Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Highway .... to คาราโครัม

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ยินดีที่ได้พบกันอีกครับกับร้านหนังสือในข้าวสารกลางฤดูฝน ที่ฝนตกทู้กกกกวันเย็นบ้าง ค่ำบ้าง ... นี่ผมกำลังดูอยู่ว่าเลยหน้าร้อนแล้ว ค่าไฟจะลดลงหรือเปล่า เพราะเผลอเปิดแอร์นอนยาวคืนไหนละก็ เช้าตัวเย็นเจี๊ยบแทบจะเป็นไอติมแท่งวันนั้น

ร้านหนังสือยังคงเปิดอยู่รับลูกค้าหน้าฝนที่ต้องการหนังสือโลนลีแพลนเน็ตและไกด์บุ๊ค มือหนึ่งมือสอง ท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือท่องเที่ยวไทย ทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮีบรู ตลอดจนภาษายุโรปแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็น สวีดิช แดงสค์ สแปนิช ซูโอมาไลเนน (ฟินน์) ส่วนโลนลีแพลนเน็ตภาษาจีนนั้น ผมกำลังมองหาอยู่ แต่ไม่ค่อยจะหลงเข้ามาให้ได้เห็นเลย นานๆทีจึงจะมีให้เห็นเช่นวันก่อน สองสาวหมวยถือเข้ามาถามทางไปดูโชว์คาลิปโซที่เอเชียทีค ผมอธิบายเสร็จพร้อมกับจ้องไปที่หนังสือในมืออย่างสนใจ ถามไปถามมาปรากฏว่าแม่คุณยืมมาจากห้องสมุดที่บ้านเกิดจีนแผ่นดินใหญ่ ราคา 80 กว่าหยวนก็น่าจะประมาณ 400 กว่าบาท

ตอนนี้ดูเหมือนจะมีชาวจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวบ้านเรามากขึ้นทุกที ตรงกันข้ามกับฝรั่งผมทอง-ผมดำ ที่ไม่มากเหมือนเคย วันก่อนนี้หนุ่มเกาหลีคนหนึ่งก็เพิ่งเอาโลนลีแพลนเน็ตอินโดนีเซีย มือสอง ปี 2010 มาคืนหลังจากที่ซื้อไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เข้าใจว่าพอดีจะรีบไป ไม่สามารถรอปกใหม่ที่ผมเพิ่งสั่งเข้ามาได้ ถัดมาไม่กี่วันหนุ่มเกาหลีอีกคนหนึ่งเข้ามาที่ร้านพร้อมกับสมาร์ทโฟนในมือเปิดเป็นภาพหน้าปกของโลนลีแพลนเน็ตเวอร์ชันเก่าเล่มหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน


Lonely planet Trekking in The Karakoram & Hindukush Year 2002

"คุณมีหนังสือโลนลีแพลนเน็ตเล่มนี้ไหม เทรคกิ้งอินคาราโครัมแอนด์ฮินดูกูช" หนุ่มเกาหลีหน้ายาวถามมาพร้อมกับสมาร์ทโฟนในมือ

"โห เก่ามากนะ ปีไหนครับ" ผมอุทานส่ายหน้า

"น่าจะเป็น ปี 2002 ครับ ผมเลยไม่แน่ใจว่าคุณมีหรือเปล่า" โคเรียนกายฉีกยิ้มตอบมา

"ไม่มีครับ ฉบับนี้นานเกินไป ล่าสุดจากแคตตาล็อกที่ผมมีคือปกนี้ โลนลีแพลนเน็ตปากีสถานแอนด์เดอะคาราโครัมไฮเวย์ ปี 2008" ผมอธิบายพร้อมกับเปิดแคตตาล็อกให้ดูและหยิบฉบับมือสองขึ้นมาเล่มหนึ่งยื่นส่งให้ลูกค้า

"คุณจะไปเที่ยวที่นั่นเหรอ" ผมถามหลังจากที่ลูกค้าเปิดอ่านดูเนื้อหาอยู่ครู่หนึ่ง

"ผมเพิ่งกลับมาน่ะ หลังจากเที่ยวอยู่ที่นั่นช่วงหนึ่ง" เสียงตอบมาพร้อมยิ้มเปิดเผย

"ถ้างั้น คุณก็จะซื้อเก็บเป็นที่ระลึกละสิ" ผมถามยิ้มๆ

"เปล่า แต่ผมกะว่าจะกลับไปเที่ยวอีกน่ะ เลยจะซื้อเก็บไว้ก่อน เอาไว้ใช้รอบหน้า" แววตาเล็กตี่เป็นประกายประหนึ่งเด็กน้อยได้ของเล่นที่ถูกใจไว้ในกำมือ

"ท่าทางคุณจะชอบที่นั่นนะ ปากีสถานที่ค่อนเคร่งศาสนาใช่ไหม เป็นเมืองที่เอาระเบียบของศาสนามาเป็นข้อปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เขาเรียกอะไรนะ ... อ้อ "รัฐอิสลาม" เต็มรูปแบบ ใช่ไหม" ผมนึกถึงรายการทางโทรทัศน์ตอนหนึ่งที่มี วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล เป็นพิธีกรทำรายการอยู่ที่นั่น

"ใช่ แต่ผมไม่มีปัญหากับเรื่องระเบียบเคร่งครัดที่นั่นนะ ส่วนใหญ่ผมท่องเที่ยวอยู่นอกเมือง ตามชนบท ภูมิประเทศเวิ้งว้าง หุบเขา ทุ่งหญ้า ภูเขาหิน ถูกใจผมมาก ... คุณลองดูสิ" ชายหนุ่มเปิดหน้าสีในเล่มใกล้ๆปกให้ดู บรรยากาศแตกต่างจากที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเรามาก หรือถึงแม้จะเป็นภูเขาภาคเหนือของเราก็แตกต่างกัน ภูเขาแถวนั้นเป็นป่าฝนลงมาทางกาญจนบุรีก็เป็นดงดิบเข้าไปในเขตพม่า แต่ปากีสถานเป็นเทือกเขาสูง ภูเขาหิน มีหิมะปกคลุม พอหิมะละลาย พืชก็งอกงามแต่พอหนาวอีก ต้นไม้ก็หนีหนาวอีก ... นอกจากนี้ที่นั่นยังมี "เคทู" ยอดเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก 8,611 เมตรจากระดับน้ำทะเล อยู่ด้วย


"คาราโครัมไฮเวย์" ตัดผ่านเข้าสู่เทือกเขาคาราโครัม จากปากีสถานสู่จีน ใช้เวลาสร้างนานถึง 27 ปี


"เคทู" ยอดเขาสูงอันดับ 2 ของโลกและเป็นภาพหน้าปกของโลนลีแพลนเน็ตปากีสถานแอนด์คาราโครัมไฮเวย์ เวอร์ชันปี 2008 ด้วย (ขอบคุณภาพจาก Google)

หน้าปกโลนลีแพลนเน็ต "Pakistan & Karakoram highway" เวอร์ชันปี 2008 ที่ลูกค้าหนุ่มจากเกาหลีซื้อไป มันคือ "เคทู" นั่นเอง


เขตแดนของเทือกเขา "คาราโครัม" ทอดตัวกินแดน 4 ประเทศ จีน ปากีสถาน ทาจิกิสถาน และอาฟกานิสถาน ดูเวิ้งว้าง กันดาร ... แต่สำหรับนักท่องเที่ยวบางท่านแล้ว ... โคตรโดนเลย !!!

ช่วงกลางของไฮเวย์จะทอดตัวเลื้อยเลาะระหว่างเทือกเขาสูงกว่าเจ็ดพันเมตรหลายสิบลูก เพราะฉะนั้นช่วงกลางไฮเวย์ในเขตประเทศปากีสถานจะกลายเป็นธารน้ำแข็งยาวหลายสิบกิโลเมตร นับว่าเป็นธารน้ำแข็งนอกเขตขั้วโลกที่สวยงามมาก เขตเทือกเขาคาราโครัมนั้นเป็นระยะทางยาวกว่าพันกิโลเมตร

"คุณท่องเที่ยวเข้าไปถึงเขตธารน้ำแข็งหรือขึ้นไปบนเคทูหรือเปล่า" ผมถามพร้อมกับชี้เข้าไปที่ภาพในจอคอมพิวเตอร์ จากกูเกิล

"ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่ไอ้อย่างเนี้ยน่ะ ใช่" ชายหนุ่มจิ้มๆลงมาในภาพเขตชนบทที่เดินทางไปเที่ยวมา

ภาพเขตชนบทประมาณนี้ ที่ลูกค้าเกาหลีไปเที่ยวมาจากแถบเทือกเขาคาราโครัมในปากีสถาน

( เห็นชื่อ "Peshawar" แล้วทำให้นึกถึง "Kite runner" ขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเมืองหนึ่งในเรื่องที่ตัวเอกหลบไปอยู่หลังจากที่ต้องอพยพหนีตายสงครามออกจากบ้านเกิด และ ...

ทำให้นึกถึง "A Thousand splendid sun" ขึ้นมาได้ ... อ้าวววว อ้าวววว ยังอ่านไม่จบนี่หว่า เก็บไว้ไหนแล้วเนี่ย ไปเลย ไปเลย ไปหามาเลย ... มัวแต่อ่านประวัติศาสตร์สากลของหลวงวิจิตรฯอยู่ ทำลืมๆ ... )

กลับมาที่หนุ่มเกาหลีกันต่อครับ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก พ่อหนุ่มจ่ายเงินค่าหนังสือพร้อมกล่าวขอบคุณ ส่วนผมเองก็ทอนเงินและส่งหนังสือให้ พร้อมกับอวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

หลังจากนั้นไม่นานนัก ลูกค้าคู่หนุ่มฝรั่งเศสกับสาวเยอรมันที่มาด้วยกัน ก็เดินเข้ามาในร้าน (ในประวัติศาสตร์ยุคสงครามโลก คู่นี้คือคู่แค้นที่รบกันสนั่นเมือง นาซีเยอรมันนั้นดูถูกฝรั่งเศสว่าบ้าเซ็กส์ ประเทศจะล่มจมเพราะผู้คนเป็นโรคทางเพศสัมพันธ์กันหมด ไม่มีทางเทียบสายเลือดอารยันได้ ฝรั่งเศสเองก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความพินาศของกองทัพนาซี หลังจากที่กองทัพสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี) ... แต่ลูกค้าคู่นี้เป็นแฟนกันดูรักกันดี เดินเข้ามาถามหาหนังสือโลนลีแพลนเน็ตอินโดนีเซียมือสอง

"นี่ไง ผมเพิ่งได้ซื้อคืนมาจากลูกค้าวันก่อน เป็นเวอร์ชันเก่าปี 2010 หรือคุณจะรอปกใหม่ 2013 ผมสั่งมาแล้ว น่าจะกำลังบินมาบนเครื่อง อีก 2-3 วันน่าจะมาถึง ราคาน่าจะประมาณหลักพัน" ผมเอ่ยถามพร้อมยื่นหนังสือให้ดู

"ไม่ล่ะ เราไม่รอ เอาเล่มนี้เลยดีกว่า ... เรารีบใช้" สาวเยอรมันตอบหลังจากชำเลืองดูราคาที่ปกหลัง

คุยกันไปมาอีกพักใหญ่ ทราบว่าทั้งคู่เดินทางท่องเที่ยวมา 21 เดือนแล้ว ผมรู้เพราะก่อนออกไป เธอทักผมว่าเสื้อสวย พอดีผมใส่เสื้อโปโลที่ของบริษัทที่ทำงานอยู่ อกด้านซ้ายเป็นโลโก้บริษัท ส่วนอกด้านขวาเป็นธงชาติเยอรมัน แถมแขนเสื้อด้านขวาปักเลขหนึ่งอารบิกแทนความหมายการเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ทำธุรกิจเดียวกัน

"Nice shirt, German." เธอกล่าวพร้อมยกหัวแม่มือให้

"Ah ... Thank you, my company ... ขอบคุณครับ บริษัทผมเอง" ผมยิ้ม

"I know, big electric company. I come from Germany." เธอกำมือชูนิ้วโป้ง ตบเบาๆบนเนินอกด้านซ้าย ผมเธอสีทอง หน้าตาบ่งบอกความเป็นเยอรมันเต็มเปี่ยม

"And shall you come back here after Indonesia trip?" แล้วจะกลับมาไหมอ่ะ หลังจากเที่ยวอินโดแล้ว

"No, we go down New Zealand or may be Australia. Before back to Europe. ... เราไปยาวอ่ะ ลงต่อนิวซีแลนด์ ไม่ก็ออสเตรเลีย ก่อนกลับยุโรป" หนุ่มฝรั่งเศสยิ้มตอบมา

"21 เดือนทั่วเอเชีย แล้วยังไป อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ต่ออีก กว่าจะกลับไม่ปาเข้า 2-3 ปีเหรอเนี่ย" ผมลืมตาโต

"Yes, may be. ... ใช่แล้ว น่าจะประมาณนั้น" สาวสวยตอบมา

"I see, go ahead. Ah I give you 1 more deutsch book for free. Enjoy your trip. ...โอเค งั้่นไปต่อเถอะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ" ผมอวยพรพร้อมแถมหนังสืออ่านภาษาเยอรมันให้ฟรีไปหนึ่งเล่ม ชื่อเรื่องผมไม่แน่ใจ แต่คนเขียนคือ นิโคลาส สปาร์ค

หญิงสาวเอ่ยขอบคุณ พร้อมฝากส่งโปสการ์ด 1 ฉบับก่อนทั้งคู่จะเดินออกจากร้านไป ปลายทางของโปสการ์ดอยู่ที่นิวซีแลนด์


ชนบทเมืองไทย ไม่แห้งแล้งกันดารเหมือนที่ปากีสถาน ... แถมเพื่อนสี่ขาตัวนี้ "เขา" งามเสียด้วย SmileySmileySmiley

ราตรีสวัสดิ์ครับ
เจตตจัน
085-8035412
087-0719858่



Create Date : 17 สิงหาคม 2556
Last Update : 17 สิงหาคม 2556 14:59:19 น. 1 comments
Counter : 2336 Pageviews.

 
มายิ้ม...


โดย: Cheria (SwantiJareeCheri ) วันที่: 17 สิงหาคม 2556 เวลา:19:51:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.