Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Red light district

สวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ กับการได้มาพบกันอีกครั้งในบล็อกเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อย ของร้านหนังสือเล็กๆร้านนึงในถนนข้าวสาร ณ เวลาอายุครบ 5 ปีบริบูรณ์ อันนำมาซึ่งหลายสิ่งหลายอย่างเข้าสู่ชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ลูกค้า" หลากหลายชาติพันธุ์ ต่างเพศ ต่างวัย ต่างฐานะ และต่างรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นประสพการณ์จริงจากการ "บริหารธุรกิจ" เช่นการจัดการต้นทุนสินค้า สต็อค วิเคราะห์สัดส่วนการขาย กำไรต่อต้นทุน สินค้าที่ลูกค้า-ตลาดต้องการ การวางตำแหน่งของร้านที่เจาะเฉพาะลูกค้าระดับพรีเมียม ที่ไม่สนใจหนังสือก็อปปี้ ทำให้แน่นอนว่าลูกค้าที่มีงบน้อยหายไปส่วนหนึ่ง แต่มันก็ทำให้ทิศทางของร้านค่อนข้างชัดเจน สอดคล้องกับภาพร่างที่วางเอาไว้ตอนเริ่มทำร้าน ...

... และตลอด 5 ปีที่เจอกับ "Uncontrolled factor" มาตลอด เปิดร้านตอนกลางปี 09 ขายได้ไม่ถึงปีก็เจอสงกรานต์-สงครามกับม็อบการเมือง ปี 10 พ้นมาปีครึ่งเจอน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 11 หลังจากนั้นเว้นช่วงไปปีกว่า ปลายปี 13 เจอม็อบเข้าไปอีก ลากยาวมาจนถึงรัฐประหารกลางปี 14 ทั้งนี้ยังไม่รวมช่วงโลว์ซีซันประจำกลางปี 3-4 เดือน

... อาศัยว่าเป็นงานเสริม รายได้เสริม จะได้มากบ้าง น้อยบ้าง ก็ไม่ว่ากัน ตราบเท่าที่ยังเหลือจากต้นทุนก็ยังโอเคอยู่

... ต้องบอกว่าบางทีก็เหนื่อยและท้อ แต่ก็ยังคงต้องเดินหน้าสู้กันต่อไป

... แล้วถ้าเมื่อไหร่ เปลี่ยนใจไม่ทำแล้วร้านหนังสือ เอาเวลาไปหายใจ หรือไปทำอย่างอื่นดีกว่า ก็คงจะถึงเวลาบอกลากับบล็อกเรื่องเล่านี้เหมือนกัน ถึงเวลานั้นก็คงต้องบอกว่า "พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" ครับ SmileySmileySmiley

... เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้ สัปดาห์นี้ ก็อ่านเรื่องเล่าเล่นๆ เรื่อยเปื่อย เป็นการฆ่าเวลาเพลินๆกันไปก่อนก็แล้วกันครับ เขียนขึ้นท่ามกลางสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตเต็มร้อยสักเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้อยู่ระหว่างเทศกาลบอลโลกที่บราซิล ซึ่งเวลาแข่งนั้นทับซ้อนกับเวลานอนอันแสนสุข ก็เลยต้องอดหลับอดนอนกันทุกบ่อย สัปดาห์นี้ยังดีครับ เพราะผ่านรอบ 16 ทีมหรือรอบน็อกเอาท์รอบแรกมาแล้ว กำลังอยู่ในรอบ 8 ทีมพอดี เลยมีเวลาให้เว้นช่วงได้นอนสลับมาบ้าง เหลืออีกแค่ 8 เกมส์ก็จบการแข่งขันได้แชมป์กันไป วงจรชีวิตของยุง เอ้ย ของคนเขียนก็จะได้กลับสู่ปกติ ... ช่วงรอบแรกนี่ไม่ไหวครับ บางวัน 2 คู่ บางวัน 3 คู่ ติดกันทุกวันนานเป็นอาทิตย์ ร่างกายไม่ฟิตจริงนี่จะป่วยเอาง่ายๆ คนเขียนเองก็พลาดคู่สำคัญไปหลายคู่เหมือนกัน เพราะแก่แล้ว ไม่ไหวแล้ว ... ยอมครับ (เอาไว้มาเก็บตกจากยูทูปทีหลังแล้วกัน)

ร้านหนังสือยังคงเปิดอยู่ครับ เพื่อต้อนรับลูกค้าที่ต้องการคู่มือท่องเที่ยวภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนไทยหรือต่างชาติ ลูกค้าที่มองหาหนังสือมือสองสักเล่ม สำหรับอ่านแก้ว่าง นอกเหนือไปจากภาษาอังกฤษก็มี ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน ฮีบรู และอื่นๆอีก รวมทั้งภาษา จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ลูกค้าที่ต้องการเฟรสบุ๊คสำหรับพูดภาษาต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกเบื้องต้นในการเดินทางออกต่างประเทศ

เช้าวันนั้นลูกค้าสาวอวบ เข้ามาถามหาหนังสือโลนลีแพลนเน็ตลาวฉบับใหม่ ซึ่งเพิ่งออกมาไม่นานนี้เอง ส่วนผมเองก็ยังไม่ได้สั่งเข้ามา เพราะช่วงนี้ลูกค้าหายหมด ... ติดพันมาหลายเดือนแล้วด้วย ดังนั้นที่ร้านก็เลยมีแต่ฉบับเก่าพิมพ์ปี 2010 เหลือติดอยู่อย่างละเล่ม ทั้งใหม่มือหนึ่งและเก่ามือสอง ซึ่งลูกค้าหนุ่มฮิปปี้เอามาแลกหนังสืออ่านก่อนบินกลับบ้านไปเมื่อเดือนก่อน โดยผมเสนอราคาพิเศษไปให้

"Do you have lonely planet Lao, new latest edition?" คุณมีโลนลีแพลนเน็ตลาว ฉบับใหม่ล่าสุดหรือเปล่า ... สาวอวบถามมาแต่เช้า

"No, I still not order yet. Do you interest in the old edition? I have both new and second hand. With good price." ไม่มี ผมยังไม่ได้สั่งเข้ามาเลย ว่าแต่คนสนใจฉบับเก่าไหมล่ะ ผมมีอยู่นะ ทั้งเล่มใหม่และเล่มใช้แล้วด้วย ราคาดีพิเศษนะ ... ผมตอบไป พร้อมกับเสนอทางเลือกให้เธอ

"No. How about second hand of new edition?" ไม่เอาน่ะ แล้วมีมือสองไหม เล่มใหม่นั่นน่ะ ... เธอยังคงยืนยันเหมือนเดิม เพียงแต่ลดสเป็คลงมา

"Huuuu. To early. Probably wait for more 2-3 months before someone come and trade to me." โฮ่ย ยังหรอก ยังเร็วไปนะ สำหรับฉบับพิมพ์ล่าสุดนี้ที่จะเป็นมือสองมา ปกติก็คงต้องรออีกสัก 2-3 เดือนนั่นแหละ กว่าจะมีลูกค้าเอามาขายหรือแลกไว้ที่ร้าน

เธอพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเดินไปนั่งเล็งหนังสือภาษาสวีเดนอยู่เงียบๆ โดยไม่ได้ให้ความสนใจกับเวอร์ชันเก่าที่ผมเสนอให้เลย  สักพักเธอก็จากไปโดยไม่ได้ทำธุรกิจกัน ปล่อยให้ผมได้แต่เก็บภาพเป็นของฝากไว้เท่านั้น ก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับจับหมูออนไลน์ คละเคล้าไปกับบรรยากาศร้านร้างลูกค้า เหมือนกับเมืองคาวบอย หน้าร้านเหล้าที่ฝุ่นแห้งปลิวคลุ้งก่อนมือปืนจะดวลกัน ( มีแปลกใจอยู่อย่างก็ตรงที่ เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ค่อนข้างมิดชิด ไม่ใช่เสื้อกล้ามหรือเสื้อสายเดี่ยวที่เห็นกันทุกบ่อย สำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาบ้านเราในหน้าร้อน แถมด้วยกระโปรงยาวกรอมเท้าขนาดนี้ ไม่ได้เห็นบ่อยแน่ๆ ... ไม่เหมือนดาราสาวๆบ้านเราที่เปิดเรียกแสงแฟลชกันจนถึงไหนต่อไหนก็ไม่รู้ ถ้าเปิดเข้าไปเห็น ตับ ไต ไส้ พุง ก็คงจะเปิดไปแล้ว)

จนกระทั่งหัวค่ำผ่านเข้ามา ลูกค้าหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เอ่ยปากถามหนทางไป "Red light district" ของบ้านเราอย่างตื่นๆ

"Do you know how to go to Patpong?" คุณรู้ทางไปพัฒน์พงศ์ไหม ... ชายหนุ่มเดินเข้ามาถามผมถึงโต๊ะคอมพิวเตอรืด้านในร้าน

"Yes, of course. Do you have bangkok map?" รู้สิ ... ว่าแต่คุณมีแผนที่กรุงเทพไหมล่ะ ... ผมถามพร้อมกับคว้าดินสอติดมือมาเตรียมจิ้มให้ดู

"No." ไม่มี ... ชายหนุ่มตอบพร้อมส่ายหน้า หลังจากเอามือตบๆกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง 2-3 ที

"Not so far. But too tough for walking. Why don't you go by Taxi or Tuk Tuk?" ก็ไม่ไกลมากนะ แต่คงเดินไปไม่ไหวหรอก ทำไมคุณไม่เรียกแท็กซี่หรือตุ๊ก ตุ๊กไปล่ะ ... ผมถามกลับ

"I not believe them. I and my friend worry for scam. My 2 ladies outside don't want to waste time or pay too much. ผมไม่เชื่อพวกเขาน่ะ ผมกับเพื่อนกลัวโดนหลอก 2 สาวเพื่อนผมข้างนอกนั่นไม่อยากเสียเวลาหรือเรียกค่าโดยสารที่แพงเกินไป ... ชายหนุ่มอธิบาย พร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนสาวผมทองที่มาด้วยกัน แต่คอยอยู่หน้าร้าน

"I see. ... Hmm ... I offer you 2 options. One is regular bus No.15 but you have to wait at bus stop for a while. Another option is of course taxi-meter. 100 baht approximately. But of course you have to ask driver to switch on his meter." เข้าใจๆ ถ้างั้น ผมเสนอทางเลือกให้คุณ 2 ทางแล้วกัน อันแรกคือไปโดยรถเมล์นะ สาย 15 แต่คุณต้องเดินไปรอที่ป้ายรถเมล์ ไกลจากที่นี่สักระยะเดิน 5 นาที อีกอันนึงก็ไปโดยแท็กซี่นั่นแหละ ราคาสัก 100 นึง บวก-ลบนิดหน่อย แต่ต้องเปิดมิเตอร์นะ ... ผมช่วยได้แค่นั้นเอง

"Thank you very much" ขอบคุณมาก ... ชายหนุ่มสัมผัสมือผมก่อนเดินออกจากร้านไป

**********************************************

... ขณะที่ฟุตบอลโลกหมุนไป โลกก็ยังคงหมุนไป เท็นนิสวิมเบิลดันก็ยังคงตีกันไปอย่างไม่ยี่หระต่อกระแสฟุตบอลโลก เว็บไซต์ข่าวของบีบีซีตามข่าวสงครามอิรัก ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้าน ที่มีโลกภายนอกหนุนหลัง ให้ซื้ออาวุทธเพื่อเอาไปฆ่ากันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ระหว่างมุสลิมคนละนิกาย / เชื้ออีโบลาแพร่กระจายในอาฟริกา และ บลา บลา บลา ...

แต่มีอยู่ข่าวหนึ่งของซีเอ็นเอ็น ที่ทำเอาผมนั่งกระพริบตาปริบๆ "Bangkok Mall crowded with ... fish ?" ... ข่าวตึกเก่านิวเวิล์ดกลายเป็นบ่อปลาอุตส่าห์ขึ้นเพจแรกของเว็บข่าวระดับโลก

//edition.cnn.com/2014/07/03/world/asia/bangkok-fish-mall/index.html?hpt=hp_c6

นอกเหนือไปจากข่าวของ "Red light district" กับเซ็กส์ทัวร์แบบใหม่ที่ซอฟท์คอร์กว่าเดิม ประมาณว่าพ่อแม่พาลูกชายวัยหนุ่มมาเที่ยวเหมือนกับในหนังแฮงก์โอเวอร์ภาค 2 ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะไปไหนดี บาร์เลดี้บอย เฟติชคลับ ... แล้วแต่ธีมของทริปว่าจะเป็นอย่างไหน ปาร์ตี้พิเศษวันเกิด งานฉลองสละโสด ... ไกด์สาวจะพาคุณนั่งรถตู้ไปยังแหล่งบันเทิงปลายทางที่คุณเลือก แน่นอนว่ารถติดแอร์เย็นฉ่ำและพร้อมด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไม่มีลิมิต และรับประกันความปลอดภัย ไม่ถูกหลอกแน่นอน "A safe way to see Bangkok's seedier side"

Cameron Johnson and his brother, Brad, accompanied by a Hangover Tour guide on soi Cowboy. ... with Maori Tattoo sticker / Tyson style.

//edition.cnn.com/2014/07/01/travel/bangkok-tours-red-light-nightlife/index.html?hpt=ias_mid

ท้ายบทความ CEO ของ ไนท์ไลฟ์อินเตอร์เนชันแนล บอกไว้ว่า "เซ็กส์ทัวร์ไม่ว่าที่ไหนก็แย่พอกัน ผู้หญิงจำนวนเกือบทั้งหมดในธุรกิจนี้เกลียดอาชีพที่พวกเธอทำ สาเหตุที่ทำให้เธอเข้ามาก็เพื่อหาเงินไปเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น พอเวลาผ่านไป พวกเธอจะหลงทาง ความฝัน ความหวัง ในชีวิตก็จะหายไปด้วย หลายคนฆ่าตัวตาย และหลายคนติดเหล้า ติดยา จมอยู่กับความอายและเกลียดตัวเอง"

เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858
jettajan227@yahoo.com

ปล.

เช้าวันก่อน หลังจากดูบอลจบก็ออกไปตลาดใส่บาตร เห็นแก๊งค์ 4 หนุ่มเดินห่มธงชาติเบลเยียมร่อนฉลองพร้อมกับขวดเบียร์ในมือ

ส่วนเช้าวันนี้ หลังจากยิงลูกโทษจบก็ 6 โมงเช้าพอดี เดินออกไปตลาดใส่บาตรอีกครั้ง เห็นคู่หนุ่มสาวฮอลแลนด์ใส่เสื้อสีส้มเดินยิ้มคุยกันกระหนุงกระหนิงเป็นที่น่าอิจฉา

ผมยังเดาไม่ออกว่า เช้าวันพุธที่ 9 จะเห็นแฟนบอลชาติไหนตอนเช้าไปใส่บาตร ธงดำ-แดง-ทอง จะโบกสะบัดหรือเปล่า แต่เนย์มาร์ปิดฉากไปแล้ว บราซิลหนาวแน่

เช้าวันพฤหัสที่ 10 ก็เช่นกัน ดิมาเรีย ปีกตัวสำคัญของอาร์เจนไตน์อาจเจ็บหนัก ไม่ได้ลง เมสซีจะแหกด่านอัศวินกังหันได้หรือไม่

อาทิตย์หน้าได้รู้คำตอบกัน และสำหรับคู่ชิง ถ้าเป็นออลยูโรบนแผ่นดินละติน ก็คงจะเป็นการรีแมทช์ปี 1974 ที่น่าดูไม่น้อยเช่นกันครับ SmileySmileySmiley



Create Date : 06 กรกฎาคม 2557
Last Update : 6 กรกฎาคม 2557 9:12:57 น. 1 comments
Counter : 1481 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 7 กรกฎาคม 2557 เวลา:2:24:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.