กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มิถุนายน 2565
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
19 มิถุนายน 2565
space
space
space

ตัวเราคืออะไร (ต่อ) สัญญาเกิด


 

   ทีนี้ สัญญามันก็เกิดต่อตา   พอมีเวทนาเป็นสุข เป็นทุกข์ ไม่สุข ไม่ทุกข์ สัญญาก็ไปเที่ยวดอดจำไว้ เห็นรูปกี่รูปที่ไหนก็จำไว้

   ได้ยินเสียงที่ไหนก็จำไว้

   ได้กลิ่นที่ไหนก็เอามาเก็บไว้

   ได้รสอะไรก็เอามาเก็บไว้

   ได้สัมผัสนิ่มๆนวลๆ ก็เอามาเก็บไว้

ไอ้ตัวสัญญาตัวหาเรื่องไปเที่ยวจำมาทั้งนั้นแหละ  สุขก็จำ ทุกข์ก็จำ เขาด่าก็ยังเที่ยวเอามาจำไว้ แล้วก็เอามานอนโกรธอยู่คนเดียว  คิดจะไปเตะมัน  ไปต่อยมัน  ไปฆ่ามัน  ไอ้ตัวสัญญามันยุ่งอย่างนั้นแหละ  เที่ยวไปจำมาไม่เข้าเรื่อง  ไม่รู้อะไรต่ออะไรก็เอามาเก็บไว้ นี่มันเป็นเรื่องของสัญญา ก็มีสังขารตามมา เช่น พอจำมาแล้ว แหม มันทำกูเจ็บนัก กูต้องไปตีมัน ไปประหัตประหารมัน เกิดพยาบาท สังขารเกิดขึ้น

แหม มันทำดี น่ารัก น่าเอ็นดู เกิดความรักขึ้นมา รูปเจ้าหล่อนเข้าที มันเกิดอารมณ์รัก สังขารมันเกิด เกิดความรัก เกิดความชิงชัง เกิดความพยาบาท เกิดความริษยา ฯลฯ เรียกสังขารมันมาปรุงแต่งจิตใจให้เกิดในรูปต่างๆ สิ่งที่มาปรุงแต่งจิตใจนี้ เขาเรียกอีกอย่างหนึ่งก็ได้ เรียกว่า เจตสิก. เจตสิก แปลว่า สิ่งที่เกิด กับ จิต เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นเจตสิก ความริษยา เป็นเจตสิก  เจตสิก เป็นกุศลก็มี  เช่น  เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็มี เกิดความคิดจะให้ทาน เกิดความคิดจะรักษาศีล  เกิดความคิดจะไปเจริญภาวนา นี่มันเป็นกุศล หรือเกิดทางด้านปัญญามองเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างนี้ ก็เป็นเรื่องสังขารที่ปรุงแต่งเหมือนกัน เป็นพวกฝ่ายกุศล เรียกว่า กุศลเจตสิก ก็ได้ นี่คือตัวสังขาร

ทีนี้ วิญญาณ นั้นก็คือ ตัวที่กล่าวเมื่อตะกี้นี้แล้ว แต่เอามาเรียงไว้ตอนท้าย แต่ความจริงมันเป็นข้างต้น  มันเกิดก่อน  เกิดแล้วมันไปเกิดเวทนา เกิดสัญญา เกิดสังขาร เกิดในร่างกาย

   นี่คือเรื่องของตัวเราแท้  ที่เราควรรู้ไว้ว่าอะไรเป็นอะไร  ร่างกายของเรา คือเรื่องของรูป

ความคิดของเรา ก็คือเรื่องเวทนา เรื่องสัญญา เรื่องสังขาร เรื่องวิญญาณ  ถ้าพูดอีกอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องขันธ์ ๕ เรื่องของขันธ์

ทีนี้ ในขันธ์นั้น มันมีธาตุ และอายตนะ อยู่ในตัวเราด้วย

อายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นอายตนะภายใน

รูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ ก็เป็น อายตนะภายนอก

https://www.facebook.com/photo?fbid=538253931298966&set=pcb.1087606881829114

   สิ่งทั้งหมดนี้ ท่านสอนให้พิจารณา คือรู้แล้วให้พิจารณา พิจารณาในหลักว่า เป็นสักแต่ว่า ธาตุ เป็นเรื่อง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา บ้าง  การพิจารณานั้น เพื่อประโยชน์อะไร ? ก็เพื่อให้มองเห็นว่ามันไม่เที่ยง  มันเป็นทุกข์  มันไม่มีเนื้อแท้ มันไม่มีตัวตนอะไร  จะได้คลายความยึดถือ เพราะไอ้ความยึดมั่นถือมั่นมันเป็นทุกข์ ความยึดมั่นถือมั่น ภาษาพระเรียกว่า อุปาทาน  ศัพท์นี้ เราต้องจำไว้ให้ดี เพราะอ่านหนังสือธรรมะ เราต้องพบบ่อยๆ ยิ่งธรรมะสูงขึ้นไปแล้ว  ท่านจะยิ่งกล่าวถึงบ่อยๆ



235 สัญญา - สติ  ความจำ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=03-08-2023&group=88&gblog=6

 


Create Date : 19 มิถุนายน 2565
Last Update : 21 มกราคม 2567 16:57:01 น. 0 comments
Counter : 300 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space