Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ในทรรศนะของข้าพเจ้า

สวัสดีครับ ยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่และขอร่วมโมทนาสาธุกับผู้ร่วมกินผักในเทศกาลกินเจปีนี้

ร้านหนังสือยังเปิดบริการลูกค้านักท่องเที่ยวผู้ใช้ไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศอยู่ ทั้งหนังสือใหม่และมือสอง

กินเจปีนี้ น้ำท่วมหนัก-ผักแพง กลายเป็นเรื่องซ้ำซ้อน เหมือนหลายๆพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ..... เมื่อสัก 2 ปีก่อนนี้เอง ราคากล้วยหักมุกย่างเจ้าประจำบางลำพูของผม ยังเป็น 4 ลูก 20 บาทอยู่เลย หรือบางวันพ่อค้าใจดีขึ้นมา อาจจะได้แถมเป็น 5 ลูก 20 บาทก็ยังมี แต่หลังจากหน้าแล้งปีที่แล้วจนปัจจุบันนี้ กลายเป็น 3 ลูก 25 บาทแล้ว แถมบางช่วงเคยเจอลูกละ 10 บาทก็ยังมี

***************

วันก่อนมีลูกค้าผู้ชายชาวรัสเซียอยู่คู่หนึ่ง คนหนึ่งรูปร่างผอมตัวเล็กส่วนอีกคนเห็นแล้วนึกถึง สตีเวน ซีกัล พี่แกหน้าตาเหมือนกัน ไว้ผมทรงเดียวกันแถมตัวใหญ่อย่างกะหมีควายพอๆกันอีกต่างหาก



ดารานักบู๊ฉายา "จอมหักกระดูก" แห่งฮอลลีวู้ด

ตอนแรกคนตัวเล็กมาถามขอความช่วยเหลือเรื่องโทรศัพท์มือถือว่าโทรกลับประเทศยังไง ผมช่วยดูให้พร้อมกับบอกรหัสประเทศไปให้ ถ้าจำไม่ผิด หลังจากเข้าใจแล้ว แกก็คุยเรื่อยเปื่อยไปพักหนึ่ง แล้วเพื่อนตัวโตก็ล้วงกระเป๋าหยิบนามบัตรออกมาใบหนึ่งยื่นให้ผมดู

"คุณรู้จักโรงแรมนี้ไหม" พี่หมีถาม

ผมดูรายละเอียดพร้อมพลิกดูแผนที่ด้านหลัง "ผมน่าจะเคยผ่านหน้าโรงแรมนี้นะ" มันเป็นโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งในถนนข้าวสาร

"เราอยากได้ใบยืนยันว่าเราอยู่ที่นี่ แต่เขาไม่ออกให้" พี่หมีพึมพำ

"ผมไม่ค่อยรู้จักนะ เอกสารใบนี้ เคยเห็นแต่ใบเสร็จรับเงินน่ะ คุณจะเอามันไปทำไมเหรอ" ผมถามกลับไป

"คือเราจะเดินทางเข้าไปทำธุระในเมืองจีน และพอดีเราต้องใช้เอกสารใบนี้ไปยืนยันว่าเรามีที่พักอยู่ในประเทศไทย" พี่หมีอธิบายมา

"คุณพักอยู่ที่โรงแรมนี้นานไหมล่ะ ถ้านานก็น่าจะขอเอกสารจากทางโรงแรมได้นี่" ผมถามไปอีกที

"เราพักแค่ 2 วันเท่านั้นเอง"

ผมพยักหน้า เม้มปาก นั่งเงียบ ในใจคิดว่า "อ้าว ก็แหงสิพักแค่ 2 วัน เขาก็คงให้แค่ใบเสร็จรับเงินทั่วไปนั่นแหละ เต็มที่ ... ใครเขาจะออกใบรับรองที่อยู่ให้ล่ะ"

"คุณทำให้เราได้ไหม" คนตัวเล็กถาม

"ยังไงนะ" ผมขมวดคิ้ว มองหน้างงๆ

"ก็ใช้ที่อยู่กับรายละเอียดในนามบัตรใบนี้ แล้วทำเอกสารให้เรา" พี่หมีอธิบายมา

"อ๋อ ... ไม่น่ะ ผมทำไม่เป็นหรอก" ผมยิ้มพลางตอบปฏิเสธไป

ทั้ง 2 คนพยักหน้ากัน แล้วพี่หมีก็เก็บนามบัตรคืนไป หลังจากนั้นเราคุยกันอีก 2-3 ประโยคก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากร้าน ... มันทำให้ผมคิดไปถึงธุรกิจรับทำบัตร "อะไรสักอย่าง" ที่มีทำอยู่ในถนนข้าวสาร เป็นที่รู้กันทั้งฝรั่งและไทยว่า ใช้บัตรนี้เป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายได้หลายอย่าง เช่นบัตรผ่านประตู ค่าเข้าชมการแสดง โดยเอาบัตรประจำตัวนักศึกษาจากถนนข้าวสารนี้ไปยื่น ผมเคยเจอคนไทยมาถาม 2-3 ครั้งว่ารับทำบัตรหรือเปล่า ถามไปถามมาก็ ... อ๋อ พี่คงต้องเดินเข้าไปในถนนข้าวสารแหละ รอเย็นๆหน่อยก็เห็นเอง ผมเคยเห็นอยู่แถวๆข้างโรงพัก 2-3 เจ้า

ส่วนฝรั่งก็เคยมีมาถาม เป็นชายกลางคน เขาบอกว่าใบขับขี่ของเขาหาย แต่พอดีเขาต้องใช้ด่วน ถ้าจะรอยื่นเรื่องขอใหม่ไปที่ประเทศบ้านเกิด กว่าจะเดินเรื่อง กว่าจะส่งมา ก็คงไม่ทันใช้ เลยลองมาถามแถวนี้ดู ... เหตุผลนี้พอเข้าใจ แต่ไอ้การทำบัตรอะไรสักอย่าง โดยการใส่รูปตัวเองลงไปเฉยๆ ราคา 200 บาท สำหรับชนิดพลาสติกใสติดเทปเอาเอง หรือราคา 600 บาทสำหรับชนิดเคลือบอย่างดี ... ข้างโรงพักฯ ...

ผมว่าคนที่เดินผ่านแผงเหล่านี้ ก็มีคำถามถึงความถูกต้องอยู่แล้ว ...
แล้วนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านแผงเหล่านี้ และโรงพักฯที่อยู่ติดๆกัน จะมีคำถามต่อประเทศไทย ต่อเราคนไทย เพิ่มขึ้นอีกไหม

... ทั้งนี้ อาจเป็นคำถามเฉยๆ ที่ไม่ต้องการคำตอบ ของผมคนเดียวก็ได้



For most visitors, the fake ID card stalls peppering the tourist hotspot of Khao San Road are no more than harmless fun which allow them to obtain a bogus identity as a quirky reminder of their holiday in the Kingdom. But there are growing concerns among police, foreign embassies and security personnel that the fake IDs, many of which are passable copies of the originals, are being used to commit major crimes and fraud both in Thailand and overseas.

ที่มาของภาพก็ ในโลกอินเตอร์เน็ตไงครับ แค่เสิร์ชคำว่า "ID card - khaosan" ก็สามารถเข้าถึงตลกร้ายในโลกแห่งความจริงได้เป็นอย่างดี ... แต่มองอีกมุมหนึ่ง ก็นับว่าเป็นฝีมือของคนไทยจริงๆที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้า ข้ามประเทศไปจนถึงตำรวจสากล สถานฑูต และระบบรักษาความปลอดภัยของประเทศอื่นๆ



อยากเป็นใคร หรือเป็นอะไรดีเอ่ย ... นักศึกษาปริญญาจากอังกฤษอย่างที่ดาราไทยชอบไปเรียนกันดีไหม ... เอ๊ะ หรือจะเอาใบปริญญาแถมด้วยก็ได้นะ ตัวเอง



เย้ยฟ้า ท้านรกเจงๆ

หลังจากนั้น 2-3 วัน ลูกค้าคู่หนุ่ม-สาว รัสเซีย เข้ามาถามหาที่พักถูกๆ บนเกาะในเมืองไทย ผมเลยเอาแผนที่ประเทศไทยของ ทิงค์เน็ต มากางให้ดู แจกแจงให้ฟังไปคร่าวๆ ว่า ภาคใต้ฝั่งอันดามันนั้น ภูเก็ต ดีที่สุดแน่นอน ทะเลสวย ที่พักราคาถูก คืนละ 200-500 บาทก็น่าจะพอหาได้ เพียงแต่อาจจะอยู่กลางเมือง ไม่ติดทะเลนะ

ทั้ง 2 ส่ายหน้าปฏิเสธ บอกว่าอยากได้ถูก แต่ติดทะเล ชายหาด แล้วถามกลับมาว่า เกาะสมุย กับ เกาะเต่า ล่ะ เป็นไงบ้าง

ผมเคยไปเกาะสมุยเกือบ 20 ปีก่อน ชายหาดนั้นน่าจะโอเค แต่ราคาคงค่อนข้างสูงแน่นอน เพราะเป็นแหล่งที่ฝรั่งไปปักหลักครอบครองเกาะ จนแทบจะกลายเป็นอาณานิคมต่างชาติไปแล้ว ส่วนเกาะเต่านั้นผมไม่เคยไป รู้แต่ว่ามีทัวร์ฝรั่งไปดำน้ำที่นั่นกันเยอะ ... ทั้ง 2 ส่ายหน้าอีกครั้ง

ผมถามไปว่า "เกาะพงันล่ะ"

หญิงสาวยิ้มพร้อมตอบมาว่า "ไม่ดีกว่า ... เราอยากไปเพื่อ "เมดิเตชัน" ไม่อยากไปที่ที่มีคนเยอะ"

"เมดิเตชัน - ทำสมาธิ" ผมพยักหน้า "ถ้าไปทางตะวันออกล่ะ เดินทางก็สะดวกกว่า ใช้เวลาไม่นานด้วย เกาะช้าง เกาะเสม็ด หรือคุณอาจจะแวะพัทยาก่อนก็ได้ ที่นั่นมีคนรัสเซียอยู่เยอะเหมือนกัน คุณอาจหาข้อมูลเพิ่มได้อีก"

"ไม่ดีกว่า พัทยามีแต่บาร์เบียร์ เราคงไม่แวะพัทยา ... ส่วนเกาะช้าง ใครๆเขาบอกว่าที่นี่แพง ค่าใช้จ่ายสูง" ชายหนุ่มกล่าว

"ถ้างั้นก็ไปที่ระยองเลย แล้วคุณลองดูที่เกาะเสม็ด อาจจะพอมีเกสเฮาส์ หรือโฮมสเตย์ราคาไม่แพงให้บริการ" ผมสรุปปิดการขายให้การท่องเที่ยวระยองเสร็จสรรพ

ทั้งสองพยักหน้า พร้อมเดินไปที่ชั้นวางหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนาของสำนักพิมพ์ซิลค์วอร์ม ก่อนจะเลือกเอาหนังสือ "The Wisdom of sustainability : Buddhist Economics for the 21st. Century" ของ ส. ศิวรักษ์ มายื่นให้ผมพร้อมชำระเงินรวมกับแผนที่ประเทศไทยแผ่นนั้น



The Wisdom of sustainability : Buddhist Economics for the 21st. Century

"คุณสนใจศึกษาศาสนาพุทธด้วยเหรอ" ผมทอนเงินพร้อมถาม

"ใช่ แล้วคุณล่ะ" หญิงสาวตอบพร้อมถามกลับมา

"แน่นอนอยู่แล้ว" ผมพยักหน้า

"มันดีนะ มันทำให้เราบาลานซ์ ทำให้ชีวิตเราสมดุลย์ ใช่ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

"ถูกแล้ว" ผมพยักหน้าตอบไป "ชีวิตมันเหมือนคลื่นน่ะ" ผมเอ่ยพร้อมวาดมือเป็นลูกคลื่นซายน์เวฟลอยตรงหน้า

"ปกติเวลาทีมีความสุข ยอดคลื่นก็จะสูงกว่าผิวน้ำ แต่เวลามีความทุกข์ ฐานของคลื่นก็จะลดระดับลงไปต่ำกว่าผิวน้ำ" ผมคิดในใจ "เหมือนกับ ชีวิตติดลบน่ะ จะเปรียบเทียบยังไงดีวะ"

"แต่พุทธศาสนาสอนเราให้ ลดแอมปลิจูดของคลื่นลง เวลาเราแฮปปีก็ไม่เยอะเกินไป เวลาเราไม่แฮปปี ก็นิดหน่อยพอ เพราะเดี๋ยวมันก็มาอีก" ผมวาดมืออีกครั้งเปรียบเทียบระหว่างคลื่นสูง-เตี้ย



"สุข-ทุกข์" กับ "วิทยาศาสตร์พื้นฐาน"

ผมหยุดแค่นั้น เพราะไม่สามารถไปไกลกว่านั้นได้ คิดไม่ออกว่าจะเปรียบเทียบ "ความว่าง" ของพุทธนิกายเซนยังไงดี หรือจะใช้ "Fluid mechanics" มารวมกับ "Differential Equation" ให้ออกมาเป็น "สุญญตา" ได้หรือเปล่า สงสัยคงต้องให้ไปหาเอาเองบนเกาะ

หลังจากที่ทั้งคู่ออกจากร้านไป ผมนึกอยากเขกกะโหลกตัวเอง ที่ลืมถามคำถามสำคัญไปว่า

"ทำไมคุณถึงมาสนใจในศาสนาพุทธของชาวตะวันออกเรา ความรักเพื่อนมนุษย์ของพระเยซู ที่มีให้ทุกคนในศาสนาคริสต์ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหรือ"

****************

ดึกคืนนั้น หลังจากลูกค้าคนสุดท้ายออกจากร้านไปนานแล้ว ผมปิดหนังสือเกมส์ "SUDOKU" ที่เล่นค้างไว้ นั่งพิงพนักเก้าอี้ ฟังเสียงเพลงที่ล่องลอยออกมาจากเครื่องเล่นเทป ... เพลงที่ไม่ใคร่จะมีดีเจคนไหนเปิดให้ฟังจากรายการวิทยุ ... เพลงของ มาโนช พุฒตาล อัลบัมชุด "ในทรรศนะของข้าพเจ้า" ... เพลง "ลำธาร"

มองลงไป ในแม่น้ำ นานเนิ่นนานอยู่ในภวังค์
ลึกลงไป ใต้ลำน้ำ มีมนต์ขลัง มีพลัง
วิญญาณหลุดลอยร่อนลง ดิ่งลงดื่มด่ำลำน้ำ อยู่เพียงลำพังทั้งสองฟากฝั่ง
วิญญาณใฝ่ฝัน ต้องการฝังลึกมานานต้องการเข้าใจ ลึกลับซ่อนเร้นแอบอยู่ข้างใน

หากแต่ร่างกาย ไม่อาจเคลื่อนไหวดั่งใจหวัง นิ่งอยู่อย่างนั้นนั่งมองลำธาร

* ปลดปล่อยตนเองไปตามลำธาร..เปลี่ยว โดดเดี่ยวคนเดียวเหลียวมองดูรอบ..กาย
โดดเดี่ยวเดียวดาย กระหายพบเพื่อนร่วมทาง โลกที่อ้างว้าง เส้นทางที่ไกล

ในความเงียบงัน พลันได้ยิน ได้รู้ได้เห็นเป็นเสียงดนตรี
ลีลาประสานทำนองคล้องจอง เกิดแก่เจ็บตายลวดลาย อิ่มหิวกระหายหัวเราะน้ำตา

จึงตัดสินใจ ส่งมอบกายให้กับแม่น้ำ ทอดกายลงน้ำไหลตามลำธาร

** อยากบอกให้รู้ความดียังมี..อยู่ วางจิตรับรู้เข้าใจด้วยเหตุ..ผล
ดื่มดับกระหาย สายน้ำของทุกผู้คน หยุดความสับสนเลือกหนทางเดิน
สัจจธรรมจริงแท้มั่นคงดำรง..อยู่ ปัญญาความรู้เท่าทันความเศร้า..หมอง
ดื่มเถิดเพื่อนพ้อง สายน้ำของการแบ่งปัน ร่วมกันสร้างฝันบนฐานความจริง
โลกใหญ่ใบนี้ไม่มีใครครอบ..ครอง ไม่แบ่งเป็นสองเพ่งมองดูแม่..น้ำ

เกิดความเข้าใจ ร่างกายทำได้เพียงกักขัง รวมเป็นหนึ่งกับน้ำทั้งกายและใจ

"คุณพ่อครับ ผมมาขอพรจากคุณพ่อครับ"
"พ่อให้พรลูกไม่ได้หรอก แต่ว่า ... หากสิ่งที่ลูกทำมันถูกต้อง พระเจ้าก็จะอยู่เคียงข้างลูก ... แต่หากมันผิด พรของพ่อก็ย่อมไม่มีประโยชน์อันใด"



ปกอัลบัม "ในทรรศนะของข้าพเจ้า" ของมาโนช พุฒตาล



"ฮะซัน" บุตรคนสุดท้องของนายเฉลียวและนางอำไพ


Create Date : 30 กันยายน 2554
Last Update : 30 กันยายน 2554 22:47:00 น. 2 comments
Counter : 2481 Pageviews.

 
Fashion is not only about appearance. It is a state of mind. It conveys information about you to the world. Dressing fashionably will make you feel great. Read this fashion advice to make a positive statement about yourself.
Louis Vuitton Australia //www.smcindiaonline.com/louisvuittonau.asp


โดย: Louis Vuitton Australia IP: 192.99.14.36 วันที่: 23 ธันวาคม 2557 เวลา:20:44:55 น.  

 
Have you seen those people at checkout with tons of coupons and hoped that you could save like them? Then read on! Read on for the best information on how to use coupons and start saving money today!
Michael Kors Outlet //fraseryachts.com/michaelkors-outlet.asp


โดย: Michael Kors Outlet IP: 192.99.14.36 วันที่: 28 ธันวาคม 2557 เวลา:1:46:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.