Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ล่องไพร ในร้านหนังสือ

สวัสดีครับผู้ชื่นชมการอ่านทุกท่าน ยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ มีอวัยวะครบ 32 ยังสบายดีและกินข้าวได้รสอร่อย

ร้านหนังสือยังเปิดบริการลูกค้าไทย-เทศทุกท่าน ทั้งหนังสือท่องเที่ยว และหนังสืออ่านเล่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮีบรูว์ และอื่นๆ

เข้าไฮซีซันแล้ว ลูกค้าเยอรมันและแคนาดาเริ่มทยอยหนีหนาว หนีหิมะ เข้ามายังบ้านเราสักพัก ก่อนที่นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจะล่องใต้ลงสู่ดินแดนจิงโจ้และหมีโคอาลาอันเป็นปลายทางเกรดเอ บางส่วนอาจกระจายเข้าไปยังมาเลเซีย จนถึงอินโดนีเซีย ประเทศกึ่งอารยะอันมีมนต์เสน่ห์ นอกจากบาหลีกับนาขั้นบันไดแสนสวยแล้ว เกาะบอร์เนียวก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงอีกแห่งหนึ่ง เกาะนี้เป็นเกาะ 3 ประเทศประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไนรวมเข้าด้วยกัน โลนลีแพลนเนตเองต้องออกปกใหม่เฉพาะเกาะบอร์เนียวออกมาเป็นเล่มต่างหากในปี 2008 ซึ่งไฮไลท์นั้นอยู่ที่ภูเขาคินาบาลู กับเกาะสิปาดันอันสวยงามอย่างแน่นอน



การูด้า หรือ ครุฑ สัญลักษณ์แห่งอินโดนีเซีย



Lonely Planet Borneo ปกแรก ปี 2008

พูดถึงอินโดนีเซีย ก็ต้องนึกถึงการูด้า หรือ ครุฑ อันทำให้ผมนึกถึงหนังสือนิยายท่องป่า "ล่องไพร" ของบรมครู มาลัย ชูพินิจ ในนามปากกา "น้อย อินทนนท์" ตอน "วิมานฉิมพลี"

เนื้อเรื่องของภาคนี้ เป็นยังไงผมจำไม่ได้แล้ว คลับคล้ายคลับคลาว่ามีคนป่าขี่นกยักษ์บินมาสร้างปัญหาในหมู่บ้าน .... แต่ที่จำได้แม่นกลับเป็นเล่มแรก อ้ายกระทิงแฝดเขาเก กับ ช้างงาดำ ... กลอุบายลวงศัตรูของกระทิงเขาเกที่เดินถอยหลังทับรอยเท้าของตัวเอง เพื่อหลอกพรานผู้ล่านั้น พอๆกันกับมหิงสาหรือควายป่าที่เล่นบททัพหลัง เอาเถิดเจ้าล่ออยู่กับ รพินทร์ ไพรวัลย์ กับ แงซาย ก่อนจะเข้าถึงฝูงของ "อ้ายแหว่ง" ช้างหูแหว่ง-งากุด ของ "พนมเทียน"

ตาเกิ้น พรานนำทางของล่องไพรนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งเข้าสู่สมรภูมิหนังสือในห้องสมุดของโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ตั้งแต่ ม.1 ทุกวันพักเที่ยงกินข้าวแล้วเจอกัน หลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็ติดกับดักของ พนมเทียน จนไปไม่เป็น ... ทุกๆปิดเทอม เด็กคนนั้นจะเดินจากบางลำพู ข้ามสะพานตลาดนานา เลี้ยวขวาไปยังร้านเช่าหนังสือของสำนักพิมพ์หรรษา เพื่อเปลี่ยนหนังสือเพชรพระอุมา วันละเล่ม / เล่มละ 3 บาท แล้วก็ขยายต่อไปยังซีรีส์ของกรมสืบราชการลับ ตั้งแต่ คมน์ สรคุปต์ ผู้เข้ามารับบทดาวโจร ชีพ ชูชัย จนขยับขยายกลายไปเป็น "ตัวพ่อ" หัวหน้าสูงสุดแห่งครุฑดำผู้ดูแล "จักรวิดา กฤษฎาการ" รหัส "แจ็ค" ใน "มัจจุราชสีรุ้ง" / พันตรียู่เหม่ และเจ้าหญิงปิ่นหล้าแห่งแคว้นฉาน / "ฤทธี นฤบาล" หรือ "กัปตันอิสมาแอล ชาห์" / "กงจักร กมลาสน์" ในนาม "จักร มเหศวร" / "สิงห์ เมฆพัด" และคู่หู "แชน มีเชิง" / "พ่อเลี้ยงเฉียบ ชัยณรงค์" คู่ปรับของ "ผู้กองธรณี ธนฤทธิ์"

..... ตัวละครเหล่านี้ ทำให้เด็กคนนั้นเดินวนไปเวียนมาระหว่างบางลำพู-ตลาดนานาแทบทุกปิดเทอม วัดเป็นระยะทางน่าจะได้เป็นร้อยกิโลเมตร รองเท้าสึกไปหลายคู่ จนกระทั่งสำนักพิมพ์หรรษาย้ายไปจากตลาดนานา ภารกิจเดินทนทุกปิดเทอมก็เป็นอันปิดจ็อบแรกไป



ล่องไพร ปกนี้น่าจะก่อนผมเกิด



เพชรพระอุมา ปกแรกนี้แน่นอนครับ พ.ศ. 2512 ก็ 42 ปีแล้ว

... แต่ "ธาตุการอ่าน" ยังคงตกผลึกอยู่ในตัวเด็กคนนั้นอยู่ ทีนี้ก็อ่านมันแทบทุกอย่างนะครับ จนกระทั่งทำงานเก็บเงินได้ก็จัดการซิวซะ ทั้งชุด 3 ภาคของเพชรพระอุมา และอีก 5 ภาคของ เล็บครุฑ-ฑูตนรก-ผลาญพระยม-มัจจุราชสีรุ้ง-สิงห์สั่งป่า .... มาอยู่ในตู้หนังสือของผม ..... อ้าว เด็กนั่นคือผมเองแฮะ

... ผมเคยได้ยินคำกล่าวถึงคนอ่านหนังสือที่ฟังแล้วขำแต่จริงอันหนึ่ง คือ สำหรับคนที่ชอบอ่านแล้วละก็ ต่อให้ในห้องมีเพียงหนังสือทำกับข้าวอยู่เล่มเดียวก็ไม่ทำให้พลาดจากการอ่านไปได้ เขาผู้นั้นจะอ่านแทบทุกหน้า ตั้งแต่โฆษณาที่ปกใน คำนำ สารบัญ (หนังสือถักโครเชต์ไม่นับนะครับ เพราะมีแต่แบบกากบาทกับไหมที่ใช้ ... หุ หุ)

เอ้า เอ้า ..... นั่งไทม์แมชชีน ย้อนอดีตไปตั้งไกล ขอกลับมาโลกปัจจุบันบ้างดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวจะกู่ไม่กลับเหมือนนักการเมืองไดโนเสาร์บางคนในสภา 500 ... อันตัวผมเองใช้สิทธิเลือกตั้งมาได้ 20 กว่าปีแล้ว ก็ยังเห็นพวกหน้าเก่าๆบางคนที่ เปลี่ยนพรรคไปๆมาๆ ดูเหมือนสัมภเวสีไม่ได้ไปผุดไปเกิดเสียที .... โอ๊ะ โอ๊ะ ขอโทษครับ เข้ารกเข้าพงอีกแระ

.....

ประมาณหลายเดือนก่อน มีสาวไทยคนหนึ่งมากับเพื่อนอีก 2 คน เดินเข้าร้านมาถามหา โลนลีแพลนเน็ต "Munich, Bavaria & the Black Forest" ปีล่าสุด 2008 เธอเป็นคนแรกที่ถามหาปกนี้ โดยที่ผมได้แต่ยืนสลดด้วยความเสียใจที่มีในมือเป็นเยอรมันปกเก่า ซึ่งเธอรับไปพิจารณาก่อนจะยื่นคืนมาให้พลางส่ายหน้า เธอบอกว่าจะไปเที่ยวประมาณหนึ่งเดือน ซึ่งโฟกัสไปที่มิวนิคกับป่าดำเท่านั้น

มีไม่น้อยนะครับที่ผมสั่งหนังสือมาเพียงเล่มเดียว ซึ่งเป็นประเภทเผื่อฟลุคว่าจะมีใครที่ไหนหนอหลงมาซื้อปกอย่างว่า บัลแกเรียยังงี้ เซาท์แปซิฟิคยังงี้ ... ผมจำได้มีอยู่ปกหนึ่งที่ผมเองสั่งมาแล้วยังงงตัวเองเลยว่าจะมีใครไปบ้างวะ โลนลีแพลนเน็ตโมซัมบิค ... พอเขาเอามาส่งได้ดูหน้าปกแล้วก็ "ซวยแล้วกู" คือประมาณว่าตอนเลือกสั่งซื้อมานี่อยากได้ปกแปลกๆ แต่พอรอขายไปนี่รอเหงือกแห้งคล้ายๆกับ "เหมยลี่" ในรถไฟฟ้ามาหานะเธอ

"ใครมันจะไปโมซัมบิค แล้วมาแวะเที่ยวประเทศไทยก่อนวะ สิ่งเดียวที่ผมรู้จักเกี่ยวกับประเทศนี้ คือ นักฟุตบอลที่ชื่อ "ยูเซบิโอ-เสือดำแห่งโมซัมบิค" ... เกาะมาดากัสการ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโมซัมบิคบนแผ่นดินแอฟริกาใต้ ยังดูจะน่ารู้จักกว่าเลย เพราะการ์ตูนของฮอลลีวู้ดออกมา 2 ภาคแล้ว (ผมชอบแกงค์ผู้พันเพนกวินมาก ฮาตลอดเรื่อง) คงมีแต่ "คุณติ๊ก-จงกลณี สถิรอัศวนันท์" ภรรยาของคุณวีระ นุตยกุล แห่งรายการ "ผจญภัยไร้พรมแดน" เท่านั้นละมั้ง ที่จะไปโมซัมบิค" (ส่วนน้องติ๊ก-กัญญารัตน์ จิรรัชกิจ คนสวยขาใหญ่ เธอเที่ยวแต่ญี่ปุ่น ใน SAY HI!!!) ... แต่แล้วก็มีนางฟ้ามาโปรด เอ้า ... เธอเป็นนางฟ้าจริงๆนะครับ เธอจะไปโมซัมบิค หลังออกจากประเทศไทย เธอเป็นสาวอเมริกันสวยประมาณเรเน เซลวีเกอร์ นางเอกบริดเจท โจนส์ไดอารี ทำงานเป็น NGO ทำโครงการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ แล้วยื่นโปรเจคท์ศึกษาให้รัฐบาลแลกกับทุนสนับสนุนโครงการ ... หึ หึ เธอจะไปโมซัมบิค เพื่อศึกษาพายุ เธอว่าที่นั่นพายุเยอะประมาณทุ่งทอร์นาโดในสหรัฐเลยทีเดียว



Lonely planet Mozambique 2008 ปกเป็นรูปเรือใบอย่างนี้แสดงว่า น่าจะมีลมแรงเป็นธรรมชาติ

เธออธิบายการทำงานบ้าง โครงการบ้าง ให้ฟังอีกหลายอย่าง ส่วนผมก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง มัวแต่ยืนอมยิ้มด้วยความดีใจที่มีลูกค้ามาซื้อแล้ว อารามดีใจ ผมเลยแถมพวงกุญแจให้นางฟ้าผู้จะไปโมซัมบิคไป 1 อัน หลังจากนั้นผมก็ ... ไม่สั่งปกโมซัมบิคอีกแล้ว หึ หึ

แต่ปก "Munich, Bavaria & the Black Forest" นี่ไม่อย่างนั้นสิ คือผมประมาณได้ถูกต้องเลยไม่ได้สั่งมาไว้ ... คือประมาณว่า 2 ปีจะครึ่งมานี้ มีพี่มาถามหาคนเดียวนี่เป็นการการันตีได้ว่า มันไม่ควรสั่งมารอขายอย่างแน่นอน แต่ถ้าจะซื้อละก็มัดจำไว้ แล้วอีก 2 สัปดาห์มารับก็ได้ ... แต่ผมก็เสียโอกาสการขายไปสำหรับสาวไทยผู้นี้



Black forest บนปก ปี 2008 ดูดี มีชาติตระกูล



ส่วน Black forest อันนี้ ดูแล้วหิวครับ

พูดถึงป่าวันนี้ ทำให้อดจะเอ่ยถึงไม่ได้ครับกับ "Bear Grylls" จากรายการ "Man vs Wild" ... ผลกระทบอย่างหนึ่งของน้ำท่วมคราวนี้คือมันทำให้ผมนอนดึกได้ เพราะบริษัทถูกน้ำท่วมสูง 1.8 เมตร ความลึกระดับนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น นอกจากกลับไปตั้งหลักที่บ้านโดยไม่ต้องตื่นเช้าไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ทีนี้ก็ดูข่าวน้ำท่วมไปเรื่อย ช่องไทยพีบีเอส ดูจะได้ข้อมูลชัดเจนดี โดยเฉพาะช่วงที่พิธีกรคุณดาริน คล่องอักขระกับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วม รอบกลางวันและรอบดึก



ตอนที่ ดร.เสรี บอกว่าน้ำจะล้นบิ๊กแบ๊กภายใน 7 วัน ถ้า กทม. ระบายน้ำไม่ทัน ... ได้ใจจริงๆ

ทีนี้ก็ดูต่อโดยเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ข่าวสามมิติ / ตอบโจทย์ / ข่าววันใหม่ ฯลฯ ก็ไปเจอรายการ "มิติโลกหลังเที่ยงคืน ตอน ผจญภัยสุดขั้ว" ดำเนินรายการโดยพ่อหนุ่มหมีคนนี้แหละ คือตอนที่ดูจะเป็นตอนที่เขาไปโดดร่มลงบนเกาะร้างบ้าง ป่าลึกบ้าง ทะเลทรายบ้าง ภูเขาหิมะบ้าง โดยอาจจะมีอุปกรณ์ติดตัวเล็กๆน้อยๆ เช่น มีดพับ หินไฟ หรือไม่ก็กระติกน้ำ 1 ใบ โดยมีโจทย์ว่าต้องเอาตัวรอดออกมาให้ได้ และเดินทางออกไปจนพบกับผู้คน ระหว่างนั้นก็จะมีทีมงานถ่ายทำตามไปบันทึกรายการ

ไฮไลท์เล็กๆก็จะเป็นตอนที่ต้องหาน้ำกินตามป่าเขา ใต้ซอกหิน กินน้ำจากขี้ช้าง หาอาหารกินดิบๆ กินแมงป่อง หนอน กบ งู ปลา ดิบๆ ก็ดูสนุกดีใช้ได้ ..... คือดูเป็นรายการสารคดีเอาชีวิตรอดในป่าเขากันดาร สถานที่แปลกๆ การปีนเขา มุดถ้ำ ทุ่งน้ำแข็ง ไม่มีพิษมีภัยอันใดกับเด็กๆ ก็โอเค ส่วนไอ้การกินงูดิบๆ มุมกล้องโคลสอัพตอนกัดหนอนอ้วนตรงกลางตัวให้มีน้ำเหลืองๆไหลย้อยออกมาจากปากนี่ก็ ถือเป็นไฮไลท์เล็กๆ พอแหวะ พอผะอืดผะอม นิดๆหน่อยๆพอหอมปากหอมคอ ..... (แต่ถ้าจะดูเอาโรคจิต ผมว่าไอ้เมนูปลาหมึกสดเต้นระบำของเกาหลี ญี่ปุ่น นั้นดูแล้วโรคจิตกว่ากันเยอะ) ..... แต่ เอ๊ะ หรือไอ้ผู้กำกับมุมกล้องมันโรคจิตจริงๆ เคยดูคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำ ไอ้ผู้กำกับมันพูดไปหัวเราะไปบอกแบร์ กริลล์ตอนมีเมนูรวมแมงป่อง ตั๊กแตนอยู่ในปาก ประมาณว่า

"เฮ้ย คายไม่ได้ มึงต้องกลืนลงคอไปให้เห็นนะ รู้เปล่าไอ้พวกผู้ชมทั้งหลายน่ะ มันรอดูตอนนี้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ .... ไอ้ที่ปีนเขาแทบตกลงไปตายห่าน่ะ มันไม่สนใจเท่าไหร่หรอก ส่วนไอ้ตอนที่แล้วในทะเลทราย ที่มึงบอกว่ากินเยี่ยวตัวเองไปเพราะหาน้ำไม่ได้น่ะ มันไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ เขาโทรมาด่าที่สถานีจมหูเลย" .... เอ่อม ผมอาจจะแปลผิดก็ได้นะ อย่าคิดมาก หุ หุ



"Bear Grylls" จากรายการ "Man vs Wild"



ตัวอย่างเล็กๆกับการกินงูเป็นๆ หางมันยังกระดิกอยู่เลย

สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ให้ความสุขกับตัวเองบ้าง ทุกข์บ้างก็ไม่เป็นไร สุขมาเดี๋ยวก็ผ่านไป ไม่มีอะไรอยู่ยั่งยืน เอาเวลาไปเที่ยวบ้าง เข้าป่า หาน้ำตก หรือไปทะเล นอนชายหาดอ่านหนังสือ ก็น่าจะดี ..... ชีวิตนี้สั้นนัก อย่าเยอะ อย่าเยอะ



Jason Mraz



ภาพบางส่วนจากมิวสิควิดีโอ I'm yours ของ Jasom Mraz

https://www.youtube.com/watch?v=EkHTsc9PU2A&ob=av3e

.....

Well open up your mind and see like me
open up your plans and damn you're free
look into your heart and you'll find love love love love
listen to the music of the moment people dance and sing
We're just one big family
And it's our godforsaken right to be loved loved loved loved loved

So, i won't hesitate no more,
no more, it cannot wait i'm sure
there's no need to complicate our time is short
this is our fate
I'm yours

.....

Well open up your mind and see like me
open up your plans and damn you're free
look into your heart and you will find that the sky is yours

so please don't, please don't, please don't,
there's no need to complicate,
Cause our time is short
This, this, this is our fate,
I'm yours


Create Date : 27 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 5 ธันวาคม 2554 21:26:23 น. 0 comments
Counter : 4486 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.