สังเกตุที่มุมล่างด้านซ้ายของปก จะเห็นว่ามีแผนที่เมืองบาร์เซโลนาแถมเพิ่มมาให้เป็นพิเศษด้วยครับ สำหรับฉบับนี้พูดก็พูดเถอะ สเปนในทศวรรษนี้มีเรื่องราวของความสำเร็จระดับโลกในวงการกีฬามากมายอย่างน่าอิจฉาจริงๆ ทั้งฟุตบอลทีมชาติที่ได้แชมป์ยุโรปไปเมื่อ 3 ปีก่อน ถัดมาอีก 2 ปีก็ได้แชมป์โลกไปครองติดๆกัน ทีมสโมสรบาร์เซโลนาก็ได้ 3 แชมป์ 6 แชมป์กันเป็นว่าเล่น ทั้งแชมป์ลีก แชมป์ถ้วยและแชมป์ยุโรป กระทั่งปีล่าสุดก็ยัง 2 แชมป์ ทั้งแชมป์ลีกและแชมป์ยุโรปถ้วยบิ๊กเอียร์ ปล่อยให้เรอัลมาดริดได้บอลถ้วยเล็กไปกอดปลอบความช้ำ 1 ใบ ( ไม่เหมือนแคมเปญ บอลไทย ... ไปมวยโลก / อันดับโลกของฟุตบอลเราก็สาละวันเตี้ยลงๆ ) ส่วนราชาคอร์ตดิน ราฟาเอล นาดาล ก็ขึ้นอันดับมือ 1 เทนนิสชายจนได้ หลังจากเฟเดอร์เรอร์ ลงอันดับไป แม้ว่าโนวัค ยอโควิชจะหายใจรดต้นคอมาติดๆ จนชนะนาดาลไปได้ 3-4 แมตช์ติดกันแต่เศรษฐกิจของสเปนกลับตกต่ำอย่างน่าใจหาย ในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติกระเป๋าหนักจากยุโรปนั้น ปรากฏว่าชาวสเปนมาน้อยมาก ผมสังเกตุเอาจากหนังสือภาษาต่างๆของที่ร้านมีอยู่ (อันนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้นนะครับ) แน่นอนครับอันดับ 1 คือ ภาษาอังกฤษ ซึ่งลูกค้าหลักก็ทั้งชาว อเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลียน และประเทศอื่นๆทั่วโลกอันดับ 2 คือ ภาษาฝรั่งเศส บางครั้งก็จะมีร้านหนังสือจากต่างจังหวัดมาติดต่อซื้อเหมาไปทีละเยอะๆ ผมเคยถามลูกค้าฝรั่งเศสบางคนว่า ถ้าโลนลีแพลนเน็ตภาษาฝรั่งเศสไม่มี ทำไมคุณไม่เอาภาษาอังกฤษไปล่ะ ส่วนใหญ่จะตอบว่าพอพูดได้ แต่อ่านทั้งเล่มนั้นไม่ถนัด ไม่เอาดีกว่า ... พอๆกับพนักงานขายในเว็บของ Hachette ที่ฝรั่งเศสเลยครับ ผมส่งเมล์ภาษาอังกฤษไปถาม-สั่งหนังสือ 2 ย่อหน้าไม่ถึง 20 บรรทัด ... ปรากฏว่าคุณเธอตอบมาว่า เธอใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่ดี ขอฟอร์เวิร์ดเมล์ไปให้หัวหน้าแผนกตอบแทน ... หึหึ ไม่ได้เจ๋งมาจากไหนหรอกวะ (ผมนึกในใจ)อันดับ 3 คือ ภาษาเยอรมัน พวกคนยุโรปตะวันออกก็ใช้กันครับ ทั้งออสเตรีย โปแลนด์ และอื่นๆ ซึ่งก็พอๆกันกับคนฝรั่งเศสนั่นแหละครับ คือคนที่พูดได้หลายภาษา (รวมทั้งภาษาอังกฤษ) ชำนาญมากกว่า 2 ภาษานั้นมีแน่ แต่พวกที่พื้นๆก็ไม่น้อยเหมือนกันครับ3 อันดับแรกนี่พอจะเห็นภาพนะครับ ว่าเป็นกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ค่าเงินใหญ่ เศรษฐกิจดีๆกันแต่อันดับ 4 กลับเป็นภาษาฮีบรูว์ ของชาวยิวหรืออิสราเอล ที่ประเทศเล็กนิดเดียว คนก็ไม่มากนัก แถมยังเป็นที่รังเกียจนิดๆของคนต่างชาติอื่นๆด้วย เป็นไปได้ว่าชาวยิวมาปักหลักกันที่ ถนนข้าวสารฝั่งติดๆกับร้านหนังสือของผมค่อนข้างเยอะ มีร้านอาหารและเกสต์เฮาส์เฉพาะของชาวยิว ซึ่งทำให้กิน-อยู่สะดวกขึ้น เพราะกติกาทางศาสนาค่อนข้างจุกจิก หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าท่องเที่ยวมาหลายประเทศทั่วภูมิภาคนี้ เพิ่งเคยเจอที่นี่แหละ ที่เป็นดงของชาวยิว ... แหมพูดซะเห็นภาพเลยครับอันดับ 5 ก็ยังคงไม่ใช่ภาษาสเปนครับ ทั้งที่ สเปน นั้นเป็นหนึ่งในนักล่าอาณานิคมเคียงคู่กับ อังกฤษ โปรตุเกส ฝรั่งเศส ในสมัยก่อน แถมครองความยิ่งใหญ่ในถิ่นอเมริกาใต้ จนใช้เป็นภาษาราชการควบคู่ไปกับภาษาท้องถิ่นตั้งหลายประเทศ ... แต่กลับเป็น ภาษาสวีดิช ของชาวสวีเดนที่มาอยู่ยาวกันที่เมืองไทย จำตอนที่เกิดสึนามิ ปี 46 ได้ไหมครับ ที่เขาหลักนั้นคนสวีเดน และชาวสแกนดิเนเวียนตายเยอะมากใช่ครับ หนังสือภาษาสเปนที่ร้านนั้นมีไม่เยอะเลย เพราะคนอเมริกาใต้ที่ใช้ภาษาสเปนก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก คนบราซิลนี่ยังตัวดำใช้แรงงานซะเยอะ ทำไร่อ้อยผลิตพลังงานทดแทนกันอยู่ แถมสภาพอากาศก็ป่าดิบชื้นเหมือนๆกับบ้านเรา ไม่รู้จะมาเที่ยวทำไม ส่วนคนสเปนแท้ก็เจอปัญหาเศรษฐกิจจ่อคอหอย ผมก็เลยหาหนังสือสเปนทำยายากยังกับทอง..........พอสายหน่อยหลังจากนั้น ก็เจอลูกค้าหนุ่มสเปนผมหยิก เอาโลนลีแพลนเน็ตไทยแลนด์ภาษาสเปนมาเทิร์น ต่อรองราคากันไปมาสักครู่ หมอนี่ดันรู้ดี ไม่ยอมลดราคาให้ แถมยังไซโคผมอีกว่า"คุณซื้อหนังสือของผมเล่มนี้ไว้ราคานี้แหละ รับรองขายได้แน่ เพราะผมรู้ว่าร้านอื่นไม่มีภาษาสเปนหรอก"ผมฟังเสร็จก็หัวเราะก๊ากในใจ ต้องยอมรับซื้อไว้ในราคาที่สูงกว่าภาษาอังกฤษปกติ แต่ก็ไม่ยอมเสียเหลี่ยมโดยให้เป็นหนังสือไปแทนพอคล้อยหลังไปได้ไม่ถึงชั่วโมง ตบแต่งพร้อมห่อเสร็จอุ่นๆอยู่ ก็มีลูกค้าเป็นเอเจนซีของบริษัททัวร์มาซื้อเอาไปโดยไม่ต่อสักคำ พี่แกเป็นผู้หญิงร่างเพรียว อายุสัก 40 ปลายๆ แวะเข้ามาถามหาร้านอาหารอิสราเอลว่าอยู่ตรงไหน คุยกันไปมาได้ความว่า อีกสัก 2 สัปดาห์ พี่แกจะเอาลูกทัวร์เป็นคนฝรั่งเศสเชื้อสายยิวมากินอาหารกัน 40-50 คน ลูกค้าจำเพาะเจาะจงร้านมาให้ ซึ่งมันอยู่ห่างไปประมาณ 20 คูหา ราคาก็ไม่เบาครับ ลงไว้ในอินเตอร์เนตนี่ บางจานก็หลักพันเหมือนกัน พี่แกทำทัวร์มา 20 กว่าปีแล้วไปมาทั่ว บอกว่า"พี่กำลังเรียนภาษาสเปนเพิ่มเติมอยู่ โลนลีแพลนเน็ตภาษาสเปนนี่ หาไม่ได้เลย ต้องสั่งเข้ามาอย่างเดียว ถ้าเป็นฝรั่งเศสนี่ยังพอมีบ้าง เพราะลูกค้าฝรั่งเศสเยอะ พี่ไปเจอแถวเมืองกาญจน์นะ คนฝรั่งเศสแต่งงานกับคนไทยแล้วลงทุนทำรีสอร์ตกันเยอะเลย ส่วนพวกเยอรมันนี่จะไปสุมอยู่ที่พัทยากัน มาเฟียรัสเซียก็เยอะ แต่ถ้าพวกยิวก็ต้องที่นี่แหละ"ผมฟังไปก็พยักหน้าไป เพราะผมก็พลิกแผ่นดินหาหนังสือภาษาฝรั่งเศสอยู่พักนึงเหมือนกัน ก่อนจะมาไปไม่เป็นกับภาษาสเปนนี่แหละ "ใช่เลยครับพี่ ภาษาสเปนนี่หายากดีแท้ ปีๆนึงเจอไม่กี่เล่มเอง"พี่แกนินทาคนยิวต่อมาว่า "ก่อนนี้มีอยู่ทีนึง ลูกค้ายิวที่พี่รับมาก็จะมีการแบ่งแยกอาหารเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มเคร่งครัดต้องกินอาหารเฉพาะที่หลักศาสนาเขากำหนดไว้ กับอีกกลุ่มหนึ่งที่สบายๆกินอะไรก็ได้ ก็จะมีพวกสเต็คเนื้อต่างๆ เหมือนพวกคนยุโรปทั่วไป ปรากฏว่าพอถึงเวลากินจริงๆ ไอ้เจ้ากลุ่มแรกเห็นอาหารของกลุ่มหลังแล้ว รู้สึกเสียเปรียบหรือไงก็ไม่รู้ เลยจะมากินของเขาซะงั้น พี่ต้องเข้าไปแก้ปัญหาวุ่นวายมากเลย"ผมหัวเราะอยู่ในลำคอ พร้อมกับพยักหน้าพึมพำ "ไม่เคร่งจริงแฮะ""ยังมีอีกนะ พี่สังเกตุพวกยิวนี่จะไม่มีเรื่องเที่ยวกลางคืน เที่ยวผู้หญิงนะ แต่มันสลับคู่กันเองนี่แหละ มั่วกันเละไปหมด จนมีอยู่ทีนึงพี่แซวไปแรงๆเรื่องนี้ แล้วบอกไปว่า มิน่าล่ะพวกนาซีเยอรมันถึงได้ไล่ฆ่าตายเป็นเบือเลย ... มันทำตาโตอึ้งกันไปหมดเลย" พี่แกเล่าต่อผมทำตาโตพร้อมกับหัวเราะไปด้วย "โห ... แรงจริง พี่"พี่แกถามทางไปร้าน "กินลมชมสะพาน" เพิ่มเติม ผมก็อธิบายทางไปใกล้ๆสะพานพระราม 8 ก่อนที่แกจะออกจากร้านไปค่ำวันนั้นลูกค้าหญิงสูงวัยชาวสเปนเข้ามาซื้อเฟรสบุ๊คภาษาสเปน หนังสือของโอโช 1 เล่มและโลนลีแพลนเน็ตไทยแลนด์ไอส์แลนด์แอนด์บีช ปีล่าสุดไปอีก 1 เล่ม เธอบอกว่าปกติเธออยู่ในอินเดียทีละ 6 เดือนเพราะวีซ่าให้แค่นั้น หลังจากนั้นก็ต้องออกไปอยู่ที่ประเทศอื่นไม่ต่ำกว่า 2 เดือนถึงจะกลับเข้าอินเดียได้อีก เธอถามหาแหล่งขายส่งเสื้อผ้าในกรุงเทพนี่ ผมเลยเอาแผนที่ชี้ให้ไปที่ แพลตตินัม กับ จตุจักร เธอบอกว่า"ฉันทำธุรกิจค้าขายสินค้าระหว่างประเทศ มีร้านค้าอยู่หลายที่ สัปดาห์หน้าว่าจะไปพักผ่อนที่ทะเลเสียหน่อย"ผมเลยแนะนำภูเก็ตไป แต่เธอบอกว่าไม่เอาเพราะเคยไปแล้ว ไม่ชอบ"ถ้างั้นก็เกาะช้าง หรือ หัวหินก็ดี" ผมแนะนำพร้อมบอกข้อควรระวังสำหรับเกาะช้างไปด้วย โดยเฉพาะการจราจร หนังสือแนะนำท่องเที่ยวเกาะช้างฉบับกระเป๋าเล่มหนึ่งแนะนำไว้เลยครับว่า ที่นั่นมีคนตายจากการจราจรทุกปี โดยเฉพาะคนที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งคนท้องที่และนักท่องเที่ยวที่เช่าขับ เขาบอกว่า"ในยุโรปนั้น ถ้ารถบรรทุกกระพริบไฟให้คุณ แสดงว่าคนขับเห็นคุณแล้ว ให้คุณข้ามถนนไปได้ เขาจะหยุดให้ ไม่ว่าจะเป็นคนข้ามทางม้าลายหรือรถตัดหน้า""แต่ที่เกาะช้างนั้น ถ้ารถบรรทุกกระพริบไฟให้ แสดงว่าคนขับเห็นคุณแล้ว หน้าที่ของคุณคือหลบไป เลือกเอาว่าจะอยู่หรือตาย"เธอฟังพร้อมกับหัวเราะ อ้าปากหวอ จากนั้นผมเลยถามกลับว่า เธอไม่กลับสเปนบ้างเหรอ ที่สเปนก็น่าจะมีทะเลสวยนะเธอบอกว่า "ไม่กลับหรอก ฉันมีธุรกิจต้องดูแลอยู่ที่อินเดีย ที่สเปนตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนตกงานตั้งเกือบ 30% ... แย่มากๆ"ผมพยักหน้าพลางคิดในใจว่า "อืม ... เมืองไทยว่าแย่ ก็ไม่ขนาดนั้นนะ เดินไปเจอ 10 คนนี่ว่างงานซะ 3 คนก็ยังไงอยู่นะ"ก่อนออกไป ผมให้เธอยืมร่มไปด้วยเพราะฝนเริ่มตก แม้ว่าเกสต์เฮาส์ของเธอไม่ไกลนัก แต่เธอก็รับไปพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะมาคืนทีหลัง..........ผมเคยกล่าวถึงหนุ่มสเปนคนหนึ่งกับสาวอังกฤษอีกคนที่ขี่จักรยานท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ ไว้ครั้งหนึ่ง - เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนทั้งคู่กลับมาแวะทักทายที่ร้าน หลังจากที่ชายหนุ่ม "Jesus Enlaponia" กลับบ้านที่สเปนช่วงคริสมาสต์ปลายปีที่แล้ว ส่วนหญิงสาวชาวอังกฤษ "Sarah Mullins" กลับอังกฤษก่อนจะมาตั้งต้นใหม่ที่ภาคเหนือของไทย ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แล้วมานัดเจอกับชายหนุ่มอีกทีที่กรุงเทพจีซัสนั้น เขียนอัพเดทการเดินทางอยู่ที่บล็อกสปอต//trustinadream.blogspot.com
ส่วนซาราห์นั้น เธอเขียนบล็อกอยู่ที่ weebly//cyclinglandsinbetween.weebly.com
ทั้งสองเจอกับผมหลายครั้งปีที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดผมให้ยืมโลนลีแพลนเน็ตประเทศลาวไปซีรอกซ์ เพราะทั้งสองใช้ข้อมูลในนั้นไม่เท่าไหร่ เลยไม่อยากซื้อทั้งเล่ม หลังจากนั้นจีซัสได้ให้ของที่ระลึกไว้เป็น ที่คั่นหนังสือ ดัดมาจากคลิปหนีบกระดาษ ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้แต่ครั้งล่าสุดทั้งคู่มีของที่ระลึกมาฝากให้ผมใหม่ หลังจากผมให้แผนที่ภาคเหนือ 1 แผ่นไปกับซาราห์ ตอนบินเดี่ยวหลังปีใหม่ก่อนเจอจีซัส เธอบอกว่ามันแม่นอย่างวิเศษแม้กระทั่งปั๊มน้ำมัน แผนที่แผ่นนั้นช่วยให้เธอเดินทางสะดวกขึ้นมาก ขึ้นภู ท่องไปในดง Karen - กะเหรี่ยง ได้อย่างดีของที่ให้มานั้น เป็นยางล้อรถจักรยานที่ใช้อยู่ 1 เส้น ถ้าผมจำไม่ผิด จีซัสบอกว่า จากเมืองไทยไปนี่จะไปต่อที่อินเดีย-เนปาล จำเป็นต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ให้หน้ายางเหมาะกับสภาพถนน พอดีเส้นนี้ยังใช้ได้ดี เลยฝากให้เป็นของที่ระลึกพร้อมกับอนุญาตให้ส่งต่อกับคนอื่นได้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ ดีกว่าทิ้งไปเฉยๆ
Hey Jesus, I annouce for your donation already. Enjoy your trip!!!
ตอนนี้หนังสือสเปนยังน้อยอยู่รึเปล่าครับ
หรือเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว