Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน อินเดียในม่านหมอก

ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน อินเดียในม่านหมอก

พูดถึงอินเดีย ประเทศที่หนังสือโลนลีแพลนเน็ตเล่มหนา หนักมาก แถมยังแยกเป็นอีกมากมายหลายปก เช่น ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอื่นๆอีก น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 เล่มย่อยๆ

ลูกค้ามักจะเข็ดขยาดกับน้ำหนักของหนังสือที่หนักเกือบ 1 กิโลกรัม เวลามาถามหาโลนลีแพลนเน็ตฉบับประเทศอินเดีย พอเห็นเล่มใหญ่แล้ว ก็มักจะส่ายหน้าแล้วก็ถามหาเล่มแยกย่อย บางคนก็โชคดีไม่จำเป็นต้องซื้อเล่มใหญ่ทั้งประเทศ แต่บางคนไม่โชคดีอย่างนั้น เพราะแผนการเดินทางวางไว้แล้ว บางคนกลายเป็นต้องใช้เล่มเล็ก 2 เล่มรวมกัน ผมเคยถามว่าถ้างั้นทำไมไม่ใช้เล่มใหญ่เล่มเดียวไปเลย เจ้าตัวบอกว่า ข้อมูลละเอียดไม่เหมือนกัน แถมเล่มเล็กเบากว่า ..... ก็แล้วแต่ถนัดนะ ของอย่างนี้

ช่วงฤดูท่องเที่ยวในอินเดียน่าจะเริ่มจากตอนครึ่งปีหลังที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ยาวไปจนถึงช่วงต้นปี หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพากันออกจากอินเดีย เหลือแต่นักเดินทางชนิดแฟนพันธุ์แท้เท่านั้นที่ยังอยู่ ผมถามว่าทำไม ลูกค้าชาวยุโรปตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเริ่มเข้าฤดูร้อนน่ะสิ ที่อินเดีนหน้าร้อนนี่บางทีจะร้อนถึง 40 กว่าดีกรี (บางคนใช้คำว่า Heat blood ผมขออนุญาตใช้คำว่า ร้อนจนเลือดเดือด) ซึ่งชาวยุโรปมักจะรับไม่ไหวเพราะคุ้นกับอากาศหนาวมากกว่า

ลูกค้าของผมคนหนึ่งเป็นสาวชาวอิสราเอล เล่าให้ฟังว่า เธอเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนหนุ่มอยู่ในอินเดีย นานถึง 8 เดือน ไปมาจนทั่วไปหมด เธอบอกว่ามันเป็นประเทศที่เธอประทับใจมาก ในมุมมองของนักเดินทางที่ปรารถนาจะเห็นโลกที่แตกต่าง อินเดียมีความต่างอย่างสุดขั้วให้เห็นอย่างที่เธออยากเห็น คุ้มค่ากับเวลาที่ใช้จ่ายไป อาหารการกินก็แปลก เรื่องความสะอาดของอาหารก็มีปัญหาบ้าง นิดหน่อย เธอไม่สบายท้องเสีย 2 ครั้งในระหว่างการเดินทาง แต่ก็โอเค ไม่หนักหนาสาหัส อยู่ในวิสัยที่รับได้ ค่าใช้จ่ายตลอด 8 เดือน เธอบอกว่าตกประมาณ 100,000 บาท ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักก็คืนละประมาณ 200 บาท ค่าอาหารการกินก็วันละ 100 กว่าบาท ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย จะมีให้ติอยู่อย่างเดียวที่เธอนึกออกก็คือ การเดินทางโดยรถประจำทาง ที่มันไม่สามารถจะกะระยะเวลาได้ถูก ทั้งระยะทางก็ไกลมาก เธอแนะนำว่านักท่องเที่ยวควรจะเผื่อเวลาตรงนี้ไว้เยอะๆ ไม่อย่างนั้นอาจพลาดนัดหมายได้

อีกคนหนึ่งเป็นชายกลางคน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นชาวสเปน มาซื้อหนังสือโลนลีแพลนเน็ต อินเดียใต้ไปประมาณ 1 เดือน พอกลับมาขายคืน เจ้าตัวบอกว่าไม่ไปแล้ว สกปรกมาก อะไรๆก็ไม่ดี ไม่สะดวก สามพันปีที่แล้วเป็นยังไง ปัจจุบันนี้ก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ... จำได้ว่าเจ้าตัวรีบไป ไม่งั้นว่าจะสอบถามเสียหน่อย ว่าประทับใจอะไรบ้าง

อีกคนหนึ่งเป็นหนุ่มเยอรมัน มีอาชีพเป็นชาวประมง ไปอยู่อินเดียคนเดียวมา 5 ปี พอเดินทางมาถึงถนนข้าวสาร หลังจากเจออาหารฝรั่งของถนนข้าวสารเข้าไป ก็มาถามหาที่ขายก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวราดแกงปกติที่คนไทยทั่วไปกินกัน เพราะเจออาหารจานละ 200-300 ในถนนข้าวสารแล้วรับไม่ได้ ผมต้องวาดแผนที่ให้ไปหาข้าวกินตรงวงเวียนบางลำพู หน้าร้านไอศครีมสเวนเซนส์ หลังจากนั้น พี่ท่านกลับมาเล่าให้ฟังว่า อยู่อินเดียนาน 5 ปี ทั้งทำงานทั่วไปและท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วยกัน เพิ่งมาถึงเมืองไทยได้ 2 วัน พอมาอยู่ที่ถนนข้าวสารนี่เหมือนเห็นโลกกลับตาลปัตร จากขาวเป็นดำ ตอนอยู่ที่อินเดีย ที่นั่นค่อนข้างจะเคร่งครัดในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไม่ได้พูดคุยกับเพศหญิงนานเป็นเวลาถึง 9 เดือนเลยทีเดียว พอมาที่ถนนข้าวสาร เห็นหญิงจริงหญิงปลอม แต่งตัว / ดื่มกิน มีวิถีชีวิตที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เลยยังงงๆกับชีวิตอยู่ หลังจากนั้น พี่ท่านยิงคำถามแรกมา มันเป็นคำถามที่ผมต้องคิดนานทีเดียวก่อนจะหาคำตอบเหมาะๆได้

พี่ท่านถามว่า "ตอนที่ผมอยู่ทีอินเดียนั้น ผมเดินทางโดยจักรยาน ตอนกลางคืนผมมีถุงนอนอยู่ 1 ใบ ล้มตัวลงนอนที่ไหนก็นอนได้ ถ้าผมจะมาขี่จักรยานเดินทางท่องเที่ยวทั่วเมืองไทยบ้าง ตอนกลางคืน ผมนอนที่ไหนก็ได้เหมือนกับที่อินเดียไหม"

ผมฟังแล้วก็ชะงักไป 2 อึดใจ คิดในใจว่า ถ้าจะเชียร์กันชนิดสุดใจขาดดิ้น โดยไม่ลืมหูลืมตาเลยละก็ สงสัยไอ้หนุ่มนี่ท่าทางจะได้กลับเยอรมันเร็วกว่ากำหนด แล้วตัวอาตมาเองก็จะมีบาปติดตัวไปตลอดชีวิต ว่าแล้วก็เลยกลั้นใจตอบกลับไปว่า

"ผมก็คิดว่าเป็นทางเลือกในการเดินทางที่น่าสนใจนะ โดยส่วนตัวผมคิดว่าบางพื้นที่ บางเส้นทางก็อาจจะได้ แต่เนื่องจากผมเองไม่เคยเดินทางโดยจักรยานมาก่อน ผมจึงบอกไม่ได้หรอกว่า เส้นทางไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ยังไงก็แล้วแต่ ผมคิดว่ามันมีอยู่ที่หนึ่งที่ผมคิดว่าปลอดภัยแน่นอน คุณรู้จักป้อมตำรวจหรือเปล่า ตามทางหลวงหรือหมู่บ้านน่ะน่าจะมี คุณเอาเต๊นท์หรือถุงนอนไปนอนข้างๆป้อมตำรวจน่ะ หรือถ้าให้ดีก็ขอตำรวจเขานอนในสถานีตำรวจเลยก็ได้" ตอบเสร็จ ผมก็นึกขออโหสิท่านผู้ว่าการ ททท. อยู่ในใจ

"จริงเหรอ มันจะไม่เหมือนที่อินเดียยังไงเหรอ" ลูกค้านักปั่นกระพริบตาปริบๆ ทำหน้าสงสัย

"ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมไม่แนะนำให้ลองนะ คุณอาจจะประสพความไม่สะดวกและก็เสียเวลาได้น่ะ" ผมสบสายตาแล้วยิ้มกว้าง พยายามทำให้ดีที่สุดหลังจากภาพท่านผู้ว่าการ ททท. ในมโนสำนึกทำหน้าบึ้งแล้วก็ขมวดคิ้วพลางชี้หน้าผม แต่จิตฝ่ายมารในใจผมพึมพำเนิบๆ บอกไปว่า คืนแรกพี่เยอรมันอาจจะไม่มีจักรยานแล้ว พี่อาจจะเปลี่ยนแผนเป็นเดินเที่ยวทั่วประเทศไทย ถ้ายังมีอาการครบ 32 อยู่ หลังจากนั้นพี่อาจจะขี้เกียจแบกเต๊นท์หรือถุงนอน น่าจะมีคนอำนวยความสะดวกเอาไปทิ้งให้ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย แต่ถ้าพี่เยอรมันไม่ยอมรับความปรารถนาดีของเขา ที่ช่วยเอาไปทิ้งให้ พี่อาจจะต้องประสพความไม่สะดวกอย่างอื่นอีก ซึ่งผมก็จินตนาการไม่ออก แต่ผมว่าพี่เยอรมันอาจจะได้กลับบ้านเร็วกว่ากำหนดก้ได้

"อืมมม ..." ลูกค้านักปั่นพยักหน้าช้าๆ ท่าทางจะเริ่มเห็นเงาลางๆของความไม่สะดวกแล้ว

ผมยิ้ม ท่านผู้ว่าฯ กระทืบเท้าใส่ผม แล้วเดินลงส้นตึงๆ จากไป

"แล้วนี่คุณมีแผนยังไงต่อล่ะ" ผมถามต่อ

"ผมว่าจะไปหาซื้อจักรยานน่ะ คุณรู้จักวรจักรไหม" ลูกค้าตอบพลางเอากระดาษที่จดไว้ออกมาดู

ผมคิดในใจ "เอ๊ะ ไอ้นี่ ... พูดไม่ฟัง" พลางบอกเส้นทางไปวรจักรให้ ในมโนสำนึก ท่านผู้ว่าฯ ชะโงกหน้ากลับมาหัวเราะใส่ผม

"ผมคงจะไปลองสำรวจร้านขายจักรยานดูก่อน ขอบคุณนะสำหรับคำแนะนำ" ลูกค้านักปั่นเอ่ยยิ้มๆ

ก่อนออกจากร้านไป ลูกค้าเลือกได้หนังสือโลนลีแพลนเน็ตฉบับรวม เวียตนาม กัมพูชา ลาว และที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง มือ 2 ฉบับปี 2009 ไปด้วย 1 เล่ม พร้อมกับแผนที่ฉบับรวม 3 ประเทศ อีก 1 แผ่น ผมรับเงินแล้วสัมผัสมือกับลูกค้า อวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

จากปากต่อปากของลูกค้า รถโดยสาร อาหารแปลกๆ วัฒนธรรม วิถีชีวิต การรอนแรมชนิดค่ำไหนนอนนั่น ไม่ต้องกังวลถึงความปลอดภัย ภาพของการเดินทางท่องเที่ยวในอินเดียยังคงมีเสน่ห์ น่าหลงไหล และเลือนลางในม่านหมอกอยู่ต่อไป

หลังจากลูกค้าออกไปจากร้าน ผมก็กลับมาถามตัวเองว่าจริงๆแล้ว ขี่จักรยานเที่ยวทั่วไทยได้ไหม ถ้าออกจากจุดเริ่มต้นที่กรุงเทพ สัก 100 คน แยกกันต่างคนต่างไป ให้เวลาสัก 1 ปี เที่ยวไปทุกจังหวัด ค่ำไหนนอนนั่น ถึงเวลาครบ 1 ปี ก็กลับมาเจอกัน ถ้าเป็นผู้หญิงจะเหลือกลับมาหรือเปล่า เด็ก หรือคนแก่ล่ะ เหลือสักกี่คน ต่อให้เป็นผู้ชายหนุ่มก็เถอะ จะกลับมาครบไหม !!! คุณล่ะ คิดว่าไง ...


Create Date : 08 ตุลาคม 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 12:26:21 น. 4 comments
Counter : 1665 Pageviews.

 
ร้านอยู่ตรงไหนของข้าวสารคะ ชื่อร้านอะไร วันหลังจะแวะไปอุดหนุนบ้างค่ะ


โดย: aa IP: 58.8.169.7 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:01:04 น.  

 
ร้านอยู่สุดถนนข้าวสารฝั่งโรงพักชนะสงครามครับ เดินมาสุดถนนแล้วข้ามถนนไปเลยครับ เป็นตึกแถวห้องที่ 3 ติดประตูวัดด้าน ทางรถออก ร้านยังไม่มีชื่อเลย แต่ก็ยินดีต้อนรับนะครับ

ขอบคุณมากครับที่เข้ามาคอมเมนท์ ช่วงนี้ชีวิตยุ่งยากนิดหน่อย แต่ก็ยังยิ้มได้ครับ

สุขสันต์ปีใหม่นะครับ
เจตตจัน


โดย: jettajan วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:9:39:25 น.  

 
พี่มีโลนนีแพลนเน็ตฉบับอินเดียเหนือบ้างมั๊ยครับ ถ้ามีราคาเท่าไรวานตอบด้วยนะครับ ที่madbat07@gmai.com ว่าจะไปมีนานี้ ขอบคุณมากครับ


โดย: โจ้ี่ IP: 125.26.81.33 วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:23:30:05 น.  

 
ผมตอบไปให้ตามเมล์ที่เขียนไว้นะครับ คุณโจ้


โดย: เจตตจัน (jettajan ) วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:10:24:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.