Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Return of Murat

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ได้พบกันอีกกับเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือเล็กๆในถนนข้าวสาร กลางโลว์ซีซันและกลางเดือนพฤษภาคม ... ครับ เผลอแวบเดียวก็เลยเดือนสงกรานต์เข้าสู่เดือนเปิดเทอมของเด็กๆนักเรียนบ้านเรา คลายร้อนลงบ้างแล้ว แต่สถานการณ์การเมืองยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง เตรียมเดือดกันเต็มที่ ก็ว่ากันไปสำหรับคอซาดิสม์

ส่วนคอการเมืองระดับโลก ต้องบอกว่าช่วงนี้มีเรื่องให้คุยกันยาว หลังจากที่พญาอินทรีจับมือกับยูเอ็นและนาโต้ ออกตัวแรงใส่หมีขาวรัสเซีย จากการตีมึนยึดยูเครนไปเกือบครึ่งประเทศ แต่ปรากฏว่าปูตินพลิ้วนิ่มๆโดยการหันไปกอดคอกอดไหล่กับพญามังกรแห่งปักกิ่ง พร้อมการเจรจาธุรกิจระดับพิเศษแถมด้วยโครงการท่อก๊าซธรรมชาติที่จะหันหัวจากทวีปยุโรปตะวันตก เป็นพลิกกลับ 180 องศาสู่ปักกิ่งแทน เล่นเอาพันธมิตรอียูจุกกันไปทั้งทวีป ทำเนียบขาวเลยได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงหาเรื่องแบนคนจีน 4-5 คนในสหรัฐในข้อหาทำตัวเป็นสปาย จารกรรมข้อมูลสำคัญทางธุรกิจและอาจถึงความมั่นคงด้วย ... นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาระดับภูมิภาคในเอเชียบ้านเราแถมเพิ่มขึ้นมาอีก จากกรณีที่ปักกิ่งไปตั้งแท่นขุดเจาะแถวๆหมู่เกาะพาราเซล แถมมีภาพทำสนามบินเล็กอีกต่างหาก ทำเอาเวียตนามกับฟิลิปปินส์โวยแหลก โดยเฉพาะเวียตนามนั้นมีประท้วงถึงขั้นจลาจลร่วม 20 จังหวัด ตายเป็นสิบ เจ็บเป็นร้อย เผาโรงงานของนักลงทุนต่างชาติไปสิบกว่าโรงงาน และแน่นอน จีนไต้หวัน กับเกาหลี เจอลูกหลงด้วย ... เหตุการณ์แย่จนถึงขั้นที่คนจีนต้องหนีข้ามแดนไปออกเขมร และจีนต้องอพยพคนหนีลงเรือหลายพันคน ... รัฐบาลจีนคำรามใส่เวียตนามว่าทำเกินไปแล้ว เดี๋ยวโดนดี ปรากฏว่าไอ้กันตะโกนเตือนมาบอกให้เบาๆหน่อย อย่าเยอะ แต่พี่จีนสวนกลับบอกอย่ายุ่ง เป็นเรื่องของคนข้างบ้านทะเลาะกัน ไม่ต้องการมือที่ 3

มองในมุมของคนโรคจิต ต้องบอกว่าดี เพราะเวียตนามคู่แข่งเศรษฐกิจของเรามีปัญหาแบบนี้ นักลงทุนก็จะเข็ดขยาด หันมามองเมืองไทย รอมันเลิกตีกันค่อยเอาเงินมาลงทุนบ้านเรา แต่เอาไว้ให้สำหรับนักการเมืองผู้มองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวก็แล้วกัน พวกเราสาธุชนคนธรรมดาอย่าไปคิดเลวๆแบบนั้น ลองสมมุติว่าเกิดไทยเราเส้นกระตุก เกลียดโกโบริ เกลียดทหารญี่ปุ่นที่เอาน้ำมันกรอกปากขโมยไทยสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา แล้วไปเผาโรงงานฮอนด้า โตโยต้า ปิดนิคมโรจนะ ลามไปถึงถล่มธนิยะเข้าให้ ก็คงจะไม่สวยเท่าไหร่นัก ... ก็เอาเป็นว่าขอให้เหตุการณ์ประท้วงที่เวียตนามสงบโดยเร็ว ไม่มีคนเจ็บ-ตายเพิ่มขึ้นแล้วกัน

ส่วนฟุตบอลลีกยุโรป 5 ลีกหลักก็ปิดไปเป็นที่เรียบร้อย บาร์เยินของเยอรมันได้แชมป์ไปแต่หัววัน ตามมาติดๆด้วย ปารีส แซงก์ แชร์แมงต์ ของฝรั่งเศส / จูเวนตุส ของ อิตาลี ก่อนจะถึงคิวของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ของอังกฤษที่พอจะเดาผลกันได้ว่าไม่มีการพลิกโผในนัดสุดท้าย และปิดท้ายกันด้วย แอตเลติโก มาดริด ของสเปนที่ยันเสมอบาร์เซโลนาคว้าแชมป์ไปครองเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับแฟนปืนอย่างผมก็ยิ้มกริ่มได้นิดๆหน่อยๆกับถ้วยเอฟเอที่เชือดเสือน้อยมาได้ อย่างหืดขึ้นคอ หลังจากรอมานานตั้ง 9 ปี ก็หวังว่าปีหน้าคงจะมีถ้วย มีแชมป์อะไรๆ ไหลมาเทมา มากกว่าการนำจ่าฝูงซัก 4-5 เดือนแล้วก็มาแผ่วปลายตามระเบียบ ... ส่วนปีนี้ก็เตรียมตัวลุ้นบอลโลกกันต่อครับ เหลืออีกแค่ไม่ถึงเดือนเท่านั้นเอง

ส่วนที่ร้านหนังสือก็ยังคงเปิดอยู่ครับ รับโคตรมหาโลว์ซีซัน + พิษการเมือง ที่ทำให้ลูกค้าหดหาย วันๆไม่ได้เปิดบิลล์เป็นปกติ มองในแง่บวกได้อย่างเดียวคือทำให้มีสมาธิเล่นเกมส์ออนไลน์ได้นานขึ้น โดยไม่มีลูกค้ามาขัดจังหวะ ทำให้ตอนนี้เลเวลของแคนดี้ครัชผมไปได้ที่ 543 แล้ว ส่วนจับหมูออนไลน์ก็อยู่ที่เลเวล 33 ยัดหมูบ้าง สกัดช้วนบ้าง ไพ่ปั้นมาดีๆ-โดนสกัดยับคามือบ้าง เป็นที่เฮฮาฆ่าเวลากันไประหว่างนั่งเฝ้าร้านยามดึก โดยมีเพื่อนข้างร้านเป็นลูกจ้างสาวสัญชาติหม่อง 2-3 คน นั่งหน้าแป้ง 2 ข้างแก้ม สปีคอิงลิชกับลูกค้าฝรั่งจนดึกดื่นเช่นกัน (เห็นประแป้งขาว 2 แก้มเสมอๆ ไม่รู้ว่าใช่ "แป้งนาคา" หรือแป้งดินสอพองสระบุรีบ้านเรา)

ไล่ๆกันกับที่มีคุณทหารมาตั้งเต๊นท์อยู่ 2 จุด หน้าประตูทางเข้า-ออกของวัดชนะสงคราม น่าจะเป็นภารกิจหนึ่งของกองทัพที่มาสังเกตุการณ์-ดูแลความมั่นคง อันสืบเนื่องมาจากปัญหาการเมือง พร้อมกับที่ม็อบนกหวีดย้ายออกจากสวนลุม เพื่อกลับมาปักหลักที่ราชดำเนินอีกครั้ง ... บางทีก็จะเห็นกำลังพลเดินแถวเรียงเดี่ยว 3-4 คน เดินลาดตระเวณด้วย ...

วันก่อนเห็นข่าวอเมริกาซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนโดราเอมอน เข้าไปฉายแล้วเปลี่ยนหลายอย่าง ทั้งชื่อตัวการ์ตูน ทั้งภาพ เช่น ตะเกียบเป็นซ่อม แป้งทอดโดรายากิเป็นพิซซา ก็ให้ยินดีกับเจ้าหุ่นยนตร์แมวตัวกลมจากตะวันออกไกล ที่ขยายอิทธิพลข้ามโลกไปอีกขั้น แม้จะต้องปรับบ้างนิดๆหน่อยๆก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมตามปกติ คงเหมือนกับที่รัฐบาลญี่ปุ่นใช้นโยบายเยนอ่อนในช่วงก่อน เลยทำให้นักท่องเที่ยวแห่กันเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นกันขนานใหญ่ หรือแม้แต่ที่ญี่ปุ่นเปิดฟรีวีซ่าคนไทยช่วงต้นปี ก็ทำให้คนไทยเฮไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมากมาย ... (จนบางทีก็มีคนไทยคุณภาพไม่ดีบางส่วน ไปทำอะไรแย่ๆ ตามที่เป็นกระทู้ในเว็บอยู่เนืองๆ)

สาวชาวยิว 2 คนนี้ก็เข้ามาหาไกด์บุ๊คไปญี่ปุ่นเหมือนกันตอนต้นปี โดยที่ขนหนังสือไกด์บุ๊คฮีบรูหลายเล่มมาแลกเอาโลนลีแพลนเน็ตเจแปนไป มีทั้งไทยแลนด์ / เวียตนาม-กัมพูชา-ลาว / นิวซีแลนด์ และหนังสืออ่านเรื่องโชกุน ของเจมส์ คลาเวลส์ หนังสือที่ได้ไปก็รวมทั้ง แคชชิงไฟร์ ไปด้วยอีกเล่ม


2 สาวชาวยิวที่เข้ามาแลกหนังสือ เพื่อไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นต้นปี สัปดาห์ก่อนเพิ่งเอาหนังสือมาคืน

*************************************

"คุณรับซื้อหนังสือไหมคะ" 2 สาวยุโรปเดินเข้ามาที่ร้านพร้อมกับปึกหนังสือในมือเอ่ยขึ้นเป็นภาษาไทย ลิ้นตะวันตก ในนั้นมีอยู่ 4 เล่ม เป็นรุทตาร์ทไทยแลนด์ 2013 / สเตฟาน โรเซ ไทยแลนด์ 2012 / แบงคอกไกด์ภาษาเยอรมัน 1 เล่ม / หนังสืออ่านภาษาอังกฤษ 1 เล่ม และแผนที่ทางหลวงอีก 1 แผ่น ... หนังสืออ่านนั้นคือ "Bangkok boy" โดย "Chai Pinit" เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่ถูกขโมยตัวหายออกจากบ้าน และหลุดเข้าสู่วงจรธุรกิจทางเพศ เป็นโสเภณีเด็กชาย จากบาร์เบียร์ในกรุงเทพสู่พัทยา สำนักพิมพ์มาร์เวอริก

"สนใจจะเอ๊กซ์เชนจ์ไหมครับ ผมมีหนังสือเยอรมันและฝรั่งเศสด้วย" ผมพลิกดูหนังสือในปึกนั้นก่อนจะเสนอทางเลือกไปให้ ร้านไม่มีลูกค้าเลย ก็ไม่ควรจะเสียเงินซื้อหนังสือออกไป แต่จะปล่อยไปก็เสียดายอยู่ รุทตาร์ทเล่มนั้นกับสเตฟาน โรเซเตะตาผมอย่างจัง จับไว้ได้ ยังไงก็ขายต่อได้ จะช้าหรือเร็วเท่านั้น สภาพหนังสือก็ดีพอตัว

"ขอดูหน่อยนะคะ" สาวน้อยผมหยิกจากเยอรมันพูดตอบมา หางเสียงถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เป๊ะ ก่อนจะเดินไปกับเพื่อนสาวชาวเฟรนช์ผมดำ เลือกๆดูอยู่สักครู่ก็เดินกลับมาที่โต๊ะ

"คุณมีอิสราเอลไกด์ไหมคะ" หญิงสาวถามผม หลังจากกลับมามือเปล่า

"มีครับ เป็นโลนลีแพลนเน็ตเวอร์ชันเก่าปี 2010 สภาพใหม่เล่มเดียว" ผมพยักหน้าตอบ พร้อมกับเดินไปหยิบมาให้ดู แล้วถามเพิ่มเติมไป "พูดไทยชัดดีมากเลย เรียนที่ไหนครับนี่"

"ธรรมศาสตร์ค่ะ คณะรัฐศาสตร์ เรียนจบแล้ว จะกลับบ้านแล้ว" สาวผมทองตอบ หางเสียง ว-แหวน ยาวกว่าสำเนียงคนไทยปกติ

เธอพลิกดูหนังสืออยู่ไปมา ก่อนหันไปคุยกับเพื่อนครู่หนึ่ง เพื่อตกลงราคากัน ถึงแม้จะผิดคาดสำหรับผมไปบ้าง ในกรณีที่เธอไม่เลือกหนังสือภาษาฝรั่งเศสไป แต่อิสราเอลเล่มนั้นเป็นปกเก่า มีลูกค้าต้องการมันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ก่อนจากไป เธอฝากส่งโปสการ์ด 6 ใบ เป็นภาพสวยๆของวัดราชนัดดาทั้งหมด ผมเองมองแวบเดียวก็สังเกตุเห็นรูปแบบการเขียนโปสการ์ดของเธอ ทำให้นึกถึงลูกค้าหนุ่มอีกคนหนึ่งที่มาฝากส่งโปสการ์ดไปสวิส ประมาณ 10 ใบ ในนั้นเป็นภาษาเยอรมัน ลักษณะรูปแบบการเขียนจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด การจัดแถว คำทักทายขึ้นต้น ย่อหน้าแรก จำนวนบรรทัดใกล้เคียงกัน คำลงท้าย และจ่าหน้าที่อยู่ผู้รับ

"การเขียนของคุณ ดูมีระเบียบเรียบร้อยมากเลย" ผมอมยิ้มแล้วทักไปยังลูกค้า พร้อมกับชี้ให้ดูรูปแบบการเขียนบนโปสการ์ด หลังจากคิดคำอธิบายอยู่พักใหญ่ "Well organize."

"ทำไมล่ะ" ลูกค้าหนุ่มถามย้อน อย่างแปลกใจ

"ก็ดูสิ โปสการ์ดเกือบ 10 ฉบับ แต่คุณเขียนด้วยแพทเทิร์นเดียวกันหมดเลย สำหรับผม แปลกดี เพราะผมไม่ค่อยเห็นบ่อย" ผมตอบและพยายามอธิบาย

"ทำไม โปสการ์ดคนอื่นเขียนยังไงเหรอ" ลูกค้าหนุ่มเลิกคิ้ว ถามมายิ้มๆ

ผมเลยลองเปิดจอคอมพิวเตอร์ เลือกๆภาพโปสการ์ดที่ผมถ่ายเก็บๆไว้ให้ดู เอาแค่ใบเดียว เป็นลูกค้าฝากส่งไปเกาหลีปลายปีก่อน ภาษาเกาหลียัดแน่นเต็มพื้นที่ว่าง จนถ้าไม่แยกสีหมึกออกเป็นสีน้ำเงินสำหรับที่อยู่ปลายทางผู้รับ ... ผมว่าบุรุษไปรษณีย์เกาหลีเองก็คงจะงงเป็นไก่ตาแตก

"อาจจะเป็นเพราะเราถูกสอนกันมาอย่างนั้นก็ได้" ลูกค้าหนุ่มหัวเราะกว้าง อย่างเข้าใจในสิ่งที่ผมแปลกใจ หลังจากได้ดูโปสการ์ดตัวอย่าง




โปสการ์ดสวยๆจาก เปเปอร์สตอรี ที่ลูกค้าฝากส่งไปเกาหลี



โปสการ์ดฝากส่งจากคู่สาวด๊อยช์และสาวเฟรนช์ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน แต่แพทเทิร์นการเขียนค่อนข้างชัดเจนเป็นแบบแผน ... ภาพวัดราชนัดดาเหมือนกันทั้ง 6 ฉบับ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์และโลหะปราสาทเบื้องหลังสวยประทับใจ

สัปดาห์นี้มีประกาศกฎอัยการศึก 2 วันก่อนประกาศยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กองทัพออกมาแสดงพลัง เข้าใจว่าเพื่อเป็นการเบรคสถานการณ์แรงๆไว้ ไม่ให้ไหลสู่การต่อสู้กัน เพราะดูท่าแล้วคงไม่ได้สู้กันมือเปล่าหรือสนับมือแน่ๆ ... เห็นข่าวระเบิด M79 ว่อนทุกวี่ทุกวันยังกับซื้อได้ตามตลาดนัด แถมคุณตำหนวดไม่เคยจับคนยิงได้ซักคน ... ก็หวังว่าเหตุการณ์คงจะค่อยๆดีขึ้นนะครับ เซตซีโร่แล้ว ก็เซทอัพให้ดีๆแล้วกัน ... เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่คิดดี ทำดีครับ

เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858

ปล. หลังจากที่มูรัตกลับตุรกีไป "เออร์ฮาน" ลูกน้องที่คาเฟ่ เดล มุนโด ของมูรัตในตุรกีได้ส่งรูปมาที่อีเมล์ยาฮูของที่ร้าน แต่ไฟล์ไม่สมบูรณ์ ผมพยายามเปิดไฟล์หลายรอบ บอกให้ลองส่งมาใหม่ 2 รอบก็เปิดไม่ได้ ลองอยู่หลายวิธีก็ไม่เวิร์ค จนถอดใจว่าคงไม่ได้ดูรูปหนังสือของร้านที่ถูกเหมาไปตุรกีแล้ว แต่ปรากฏว่าสัปดาห์นี้ มูรัตพาลูกน้องสาวคนใหม่มาอีกคนนึง พร้อมกระเป๋าลากเตรียมมาเต็มที่ ก่อนจะรวบหนังสือโลนลีแพลนเน็ต / พ็อคเก็ตเล่มเล็ก และเฟรสบุ๊คไปอีกร่วม 100 เล่ม ... ถามได้ความว่า มูรัตจะเปิดสาขาใหม่ สาขาที่ 4 เลยมาโกยไกด์บุ๊คไปอีก เล่นเอาร้านเบาโหวงไปอีกเดือน



สภาพร่องรอยการต่อสู้



มูรัตโชว์ให้ดูแผงหนังสือจากร้านเล็กๆในถนนข้าวสาร ที่ไปไกลถึงตุรกี ... ไลท์บลู 2 ชั้นข้างซ้ายเป็นราฟท์ไกด์ ส่วนดีพบลูเป็นปื้นนั่นก็แน่นอนครับ ว่าเป็นโลนลีแพลนเน็ต ... สวยดี น่ามีบ้าง ... ร้านแบบนี้



Create Date : 24 พฤษภาคม 2557
Last Update : 24 พฤษภาคม 2557 14:04:53 น. 0 comments
Counter : 1890 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.