Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
6 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Shades

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านที่ได้เจอกันอีกครั้ง กับเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยของร้านหนังสือเล็กๆในถนนข้าวสาร ร้านหนังสือมือสองที่ขายและรับเทิร์นหนังสือไกด์บุ๊ค ทั้งใหม่และมือสอง ที่เป็นภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ฮีบรูว์ และ ... หนังสือที่ร้านมักจะเป็นโลนลีแพลนเน็ตภาษาอังกฤษเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมีภาษาอื่นๆมาร่วมแจมบ้าง นอกจากนั้นก็มักจะมีหนังสืออ่านเล่นที่เหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ถือติดมือมาด้วยจากบ้าน เอาเข้ามาเทรดเป็นเล่มอื่นๆไป

ปีนี้ฤดูท่องเที่ยวผ่านพ้นจากไฮซีซันเข้าสู่โลว์ซีซันอย่างรวดเร็วมาก เพียงกลางเดือนมีนาคมเท่านั้น ฝรั่งถูกซื้อไปเกลี้ยงแผงเลยครับ ... ใช่ คนรู้จักที่ทำงานอยู่โรงแรมแถวๆตรอกโรงไหมบ้าง ซอยรามบุตรีบ้าง แวะเวียนมาคุยเล่น ก็ยังเปรยๆว่า 2-3 สัปดาห์มานี่ เลยหัวค่ำมาไม่ทันดึกเลย แต่นักท่องเที่ยวหายเกลี้ยงแล้ว แทนที่จะเห็นนั่งดื่มกันอยู่ยันดึกดื่นตามปกติ ปีก่อนๆจะโลว์กันก็หลังสงกรานต์นั่นแหละ แต่ปีนี้ฝรั่งหายเร็วกว่าปกติร่วมเดือน ... ไม่รู้ว่าฟองสบู่เศรษฐกิจที่บ้านเกิดดีขึ้นเพราะมาตรการ QE3 ของโอบามาหรือเปล่า เลยรีบกลับไปทำงานกัน หรือว่าจะเป็นเพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่าก็ไม่รู้ทำให้แลกเงินบาทได้น้อยลง เลยไปหาที่เที่ยวที่อื่นดีกว่า

พูดถึงหนังสืออ่านเล่นแล้ว วันก่อนผมเพิ่งแลกได้ "50 Shades of Gray" ของ E L James เข้ามาในร้านเล่มนึง เป็นมือสองภาษาอังกฤษ ที่สภาพดีน่าอ่านไม่ใช่น้อย ปกเป็นภาพเน็กไทสีเงาๆชวนให้พลิกอ่านหน้าใน ... จากข่าวสารความอีโรติกขนาดหนักของหนังสือ ชนิดที่ผู้แต่งซึ่งเป็นคุณแม่ก็บอกเองว่าจะไม่ให้ลูกตัวเองอ่าน ทำให้หนังสือเพิ่มแรงดึงดูดเข้าไปอีก ... หลังจากผมตบแต่งขอบมุมและปกเสร็จเรียบร้อย ก็เลยเดินไปหยิบแก้วมารินน้ำดื่มวางไว้ 1 แก้วเต็ม ... เผื่อคอแห้ง ... แล้วก็หาที่นั่งพิงสบายๆ เปิดสุ่มๆเข้าไปประมาณกลางเล่ม และ เริ่มอ่านบรรทัดแรก ...

" ... อนาสตาเซีย กัดริมฝีปากของเธอ ... ปลายนิ้วของชายหนุ่ม ... .... แถมมีเชือก มีเทียน อีกต่างหาก ... "

โอ้ พระเจ้า ... แม่นเหมือนผีจับยัด ... หน้าแรกที่ผมสุ่มๆเปิดเข้าไปอ่าน มันไปโผล่ลงตรงบทรักของนางเอกสาวอนาสตาเซียกับพระเอกหนุ่มหล่อรวยคริสเตียน เกรย์ ... พอดิบพอดี ...

ผมนั่งอ่านต่ออีกหลายหน้ากว่าจะจบบทอีโรติกขนาดหนักของสองหนุ่มสาว เล่นเอาคอแห้ง ดื่มน้ำหมดไปหลายแก้วทีเดียว ... เฮ้อออ ... (เอ๊ะ หรือจะเก็บไว้อ่านให้จบก่อน อย่าเพิ่งขายเลย หุหุ ...)


ไตรภาค BDSM ของ E L James อันเป็นรสนิยมที่สุดแสนจะส่วนตั๊ว ส่วนตัว

แต่จะว่าไปก็เห็นว่าขายดีติดอันดับจากหลายๆร้าน ก็ ... เป็นเรื่องส่วนตัวครับ แล้วแต่รสนิยม คล้ายๆกับที่เห็นลูกค้าชายคู่น่ารักที่ออกอาการเป็นสาวเข้ามาซื้อหนังสือในร้าน หรือไม่ก็ลูกค้าคู่ชายหญิงที่เข้ามา โอบกันบ้าง บางทีก็หอมแก้ม จูบปากแบบลิปคิสเบาๆ ... เคยมีอยู่ทีหนึ่งที่ฝรั่งผู้ชายแกว่งมือมาแปะที่สะโพกของแฟนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งคู่ยืนหันหลังอยู่หน้าร้านโดยที่ผมนั่งอยู่ข้างในร้านพอดี ได้แต่นั่งมองไปก็อมยิ้มไปเพราะสักพักหนึ่งมือซนข้างนั้นก็เริ่มบีบเล็กๆ ก่อนที่แฟนสาวข้างๆจะเอาไหล่กระแทกแขนหลุดออกจากการกุมและเดินออกไปด้วยกัน

มีอยู่บ่อยเหมือนกันแถวๆถนนข้าวสารบ้าง บางลำพูบ้าง ที่เห็นฝรั่งชายหญิงยืนประกบคู่เฟรนช์คิสกันอย่างดุเดือดบนทางเดินนั่นแหละ โดยมีคนขับมอ'ไซค์วินบ้าง คนขับตุ๊กๆบ้าง ยืนมองดูอยู่ห่างๆ ... แต่วัดบ้านเราก็เห็นพัฒนาทันๆกันครับ หลังๆนี่เจอป้ายห้ามเข้ามากอดจูบกันในวัดเป็นภาษาอังกฤษเข้าให้แล้ว ... คงกลัวเจอแบบบาหลีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไปทำพิเรนกันในวัดแน่เลย

ครับ ... อากาศร้อนแล้ว ดูเหมือนอุณหภูมิจะสูงขึ้นกว่าปีก่อน และอุณหภูมิของศึกน้ำดำก็เดือดได้ที่เช่นกัน โดยสปอนเซอร์งานสงกรานต์ถนนข้าวสารปีนี้ถูกเปลี่ยนมือไปจากขาประจำทุกปีอันเป็นสีแดงของโค้ก กลายไปเป็นน้องใหม่ "Est" ของเสริมสุขหลังจากแยกทางกับเป๊ปซี่ ... แต่อย่างว่าครับ ปีที่แล้ว (2012) ป้ายผ้าของโค๊กก็ไม่มากมายเท่าไหร่ นับว่าน้อยกว่าปีก่อนๆหลายขุม ปีนี้คงต้องดูกันว่า "Est" จะทุ่มแค่ไหนกับป้ายโฆษณาที่จะขึ้นแขวนตลอดแนวถนนข้าวสารและพื้นที่บางลำพู ในงานสงกรานต์ปีนี้



ภาพอันเจนตาของสงกรานต์ถนนข้าวสาร ที่มีสีโทนแดงมาหลายปี ... ลองดูว่าปี 2013 นี้จะเปลี่ยนเป็นสีอะไร ถ้าไม่ลืมจะถ่ายภาพมาให้ได้ชมกัน

ร้านหนังสือยังคงเปิดอยู่สู้ลมร้อนตามปกติครับ สำหรับนักท่องเที่ยวเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ที่ต้องการซื้อ-ขาย-แลก-เปลี่ยน หนังสือไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะโลนลีแพลนเน็ตภาษาอังกฤษ ทั้งใหม่มือหนึ่งและเก่ามือสอง รวมถึงแผนที่ต่างประเทศและเฟรสบุ๊คหลายภาษา ฝากเพื่อน ฝากญาติก็ได้ไม่ว่ากัน ... วันก่อนนี้ลูกค้าเก่านักเขียนคนไทยมาซื้อไกด์บุ๊คมือสองไป 2 เล่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เซาท์แอฟริกาปกแข็ง (น่าจะเป็นฟุตปริ้นท์) ที่ผมแลกไว้ได้ปีก่อน ซึ่งก็ยังสงสัยอยู่ว่าจะมีใครมาคว้าเอาไปหรือเปล่าหนอ พอลูกค้าเก่ามาคว้าเอาไป ผมเลยแถมโลนลีแพลนเน็ตปกเก่าอีกเล่มหนึ่งให้ไปเลยด้วยความดีใจและโล่งอก

พูดถึงสงกรานต์ถนนข้าวสารไปช่วงบน ทำให้นึกไปถึงหนังจีนเรื่องหนึ่งที่เข้ามาถ่ายทำในเมืองไทย และเพิ่งออกฉายไปไม่นานนี้เอง ... "Lost in Thailand - แก๊งค์ม่วนป่วนไทยแลนด์" เป็นหนังตลกสบายๆที่พอมีบท มีเนื้อเรื่อง ให้จับต้องได้บ้าง ปนดราม่าเข้าไปนิดหน่อย ดูกลมกล่อม เบาสมองดี เหตุการณ์ต่างๆก็เกิดขึ้นในช่วงใกล้ๆเทศกาลสงกรานต์ ที่มีฉากสาดน้ำกันทั้งที่เชียงใหม่ที่เป็นโลเกชันหลัก และฉากอื่นๆด้วย ... เสียดายอยู่หน่อยตรงที่ไม่มีฉากที่ถนนข้าวสารชัดๆ ... แต่ทีมพากย์ของพันธมิตร ยังคงเยี่ยมเหมือนเดิม



"Lost in Thailand" หนังจีนที่โปรโมทเมืองไทย ทำหน้าที่แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและบริษัทสร้างหนังของเมืองไทยได้อย่างดี ... ว่าแต่ ... แล้วทำไมไทยเราไม่ทำเองบ้างนะ หรือว่าไม่มีเวลาทำ ... เพราะมัวแต่หายใจทิ้งไปวันๆกันอยู่

หนังเรื่องนี้เดินเรื่องด้วยคู่หู หัวโล้น-หัวทอง 2 คน ที่โชควาสนาทำให้ได้มารู้จักกันบนเครื่องบินมุ่งสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันคือเมืองไทย หนังทำเงินในเมืองจีนไปหลายพันล้าน ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้าโรงหนังเมืองไทยจะทำเงินได้เท่าไหร่ แต่รับรองเลยว่าเมืองไทยทำเงินจากการเดินทางเข้ามาเที่ยวช่วงตรุษจีนของนักท่องเที่ยวชาวมังกรอย่างมโหฬารแน่นอน

สองหนุ่มคู่หูที่แวะเข้าในร้านคู่นี้ก็เช่นกัน พ่อคุณตี๋หล่อเสื้อขาวเข้ามาหาซื้อโลนลีแพลนเน็ตคัมโบเดีย 2012 ใหม่กิ๊กก่อนที่จะเดินทางพรุ่งนี้สำหรับทริป 2 สัปดาห์ นับว่าเป็นลูกค้าชาวจีนเกรดเอที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เพราะถามหาของใหม่ และหยิบแล้วจ่ายเงินโดยไม่สนใจต่อราคาเลยสักคำ นอกจากนี้ยังพูดอังกฤษได้ดี ช่วยเพื่อนตี๋ที่มาด้วยกันเลือกแสตมป์สะสมสวยๆ และช่วยคิดเงินให้เสร็จสรรพ



คู่หูจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่แวะเข้ามาเป็นลูกค้ายามดึก พร้อมกับโปสการ์ดยาวเกือบศอก

"คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม" ตี๋หล่อเสื้อขาวหยิบกระดาษแข็งอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋า 5-6 ใบวางลงบนโต๊ะ 

"คุณจะให้ผมช่วยอะไรเหรอ" ผมถามไปพร้อมสายตามองนิ่งๆไปที่สิ่งที่วางไว้เบื้องหน้า มันคือโปสการ์ด ยาวเกือบศอก

"ที่ทำการไปรษณีย์แถวนี้มีไหม ผมมีโปสการ์ดต้องส่งไปเมืองจีน" ตี๋หล่อถามมา

"มี เดินจากนี่ไปสัก 10 นาทีได้ แต่ดึกป่านนี้คงปิดแล้วแหละ ต้องเป็นพรุ่งนี้เช้า" ผมตอบพร้อมมองหน้า "แต่ ..."

"อะไรเหรอ" ลูกค้าทำหน้าสงสัย

"คือโปสการ์ดขนาดใหญ่สุดที่เห็นทั่วๆไป สำหรับแสตมป์มาตรฐาน 15 บาท มันเล็กกว่านี้เยอะเลย โปสการ์ดของคุณยาวเกือบฟุตน่ะ ผมเกรงว่ามันจะใช้แสตมป์ราคา 15 บาทที่แปะอยู่นั่นไม่ได้ แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะ ทางที่ดีผมว่าคุณรอถามพนักงานไปรษณีย์พรุ่งนี้ดีกว่า" ผมอธิบายให้ฟังถึงข้อกังวลหลังจากพลิกดูโปสการ์ดเหล่านั้น พบว่าติดแสตมป์ 15 บาทแผ่นละ 1 ดวง

"ทำไงดีล่ะ พรุ่งนี้ผมมีไฟลท์บินแต่เช้าเลย สัก 6 โมงได้มั้ง คงจะรอไม่ได้ ... แต่ผมมีแสตมป์เหลืออยู่พอสมควร ผมติดเพิ่มเข้าไปอีกแผ่นละดวงพอไหวไหม" หนุ่มตี๋ค้นกระเป๋าไปมาหาแสตมป์

"ผมไม่แน่ใจนะ แต่โดยส่วนตัว ผมว่าดีกว่า 15 บาทดวงเดียวแน่ๆ" ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไป

"ถ้างั้นผมติดเพิ่มดีกว่าเนอะ" พักหนึ่งก็เสร็จ แสตมป์ 2 ดวงบนโปสการ์ดยาวเกือบศอกดูแปลกตา

"แถวนี้มีตู้ไปรษณีย์ไหม ผมจะได้ส่งเลยคืนนี้" หนุ่มตี๋ถามมาก่อนเก็บทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมถือโปสการ์ดทั้งหมดไว้ในมือ

"มี ... คุณแค่เดินออกไปทางซ้ายมือประมาณ 2 นาที ก็จะเห็นตู้สีแดงบนทางเดินริมถนน นั่นแหละ แต่มันมี 2 ช่องนะ ช่องหนึ่งเป็นกรุงเทพ อีกช่องเป็นที่อื่นๆ คุณต้องใส่ให้ถูกช่องล่ะ" ผมย้ำไปเพิ่มเติมก่อนโบกมือลาลูกค้าคู่หูชาวจีนหนุ่มทั้ง 2 คน ... เสียดายอยู่อย่าง คือ ไม่ได้ขอถ่ายรูปโปสการ์ดยาวเป็นศอกไว้ให้ดู และลูกค้าเองก็ไม่ได้ฝากผมส่งให้ด้วย

เอาเป็นโปสการ์ดสวยๆจากเมืองไทยส่งไปเยอรมันมาให้ดูแทนก็แล้วกัน ... ที่ว่าสวยนั้น ไม่ใช่ภาพบนโปสการ์ดสวยนะครับ แต่เป็นฝีไม้ลายมือของสาวสวยที่มาขอปากกาสีแดง ต่อเติมลายเส้นลงบนหน้าโปสการ์ดด้านเขียนที่เธอมานั่งบรรจงวาดลงไป เธอบอกว่าขี้เกียจลำบากหาบัตรอวยพรวันเกิดพร้อมซองส่งไป เลยเอาโปสการ์ดนี่แหละบรรเลงซะ ... 

เธอชูโปสการ์ดถามมาว่า "สวยไหม"

ผมทำหรี่ตาอยู่นิดหนึ่งก่อนตอบไปว่า "สวยสิ คนรับต้องชอบใจแน่เลย"

เธอหัวเราะร่าเริง แล้วขยิบตาให้ผมนิดหนึ่งก่อนออกจากร้านไป



โปสการ์ดที่ระลึก ที่แปลงร่างเป็นการ์ดอวยพรวันเกิดจากสาวสวยชาวเยอรมัน

เจตตจัน
085-8035412
087-0719858



Create Date : 06 เมษายน 2556
Last Update : 6 เมษายน 2556 16:26:47 น. 2 comments
Counter : 1923 Pageviews.

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:8:09:07 น.  

 
hello
//www.konosuke-matusita.com/
//www.mbldaypassdeals.com/
//www.erven-voor-ontwikkeling.com/
//www.bossen-van-bezinning.com/
//www.rustandbonescreenplay.com/
//www.vivesolutionsinc.com/
//www.darinkamontano.com/
//www.awfmmellowtouch.net/
[url=//www.erven-voor-ontwikkeling.com/]Canada Goose Jackets Sale Outlet Online On The Discount Canada Goose Store[/url]


โดย: Canada Goose Jackets Sale Outlet Online On The Discount Canada Goose Store IP: 31.41.217.112 วันที่: 25 ธันวาคม 2556 เวลา:6:46:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.