเพราะขอบขนมจะมีแป้งที่สุกแล้วเป็นแผ่นแข็งเหลือจากที่กรรไกรตัดยื่นออกมาให้จับ ... แต่ขนมครกรุ่นเก่าต้องใช้ปลายนิ้วคีบหรือประคองจากด้านล่างที่ดำๆ เสน่ห์อย่างหนึ่งคือ ถ้าเล็งไม่ดี หยิบไปเจอชิ้นที่เพิ่งสุกใหม่ๆ แป้งยังอมความร้อนอยู่ ปลายนิ้ว 2-3 นิ้วก็แทบจะพองจากความร้อนของแป้ง และถ้าวันไหนดวงซวย ดันหยิบชิ้นนั้นเข้าปากไปอย่างเร็ว ก็แทบจะลิ้นพองลิ้นด้านกันไปหลายวันเลยทีเดียว




ขนมครกรุ่นคลาสสิค ต้องใช้ช้อนแคะทีละเบ้า ... ของแท้และดั้งเดิม ต้องเป็นช้อนสังกะสี สีเขียว แคะใส่ลงในกระทงพับจากกระดาษหนังสือพิมพ์ รองด้วยใบตองกันหมึกอีก 1 ชั้น



ขนมครกแดกด่วนสมัยใหม่ นัยว่าแป้งคนละอย่างกัน ... อุปกรณ์จำเป็นที่เพิ่มเติมมาใหม่คือ กรรไกร ??? ... แม่ค้ารุ่นคุณยายกินหมากคงจะงงๆ ว่ามาได้ไง

ปีหลังๆมานี้ เหลือป้าเข็นรถ-ยืนขายอยู่คนเดียว ลุงจากไปเพราะเป็นมะเร็งอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก่อนนั้นลุงสุขภาพแข็งแรงดี แต่ตอนป่วยประมาณ มาเร็ว เคลมเร็ว ... ผมเองตอนที่รู้ก็ไม่กล้าถามรายละเอียดเยอะ เพราะลุงเพิ่งจากไปใหม่ๆ ... ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปเป็นปีแล้ว ป้าแกคงดีขึ้นกับการอยู่คนเดียว ... ใช่ เวลาช่วยรักษาปัญหาทุกอย่าง เวลาเป็นหมอที่ดีที่สุด เหนือกว่าหมอเทวดาใดๆ ... พี่อ้อยพี่ฉอด แห่งรายการคลับฟรายเดย์ "ศิราณียุคโซเชียลเน็ตเวอร์ค" ก็เคยบอกไว้

หลังเสร็จภารกิจจากไข่ลวกถ้วยนั้น ปรายตามองดูนาฬิกาข้อมือ เวลานานพอสมควรแล้ว ลูกค้าป้าพรรณีไปกันเกือบหมดแล้ว ผมชำระเงิน แล้วเดินผ่านเข้าทางปลายซอยรามบุตรี ข้างร้านไอศครีมสเวนเซนส์กับพิซซ่าฮัท ก่อนเลี้ยวซ้ายผ่านบาร์ "West999" ทะลุเข้าสู่ถนนข้าวสาร ... ร้านอาหารข้างทางเปิดขายเช้าอยู่ไม่กี่ร้าน ฝรั่งตื่นเช้ามีนั่งให้เห็นอยู่ประปราย ... แต่วงเหล้าที่กินยันเช้ามีให้เห็นอยู่พอๆกัน บางวงเป็นคนไทยล้วนนั่งดื่มกันอยู่หน้าร้านบาร์เหล้า บางวงเป็นคนไทยวัยรุ่นนั่งดื่มมันบนฟุตบาทนี่แหละ ... ตามสบายสไตล์ไทยแลนด์

สุดปลายถนนข้าวสาร ข้างๆสถานีโรงพักชนะสงคราม รถเข็นถาวรขายผลไม้ปั่นถ้วยละ 40 บาทยืนอยู่ที่นั่นน่าจะ 24 ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืน ฝรั่งกินผลไม้ชนิดขี้เกียจแกะ ขี้เกียจประดิดประดอย ปอกเปลือกอย่างคนไทย มีอะไรก็เลยปั่นๆมันเข้าไป เติมน้ำเชื่อมบ้างนิดหน่อยพอหวาน ใส่สับปะรดด้วยพอให้ได้รสเปรี้ยว ... จำได้ว่าตอนเด็กเคยดูหนังเรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าแรมโบ้หรือเปล่า แต่สตอลโลน-ฝรั่งหน้าลาวคนนั้น ยืนอยู่ในครัว เปิดตู้เย็นแล้วหยิบโน่นนี่ อะไรบ้างก็ไม่รู้ใส่ลงไปในเครื่องปั่น พร้อมกับตอกไข่ใส่ลงไปหลายฟอง แล้วปั่นจนได้ที่ก่อนยกขึ้นดื่มจนหมด ... ยังสงสัยว่าฝรั่งมันกินกันอย่างงั้นจริงๆหรือเปล่า ... ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว ว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง พอๆกับที่เห็นฝรั่งหนุ่มผมทองบางคนเดินเคี้ยวกัดแครอทดิบๆอย่างเอร็ดอร่อย ใครจะลองบ้างก็ไม่ว่ากันครับ

ก็เป็นอันจบทริป 1 ชั่วโมงที่ตลาดเช้าบางลำพู เป็นไงบ้างครับ ดูดีมีชาติตระกูล พอเทียบเคียงกับ อัมพวา หรือ ดอนหวาย ได้ไหมครับ ... ถ้าไหวก็เชิญแวะได้นะครับ ตลาดเช้าเก็บก่อน 9 โมงครึ่งเพราะพ่อค้าขายกางเกงยีนส์ต้องตั้งร้านต่อ

แล้วก็ทริปนี้ประยุกต์เป็นตลาดข้างบ้านได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ ... SmileySmileySmiley

ป.ล. ขออนุญาตไม่เลี้ยวไปสวนสันติฯนะครับ เพราะกำลังช้ำใจกับลำพู 100 ปีต้นนั้นที่ถูกตัดไปแล้ว ไว้วันหลังจะเอารูปตอที่เหลือมาลงให้ดู



Create Date : 25 สิงหาคม 2555
Last Update : 9 กันยายน 2555 22:13:46 น. 1 comments
Counter : 3932 Pageviews.

 
ชอบจัง อ่านไปนึกถึงตอนที่อยู่บางลำพู เวลาก่อนไปเรียนก็แวะโน้นนี่ กินตลอด ทำให้ไป ร.ร.สายประจำ
แต่ต้นลำพู ได้ข่าวว่า อาจารย์ ไปเพาะต้นกล้าไว้ ขอให้โตเร็วๆๆน๊า แต่คงอีกนาน


โดย: koji IP: 171.98.18.98 วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:4:22:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.