Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ชีวิตนี้น้อยนัก ... Life is tiny

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ กินได้ นอนหลับ ยังครบ 32 ไม่ขาด-ไม่เกิน และมีโอกาสได้มาเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยไร้สาระจากร้านหนังสือเล็กๆร้านหนึ่งในถนนข้าวสารให้ได้อ่านเล่นฆ่าเวลากันอีกสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีข่าวสารเหตุการณ์ต่อเนื่องมานับตั้งแต่ การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสังฆราชเมื่อ 24 ตุลาคม ความปั่นป่วนทางการเมืองทั่วประเทศจาก พรบ.นิรโทษกรรม สืบเนื่องสู่ม็อบต่อต้านที่ถนนราชดำเนินในต้นเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่พายุไต้ฝุ่นไห่เอี้ยนขึ้นบกถล่มเมืองทาโคลบัน บนเกาะเลย์เต ในฟิลิปปินส์ ... ด้วยความเร็วลมกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้มันถูกจัดเป็นพายุที่รุนแรงติดอันดับต้นๆของบันทึก และนับเป็นพายุที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ "Landed - ขึ้นฝั่ง" ทำความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน ตลอดจนผู้เสียชีวิตหลักพันคน (บางข่าวว่าอาจถึงหมื่น) ... ต้องแสดงความเสียใจกับชาวฟิลิปปินส์เพื่อนบ้านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ


An aerial view of buildings destroyed after Typhoon Haiyanin Leyte province, Philippines (ภาพความเสียหายเป็นประวัติศาสตร์จากทาโคลบัน - ภาพข่าวจาก USA Today)


An aerial view of the super-typhoon-devastated town of Guiuan, eastern Samar province, Philippines, Monday (ภาพความเสียหายพอๆกัน ที่อีสเทิร์นซามาร์ - ภาพข่าวจาก USA Today) 

ร้านหนังสือยังเปิดอยู่รับลูกค้านักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน ฮีบรู ทั้งโลนลีแพลนเน็ตมือหนึ่ง มือสอง ราฟไกด์ ดีเค สเตฟานโรเซ ดูมองต์ รุทตาร์ทและอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่คนไทยที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คเพื่อใช้ประกอบการเดินทางท่องโลก จะซื้อขาดก็ได้ หรือเอากลับมาขายคืนครึ่งราคาก็ดีครับ รวมกระทั่งแผนที่และเฟรสบุ๊ค หนังสือหัดพูดภาษาที่อาจจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ทริปของคุณง่ายขึ้น ... แต่เห็นบางคนก็ชอบด้นสด ชอบความตื่นเต้น แบกเป้ไปลุยแบบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ได้รสชาติสนุกสนานตื่นเต้นไปอีกแบบ ... ก็ไม่ว่ากัน อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยม

กลางลมหนาวพัดผ่าน กับเสียงใบไม้แห้งปลิวม้วนฝุ่นริมถนน ค่ำคืนนั้นผมนั่งเฝ้าร้านไป เล่นเกมส์ "แคนดี้ครัช" ในเฟสบุ๊คที่ก็ไม่รู้จับพลัดจับผลูเข้ามาได้ไง จำได้แต่ว่าเห็นไอคอนที่มันโผล่มาในหน้าเพจเฟสบุ๊ค เป็นเกมส์ "ไดมอนด์แดช" ลองกดเล่นดูก่อนจะเลยเถิดมาเล่นเกมส์ลูกกวาดเป็นเกมส์ถัดมา แต่ด้วยความที่เกมส์ลูกกวาดมีสีสันมากกว่า กราฟฟิกสวยและมีด่านต่างๆยากขึ้น ท้าทายมากขึ้นก็เลยทำให้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ บางด่านก็ยาก ติดอยู่ 3-4 วัน พอลองไปค้นดูในกูเกิลก็เห็นว่าเป็นเกมส์ที่เขาเล่นๆกันอยู่แพร่หลายพอสมควร เล่นได้ครั้งละ 5 ชีวิต พอแพ้ก็จะถูกหักไปทีละ 1 ชีวิต จนหมด 5 ชีวิตก็ต้องรอต่อชีวิตละครึ่งชั่วโมง มีการส่งชีวิตให้เพื่อนที่รู้จักเล่นต่อ หรือขอชีวิตจากเพื่อนเพื่อผ่านด่าน มีตัวช่วยแถมฟรีหรือถ้าอยากได้เพิ่มก็ต้องเสียเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เกมเมอร์หลายที่มีการคิดการโกงเกมส์ด้วย โดยการไปแก้วันที่ในเครื่องสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นการหลอกโปรแกรม ทำให้ได้ชีวิตเพิ่มขึ้นมาเล่นต่อได้โดยไม่ต้องรอจริงๆ ... บ่งบอกได้เลยว่าคอมพิวเตอร์อาจเก่ง แต่ไม่อาจต้านทานความคิดพลิกแพลงของคนไปได้ เป็นความรู้ใหม่ที่ช่วยเปิดโลกของเกมเมอร์มากขึ้น ... หลังจากอ่านวิธีโกงเกมส์จนเข้าใจแล้ว ผมก็กลับมาเล่นในเฟสบุ๊คตามปกติ เฝ้าร้านไปก็เล่นเกมส์ฆ่าเวลาไป แพ้หมด 5 ชีวิตก็ไว้ค่อยว่ากันใหม่ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นไม่ถูกลูกกวาดดูดเวลา ดูดชีวิตของเราไปหมด แทนที่จะเป็นเราเล่นเกมส์ กลายเป็นเกมส์เล่นเราซะหัวปั่น ... งานการอย่างอื่นไม่ต้องทำซะงั้น หึ หึ

ขณะที่รอชีวิตใหม่ถัดไปครึ่งชั่วโมง ผมหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน หนังสือเล่มนี้ผ่านมือมาใหม่ไม่นานนัก เล่มเล็กกระทัดรัด เคยได้ยินชื่อมานาน แต่เพิ่งเคยเห็นของจริงวันนี้เอง

"Do you have lonely planet Malaysia in french?" ... คุณมีโลนลีแพลนเน็ตมาเลเซียภาษาฝรั่งเศสไหม ... คุณป้าแก่ผมขาวมาคนเดียว ถามขึ้นกลางความเงียบ ทำเอาผมแทบสะดุ้งขณะอ่านหนังสือรอเล่นเกมส์อยู่เพลินๆ

"Yes, but old edition with 3 countries combine. Year 2007." ... มีสิ แต่เป็นฉบับเก่ารวม 3 ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ปี 2007 ... ผมตอบพร้อมพยักหน้าให้เธอ สายคล้องแว่นคริสตัลสีหม่นพาดอยู่ที่คอปกเสื้อลายดอก พร้อมกระเป๋าสะพายไหล่ในมือ

"Let me see" ... ขอดูหน่อยสิ ... คุณป้าว่าพลางพยักหน้าและวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ

โลนลีแพลนเน็ตเล่มนั้นค้างชั้นอยู่นานแล้ว สาเหตุหนึ่งน่าจะเป็นเพราะบางหน้าขาดหายไปจากส่วนที่เป็นประเทศสิงคโปร์ และเป็นปีเก่า 2007 ถ้าเป็นลูกค้าที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ก็มักจะเลี่ยงไปเลือกเวอร์ชันปี 2010 หรือไม่ก็ปี 2013 ที่เพิ่งออกใหม่ อีกทางหนึ่งคือแยกเล่มไปใช้โลนลีแพลนเน็ตสิงคโปร์ไปเลย ถ้าลูกค้าไม่ได้ไปมาเลเซียด้วย ... ป้าจากฝรั่งเศสคนนี้น่าจะใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีนัก และคงไม่ได้ไปสิงคโปร์ด้วย เธอจึงตอบตกลงซื้อเล่มนี้ไปในยามดึก

"Do you know how can I go to Huahin?" ... เอ้อถ้าฉันจะไปหัวหินเนี่ย ไปยังไงคุณช่วยบอกหน่อยสิ ... ป้าถามหลังจากเก็บหนังสือใส่กระเป๋า

"Here, you can see." ... ดูนี่นะ ... ผมหันหน้าจอแล้วก็เปิดแผนที่กูเกิลให้ดูพร้อมอธิบายการเดินทางโดยรถโดยสาร ท่ารถและอื่นๆ

"I cannot see, can you give me hotel name?" ... คือมองไม่เห็นน่ะ คุณช่วยบอกชื่อโรงแรมที่พักให้ซักหน่อยได้ไหม ... ป้าเอ่ยถามมา พร้อมกับหยิบแว่นตาหนาเตอะขึ้นมาใส่ ยื่นหน้าเข้าไปแทบชิดกับหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ

"Many hotels there, you just drop at huahin city or bus terminal. From southern bus terminal, here." ... อ้า ... มีเยอะเลยครับโรงแรมที่พักที่นั่น ป้าแค่ลงที่กลางเมืองหัวหินหรือไม่ก็ที่สถานีขนส่งก็ได้ จากที่นี่ไปก็ไปนั่งรถที่สายใต้ใหม่ ... ผมเขียนข้อความสายใต้ใหม่เป็นทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยใส่กระดาษโน๊ต ส่งให้เธอพร้อมสังเกตุความหนาแว่น เทียบจากความหนาเลนส์แว่นของผมซึ่งบางกว่าประมาณ 3 เท่า ผมว่าเธอสายตาโคตรสั้นเลยแหละ ขณะเดียวกันก็ให้สงสารกับการเดินทางแบบลากสังขารของป้าแกจริงๆ

"Thank you." ... ขอบคุณมากนะ ... ป้ายิ้มเล็กน้อยแล้วออกจากร้านไป ผมมองตามเห็นแกเดินช้าๆ ไม่รู้ว่าขาไม่ค่อยดี หรือมองไม่ชัด-กลัวชนคนอื่นเขา ... ลูกเต้าแกปล่อยมาเที่ยวคนเดียวอย่างงี้ได้ไง ดูแล้วเหนื่อยแทน จะว่าแก่เกินเที่ยวแล้วก็ดูจะแรงไป ก็ถ้าแกอยากจะมาท่องโลก ใช้เงินตอนแก่ให้คุ้มเหนื่อยก็น่าฟัง คิดแล้วก็เห็นด้วยกับที่เคยได้ยินเขาว่าถ้ามีแรง มีเงิน ก็เที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาวดีแล้ว พออายุมากเดินไม่ไหวจะได้ไม่ต้องมาเสียดายทีหลัง

ผมคว้าหนังสือเล่มเล็ก "ชีวิตนี้น้อยนัก" พระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร ขึ้นมาอ่านต่อ นับเป็นบุญที่ได้อ่าน แม้จะยังไม่ได้มีโอกาสไปกราบสักการะพระศพที่ตำหนักเพชรด้วยตนเอง ภาษาที่ใช้เป็นภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย อ่านได้รวดเดียวจบ ไม่เกินชั่วโมง ทรงเน้นเรื่อง "กรรม" เป็นเนื้อหาหลักในหนังสือ ซึ่งหลังจากอ่านจบแล้ว ผมว่าจำนวน 60000 เล่มที่พิมพ์แจกนั้น น่าจะช่วยให้คนอย่างน้อย 60000 คนได้เข้าใจเรื่อง "กรรม" นี้มากขึ้น เป็นเนื้อหาเรื่องราวที่พระสังฆราชถ่ายทอดออกมาให้ สอนให้ ที่ชาวพุทธเราไม่ควรพลาด


"ชีวิตนี้น้อยนัก" - เรียบเรียงโดย ประเสริฐ เลิศอัศวลักษณ์ / พิมพ์ครั้งที่ 2 / 60,000 เล่ม

" ... ที่แม้จะเชื่อ หรือไม่เชื่อ ความจริงนี้ ก็ย่อมเป็นความจริงเสมอไป ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลง ให้ผิดไปจากความจริงได้ ..."

... บางส่วนจากพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราช ประมุขแห่งพุทธศาสนิกชนทั่วโลก

หลังจากอ่านจบหนังสือเล่มน้อย ผมเดินออกไปปิดร้านแล้วกลับมาที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ ผมปิดเกมส์ที่เล่นค้างอยู่ แล้วเปิดเพลงจาก "Youtube" ขึ้นมาแทน นั่งกอดอกมองเหม่อออกไปข้างนอก กลางไฟสลัวที่เหลือเปิดอยู่เพียงดวงเดียว เสียงดนตรีอบอุ่นแว่วขึ้นจากนักร้องผิวสีแห่ง "Lighthouse family"

I wish I knew how it would feel to be free

I wish I could break all the chains holding me

I wish I could say all the things that I should say

Say 'em loud say 'em clear

For the whole wide world to hear

I wish I could share all the love that's in my heart

Remove all the bars that keep us apart

And I wish you could know how it feels to be me

Then you'd see and agree that every man should be free

I wish I could be like a bird in the sky

How sweet it would be if I found I could fly

Well I'd soar to the sun and look down at the sea

And I'd sing cos I know how it feels to be free

I wish I knew how it would feel to be free

I wish I could break all the chains holding me

And I wish I could say all the things that I wanna say

Say 'em loud say 'em clear

For the whole wide world to hear

Say 'em loud say 'em clear

For the whole wide world to hear

Say 'em loud say 'em clear

For the whole wide world to hear

One love one blood

One life you've got to do what you should

One life with each other, sisters, brothers

One love but we're not the same

We got to carry each other Carry each other

One One One One One ...

I wish I KNEW how it would feel to be free

I wish I KNEW how it would feel to be free

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันจะรู้ ... ว่าอิสระเป็นอย่างไร

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันสามารถ ... ทลายพันธะที่ผูกมัดไว้ได้

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันจะพูด ... สิ่งที่ฉันควรพูดออกไป

พูดได้เต็มปาก พูดได้ชัดเจน

ให้กับคนทั่วโลก ให้เขาได้ยินเสียงของฉัน

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันจะปัน ... ความรักทุกมวลจากในใจ

กำจัดอุปสรรค ที่แบ่งแยก ... เราจากกัน

และฉันหวัง ... ว่าซักวัน เธอจะรู้ ... ว่าเป็นฉัน มันเป็นอย่างไร

และเธอคงจะรับรู้ ... ว่าคนทุกผู้ ควรมีเสรีเป็นของตน

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันจะเป็น ... นกโผบิน

คงสนุกน่าดู ... ถ้าฉันรู้ ... ว่าฉันบินได้

ถ้าเป็นจริง ... ฉันจะบิน ไปทักทายดวงอาทิตย์และมองลงมายังท้องทะเล

ส่งเสียงร้อง เป็นทำนอง ... เพราะฉันรู้ว่ามันจะเป็นไง ถ้าหากฉัน มีเสรี

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันจะรู้ ... ว่าอิสระเป็นอย่างไร

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันสามารถ ... ทลายพันธะที่ผูกมัดไว้ได้

ฉันหวัง ... ว่าซักวัน ฉันจะพูด ... สิ่งที่ฉันควรพูดออกไป

ให้กับคนทั่วโลก ให้เขาได้ยินเสียงของฉัน

พูดได้เต็มปาก พูดได้ชัดเจน

ให้กับคนทั่วโลก ให้เขาได้ยินเสียงของฉัน

ใจหนึ่งดวง เลือดหนึ่งหยด

ชีวิตหนึ่ง ซักครั้งที่ต้องทำในสิ่งที่ควรทำ

ชีวิตหนึ่ง เพื่อคนอื่น ... พี่สาว ... น้องชาย

แม้จะมีเพียงใจดวงเดียว ที่เหมือนกัน

แต่เราก็ควรดูแลกันและกัน ไม่ทอดทิ้งกัน

รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858



Create Date : 23 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2556 14:51:58 น. 2 comments
Counter : 1506 Pageviews.

 
อยากไปเที่ยวบ้างจังค่ะ ไว้ว่าง ๆ จะไปนะคะ อยู่ตรงไหนของตรอกข้าวสารคะ


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 23 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:54:33 น.  

 
สุดถนน ตรงข้ามผับกัลลิเวอร์ ... ร้านหนังสือเล็กๆยินดีต้อนรับครับ


โดย: jettajan วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:1:51:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.