Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Train story ... รถไฟดีไหม

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่กับอาการครบ 32 กินได้ นอนหลับ มีโอกาสได้มาเขียนเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือในถนนข้าวสารในบรรยากาศกลางฤดูฝนให้ได้อ่านกันอีก 1 สัปดาห์ในเดือนของวันแม่ประจำปี พร้อมๆกับที่ลูกค้าเริ่มจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในบ้านเรามากขึ้น สังเกตุจากยอดขายของร้านที่เป็นไกด์บุ๊คเป็นเล่มๆที่เริ่มจะขายได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ตจีนปกใหม่เล่มหนาหนัก เซาท์อีสต์เอเชียปีล่าสุด 2012 ที่คู่ลูกค้าชายหนุ่มหญิงสาวเข้ามาซื้อไปตอนค่ำวันก่อน

"How do you think between this new-latest edition & the old-use one?" ชายหนุ่มถามแฟนสาวอยู่คำหนึ่งให้เลือกระหว่างปกเก่ามือสองกับปกใหม่มือหนึ่ง

"Do you know they change a lot ?" ... คุณว่าเขาเปลี่ยนเยอะไหม หญิงสาวหันหน้ามาถามผม

"How many countries in this trip ?" ... คุณจะไปเที่ยวประเทศไหนบ้างล่ะ ผมถามย้อนไป

"5 Countries Thailand / Vietnam / Cambodia / Laos / Malaysia." ... 5 ประเทศน่ะ หญิงสาวตอบมา

"2 Years for Thailand, I think they change a lot." ... ผมตอบไปหลังจากนิ่งคิดอยู่แป๊บนึง ลาวพิมพ์ล่าสุด 3 ปีที่แล้ว จะพิมพ์ใหม่ปีหน้ารวมเป็น 4 ปี / มาเลเซีย พิมพ์ใหม่ปีนี้-ล่าสุด 3 ปีที่แล้ว / ส่วนไทย-เวียตนาม-กัมพูชา พิมพ์ 2 ปีต่อครั้ง

"So I think new-latest one is better." ... ถ้างั้นฉันว่าเอาเล่มใหม่ปกล่าสุดแล้วกัน หญิงสาวตอบหันหน้าไปที่ชายหนุ่มซึ่งควักกระเป๋าจ่ายเงินอย่างช้างเท้าหน้าที่ดี

"See you again 3 months later." ... เจอกันอีกที 3 เดือนหน้านะ ฉันจะเอาหนังสือมาคืน หญิงสาวหันมาโบกมือลาก่อนที่ผมจะปิดร้าน

ร้านหนังสือยังคงเปิดอยู่ครับ พร้อมให้บริการลูกค้าที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คต่างประเทศสำหรับเดินทางท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ฮีบรู หรืออื่นๆ รวมทั้งแผนที่ท่องเที่ยว เฟรสบุ๊คสำหรับหัดพูดภาษาประเทศต่างๆอย่างง่าย เหมาะสำหรับใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อกับเจ้าของภาษาได้ ... ไม่หลง ไม่อดตาย ไม่ต้องกลัว ... นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสือภาษาต่างประเทศมาให้ได้หัดอ่านกันอีกหลายภาษาเช่นกัน

วันก่อนผมนั่งดูข่าวเกี่ยวกับงบประมาณการลงทุนสำหรับรถไฟความเร็วสูงในเมืองไทยบ้านเราที่มีการพูดถึงกันมากมาย ทั้งจากคนที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน ก็ได้บริโภคข้อมูลข่าวสารกันเป็นที่อิ่มหนำสำราญ ได้ความรู้ใหม่ๆหลายอย่าง ทั้งข้อเท็จจริงและข้อสันนิษฐาน พร้อมๆกับเห็นในสถานการณ์ปัจจุบันของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งยึดที่คืนมาได้จากตลาดรถไฟ (ที่มีบะหมี่จอมพลังที่บอกว่าชามใหญ่ขนาดกะละมังซักผ้ามาขาย) เห็นคลิปวิดีโอข่าวรถไฟฟ้าไถลตกรางที่สเปน คนตายหลายสิบคนอยู่ รวมทั้งอุบัติเหตุรถไฟที่ต่างประเทศ ... ก็ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์จากความเห็นส่วนตัวแล้วกันครับ เพราะเมืองไทยเราตอนนี้ความเห็นส่วนตัวเยอะแล้ว ... พอดีงานประจำที่ผมทำอยู่จะเกี่ยวกับคุณภาพ ซึ่งเราตัดสินกันตามสเป็ค มีค่าเท่าไหร่ +/- เท่าไหร่ ยอมรับหรือไม่ยอมรับ โดยไม่เอาความเห็น-ความรู้สึกเข้ามาพิจารณา เพราะความรู้สึกจะใช้กับเรื่องทางเทคนิค-ทางวิศวกรรมไม่ค่อยได้ ... กังวลได้ เราเรียกว่าพิจารณาเรื่องความเสี่ยงและหาทางป้องกัน ... เอ๊ะๆๆ ชักเครียด ไม่เอาดีกว่า ไม่สนุก อยากให้อ่านกันเพลินๆ ไม่เครียดดีกว่า

ครับ ... เกริ่นนำไปพอสมควรเรื่องรถไฟ ก็พอดีได้บทความจากโลนลีแพลเน็ตมาบทความนึง เลยลองเอามาแบ่งๆกันอ่านครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 5 อันดับการเดินทางโดยรถไฟที่น่าประทับใจจากทั่วโลก พลาดไม่ได้สำหรับขาเที่ยวกระเป๋าหนัก มีเงินและมีเวลาเหลือเฟือ ... ความดี ความชอบจากการแปลบทความนี้มาอ่านก็ขอรับไว้ครับ ส่วนข้อผิดพลาดประการใด ขอโยนให้โลนลีแพลนเน็ตแต่เพียงผู้เดียว ... เอ้ย ไม่ใช่ ขอรับคำติและต้องขออภัยไว้ด้วย เช่นกัน อิ อิ

1. The Ghan, Australia : The Luxury rail ride


The Ghan crosses the high bridge over the Katherine River in Australia’s Northern Territory. Image by Paul White / Image Brief.

"The Australian outback" หมายถึงพื้นที่ชนบทห่างไกลยากแก่การเข้าถึง เป็นทุ่งกว้างนอกแผนที่ภูมิศาสตร์ บอกเล่าต่อๆกันมาตามลำนำเพลงของชนพื้นเมืองชาวอบอริจินส์ เปรียบได้กับเรื่องเล่าลึกลับสำหรับชาวยุโรปที่มาตั้งรกรากที่นี่ ตราบจนกระทั่งมีการเดินทางโดยอูฐข้ามทะเลทราย และเริ่มปักปันเขตแดน "The red center" ที่เคยลึกลับก็กลายเป็นสามารถเข้าถึงได้โดยเส้นทางรถไฟ มุ่งสู่ปลายสุดของโลกใหม่กลางความหรูหราเหนือคำบรรยาย

ขบวนรถไฟ "The Ghan" เส้นทางสายยาววิ่งผ่านกลางทวีปออสเตรเลียจากชายหาดฟากหนึ่งสู่อีกฟากหนึ่ง ภายใน 3 วันตลอดระยะทางเกือบ 2000 ไมล์ ชื่อขบวนรถไฟสายนี้ตั้งขึ้นหลังศตวรรษที่ 19 ตามชื่อของนักเดินทางชาวอาฟกานิสถาน ที่ขี่อูฐรอนแรมข้ามทะเลทรายได้สำเร็จเป็นคนแรก ... บนรถไฟ ผู้โดยสารจะทานดินเนอร์หรูบนภัตตาคารเคลื่อนที่กลางกลิ่นหอมของดอกไม้ป่า สเต็กเนื้อจิงโจ้ รวมทั้งบริการระดับพิเศษสุดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งอาหารที่เสิร์ฟถึงเตียงนอน

ในระหว่างเส้นทางภาคเหนือจาก อเดเลด ที่ราบกว้างใหญ่และภูเขาสีแดงอันเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "The red center" อยู่ที่นั่น ล้อมรอบด้วยท้องฟ้าสีน้ำเงินบาดใจและฝุ่นดินสีแดงปลิวกระจายในสายลมอ่อน ช่วง 75 ปีแรก ทางรถไฟหยุดอยู่แค่เมืองทะเลทราย "Alice Springs" ก่อนที่จะต่อขยายถึงฝั่งชายหาดภาคเหนือที่เมือง "Darwin"

การเดินทางจะหยุดเป็นช่วงๆ ท่านสามารถเปลี่ยนเส้นทางได้จากรถไฟสู่การเดินเท้าจนกระทั่งนั่งเครื่องเฮลิคอปเตอร์ หรือแม้จะย้อนกาลเวลาสู่ยุคบุกเบิก "รถไฟสายอาฟกาน" โดยการขี่อูฐท่องทะเลทรายก็ยังไหว

2. The Orient Express : Evoking a bygone era


The Northern Belle is one of the two train services that form the UK arm of the revived Orient-Express.

"Railway termini .. are our gates to the glorious and the unknown" ... รางรถไฟ เปรียบเสมือนประตูสู่ความยิ่งใหญ่และโลกที่เราไม่รู้จัก ... รจนาโดย E M Forster ในปี 1910 ... สมัยก่อนนั้นการเดินทางโดยรถไฟเป็นโอกาสพิเศษที่มาพร้อมกับความโดดเด่นและการผจญภัย ในยุคทองของรถไฟที่บริษัทโอเรียนท์เอ๊กซ์เพรสตั้งขึ้นเพื่อทำธุรกิจการเดินทาง ได้สร้างเส้นทางรถไฟสายที่โด่งดังที่สุดในเวลานั้นคือ "Venice Simplon-Orient-Express (VSOE)" วิ่งระหว่างปารีส-เวนิซ และมีช่วงหนึ่งที่ขยายเส้นทางถึงอิสตันบูล

ในขณะเดียวกันก็สร้างเส้นทางวิ่งระหว่างวันในอังกฤษ จากบริติช พูลแมน-นอร์ทเทิร์นเบล โดยการตบแต่งขบวนรถไฟในบรรยากาศแบบนวนิยายสืบสวนของ "อกาธา คริสตี้" ชุดเครื่องใช้ทำจากไม้ กระจกและโมเสค ผู้โดยสารจะได้ทานชุดดินเนอร์ 5 คอร์ส เสิร์ฟพร้อมไวน์และแชมเปญ ท่ามกลางวิวชนบทแถบ "Surrey" ที่วิ่งผ่านไปนอกหน้าต่าง

3. California Zephyr, USA : The pioneering journey


The northern part of Nevada is one of the emptie ststretches that the California Zephyr passes through. Image by Amtrak Photo.

ก่อนหน้านี้ยังไม่ถึง 2 ศตวรรษ สมัยที่ยังมีแต่รถไฟธรรมดาออกจากชิคาโกมุ่งสู่ตะวันตก นักเดินทางเหล่านั้นมักจะประกอบไปด้วย รถบรรทุกสินค้า กรรมกรเหมืองและมิชชันนารี ที่เดินทางแสวงโชค จนกระทั่ง 10 พฤษภาคม 1869 เป็นการมาถึงของรถไฟข้ามทวีปสายแรกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งให้การเจริญเติบโตก้าวสู่ตะวันตก ผู้คนมาลงหลักปักฐานกันมากขึ้น และตามมาด้วยนักท่องเที่ยว ขบวนรถไฟสาย "The California Zephyr" ก่อกำเนิดขึ้นในปี 1949 วิ่งผ่านระยะทาง 2500 ไมล์จากเมืองวินด์ซิตี้สู่ชายฝั่งคาลิฟอเนียร์ภายใน 3 วัน ภาพบรรยากาศชนบทเบื้องนอกสวยงาม บางทีน่าจะเป็นเส้นทางที่สวยงามที่สุดของสหรัฐอเมริกาก็เป็นได้ ... ว่าเข้านั่น

เส้นทาง "The Zephyre" พาดผ่าน 7 มลรัฐและบางเมืองที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ เล้านจ์ของนักท่องเที่ยวจะมีหน้าต่างเฉียดๆพาโนรามาพร้อมที่นั่งชนิดปรับเลื่อนได้ ผ่านเดนเวอร์ ทะเลสาบ ป่าสนและทุ่งหิมะ เลียบไปตามแนวหน้าผาและหุบเขาเหนือแม่น้ำโคโลราโด ก่อนที่จะไล่ระดับต่ำลงสู่ยูท่าห์และเนวาดา ลัดเลาะไปตามหุบเขาเซียราเนวาดา ก่อนเข้าสู่ซานฟรานซิสโกและมหาสมุทรแปซิฟิก ปลายทางของการผจญภัย

4. Tren Crucero, Equador : The vertiginous new train route


Ecuador’s rail network is being revived, with the bonus of a new train route, drawn in part by steam engines. Image by Tren Ecuador.

เทือกเขาแอนดีสนับเป็นโจทย์หินสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนการเดินทางที่นี่ ภูเขาสูง 3 ไมล์พาดผ่านแทบจะเป็นกระดูกสันหลังอยู่กึ่งกลางประเทศ ลาดลงสู่ที่ราบสูงก่อนจะแยกสู่แนวหุบเขา เขตเมืองเก่าที่หมอกปกคลุมตลอดปี ตอนที่รางรถไฟเริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษก่อน มันถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ รางถูกวางลงบนความสูงเสียดฟ้าเลื้อยผ่านภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตอนบน แล้วลาดชันลงสู่ชายหาดแปซิฟิก จนกระทั่งหยุดใช้งานไปในปลายศตวรรษที่ 20 ก่อนจะมีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ ซัมเมอร์นี้ "The Tren Crucero (Cruise Train)" จะเริ่มทดลองวิ่งรับผู้โดยสาร ชื่อที่ใช้ถูกตั้งให้เข้ากับรถไฟที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำยุคแรก ความเร็วไม่มากนักสำหรับการเดินทาง 280 ไมล์ภายใน 4 วันจากเมือง "Quito" สู่ชายหาดที่เมือง "Guayaquil"

จากทุ่งหญ้าเหลืองอร่ามบ้าง เขียวชอุ่มบ้างของอุทยานแห่งชาติ "Cotopaxi" สู่ภูเขาไฟที่สูงทีสุดในเอกวาดอร์ "Chimborazo" ปัจจุบันภูเขาไฟลูกนี้ดับไปนานแล้วแต่ยอดสูงกลับปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งแทน วิวข้างทางสวยๆมากมายและโดยไม่ต้องเดาให้ปวดหัวเลย จุดไฮไลท์สำคัญที่สุดอยู่ที่ "The Devil's nose" เส้นทางซิกแซกลาดชันลงจากเทือกเขาร็อคกียาวประมาณครึ่งไมล์ เชื่อมระหว่างเทือกเขากับชายหาด เวลาที่ใช้ในการเดินทางจะรวมเวลารถไฟหยุดเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับบรรยากาศ อาหาร ผู้คนและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

5. The Trans-Siberian railway : The Continent-crossing journey

The Golden Eagle takes the Trans-Siberian route past Lake Baikal, which holds nearly a fifth of Earth’s unfrozen fresh water. Image by Golden Eagle Luxury Trains LTD.

แค่ได้ยินชื่อ แทบทุกคนก็จะมีความเห็นตรงกันว่า รถไฟสาย "The Trans-Siberian" นั้นเป็นราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ของสิ่งที่วิ่งอยู่บนรางคู่ เป็นอสุรกายแห่งการเดินทางโดยรถไฟ เฉพาะความยาวของเส้นทางก็คิดไม่ออกแล้วว่ายาวขนาดไหน พอผู้โดยสารก้าวขาออกจากสถานีสุดท้าย ก็จะได้รู้รสของเสียงโซ๋กับความสะเทือนจากรถไฟที่นั่งมาราวกับหลุดเข้าสู่มิติที่ 5

รถไฟสาย "The Trans-Siberian" จุดเริ่มต้นรับผู้โดยสารอยู่ที่กรุงมอสโค มุ่งสู่ท่าเรือที่วลาดิวอสต็อค แต่ส่วนของเส้นทางที่มีสีสันที่สุดกลับเป็นเส้นทาง "The Trans-Mongolia" ที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองหลวง 3 เมืองและภูมิทัศน์ที่แตกต่างเข้าด้วยกัน เริ่มจากเมืองหลวงของรัสเซีย รถไฟจะวิ่งเข้าสู่ป่าเบิร์ชข้ามเทือกเขาอูราลเข้าสู่เมือง "Yekaterinberg" จากนั้นไม่กี่วันก็จะได้เห็นสีฟ้าสดใสของทะเลสาบไบคาล ก่อนที่จะมุ่งลงใต้ลดระดับไปโผล่ลงที่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ของมองโกเลีย เห็นซุ้มกระโจมกับฝูงม้าและทุ่งปศุสัตว์กระจัดกระจายทั่วไป ช่วงสุดท้ายเป็นการเดินทางจากเมืองหลวงของมองโกเลีย-อูลานบาตอร์สู่กรุงปักกิ่ง จะวิ่งผ่านทะเลทรายโกบี เขตเมืองอุตสาหกรรมและภูเขาเขียวชอุ่ม และถ้ามองดีๆอาจเหลือบไปเห็นกำแพงเมืองจีนด้วยนะ ... จะบอกให้


เส้นทาง "Trans-Mongolian" จะแยกกลางทางมุ่งเข็มลงใต้ ผ่านมองโกเลียเข้าสู่ปักกิ่ง

*****************************************************

ผมขอเพิ่มเติมภาพของ "The Devil's nose" เส้นทางที่เป็นจุดไฮไลท์ของ "The Tren Crucero" มาให้ชมกัน เส้นทางรถไฟใช้เครื่องจักรไอน้ำวิ่งจากศตวรรษก่อน ... ถ้าเป็นเมืองจีนปัจจุบันนี้ อาเจ็กแกคงระเบิดภูเขาหรือไม่ก็เจาะอุโมงค์ทะลุไปเลยสิ้นเรื่องสิ้นราว ไม่ต้องอ้อมให้หวาดเสียว

ภาพของ "The Devil's nose" เส้นทางซิกแซกลาดดิ่งลงจากเทือกเขาร็อคกีสู่ชายหาด ของ "The Tren Crucero" แห่งเอกวาดอร์ ... ยังกะรถไฟเหาะในสวนสนุกก็ไม่ปาน ... ว่าแต่ดูแล้ว วิ่งจริง หวาดเสียวจริง ขอบอก

ผมลองดูหลายภาพในอินเตอร์เน็ต เห็นพวกพี่แกเล่นนั่งไปบนหลังคารถไฟด้วย ... ฮู้ยยย

เจตตจัน

085-8035412

087-0719858

jettajan227@yahoo.com




Create Date : 10 สิงหาคม 2556
Last Update : 10 สิงหาคม 2556 15:09:57 น. 0 comments
Counter : 1863 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.