ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน The kiss & The king
สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งกับเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือในข้าวสาร ร้านหนังสือไกด์บุ๊คเล็กๆที่สุดปลายถนนฝั่งโรงพักชนะสงคราม ตรงข้ามผับกัลลิเวอร์เป็นทางสามแพร่งพอดี ในยามที่บ้านเราเมืองเรากำลังอบอวลไปด้วยบรรยากาศเพ้อๆ ลอยๆ ที่เข้ามาครอบครองจิตสำนึก จิตใต้สำนึก ของสาวแก่แม่ม่าย รวมทั้งชายหนุ่มแท้ หนุ่มเทียม เก้งกวางบ่างชะนี จาก 5 มนุษย์ไฟฟ้า ... เอ้ย 5 สิงห์จุฑาเทพ ข่าวบันเทิงออกหลายฉบับ เป็นที่น่าน้อยอกน้อยใจของสาวกทั้ง 5 คู่หนุ่มสาวนะครับ ที่อุตส่าห์ลุ้นจะได้ดูตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง "ฟิน" สุดๆกับซีน "จูบจริง" ของคุณชายกับน้องมินต์ที่ลงทุน เล่นจริง เจ็บจริง ไม่มีสลิง ไม่มีตัวแทน (แบบจีจ้า) แต่ปรากฏว่าไม่ได้ออกอากาศ เพราะผู้ใหญ่เบรคไว้ให้โรแมนติกกับแบบท้วมๆ ไม่อวบ ไม่อ้วนมากจนเกินไป เพราะเดี๋ยวจะทำให้เสียเด็ก เสียผู้ใหญ่ เสียแก่กันไปทั้งบ้านทั้งเมือง เลยได้แต่ "ฟิน" กันแบบแห้งๆกับภาพที่ปล่อยออกมาตามอินเตอร์เน็ต แต่ถึงงั้นก็ยังทำให้หลายๆคน "เพ้อ" กันชนิดเข้าเส้นเลือดกันไปเป็นแถบๆ แต่ด้วยความสัตย์จริง ขอประณามความหลังเขาเต่าถุยของตัวเองว่า "ไม่เคยดูเลยสักครั้ง" ... จะด้วยอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ... แต่ผมขอต่อว่า "ท่านผู้ใหญ่" ที่สั่งเบรคออกอากาศซีนดังกล่าว ในความใจแคบและปิดกั้นสิทธิมนุษยชนในการเข้าถึงบริการสาธารณะของรัฐทางฟรีทีวี เพราะว่าวันๆหนึ่ง ท่านจะให้พวกเราบริโภคแต่ข่าวพระนอกรีต สมีนอกวัดกันหรือไงครับ (ตอนนี้ผมว่มันเป็นหนังชีวิตยาวพอๆกับ ข่าวฟิล์มแอนนี่ หลายปีก่อนไปแล้วนะครับ) ... ลองมองดูในทางกลับกัน ขนาดงดออกอากาศซีนพิเศษอย่างนี้ ก็ยังทำเอาสมุดภาพของ 5 หนุ่มจากละครขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ... ตอนที่ผมเห็นสมุดภาพพิมพ์สีทั้งเล่มของ 5 หนุ่ม ผมแทบช็อค ว่าความเพ้อชนิดเข้าเส้น ทำเอาธุรกิจบันเทิงขายดี ... ว่าแต่ถ้าปล่อยซีน "จูบจริง" ออกมา อาจจะทำให้ธุรกิจอีกหลายประเภทขายดิบขายดี ตัวเลข "จีดีพี" พุ่งกระฉูดก็เป็นได้นะ ท่าน รมต. ... 5555
"Kiss me" ซีนพิเศษตอนจบของละครระดับเทพ ที่ทำเอาบรรดาสาวกหนุ่มน้อยใหญ่ สาวแก่แม่หม้าย ออกอาการ "เพ้อ" ไปตามๆกัน ข่าวนี้ทำเอาผมกลับไปเพลิดเพลินกับเพลง "Kiss me" ได้อีกหลายเวอร์ชันครับ ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันเสียงเด็กสาวใสๆของ "M2M" หรือเวอร์ชันอคูสติคของ "Avril Lavigne" แต่ที่ผมชอบมากที่สุดน่าจะเป็นเวอร์ชันของ "Sixpence none the richer" ที่นั่งกันอยู่ 5 คนบนเก้าอี้ยาวตัวเดียว ... แน่นไปไหมเอ่ย
Kiss meout of the bearded barley. Nightly, beside the green, green grass. Swing, swing, swing the spinning step. You wear those shoes and I will wear that dress.
Oh, kiss me beneath the milky twilight. Lead me out on the moonlit floor. Lift your open hand. Strike up the band and make the fireflies dance, Silver moon's sparkling. So kiss me.
Kiss me down by the broken tree house. Swing me upon its hanging tire. Bring, bring, bring your flowered hat. We'll take the trail marked on your father'smap.
Oh, kiss me beneath the milky twilight. Lead me out on the moonlit floor. Lift your open hand. Strike up the band and make the fireflies dance, Silver moon's sparkling. So kiss me. แต่ ... "Kiss me" วันนี้ไม่ใช่จะมีเฉพาะบรรยากาศโรแมนติก หวานแหววแต๋วจ๋าเท่านั้นนะครับ บรรยากาศระทึกแบบแปลกๆ ของการจูบที่เกิดขึ้นในร้านหนังสือเล็กๆที่สุดมุมถนนข้าวสารก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ผมจะเล่าให้ฟัง บ่ายวันนั้น ผมกำลังลุ้นใจหายใจคว่ำอยู่กับโป๊กเกอร์ออนไลน์ของไพ่เท็กซัสว่า ฟูลเฮ้าส์ของผมจะเข้าหรือไม่ ถ้าไม่ผมคงโดนกวาดกองกลางจนหมดตูดแน่ๆ เพราะจากไพ่ที่เปิดอยู่ 4 ใบบนโต๊ะ มันต้องมีใครสักคนเข้าหน้าฟลัชแหงๆ ไม่ว่าจะเป็นไอ้หนุ่มคาวบอยหมวกดำ หรืออีสาวยิปซีทางมุมโต๊ะด้านขวา "ฮัลโหล คุณมี "A Clash of Kings" หรือเปล่า ภาคสองของเกมส์ออฟโทรนน่ะ" หนุ่มฝรั่งหัวเกรียนถามมา หน้าตาตื่น "อะไรนะ "Clash of Kings" ... อ๋อ มีสิ ผมมีมือสองอยู่เล่มหนึ่งภาคสองนี่แหละ ใช่ไหม" ผมพยักหน้าพร้อมชี้ไปทางชั้นไม้กลางร้านชั้นบนสุด มันเป็นโซนหนังสือแฟนตาซี ที่จัดแยกไว้ ผมวางโชว์หน้าหนังสือติดกันอยู่ 3 เล่ม มี "50 Shades of grey" กับ "Catching fire" (ภาคสองของ Hunger game) วางอยู่ติดกัน มุมสุดด้านซ้ายเป็นปึกหนังสือของ กริชแฮม ส่วนด้านขวามีสตีเฟน คิงวางซ้อนกันอยู่หลายเล่ม
"A Clash of Kings" ... ภาคสองของโทรน ซีรีส์ยอดนิยมที่ยังมีลูกค้าถามหาอยู่เรื่อยๆ "โฮ่ ร้านคุณเป็นร้านเดียวเลยนะเนี่ย ผมเดินหาข้างนอกมาหลายร้าน ไม่มีเลยซักร้านเดียว" ชายหนุ่มยิ้มร่า ตาเป็นประกาย หยิบหนังสือขึ้นมาพลิกดูอยู่ในมือ ควักกระเป๋าหยิบเงินขึ้นมาจ่าย พร้อมกับอ้าแขนกว้างทำท่าจะเข้ามากอด "No, Thanks. You done same as my customer last time. ... ไม่อ่ะ ไม่ต้องกอด ขอบคุณนะ รู้ไหม คุณทำเหมือนลูกค้าเก่าของผมเลย" ผมรีบบอกยิ้มๆ ยกมือกันไว้เป็นพระปางห้ามญาติ "เหรอ ทำไมล่ะ เขาทำไงกับคุณ" ชายหนุ่มหัวเราะร่า ถามมา "ครั้งก่อน โทรนภาคแรก ลูกค้าตามหาเหมือนคุณนี่แหละ มาเจอที่ร้านผม พี่แกแทบกระโดดกอดผมเหมือนกัน เสียดายที่แกเป็นผู้ชาย" ผมทำท่าคิงคองของบาโลเตลลีตอนถอดเสื้อฉลองหลังยิงวอลเล่ย์ประตู 2-1 ใส่ทีมชาติเยอรมัน ในยูโร 2012 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าหัวเราะก๊าก แล้วชี้ที่ปากเป็นท่าจูบแทน "ไม่กอดก็ได้ งั้นเอาเป็นจูบแทนดีไหม ... Do you want my kiss?" "555 No, thanks. I take your photo with the book better. Enjoy your book. ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่อ่ะ เอาเป็นถ่ายรูปกับหนังสือของคุณดีกว่า อ่านหนังสือให้สนุกนะครับ" ผมหัวเราะพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วคว้ากล้องขึ้นมา
"Do you want my kiss ?" เจตตจัน 085-8035412 087-0719858 jettajan227@yahoo.com ปล. เฮ้ออออ ซีรีส์ชุดนี้มันไม่ค่อยมีผู้หญิงอ่านหรือไงกันนะ
Create Date : 27 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 27 กรกฎาคม 2556 13:27:20 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2079 Pageviews. |
|
|