การที่จะทำได้ในรูปดังกล่าวนั้น ก็ต้องใช้หลัก อนุสสติ ๑๐ ประการ เป็นเครื่องช่วย เป็นการให้จิตใจได้คิดได้ทำ
อนุสสติ ๑๐ ประการ นั้น มีอะไรบ้าง ? คือ
๑. พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า
๒. ธัมมานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระธรรม
๓.สังฆานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์
๔. สีลานุสสติ ระลึกถึงคุณของศีลที่ตนได้รักษา
๕.จาคานุสสติ ระลึกถึงทานที่ตนได้บริจาคแล้ว
๖. เทวตานุสสติ ระลึกถึงคุณที่ทำบุคคลให้เป็นเทวดา
๗. มรณัสสติ ระลึกถึงความตายที่จะมาถึงตน
๘. กายคตสติ ระลึกทั่วไปในกาย ให้เห็นว่าไม่งาม น่าเกลียดโสโครก
๙. อานาปานสติ ตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้า ลมหายใจออก
๑๐. อุปสมานุสสติ ระลึกถึงคุณพระนิพพาน ซึ่งเป็นที่ระงับกิเลสและกองทุกข์
ทั้ง ๑๐ ประการนี้ ถ้าเราพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อจิตใจ เป็นเรื่องควรคิดควรนึก เพื่อสร้างความก้าวหน้า สร้างความสงบ สร้างความสะอาด สร้างความสว่าง ให้เกิดในใจของเรา จึงควรจะได้ศึกษาเรื่องนี้ไว้
ข้อ ๙ อานาปานสติ บ้านเรายกขึ้นพูดบ่อยๆ มันก็คือ ลมหายใจเข้าที ลมหายใจออกที รวมเป็นสองที เข้าๆออกๆ จนกว่าจะตาย หยุดหายใจเข้าออกเมื่อใดก็ตาย จบชีวิต ท่านให้เอาลมหายใจเข้า-ออกนั่นแหละเป็นที่ทำงานของจิต ให้จิตทำงานนั่น เริ่มต้นก็แค่นี้ นี่ขั้นหนึ่ง อีกขั้นหนึ่ง พอฝึกไปทำไปๆๆ เหมือนลมหายใจหายบ้าง ลมใจแผ่วอ่อนบ้าง นั่นนี่โน่นเป็นต้นบ้าง นั่นมันเป็นเรื่องของชีวิต เป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องของธรรมะ (ปรมัตถธรรม) ซึ่งธรรมดามันเป็นยังงั้น ในเมื่อธรรมดาของมันเป็นยังงั้น มนุษย์เราจะไปเอายังไงกับมันเล่า ก็รู้ตามที่มันเป็นซี่.
อาจมีคำถามสอดเข้ามาว่า ถ้าไม่รู้ตามที่มันเป็นล่ะ ผลของมันจะเป็นเช่นไร ? ตอบ. มันก็ขัดกันระหว่างธรรมะ กับ คน ธรรมะมันเป็นยังงี้ แต่คนจะเอางั้น ไม่ชอบยังงี้จะเอายังงั้น (ทวนกระแสธรรมชาติ) นี่ขัดกันแล้ว ภาพนี้จะเห็นได้จากการปฏิบัติของคนทั่วๆไป เมื่อไม่ได้ดังใจ เขาก็คิดหาวิธีกันไปต่างๆนั่นนี่โน่นซึ่งก็แย้งกับธรรมะร่ำไป
สำนักปฏิบัติหรือผู้สอนให้เขาทำต้องตอบคำถามได้ ทำยังงี้ นั่งยังงี้ เดินยังงี้ เพื่อเหตุผลใด ? ถ้าตอบคำถามเขาด้วยเหตุด้วยผลได้ สอบผ่านระดับหนึ่ง
Create Date : 28 กรกฎาคม 2565 |
Last Update : 24 มกราคม 2567 9:21:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 660 Pageviews. |
|
|