กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
พฤษภาคม 2565
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
3 พฤษภาคม 2565
space
space
space

อิทธิบาท


235 อิทธิบาท ๔  (คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์ ๔)

   วันนี้จะได้พูดถึงเรื่องอิทธิบาท ๔ คือ คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์ เป็นต้น  สำหรรับอิทธิบาท ๔ นั้น คือ

     ๑. ฉันทะ    พอใจรักใคร่ ในสิ่งนั้น

     ๒. วิริยะ     เพียรประกอบสิ่งนั้น

     ๓. จิตตะ     เอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้นไม่วางธุระ

     ๔. วิมังสา    หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิ่งนั้น

   คุณ ๔ อย่างนี้ มีบริบูรณ์แล้ว อาจชักนำบุคคลให้ถึงสิ่งที่ต้องประสงค์ ไม่เหลือวิสัย นี่คือได้ความสำเร็จ เรียกว่าเป็นบันไดแห่งความสำเร็จ

คนเราเวลาประกอบกิจการงานอันเป็นหน้าที่ในชีวิต  บางคนก็ทำได้สำเร็จเรียบร้อย  บางคนก็ไม่สำเร็จ  บางคนทำไปได้ตลอด  แต่บางคนทำได้เพียงครึ่งๆ กลางๆ แล้วก็ทิ้งไป

คนที่ทำไม่สำเร็จ เพราะขาดธรรมอันเป็นเครื่องช่วยให้เกิดความสำเร็จ

คนที่ทำอะไรได้สำเร็จเรียบร้อย เพราะมีธรรมเป็นเครื่องประกอบ ธรรมที่เป็นเครื่องประกอบให้เกิดความสำเร็จ รู้ก็ตาม ไม่รู้ก็ตาม ถ้าไปทำถูกตรงเข้า มันก็ผลักดันไปสู่จุดหมายปลายทางได้ แต่ว่าถ้าทำไม่ถูกไม่ตรงนั้นก็มีเครื่องติดขัดตลอดเวลา

คนที่ไม่รู้ก็ทำแบบเสี่ยงๆ ไป สู้คนที่รู้ไม่ได้ เพราะคนรู้จักทาง การเดินทางมันก็สะดวก แต่คนไม่รู้ทางอาจจะถึงจุดหมายได้แต่มันช้า เพราะว่ามัวแต่ไปยืนลังเลอยู่ตรงทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ห้าแพร่ง ไม่รู้ว่าจะไปแยกไหนดี เสียเวลาไป  เหมือนเราขับรถเข้าเมือง 368  ที่ไม่รู้จักถนนน่ะ  เที่ยวขับไปโน้นมานี่   เวียนไปเวียนมา   กว่าจะไปถึงจุดหมายได้ก็เสียน้ำมันไปเยอะ  เพราะไม่รู้ การรู้แล้วทำได้ดีกว่า เพราะฉะนั้น  ท่านจึงชี้ทางไว้ให้เราปฏิบัติ

   พระผู้มีพระภาคเจ้า แจกทางไว้ให้เราปฏิบัติเพื่อให้ถึงความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าทำอะไร เรื่องการเรียนหนังสือ เรื่องการประกอบกิจการงานอันเป็นหน้าที่ การปฏิบัติทางจิตใจ การทำอะไรทุกอย่าง ต้องอาศัยคุณ ๔ ประการนี้เป็นเครื่องประกอบ   ถ้าได้ใช้คุณ ๔ ประการนี้เป็นเครื่องประกอบแล้ว รับรองว่าจะต้องสำเร็จแน่ๆ แต่ว่าถ้าไม่มีคุณ ๔ ประการนี้เป็นเครื่องประกอบ ก็ไม่มีหวังว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทางที่เราต้องการได้

   ธรรมะที่ท่านแสดงไว้เป็นหมวดๆ นี่เหมือนกับเป็นแผนที่บอกทางชีวิตให้แก่เรา เรารู้ไว้แล้วเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก็จะสำเร็จในสิ่งที่ต้องการได้ ให้เรานึกไว้ในใจว่า งานอันเป็นหน้าที่ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต การทำงานให้สำเร็จเป็นจุดหมายที่เราต้องการ  การทำอะไรไม่สำเร็จเป็นการแสดงความอ่อนแอของจิตใจ แสดงความอ่อนแอของบุคคลผู้นั้น ว่าเป็นคนไม่ได้เรื่อง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ เรียนหนังสือก็ไม่สำเร็จ เรียนครึ่งๆ กลางๆ แล้วก็ทอดทิ้งไป เป็นเรื่องน่าเสียดาย ชีวิตจะไม่ก้าวหน้า เพราะมีวิชาที่ต้องการไม่สมบูรณ์

   มีเพื่อนคนหนึ่ง ตายไปแล้ว ตายด้วยเครื่องบินตก เครื่องบินอเมริกันตกในประเทศลาวในแม่น้ำโขงแล้วตาย   ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยได้พบว่า   เขาทำงานที่ไหนนานครบถึงปี  พบทีไรก็เปลี่ยนงานทุกที   พอเจอหน้าก็ถามว่าทำงานที่ไหน บีกริม   อีกสี่หน้าเดือนพบอีกทีหนึ่ง  ทำงานที่ไหน ดีทแฮล์ม   พบกันอีกทีหนึ่ง   แองโกลไทย  ย้ายเรื่อย  สำนักงานย้ายเรื่อย

อันนี้สังเกตดูน้ำใจของคนผู้นี้เป็นคนใจร้น ขี้โมโหโทโส แล้ก็มีความหยิ่งในตัวมากเกินไป ใครพูดอะไรกระทบนิดหน่อยเป็นไม่ได้ มันดูหมิ่นศักดิ์ศรีมากเหลือเกิน คนมีศักดิ์ศรีมากๆ มันแย่นะ อัตตามันใหญ่ ถ้ามีอัตตามากแล้วเหมือนควายเขารี เดินยากไปติดนั่นติดนี่ ติดต้นไม้บ้าง มันเดินลำบาก ถ้าว่าให้ศักดิ์ศรีมันน้อยลงสักหน่อย มันก็ค่อยยังชั่วหน่อย อดทนเอาหน่อย งานการมันก้าวหน้าด้วยดี อันนี้เป็นเครื่องแสดงน้ำใจว่าเป็นคนโลเลเหลาะแหละไม่แน่นอน ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่างเดียว

 233ในพระศาสนานี่ก็เหมือนกัน   คนบางคนบวชสึก  บวชสึก  บวชสามสี่เดือนสึกไป แล้ววกมาบวชอีก  นี่สองปีสึกไปวกมาบวชอีกละ   แสดงว่าไม่ไหว  ไม่ได้เรื่อง  บวชบ่อยเหลือเกิน อย่างนี้แสดงว่าโลเล  เพราะฉะนั้น  เขาจึงพูดว่า  ชายสามโบสถ์นี่มันไม่ไหว  เขาว่าบวชบ่อยๆ แสดงว่าจิตใจไม่แน่นอน บวชๆ ไป เจอะอารมณ์ดีเข้า สึกไปลองเสียหน่อย เดี๋ยวก็ไม่ได้ความจะบวชอีก แล้วออกไปอีกเป็นอยู่อย่างนี้ มันตั้งต้นหลายที ชีวิตตั้งต้นหลายครั้ง มันไม่เจริญดอก   เหมือนกับต้นไม้ปลูกไว้หน้าโรงเรียน ฮื้อไม่เหมาะ ย้ายไปตรงโน้น ย้ายจนมันตาย ปลูกไปปลูกมาตายเลย เพราะย้ายบ่อย

มีหลวงพ่อองค์หนึ่งทางปักษ์ใต้   ท่านเจ้าคุณ   แต่ก่อนนี้เป็นเจ้าอาวาสอยู่แถวเมืองนนท์นี่แหละ แก่ตัวก็กลับบ้าน   ได้ทุเรียนเมืองนนท์ไปสองสามกิ่ง  ท่านย้ายจนตาย ปลูกตรงนี้ไม่เหมาะ ย้ายไปตรงนั้น ย้ายไปตรงโน้น ย้ายจนตาย เลยไม่ได้กินทุเรียนเพราะย้ายบ่อย

คนเราก็เหมือนกันตั้งต้นบ่อยๆ มันจะก้าวหน้าไปได้อย่างไร เพราะฉะนั้น เมื่อจะทำอะไรก็เอาให้มันจริงๆ ลงไป ตัดสินใจให้มันแน่นอนว่าเราจะทำสิ่งนี้ๆ จะบุกไปให้มันถึงปลายทางเลย ไม่ยอมท้อถอย ทำอย่างจริงจังก็จะเกิดความสำเร็จ

   ถ้าเราดูประวัติคนที่เขาคิดค้นอะไรๆ อยู่ เช่น นักวิทยาศาสตร์ประดิษฐ์คิดค้นอะไรขึ้นมาได้ เขาเอาจริง ถ้าไปดูประวัติคนเหล่านั้นจะพบว่า เขามีอิทธิบาทสมบูรณ์ เขามีอิทธิบาท ๔ นี่สมบูรณ์ จึงได้สำเร็จในสิ่งที่เขาปรารถนา เขาใช้เหมือนกันแต่เขาไม่รู้จักชื่อ แต่เขาใช้ ใช้แล้วมันก็ไปได้ ใช้ถูกแล้วมันก็ไปได้ คือสำเร็จได้

   ทีนี้ เราผู้เป็นพุทธบริษัทลูกศิษย์พระพุทธเจ้า  พระองค์สอนไว้ให้เครื่องมือไว้สี่ประการ ให้เอาไปใช้เถอะ   แล้วเธอก็จะมีความก้าวหน้าในชีวิตในการงาน  เราก็ต้องเอาหลักนี้ไปใช้   สมมติเรายังเป็นนักเรียนอยู่ นักศึกษาไม่ใช่นักเรียน เป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัย เราก็ต้องใช้อิทธิบาท ๔ นี่ให้มากหน่อย รักให้มาก ขยันให้มาก เอาใจใส่ให้มาก คิดค้นให้มาก มันก็มีหวังก้าวหน้าในการที่เราจะทำกิจนั้นๆ เรียนสำเร็จได้ด้วยดี เพราะเรารักมันจริง ขยันเอาใจใส่ เรียนด้วยปัญญา ในการคิดการค้น การเรียนก็สำเร็จ ถ้าเราประกอบกิจการงานอะไร เราก็ทุ่มชีวิตจิตใจกับงานนั้น ที่ว่ารักนี่ หมายความว่า ทุ่มมันลงไป ทุ่มชีวิตจิตใจลงไปในส่วนนี้ บอกตัวเองว่าฉันจะทำให้สำเร็จ ฉันจะทำด้วยความทุ่มเทเอาชีวิตเข้าแลกกับงานชิ้นนี้ เกิดความรัก เมื่อรักแล้วมันก็ขยันละ ขยันแล้วก็เอาใจใส่ เอาใจใส่แล้วมันก็หาเหตุผลเองละ มันสำคัญตรงตัวแรก ต้องมีความรัก คือฉันทะ


Create Date : 03 พฤษภาคม 2565
Last Update : 18 มกราคม 2567 17:07:11 น. 0 comments
Counter : 289 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space