Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
14 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน สาวปารีเซียง

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีอวัยวะครบ 32 ประการ ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ ในโลกแห่งความวุ่นวายใบนี้ ในประเทศนี้ที่มีหลายๆสิ่งที่น่ารื่นรมย์ ทั้งอาหารอร่อยๆติดอันดับโลก เช่นแกงมัสมั่น เครื่องดื่มติดอันดับโลก เช่น ชานมเย็น



ชานมเย็นของไทย ไปไกลกว่า บอลไทยไปบอลโลก

ตลอดจนกระทั่งถึงสิ่งที่ไม่น่ารื่นรมย์อีกหลายๆอย่าง เช่น คนไทยดื่มเหล้ากลั่นมากเป็นอันดับ 5 ของโลก (มากกว่าค่าเฉลี่ย 9 เท่า) .... ข่าววัยรุ่นไทยตั้งครรภ์สูงสุดในเอเชีย - อันดับ 2 ของโลก (เด็กสุด 9 ขวบ ... ท้องแล้ว)

หรือแม้กระทั่งข่าวที่ออกจะงงๆว่าดีหรือไม่ดีก็ไม่รู้ เช่น ข่าวคนไทยใช้เฟสบุ๊คติดอันดับ 16 ของโลก ... กรุงเทพเป็นเมืองที่ใช้เฟสบุ๊คติดอันดับ 5 ของโลก !!!

ก็ว่ากันไปครับ ... แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ถนัด มันเป็นความหลากหลายทางชีวภาพที่ต้องยอมรับ และเป็นประชาธิปไตยตามกระแสอย่างแน่นอน ... แต่ขออนุญาตมองต่างสักนิดหนึ่ง อ้างอิงจากหัวใจพุทธศาสนา 3 ประการว่าคนเราเกิดมาเพื่อ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส เพื่อหลุดพ้นจากวัฏสังสารในบั้นปลาย .... ถ้างั้น "แล้วแต่ชอบ" แบบไทยๆในข้างบนย่อหน้าที่ 2 และ 3 ก็คงจะได้แต่วนๆอยู่ในวัฏนี่แหละ เป็น "ที่ชอบๆ" ที่ถูกใจและทำให้ไม่ต้องหลุดพ้นออกไปที่ไหนได้เสียที

สำหรับใครบางคนที่รู้ตัวและตั้งใจเดินทางอ้อม หรือตั้งใจวนๆอยู่ในวัฏนี้ ก็ขอเชิญตามสะดวกครับ แต่สำหรับใครบางคนที่เผลอๆไป ไม่รู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจ ก็ขอสะกิดๆสักนิดก็ยังดี ว่าจากเกิดจนตายนั้น มันน่าจะมีทางตรงที่ทะลุได้ หรือไม่ก็เบี่ยงบ้างเล็กน้อยพองาม .... ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับมันก็ได้

... ขอบพระคุณที่เสียเวลา อ่านมา 5 ย่อหน้า ... พอดีอ่านข่าวแล้ว เส้นประสาทกระตุกนิดหน่อย หุหุ

เอ้า แวะเข้ามาครับ เชิญ .... ร้านหนังสือยังเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งไกด์บุ๊คต่างประเทศ มือหนึ่ง มือสอง มีคอลเลกชันให้ได้เลือกชมกัน ซื้อได้ เช่าได้ ขายคืนก็ได้

วันก่อนนี้ หลังจากที่ลูกค้าหนุ่มชาวเยอรมันเข้ามาที่ร้าน เดินไปเดินมา 2 รอบก็เลือกหยิบราฟท์ไกด์บาหลีมือสองกับโลนลีแพลนเน็ตฟิจิปกเก่าไปแล้ว ผมเจอกับลูกค้าสาวผมทองชาวยุโรปคนหนึ่งที่เข้ามาทำให้ผมกลายเป็น "คนดี" ขึ้นมาเป็นพิเศษโดยไม่ได้ตั้งใจ ...

"คุณมีแผนที่จังหวัดเชียงใหม่หรือเปล่า" เธอถามพร้อมมองไปที่แป้นล้อหมุน

"มีครับ" ผมหยุดเกมส์ไพ่โป๊กเกอร์ชั่วครู่ แล้ววาดมือไปที่แผนที่เชียงใหม่ของ 2 บริษัทที่วางขายอยู่ ... หนึ่งกันน้ำ แผ่นเล็กกว่า และอีกหนึ่ง แผ่นใหญ่กว่า แต่เป็นกระดาษธรรมดา พร้อมแกะออกจากซองพลาสติกให้ดู และบอกราคาเสร็จสรรพ

เธอส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ และไม่พูดอะไรแต่กลับหันไปทางชั้นวางหนังสือไกด์บุ๊คมือสองแทน ก่อนที่จะเริ่มลงมือพลิกโลนลีแพลนเน็ตไทยแลนด์ดูเงียบๆ ผมอมยิ้มมุมปากก่อนจะเก็บแผนที่แล้วเดินกลับไปเล่นไพ่โปกเกอร์เท็กซัสต่อ ... อืมมม แจกไพ่ใหม่รอบนี้ จะเข้าฟูลเฮาส์ หรือ สเตรทฟลัชไหมว้า

"คุณๆ ขอโทษนะ ฉันขอยืมเล่มนี้ไปซีรอกซ์หน่อยได้ไหม" เสียงเธอถามมา ขณะที่ยื่นหนังสือโลนลีแพลนเน็ตมาให้ดู หน้าที่เปิดไว้คือหน้าที่เป็น "แผนที่กลางเมืองเชียงใหม่"

ผมมองแผนที่แล้วกระพริบตาปริบๆ "เธอคิดอะไรอยู่ ... เธอไม่ซื้อแผนที่เชียงใหม่ที่มีขาย แต่ขอยืมหนังสือไปถ่ายเอกสารหน้าแผนที่เชียงใหม่นั้นน่ะ ... "

"คุณจะ ... ขอยืม ... หนังสือไปซีรอกซ์แผนที่เชียงใหม่ ... เหรอ" ผมทวนคำถามเพื่อความมั่นใจ เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจกลับไปซื้อแผนที่ 1 ใน 2 ฉบับนั้น

"ใช่ คุณไม่ต้องห่วงหนังสือนะ ฉันจะเอากระเป๋าสะพายของฉันวางไว้ที่นี่ เพื่อรับประกันว่าฉันกลับมาคืน" เธออธิบายหน้าชื่นตาบาน

ผมทำตาปรือเล็กน้อย "ไม่ดีละมั้ง ผมทำธุรกิจนะ แล้วผมได้อะไร" พลางตะโกนเงียบกริบในใจ "ที่นี่มันดูเหมือนห้องสมุดหรือองค์กรการกุศลตรงไหนกัน ... หรือหน้าตาของผมมันไม่ดุเหมือนลูกจ้างขายของในถนนข้าวสาร"

"You will be the good guy." เธอยิ้ม

ผมมองหน้าเธอพร้อมนั่งนิ่งๆอยู่กึ่งอึดใจ ก่อนหัวเราะ "ก็ได้" พลางคิดในใจ "เอาวะ เมื่อยูกล้าขอกันขนาดนี้ ไอก็กล้าให้เหมือนกัน ... เด๋วจะหาว่าแล้งน้ำใจ ไม่ใช่ "คนดี" "

เธอยิ้มร่าอย่างมีความสุข วางกระเป๋าไว้แล้วเดินออกไปพร้อมหนังสือ ส่วนผมก็ส่ายหัวดิกๆแล้วหันมาฟาดฟันกับเพื่อนร่วมวงต่อ "อ๊า .... ไอ่ วินนน" สาวคาวบอยหัวเราะ ก่อนแบไพ่ 2 คู่ในมือพร้อมกับกวาดชิพในกองไปจนหมด

5 นาทีผ่านไป เธอเดินกลับเข้ามาในร้าน ยิ้มแล้วยื่นหนังสือพร้อมกับธนบัตร 1 ใบมาให้ผมก่อนออกจากร้านไป "ขอบคุณมากนะ ... แล้วคราวหน้า ฉันจะกลับมาซื้อหนังสือจากคุณ"

ผมพลิกธนบัตรในมือใบนั้นไปมา มูลค่าของมันยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของราคาแผนที่เลย

... หึ หึ คราวหน้าอีกแล้ว คราวหน้าเหมือนกับ 2 สาวฝรั่งเศสที่ขอต่อราคาหนังสืออ่านไป 2 เล่ม พร้อมกับคำยืนยันว่าวันพรุ่งนี้จะเอาหนังสือเล่มหนึ่งมาให้แทนส่วนลด แล้วผมก็ไม่เคยเห็นหน้าเธออีกเลย

... คราวหน้าเหมือนกับสาวชาวยิว ที่เอาโลนลีแพลนเน็ตไชนา ฮีบรูว์มาขอส่วนลดโลนลีแพลนเน็ตพม่ามือสองใหม่กิ๊ก ก่อนจะสัญญาว่า "I will be back and change for Nepal guide, I promise to you" ... ฉันจะกลับมาเปลี่ยนเอาหนังสือไกด์บุ๊คเนปาล ฉันสัญญา ...

... สัญญา อย่างกับวิญญาณโกโบริที่ทางช้างเผือกเลยเธอ



โลนลีแพลนเน็ตจีน ในภาษาฮีบรูว์ เล่มล่าสุด

พูดถึง "คนดี" ขึ้นมา ทำให้ผมนึกถึงเธอคนหนึ่งขึ้นมา เธอคนนี้เข้ามาในร้านเพื่อเอาหนังสือรุทตาร์ทตุรกีกับนอร์ทอินเดียปกเก่ามาแลกกับรุทตาร์ทไทยแลนด์ปกล่าสุด หลังจากนั้นเธอก็เข้ามาตามหาโลนลีแพลนเน็ตพม่าภาษาฝรั่งเศส รวมแล้วเธอเข้ามาในร้านประมาณ 5-6 ครั้ง เธอเป็นสาวปารีเซียง

ปลายปีก่อน ช่วงวันทำงานกลางสัปดาห์ หลังจากผมกลับจากงานประมาณทุ่มเศษ เธอเข้าในร้านถามหาไกด์บุ๊คไทยแลนด์-เฟรนช์ ผมชี้ไปที่ชั้นกลางร้าน-แถวที่ 2 จากด้านล่างที่มีไกด์บุ๊คภาษาฝรั่งเศสวางเรียงกันอยู่ 60-70 เล่ม เธออุทานตาโตแล้วปรี่เข้าหาอย่างดีใจ ก่อนจะเลือกได้เล่มที่ต้องการออกมาถือไว้



Routard Thailand 2011 - ปกคุณยายชาวเขาถือกล้องสูบยาอยู่ในมือ

"คุณรับแลกหนังสือด้วยหรือเปล่า ฉันมีหนังสือจะมาแลกกับคุณเล่มนี้" เธอถามตาวาว

"รับสิ บางทีผมอาจจะแลกให้คุณฟรีนะ แต่บางทีคุณอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม ผมต้องขอดูหนังสือที่คุณจะแลกก่อน" ผมยิ้มดีใจกับลูกค้าและตัวเอง ... เรากำลังจะได้ทำธุรกิจกัน

"ถ้างั้นคุณเก็บเล่มนี้ไว้ให้ฉันด้วยนะ พรุ่งนี้ฉันเอาหนังสือมาแลก พอดีโรงแรมที่ฉันพักอยู่ไกลไปหน่อย วันนี้ฉันคงกินอาหารเย็นแล้วกลับที่พักก่อน" เธอให้ผม ... สัญญา ว่าจะเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้ให้

"ได้สิ" ผมรับปากเธอก่อนออกจากร้านไป .... ปากแข็ง แต่ใจอ่อน หนังสือที่จะเปลี่ยนเล่มนั้นคงไม่รอดมาหาผมพรุ่งนี้แน่ๆ ผมคิด

วันรุ่งขึ้นผมฟาล์วจริงๆด้วย เธอมาก่อนผมกลับเข้าถึงร้าน ผมนึกอยากเขกกะโหลกตัวเองแรงๆ ที่ช้าไปเพียง 10 นาทีหลังจากที่เธอออกไป ผมพยายามไปยืนรดน้ำต้นนางกวักหน้าร้านอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ตัดใบเหลืองก็แล้ว เก็บขยะที่กระถางชวนชมหน้าร้านก็แล้ว ก็เงียบกริบ .... เธอคงไม่ได้แวะอยู่แถวนี้

วันถัดไปผมกลับมาอย่างเร็วเพราะรถไม่ติด และภาวนาให้เธอกลับมาอีก .... ได้ผล เธอปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

"เมื่อวาน คุณไม่อยู่" เธอกล่าวยิ้มๆ เชิงต่อว่าพร้อมยื่นหนังสือให้ผม 2 เล่ม

"ขอโทษที เมื่อวานผมกลับช้าไปหน่อย" ผมกล่าวขณะพลิกหนังสือ 2 เล่มนั้นตรวจสภาพ และประเมินราคา "คุณอยู่เมืองไทยนานหรือเปล่า แล้วจะกลับมาคืนผมไหม"

"กลับมาสิ ฉันจะลงใต้ไปพักผ่อนที่ทะเลสัก 2-3 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมากรุงเทพอีกครั้ง"



สาวปารีเซียง ผู้เดินตามความฝัน

คุยกันไปมาพักใหญ่ ได้ความว่าเธอเรียนจบแล้ว แต่ไม่ได้ทำงานประจำอะไรที่ไหน หากแต่กลับเก็บข้าวของพร้อมเพื่อนชายออกเดินทางมาที่เอเชีย เพื่อทำสกู๊ปทั้งสัมภาษณ์และบันทึกเทปเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เธอสนใจ เธอวางแผนไว้ประมาณ 30 โปรเจ็คท์ หลังจากนั้นเธอจะนำมันกลับไปที่ฝรั่งเศส แล้วนำเสนอให้กับโรงเรียนที่นั่น

ผมสงสัยเป็นกำลัง "คุณใช้ทุนจากรัฐบาลเหรอ คุณเป็นเอ็นจีโอหรือเปล่า"

"เปล่า ฉันใช้เงินเก็บของฉันเอง ฉันคิดว่าหลังจากที่นำเสนอกับโรงเรียนแล้ว ฉันอาจจะตั้งบริษัทและเมกมันนีจากสารคดีเหล่านี้ได้บ้าง" เธออธิบาย

"เข้าใจล่ะ" ผมเริ่มเห็นภาพหนุ่มเช็คแห่งรายการ "คนค้นคน" ขึ้นมารำไรๆ



ชายหนุ่มผู้เป็นสัญลักษณ์ แห่งทีวีบูรพา และ รายการ คนค้นคน

"ที่อินเดีย ฉันได้มา 3 โปรเจ็กท์แล้ว คนแรกเป็นวิศวกรโยธาที่ออกแบบและสร้างห้องส้วมที่ใช้น้ำน้อยมาก คุณรู้ไหม ผู้คนที่นั่นยากจนมาก จนไม่มีเงินพอที่จะสร้างห้องส้วมในบ้านได้ ทำให้พวกเขาต้องขับถ่ายนอกบ้าน ตามถนนและพื้นดินทั่วไป วิศวกรคนนี้สร้างส้วมประหยัดน้ำนี้ได้มากกว่า 1000 หลัง ตลอด 3 ปีที่เขาทำมา เพื่อบริจาคให้กับคนยากจนทั่วไป"

"นอกจากนั้น คนที่ 2 ก็เป็นครูที่ทำโรงเรียนเคลื่อนที่ เพื่อออกไปสอนหนังสือให้กับเด็กๆตามท้องถนน ส่วนคนสุดท้ายคือคนเก็บขยะที่ทำโครงการรีไซเคิลขยะที่เธอเก็บมา" เธอเล่า

"แล้วเมืองไทยล่ะ คุณแค่แวะพักผ่อนหรือมีโปรเจ็คท์ติดมาด้วย" ผมพยักหน้าแล้วถามไป

"ฉันวางแผนไว้ 2 เรื่อง หนึ่งคือเรื่องชาวสลัม ในความเห็นของฉันนะ คนที่อยู่ที่นั่นนานๆ พอเจ้าของที่มาไล่ เขาควรจะต้องจ่ายเงินให้กับชาวสลัมเหล่านั้นบ้าง ฉันนัดคนที่จะสัมภาษณ์ไว้วันนี้ แต่เธอไม่มา" เธอเล่า

"ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง คุณรู้ไหมเรื่องอะไร ในถนนข้าวสารนี่ก็เยอะ" เธอถามต่อ

"นักท่องเที่ยวเหรอ" ผมส่ายหน้าไม่แน่ใจ

"ไม่ ... หญิงขายบริการไง ที่นี่มีเยอะมาก ใครๆก็รู้" เธอตอบ

ผมได้แต่อมยิ้ม พลางนึกในใจ "สาวไทย ... ชื่อเสียงโด่งดังไปไกลกว่าบอลไทยไปบอลโลกอีกแล้ว"

"หลังจากนั้นฉันมีแผนจะไปฟิลิปปินส์ต่อ" เธอว่า

ผมเลยช่วยสนับสนุนแผนงานของเธอโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหนังสือ หลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ เธอกลับมาคืนรุทตาร์ทเล่มคุณยายก่อนที่เธอจะปรากฏตัวมาอีก 2 ครั้งตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อตามหาหนังสือไกด์บุ๊คพม่าในภาษาฝรั่งเศส ผมบอกให้เธอกลับมาในวันรุ่งขึ้น เพราะมีสาวเฟรนช์อีกคนที่จะมาแลกไกด์บุ๊คเวียตนาม โดยเอาพม่ากับนอร์ทอินเดียมาให้แทน แต่แล้วก็ฟาล์วทั้งคู่ เพราะไกด์บุ๊คพม่าที่จะมาเปลี่ยนนั้นไม่มาตามนัด .... สาวปารีเซียงของผมก็เลยต้องมือเปล่าไปวัดดวงที่พม่าเอาเอง

... ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน โปรเจ็คท์หญิงไทยขายบริการของเธอ มันจะเป็นยังไง ... จะออกมาเป็นเหมือนวัดคณิกาผลหรือวัดใหม่ยายแฟง ที่เปิดซ่องหาเงินมาสร้างวัดหรือเปล่า

รู้แต่ว่า ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ เหมือนบอลไทยไปบอลโลก ยังไงยังงั้น



หมายเหตุ

ตอนที่เขียนเรื่องนี้ รู้สึกว่าเป้าหมายบอลไทยไปบอลโลกกำลังลอยห่างออกไปอีก เพราะเตะคัดเลือกนัดสุดท้ายกับโอมานกำลังจะแข่งตอนสิ้นเดือนนี้ แต่วินนี่เรียกเก็บตัวนักบอลที่เชียงใหม่ ... พ่อเจ้าประคุณมากันแค่ 5 คน ... สวัสดี


Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2555 10:00:56 น. 0 comments
Counter : 2413 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.