กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
กันยายน 2565
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
5 กันยายน 2565
space
space
space

๑.ปัญญา


   ทีนี้ ธรรมที่ควรตั้งไว้ในใจ เอามาใส่ไว้ในใจ เอามาประพฤติเอามาปฏิบัติในชีวิตประจำวันนี่ มีอะไรบ้าง ? มี ๔ ประการ เริ่มต้นด้วย

   ๑. ปัญญา   ในที่อื่นๆ   ปัญญามักจะอยู่ข้างหลังสุดท้ายเพื่อน    แต่ในข้อนี้เอามาไว้หน้าเลย รอบรู้สิ่งที่ควรรู้ เอาปัญญามาไว้ในใจ อธิษฐานใจในเรื่องปัญญา  ก็หมายความว่า อธิษฐานใจในการที่จะศึกษาค้นคว้า จะหาความรู้หาความเข้าใจ ในเรื่องอะไรต่างๆ อันจะช่วยให้เราพ้นจากความทุกข์ ความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน นี่เป็นเรื่องสำคัญ เรียกว่า ตั้งใจว่าเราจะศึกษาค้นคว้า เพื่อให้เกิดปัญญาในเรื่องต่างๆ อันจะเป็นเครื่องประกอบให้เราพ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน

   ทีนี้ เรื่องที่จะช่วยให้เราพ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน ควรจะรู้ในเรื่องอะไร ? ก็ควรจะรู้ในเรื่องเกี่ยวกับตัวเรานี่ ในชีวิตของเรา เรียกว่าเรื่องสังขาร  สังขารก็คือตัวเรา  แยกตัวเราให้ออก ให้รู้ว่า ตัวเราคือ ขันธ์ ๕ มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แล้วขันธ์ ๕ นี่ มันเที่ยงหรือไม่เที่ยง ไม่เที่ยง พระท่านบอกไว้อย่างนี้ บอกว่าไม่เที่ยง บอกว่าเป็นทุกข์ บอกว่าเป็นอนัตตา เรายังไม่เห็น เรายังไม่รู้แจ้ง เพียงแต่รับรู้ไว้ตามตัวหนังสือว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
เราก็ต้องเอาไปนั่งตรองพิจารณา ว่ามันไม่เที่ยงอย่างไร มันเป็นทุกข์อย่างไร มันเป็นอนัตตาในรูปใด นั่งคิดนั่งค้น ต้องคิดเอาเอง ต้องค้นเอาเอง
รู้จากคนอื่นแล้ว ถ้าไม่คิดไม่ค้นแล้ว รู้แบบนั้นรู้ตามสัญญา ไม่รู้ด้วยปัญญา  รู้ตามสัญญา คือ รู้ตามเขาว่า เขาบอกว่าเกลือเค็ม เอ้า เค็ม เค็ม ตามเขาว่า แต่ไม่ได้เคยชิมว่ามันเค็มอย่างไร
น้ำตาลหวาน แกก็ว่าตามเขา ไม่รู้ด้วยปัญญา ยังไม่รู้จริง ไม่ใช่ความรู้ชั้นหนึ่ง มันเป็นความรู้ชั้นสอง ไม่ได้เรื่องอะไร
ทีนี้ ในเรื่องอื่นก็เหมือนกัน เขาว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เรายอมรับว่า เออ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เราก็ไปนั่งคิดนั่งค้นอยู่คนเดียว ค้นเรื่องอย่างนี้ จนเห็นประจักษ์ชัดแก่ใจ


   เมื่อใดมองเห็นชัดด้วยปัญญาว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาจริง เมื่อนั้น มันก็พ้นจากทุกข์ เหมือนที่เราสวดมนต์ สัพเพ สังขารา อะนิจจา ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา  เห็นด้วยปัญญา ไม่ใช่รู้ด้วยหู  ด้วยการฟัง เราต้องไปคิดไปค้นให้เกิดปัญญาในเรื่องนั้นๆ เห็นชัดแจ่มแจ้งด้วยปัญญา แล้วเราก็จะพ้นจากความทุกข์ไปได้ อธิษฐานธรรมข้อปัญญานี้ หมายความว่าอย่างนั้น ให้ตั้งปัญญาไว้ในใจ ปัญญาเป็นจุดหมาย เป็นจุดหมายที่เราจะเข้าถึงไม่ว่าในเรื่องอะไร
แต่ว่าเรื่องที่สำคัญก็คือ เรื่องที่จะช่วยเราให้ใจสงบ ให้ใจสะอาด ให้ใจสว่าง ให้เราพ้นไปจากความทุกข์ความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน นั่นแหละเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรจะตั้งไว้ในใจ เราควรจะคิดควรจะทำอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า มีปัญญาเป็นอธิษฐานธรรมประจำใจประการหนึ่ง หลักมันเป็นอย่างนั้น

 


Create Date : 05 กันยายน 2565
Last Update : 5 กันยายน 2565 7:49:40 น. 0 comments
Counter : 464 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space