กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
ตุลาคม 2565
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
5 ตุลาคม 2565
space
space
space

อามิสทาน


    ประการแรก อามิสทาน  หมายถึง การให้สิ่งของ เช่น ให้เสื้อผ้า ให้อาหาร ให้น้ำ ให้ยานพาหนะ ให้ที่อยู่อาศัย  ให้หยูกยาสำหรับแก้ไข้   อันนี้   เรียกว่าเป็นพวก อามิสทาน คือการให้สิ่งของที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น   จัดอยู่ในจำพวกอามิสทาน ใช้ได้ทั้งนั้น  อามิสทานที่เราจะให้แก่ใครๆ นั้น จะต้องพิจารณาเหมือนกัน  พิจารณาให้มันเหมาะแก่บุคคลที่ต้องการ ไม่ใช่ให้ไปส่งเดชๆ ไปอย่างนั้น ไม่ใช่   ทานของสัตบุรุษต้องเป็นทานที่เกิดประโยชน์แก่ผู้รับ ไม่ใช่ส่งเดชๆ ไปอย่างนั้น ต้องดูว่าผู้รับต้องการอะไร   ให้ให้เหมาะกับความต้องการของเขา  เช่น   ผู้รับต้องการอาหาร เราก็ควรจะให้อาหาร   คนหิวนี่ต้องการอาหาร   ก็ควรให้อาหาร กระหายน้ำก็ต้องให้เครื่องดื่ม ต้องการเสื้อผ้าก็ต้องให้เสื้อผ้า   ต้องการที่อยู่ก็ให้ปัจจัยเครื่องก่อสร้างบ้านอยู่อาศัย  เจ็บไข้ได้ป่วยต้องการยาเราก็ต้องให้ยา   เขาจะเดินทางไกลไปธุระ  เรามีรถมีเรือพอจะช่วยเหลือกันได้ ก็ต้องให้ยานพาหนะ   เพื่อให้คนนั้นไปสะดวกสู่จุดหมายปลายทาง  อันนี้เรียกว่าเลือกของที่จะให้ ให้เหมาะแก่บุคคลผู้จะรับ   ผู้รับก็สบายใจ  เราต้องการอะไร ได้ดังใจมันสบายใจ แต่ถ้าเขาให้ในสิ่งที่เราไม่ต้องการ  ก็ไม่สบายใจอะไร  ไม่ชื่นใจ
 

หลาย จว.ที่โนรูผ่าน



   ตัวอย่างเห็นง่ายๆ  มีเรื่อง  คือ  เรื่องเกิดภัย  สาธารณภัย ว่าอย่างนั้น  เกิดขึ้น  ลมพายุ ไฟไหม้ น้ำท่วม   อะไรต่ออะไรต่างๆ หรือว่าฤดูหนาวคนต้องการเสื้อผ้า   ทางหน่วยบรรเทาทุกข์ก็ประกาศให้ญาติโยมทั้งหลายทราบว่า ขอให้ช่วยกันบริจาคผ้าเพื่อเอาไปแจกแก่ราษฎรที่ยากจนตามบ้านนอก คนในกรุงเทพฯ เรานี่มีผ้าเยอะแยะเกินสมัย ไม่ใช้ เก็บไว้เฉยๆ พอได้ยินวิทยุประกาศก็โละเสียที เก็บเข้ารวมๆห่อกระดาษ แล้วเขียนว่า ห้าสิบชิ้น แล้วเขียนชื่อไว้ เอาไปบริจาค เป็นต้นนี่แหละเรียกว่าเป็นทานที่ถูกต้อง เป็นทานของสัตบุรุษที่ผู้รับสบายใจ

    ฉะนั้น การที่เราจะให้อะไรใคร ต้องพิจารณาเลือกเฟ้นของที่เหมาะแก่ผู้รับ เช่น เราจะแจกหวีคนไม่มีผมเราแจกหวีให้ มันไม่ได้เรื่องอะไร แจกแหวนแก่คนนิ้วด้วน มันก็ไม่ได้เรื่องอะไร หรือว่าอิ่มท้องอยู่แล้วยังให้กินข้าวอีก มันไม่ได้เรื่องอะไร ให้ของที่มันไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอย่างนี้ ไม่เกิดประโยชน์จริงๆ  แม้เราจะทำบุญตักบาตรนี่ก็เหมือนกัน  เคยพูดกับญาติโยมบ่อยๆ เรื่องทำบุญตักบาตรหรือทำบุญกับพระ เพราะว่าเสียดายเงินทองที่สูญเสียไปโดยไม่ได้ประโยชน์ คือไปซื้อของที่พระไม่ใช้ถวาย หรือว่าของที่พระใช้   แต่ว่ามันใช้ไม่ได้ เอามาถวาย  ฯลฯ

   ฉะนั้น การที่เราจะให้อะไรใคร ต้องพิจารณาเลือกเฟ้นของที่เหมาะแก่ผู้รับ เช่น เราจะแจกหวีคนไม่มีผมเราแจกหวีให้ มันไม่ได้เรื่องอะไร แจกแหวนแก่คนนิ้วด้วน มันก็ไม่ได้เรื่องอะไร หรือว่า อิ่มท้องอยู่แล้วยังให้กินข้าวอีก มันไม่ได้เรื่องอะไร ให้ของที่มันไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอย่างนี้ ไม่เกิดประโยชน์จริงๆ


Create Date : 05 ตุลาคม 2565
Last Update : 5 ตุลาคม 2565 9:13:32 น. 0 comments
Counter : 323 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space