Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Twins

สวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีครับกับการที่ยังมีชีวิต ยังมีอวัยวะครบ 32 อยู่ กินได้ นอนหลับ และได้มีโอกาสมาเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวอ่านเล่นฆ่าเวลาให้กับคุณผู้อ่านในโลกออนไลน์ หรือนักเลงไซเบอร์ได้อ่านกัน ... ผมว่ามันแตกต่างจากสมัยก่อนค่อนข้างมากเลยที่ นักอยากเขียนทั้งหลายต้องส่งต้นฉบับไปให้บรรณาธิการสำนักพิมพ์เป็นคนคัดเลือกเป็นด่านแรกเสียเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยมักจะเห็นการ์ตูนล้อกันว่าต้นฉบับเยอะแยะ ไม่ผ่านการคัดเลือก ถูกทิ้งลงถังขยะเป็นปึกๆ นักอยากเขียนก็ต้องตระเวณกันจนลิ้นห้อยกว่าจะได้ผ่านการคัดเลือกจนถูกตีพิมพ์สักเรื่อง ก่อนที่จะได้รับการเปิดประตูเข้าสู่มิติมหัศจรรย์ของนักอยากเขียน เรียกว่าใครที่ได้ลงก็ผ่านมาตรฐาน บก. เป็นการรับประกันคุณภาพ

ส่วนสมัยนี้ก็แตกต่างออกไป เพียงแต่ใช้อินเตอร์เน็ตได้ เข้าไปสู่โลกออนไลน์ได้ มันก็เป็นเหมือนมิติใหม่ของนักอยากเขียน ที่สามารถเผยแพร่สิ่งที่ต้องการสื่อโดยตรงไปสู่ผู้ที่อยากอ่านได้อย่างง่ายขึ้น เพียงแต่ไม่ได้ผ่านการกรองคุณภาพจากบรรณาธิการ ไม่มีมาตรฐานรับประกัน ดังนั้นก็ต้องยอมรับว่ามันแตกต่างออกไป คุณภาพของ "สาร" ที่สื่อออกไปอาจจะแกว่ง บางอย่างก็คงจะ "ดิบ" ไม่ได้ปรุงให้ดี และแน่นอนที่บางอย่างอาจจะ "เป็นพิษ" ขึ้นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคนด้วย เพราะอาหารชนิดเดียวกันบางคนกินเข้าไปอาจจะเสาะท้อง แต่บางคนกินได้สบาย ... ดังนั้นในความเห็นส่วนตัวสำหรับยุคสมัยที่ข่าวสารและเรื่องราวต่างๆมากมายประเดประดังเข้าสู่วิถีชีวิต ความรับรู้ตลอดจนความเชื่อถือ ศรัทธา ก็ขอให้ใช้ความคิดเยอะๆ กลั่นกรองเอากาก สิ่งปนเปื้อนออกไป และพิจารณาให้ดี ก่อนที่จะเลือกใครสักคนมาเป็นผู้ว่าฯ คนต่อไป ... เอ๊ะ ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ แต่ลงท้ายกลายเป็นบ้องกัญชาซะแล้ว

เอ้า ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว ... ก็ขอต่ออีกนิดละกันครับว่า นโยบายที่พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ รับผิดชอบด้วยนะครับ ไม่ใช่เพ้อเจ้อไปวันๆ ... แค่นี้แหละ ไม่อยากเขียนเยอะ เดี๋ยวเซ็ง

กลับเข้าเรื่องดีกว่า จำได้ว่าผมเคยอ่านหนังสือที่มีก้าวแรกจากโลกออนไลน์มาบ้าง ไม่มากนัก บางเรื่อง-บางเล่ม-บางบล็อก เนื้อหา ภาษาเขียน จะต่างออกไป ให้รสชาติที่แตกต่าง ไม่สามารถบอกได้ว่าดีหรือไม่ดี แต่บอกได้ว่าสนุกเสมอตามนิสัยของนักอ่าน แต่เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์เล่มแรกที่อ่าน จำได้ว่าน่าจะเป็น "เอดส์ไดอารี่" ของ "แก้ว" (นัยว่าเป็นนามปากกาในโลกไซเบอร์หรือไงนี่แหละ) ที่อ่านแล้ววางไม่ลง ติดตามเอาใจช่วยคนเขียนให้หายไวๆ หลังจากนั้นก็เห็นแวบๆว่าตามออกมาอีกหลายเล่มอยู่เหมือนกัน

ตอนนี้ก็เดือนสามแล้ว โรงเรียนปิดเทอมแล้วพร้อมกับการท่องเที่ยวฤดูไฮซีซันกำลังจะเลยผ่านจุดสูงสุด ฝรั่งนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ๆเริ่มซาลง เพราะบ้านเรากำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนที่ทำท่าว่าจะร้อนหนัก จนต้องเล่นน้ำสงกรานต์กัน แต่บ้านเขากำลังจะเข้าสู่ช่วงปลายของฤดูหนาว แล้วย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ หิมะละลาย แผ่นน้ำแข็งบนพื้นผิวทะเลสาบหายไป แม่น้ำเริ่มไหลอีกครั้ง นกร้องและดอกไม้บานสวยสด

ครับ ... ร้านหนังสือยังคงเปิดบริการอยู่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คต่างประเทศทั้งมือหนึ่งและมือสอง ไม่ว่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ตหลากหลายภาษา อิงลิช เฟรนช์ ด๊อยช์ ฮีบรูว์ สแปนิช สเตฟาน-โรเซ รุทตาร์ท รวมทั้งเฟรสบุ๊คสำหรับพูดภาษาต่างๆและแผนที่ท่องเที่ยวต่างประเทศรวมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

วันก่อนนี้ลูกค้าเก่าสาวสวยทรงสูงเพรียว เอา "The Quiet American" ของ Greham Greene มาคืนที่ร้านก่อนจะถามหาหนังสือเล่มต่อไปที่เกี่ยวกับไบโอกราฟฟีหรือโพลิติค ผมรับหนังสือเก่าเล่มนั้นคืนมาจากลูกค้า (จำได้ว่าเวอร์ชันภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด นำแสดงโดยแบรนดอน เฟรเซอร์ พระเอกที่มาดังกับมัมมีไตรภาค กับหนังตลกผจญภัยเบาๆเข้ากับบุคลิกที่ออกจะยิ้มง่าย แต่ ไมเคิล เคน ตัวชูโรงรุ่นเก๋าอีกคนหนึ่งก็เล่นได้ดีไม่แพ้กัน) พลิกดูอยู่ในมือก่อนที่จะชี้มือไปทางชั้นติดผนังด้านซ้าย 2 ล็อคใกล้กับตู้กระจกหน้าร้าน  ... ก่อนที่เธอจะเลือกได้ "Letters from Burma" ของ Aung San Suu Kyi เล่มใหม่เล่มนั้นมาถืออยู่ในมือชูให้ผมดู

"I take this, how much can you discount?" เธอถามราคาพร้อมส่วนลดมาพร้อมกัน

ผมคำนวนส่วนลดครึ่งราคาจากหนังสือที่คืน บอกเธอไปแล้วถามว่า "You interest in politic book.  Are you NGO?" ดูท่าทางเธอสนใจเรื่องราวทางการเมืองเป็นพิเศษ คล้ายๆคนไทยเวลานี้

"No, I just interest." เธอตอบมา

"Will you back here again after finish this book?" ผมถามไปเพราะหนังสือของซูจีปกนี้ผมเหลือเก็บไว้อีกแค่เล่มเดียว

"No, tomorrow I shall go to cambodia. This book will stop there." เธอตอบมา มันชัดเจนว่าเธอจะไม่กลับมากรุงเทพฯอีก และหนังสือของเดอะเลดี้เล่มนั้นจะหยุดอยู่ที่กัมพูชา ร้านหนังสือที่ไหนสักแห่ง

"I see. Enjoy your book and have a nice trip. Bye" ผมอวยพรให้เธอเดินทางโดยสวัสดิภาพ ก่อนจากไปเธอฝากส่งโปสการ์ดจากต่างแดน 2 ใบ แน่นอนผู้รับปลายทางจะได้รับโปสการ์ดรูปลิงจากมาเลเซีย แต่แสตมป์ไทย เป็นที่ระลึก


โปสการ์ดครอบครัวลิง 2 ครอบครัว "Nora & Baka" และ "Delima & Selina" จาก "Sarawak Forestry" Lot 218, KCLD, Jalan Tapang, Kota Sentosa, 93250 Kuching, Sarawak, Malaysia Tel +6082 610 088 / //www.sarawakforestry.com

Sarawak Forestry น่าจะเป็นองค์กรจัดตั้งขึ้นในมาเลเซีย วัตถุประสงค์คือบริหารจัดการ / อนุรักษ์ / ... ป่าเขตร้อนในมาเลเซียเพื่อความยั่งยืนของผืนป่าและทรัพยากรธรรมชาติ และ .... ว่าแต่หน้าตาของแม่ลิงกับลูกลิงในโปสการ์ดนี่ดูแล้วดูอีกยังไง ดูยังไงผมก็แยกไม่ออกอยู่ดี ก็หน้าตามันเหมือนๆกันไปหมด

******************************

สุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีลูกค้าเก่าคนไทยมาซื้อโลนลีแพลนเน็ตใหม่กิ๊กไปเล่มหนึ่ง พ่อหนุ่มจะไปเที่ยวมาเลย์ ผมเลยหยิบโลนลีแพลนเน็ตมาเลเซีย-สิงคโปร์-บรูไน ปีล่าสุด 2010 มาให้ดู แต่ลูกค้าหนุ่มส่ายหน้าว่าไม่ใช่ปกนี้ ... ผมเริ่มงงคิดในใจ "เล่มไหนหว่า มาเลเซียก็มีปกนี้ปกเดียว"

"หน้าปกมันเป็นตึกแฝดน่ะครับ" ลูกค้าหนุ่มกวาดตามองไล่ตามตัวอักษร

"อ๋อ" ผมยิ้มพร้อมนึกออกทันที โลนลีแพลนเน็ตกัวลาลัมเปอร์-มะละกา-ปีนัง หน้าปกเป็นรูปตึกแฝด "Petronas" ทวินทาวเวอร์ อันโด่งดังของมาเลเซีย เห็นตึกนี้ทีไรก็นึกถึง "The Entrapment" กับบทบาทนางโจรสาวสวยของ แคเธอรีน ซีตาห์ โจนส์ กับ โคตรพระเอกเจมส์ บอนด์ - ฌอน คอนเนอรี ทุกที


Lonely planet Kuala Lumpur, Melaka & Penang เวอร์ชันล่าสุด ภาพปกคือ "Petronas" ตึกแฝดอันเป็นสัญญลักษณ์ของมาเลเซียไปแล้ว

จะว่าไปมาเลเซียที่เคยไปมาบ้าง ผมก็ไม่ได้ไปดูอะไรโลดโผนมากนัก เพราะไปในระหว่างทำงานให้บริษัทญี่ปุ่นก็มักจะอยู่ในเขตอุตสาหกรรม ที่พักตอนกลางคืนก็จะได้ยินแต่เสียงละหมาด ครั้งหนึ่งที่เคยไปคนเดียว เจอแต่เพื่อนที่ทำงานเดียวกันอำเอาว่าระวังจะเจอผีแขก ปรากฏว่าเจอจริงเหมือนกันแต่เป็นผีสาวจีน 2 ตัว แต่งหน้ามาเสียสวยเช้ง มาเคาะห้องตอนดึก ... 1 ใน 2 ผีสาวถามมาพร้อมยิ้มหวาน "Do you call for lady?" ..... ต่อจากนั้นเป็นไงจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าวันรุ่งขึ้นเล่าให้เพื่อนคนจีนที่บริษัทฟัง พี่แกหัวเราะก๊ากแล้วบอกมาว่า ... ยูต้องถามกลับไปว่า "Pay already?" ... ประมาณว่า ถ้าจ่ายเงินแล้วให้พยักหน้า แต่ถ้ายังไม่จ่ายก็ส่ายหน้าตอบผีสาวไป

( ส่วนอีกครั้งหนึ่งที่ไปนั้น รอบดึกได้ไปนั่งในไอซ์บาร์ในเคแอล ซัดว้อดกากันจนลืมหนาวไปเลยทีเดียว )

พูดถึงแฝดแล้ว ตลอดเกือบ 4 ปีที่เปิดร้านมาก็เพิ่งได้เจอลูกค้าฝาแฝดไป 2 คู่ โดยเจอคู่แรกต้นปีนี้เอง แฝดแรกที่เจอเป็นแฝดสาวชาวดัชท์ที่เข้ามาตามหาโลนลีแพลนเน็ตคัมโบเดีย แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ จึงมีงบจำกัดเลือกได้เวอร์ชันภาษาอังกฤษมือสอง ปี 2008 ไปหนึ่งเล่ม


แฝดแรกที่เข้ามาที่ร้าน เป็นสาวดัชท์ที่มาเที่ยวตอนปิดเทอม ได้เข้ามาทำธุรกิจเป็นพ่อค้า-ลูกค้ากัน

สองสาวฝาแฝดที่ออกมาเรียนต่างประเทศ ไฮสคูลหรือคอลเลจ ผมจำไม่ได้ แต่คนหนึ่งไปเรียนที่ออสเตรเลีย ส่วนอีกคนแยกไปเรียนที่ญี่ปุ่น พอดีปิดเทอมปีใหม่ช่วงเดียวกันก็เลยนัดมาเจอกันที่เมืองไทยบ้านเรา ... นับว่าเป็นฝาแฝดแท้ที่แปลกดีไม่เคยพบ เพราะส่วนใหญ่มักจะไปไหนไปด้วย อยู่ไหนอยู่ด้วย แต่แฝดสองสาวนี่ไปแยกกันเรียนคนละทวีปเลย

ส่วนเมืองไทยตอนนี้ก็มีแฝดคนละฝา เดินไปทางไหนก็เจอป้ายผ้าแทบจะตีคู่กันไปทุกเสาไฟฟ้า เธอไปคุยกับวณิพก ฉันก็ไปบ้านพักคนชรา เธอปิ้งกล้วย ฉันหั่นหมู เธอขับรถเมล์ ฉันซ้อนมอไซค์ ..... แต่ป่านนี้ก็คงรู้ผลแล้ว ว่าจะเลือก "เสาไฟฟ้า" หรือ "ขวดไวน์" ดี ... ก็ขอให้ได้คน "ที่ชอบๆ" ก็แล้วกันครับ

เจตตจัน

085-8035412

087-0719858

jettajan227@yahoo.com




Create Date : 16 มีนาคม 2556
Last Update : 16 มีนาคม 2556 22:21:00 น. 0 comments
Counter : 2012 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.