กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
ตุลาคม 2565
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
2 ตุลาคม 2565
space
space
space

ข้อ ๕ ต่อ



ต่อ

    คราวหนึ่ง   มีแม่ชีคนหนึ่งมาที่กุฏิ   มาจากแถวนั้นอีกนั่นแหละ.   เจ้าคุณอยากฟังเสียงพระพุทธเจ้าไหมล่ะ   แหม    เอามาจากไหนละโยม    มีซิ   ดิฉันอัดไว้  ฟังสักหน่อยก็ดี อาตมาตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยได้ยินเลย    ลองฟังสักหน่อยก็ดี   ฟังหน่อย ฟังไป ฟังไป นี่มันเสียงโยมนี่นา นั่นแหละพระพุทธเจ้า เข้าสิงดิฉันนี่ค่ะ  ถ้าอย่างนั้น โยมปิดได้ๆ ถ้าฉันฟังแล้วจะเหมือนโยมเข้าอีกคนหนึ่ง   พอแล้ว    แกก็ปิด   เสร็จแล้วก็ถามว่า  โยมจะไปไหนอีก จะไปเปิดให้พระสังฆราชวัดโพธิ์ฟังหน่อย ว่าอย่างนั้น
บอกว่า   โยมเปลี่ยนใจเสียเถอะ    สังฆราชท่านไม่ว่าง งานท่านเยอะ ไม่ได้นัดไม่ได้หมาย อย่าไปเลย แกก็เลยไม่ไป   ชักชวนให้กลับวัดเดิม   ข้างพระพุทธบาทนั่นแหละ มีอยู่ ๒ คน เขาไปกันแล้ว เที่ยวชมวัดเพลินไป หลง  เอ้า นี่มาจากไหน   ก็มากับแม่ชีคนเมื่อตะกี้นั่นแหละ  แม่ชีที่อัดเสียงพระพุทธเจ้านั่นน่ะหรือ ?   ใช่ค่ะ    แล้วท่านฟังแล้วหรือยังล่ะค่ะ ฟังแล้ว    ฉันไม่เชื่อดอก  มนุษย์สมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อฟังดอก   เอ้า   ว่าเราเสียอีก  หาว่าเราไม่เชื่อ   ก็มันบ้าออกอย่างนั้น   จะไปเชื่อเสียงพระพุทธเจ้าที่ไหน เสียงของแกเอง เสียงแม่ชีไม่ใช่เสียงใคร   อย่างนี้เป็นตัวอย่าง  ไปหลอกไปต้มคนที่นั่นที่นี่ เพราะคนเราเชื่อในทางที่ไม่ถูกไม่ตรงนั่นเอง  ถ้าเรามีโอกาสที่จะช่วยคนเหล่านั้นให้เข้าใจ ว่าอะไรเป็นอะไร ถูกต้องขึ้น นับว่าได้ประโยชน์มาก บุญกุศลที่เราทำกับมนุษย์ไม่ได้กุศลเท่ากับทำคนให้ฉลาดดอก

    ถ้าเราได้ช่วยคนให้ฉลาดรู้จักเหตุผลแล้ว เป็นยอดกุศล ยอดบุญ เป็นเรื่องที่เราควรจะทำให้มันบ่อยๆ ถึงจะดี นี่เป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่อย่างหนึ่ง  แต่ทว่า ยังมีเรื่องน่าคิดอีกข้อหนึ่ง คือ พระเรามักจะไปช่วยเสริมสิ่งที่พูดไปแล้ว นับว่าเป็นบาปเป็นโทษอย่างมหันต์ เพราะไปช่วยส่งเสริมการเชื่อในทางที่ผิดของเขา ทำให้คนหลงใหล เข้าใจผิดไปในเรื่องต่างๆ ทำไมทำอย่างนั้น  พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ทางนั้นมีอยู่สองทาง ทางหนึ่ง ไปสู่ลาภสักการะ ทางหนึ่ง ไปสู่นิพพาน  ทางไปนิพพานนั้น เป็นทางที่แห้งแล้งหน่อย ไม่มีความสนุกสนานเบิกบานใจ ไม่มีเสียงฆ้อง เสียงกลอง ไปอย่างสงบๆ  ส่วนทางไปสู่ลาภสักการะนั้นมันมี Trick ด้วยประการต่างๆ  เช่น  สมมติว่า คนเราตักข้าวต้ม เอามือใส่เข้าไปในหม้อข้าวต้ม ถ้าตรงๆ อย่างนี้มือเปื้อนเปล่า ไม่ได้ข้าวต้มกินดอก มันต้องคดๆหน่อย มันก็ติดขึ้นมา เหมือนช้อนคนที่มุ่งลาภนี่มันต้องคดๆ หน่อย ไม่ตรงทีเดียว ไม่อุชุปฏิปันโน มันคดมันเหลี่ยมมีลูกไม้หน่อย   มีพระองค์หนึ่ง  เขามีชื่ออยู่เหมือนกัน เขาชื่อว่า ฤๅษี...ชื่อดัง  เขาไปปักษ์ใต้ จะไปหากินแถวหาดใหญ่ ไปปักษ์ใต้นั่งรถไฟ น้ำน้อย เป็นหมู่บ้านก่อนถึงหาดใหญ่ นั่งหลับอยู่พอลืมตาขึ้น ตรงนี้สำคัญ สำคัญ  คนเข้าไปถามว่า  ทำไมครับ ?  ในห้วยนี้  มีพระพุทธรูปทอง ๗ องค์ จมอยู่ในห้วยนี้ แต่เอาขึ้นไม่ได้   ถ้าเอาขึ้น บ้านเมือง จะล่มจมเลย ฉิบหาย ต้องทิ้งไว้ที่นั้น แต่ต้องช่วยกันสร้างวิหารในบริเวณนี้  เพื่อเอาพระพุทธรูปมาไว้สักองค์หนึ่ง  นี่เป็นเรื่องลูกไม้อย่างหนึ่ง วิธีการนี้ จะหากินกับคนหาดใหญ่ต่อไป ให้ชาวบ้านสร้างวิหาร  แกก็จะหาพระไปไว้ แล้วก็จะมีพิธีการต่างๆ ฉลอง แจกเหรียญ แจกตรา ให้คนมาๆกันต่อไป  คนแถวนั้นยังจมอยู่กันมาก  พอรู้ว่าอาจารย์ลิงมาแล้ว ไม่ใช่อาจารย์คน อาจารย์ลิง มาแล้ว เขาก็จัดพิธีการต่อไป

   เมื่อผมมาอยู่วัดชลประทาน ฯ ปีแรก  ทีนี้คลองน้ำปากเกร็ด  ตรงอ้อมเกร็ดนั้น น้ำมารวมกัน มีคนนั่งทางในว่า เห็นพระพุทธรูปทองคำอยู่ในน้ำ ๓ องค์  สมัยกรุงแตกเอามาทิ้งไว้ในน้ำ ๓ องค์ เวลานั้นอธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิรวงศ์ กับคุณแม่มาสนับสนุนเลย  กางเต็นท์บริเวณทำพิธีอยู่ ๗ วัน ๗ คืน พิธีสวดมนต์เรียกพระให้ขึ้น  หย่อนสายสิญจน์ลงไปแล้วจะดึงขึ้นมา มีคนมาบอกผม   ผมบอกว่า ถ้าไอ้พวกนั้นดึงพระขึ้นมาได้ผมจะให้เตะ  ท้าเลย  ว่าผมจะให้เตะกัน ๓ ที คนคงไปพูด
ชาวบ้านบอกว่า ขอให้ขึ้นมาเถอะ จริงๆนะ กูจะถลกสบงท่านปัญญา เตะให้เจ็บเสียที เขามาบอก
ผมก็บอกว่า ไม่ต้องถลกดอก ผมจะถลกให้เอง  ทำไมมันจึงโง่กันขนาดนั้น จะเอาสายสิญจน์ดึงขึ้นมาได้อย่างไร พระเป็นทองใหญ่ๆ
ถ้าลองดึงทรายแล้วทรายติดขึ้นมาสักขยุ้มหนึ่งค่อยยังชั่วหน่อย น่าจะทำต่อไป เรือแพเต็มไปหมด มาจากบางไทร อยุธยา บางบัวทอง จากกรุงเทพฯ พวกแม่ค้าพลอยร่ำรวยเศรษฐกิจดีขึ้นหน่อย ได้ขายขนมกัน พระที่วัดนี้เขาไปดูกันบ้า ผมไม่ได้ไปดู  ผลที่สุด เหลว ๗ วันไม่ขึ้นสักที่ พอไม่ขึ้นหมอทางในก็พูดว่า  ก็ไอ้เที่ยวพูดกัน ปากไม่ดี พูดอย่างนั้น ท่านจะขึ้นมาได้อย่างไร เลยไม่ศักดิ์สิทธิ์   นี่แหละ   วิธีการของมนุษย์   มีวิธีการต่างๆ เยอะแยะที่จะต้ม


   ยิ่งไปบ้านนอก ห่างไกลความเจริญ ยิ่งไปต้มได้ง่าย หลอกลวงได้ง่ายมาก เช่น ตะพานหินมีอยู่คราวหนึ่งมีพระธุดงค์ ๓ องค์ ปักกลดอยู่เสมอ  ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาอยู่มาก  บอกว่าอีกสามวันจะเป็นฤกษ์ดี  ทำอะไร  จะทำของวิเศษให้ชาวบ้าน คือ ให้เอาทองมา แล้วจะเสกเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านก็เชื่อ เป็นแหวนบ้าง สายสร้อยบ้าง
แต่ท่าน   บอกว่า   ต้องหาสถานที่เป็นบ้านมิดชิด  มีรั้วรอบขอบชิด ไม่ให้คนเข้ามากวนในวันทำพิธีสัก ๓ วัน เอามาให้แล้วก็ทำพิธี ๓ วัน ไม่ให้คนเข้า ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง ทำอยู่ในบ้าน  พอครบ ๓ วัน ก็เปิดให้เข้าไปดูในบริเวณ พระ ๓ องค์ พร้อมด้วยทองจำนวนไม่ใช่น้อย ก็อันตรธานไปแล้ว นี่เพราะอะไรจึงถูกต้มอย่างนี้ เพราะเชื่อเรื่องเหลวไหล เชื่อเรื่องมงคลตื่นข่าว

   เรื่องที่ผมเจ็บใจที่สุด ก็คือเรื่องที่เชียงใหม่ มันต้มอยู่ตั้ง ๓ เดือน แต่งตัวเป็นพระ ชื่อพระบุศรินทร์ ชื่อสวย นั่งรถคันใหญ่ โอลสโมบิลท์ เข้าไปพบนายตำรวจ ผู้กำกับเลยด้วย เอาไปฝากไว้วัดไชยประเกียรติ์ สมภารวัดวัดไชยประเกียรติ์ก็เกรงใจผู้กำกับ เลยรับไป แหม ออกอุบายต่างๆ ทำเป็นคนเคร่งครัด  ออกอุบายว่า  จะไปทอดผ้าป่า    ทอดผ้าป่าได้เงินมาเก็บเงินจนหมด แล้วจ่ายเช็คให้ไว้ บอกว่ามีโทรเลขมาจากกรุงเทพ ฯ   แล้วบอก  ลูกไม่ต้องเป็นห่วงบวชต่อไปสบาย เงินทองนี้พ่อได้เข้าธนาคารไว้แล้ว ๔ แสน เดือนหน้าจะเข้าให้อีก ๕ แสน
ลูกปฏิบัติสมณธรรมไปเถอะ   เอาเถอะโยม  ไม่ใช่คนกระจอกงอกง่อยนะ พวกคุณนายทั้งนั้นแหละ คุณนายผู้กำกับ  คุณนายสรรพากร   คุณนายสรรพสามิต  คุณนายทหาร ไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ อยู่กับไอ้บ้าๆองค์นั้น มากมายก่ายกอง ล้อมหน้าล้อมหลัง ต้องหาพิณพาทย์มาไว้หนึ่งวง   จะนอนก็ต้องดีบรรเลงพิณพาทย์ และต้องมีเด็กมาฟ้อนรำให้คนดูกัน ไปทอดผ้าป่าโรงเรียน  เซ็นเช็คไว้ให้ ไปทอดผ้าป่าเข้าคณะจังหวัด  ให้เงินสดเข้าคณะจังหวัด  เป็นอย่างนี้แหละ.

    พออยู่มา   ก็บอกว่าวันเพ็ญเดือน ๑๐ ที่จะถึง  วันเพ็ญดี  จะทำตะกรุด ๓ กษัตริย์ ผู้ใดอยากได้ก็ให้เอาทองเอาเงินมา   เขาเอามาให้กันเยอะแยะ  ให้ทำ  ทำกันไปกันมาเรื่องมันแดงขึ้น  เพราะเช็คเด้ง   ร้านถ่ายรูป  คือพออะไรต้องถ่ายรูป  บันทึกประวัติไว้หมด   เพื่อให้โยมดู โยมเห็นไหม ฉันไปทำบุญที่นั่นที่นี่ สาธุ โอ้ ท่านเจ้าทำดีแท้  เที่ยวชมใหญ่  ร้านถ่ายรูปราคาสามพันแล้ว
ถ่ายไปถ่ายมา ให้เช็คไว้ไปเบิกเงินไม่ได้  ไม่มีเงิน   ก็ให้เด็กไปหา  บอกว่ามารับเงินค่าถ่ายรูป ข้าเซ็นเช็คให้ไปแล้วนี่หว่า   ไอ้ร้านขี้ประติ๋ว อย่างนี้มันจะมาอวดดี ดูถูกเสียด้วย
เด็กมาบอกเจ้าของร้าน  เลยเจ้าของร้านไปเอง  เจ้าของร้านเป็นคนใจธรรมะ  ผมมาเอาเงินสด เช็คไม่เอา  เงินสดก็ไม่มีให้  ไม่มีสตางค์นี่   มีแต่เช็คเด้ง  เดี๋ยวร้านโน้น เดี๋ยวร้านนี้เช็คเด้ง ก็เอะอะกันขึ้น  ชิ้นสุดท้ายค่าอาหารก็เช็คเด้ง กินอาหารเช้าเพลส่งเช็คเด้งให้ทั้งนั้น เด้งทั้งนั้น ก็ก่อเรื่องให้ตำรวจจับ   คุณนายทั้งหลาย อย่าเพิ่งไปจับท่าน เงินยังไม่มา ท่านไม่ใช่คนยากคนจน ท่านมีเหมืองเจ้าฟ้าอยู่ภูเก็ต ภูเก็ตมันมีจริง เหมืองเจ้าฟ้า ผมเป็นเด็กพเนจร ยังไปเป็นลูกจ้างเขาเลยสมัยนั้น มันโกหกว่าเป็นลูกนายเหมือง คนเชียงใหม่ไม่รู้จักคนภูเก็ตเจ้าของเหมือง เขาชื่อหลวงอนุภาค ภูเกิดการ ตายไปแล้ว ลูกเขาไม่ได้บวชดอก เขามีสตางค์ ไอ้นี่มันปลอมมา

    ผลที่สุดก็ว่ากันอยู่คืนหนึ่ง   กว่าจะจบสึกได้   พอสึกเสร็จแล้วเข้าไปในห้อง  พบขวดแม่โขงที่กินไว้แล้วเต็มเลย   กินไม่หมดก็มี   ญาติโยมก็ว่านั่นน่าซี่  ตอนเย็นคุยด้วยนั่งโงกเงก สงสัยถามว่าเป็นอย่างไร บอกว่าโยมอะไรก็ไม่ทราบ  เอายาอะไรมาให้ฉันเม็ดตะกี้  มันมึนยังไงชอบกล ความจริงฟาดแม่โขงเข้าไป แล้วก็พอดีเขาจับคืนนั้น  ผมไปอยู่เชียงใหม่ แล้วก็เลยไปเทศน์ที่พุทธสถาน เทศน์บอกว่า พี่น้องทั้งหลาย เห็นไหม ฉันจากเชียงใหม่ไป ๑๐ ปี แล้วความโง่มันเกิดขึ้นสักเท่าไร พระสงฆ์องค์เจ้าที่อยู่กันนี่ ไม่มีหูมีตาเลย ไม่รู้จักหาทางช่วยญาติโยมทั้งหลาย ให้พ้นจากมิจฉาชนที่จะมาหลอกต้มพี่น้อง ให้หลอกอยู่ได้ตั้ง ๓ เดือน นี่มันเรื่องอะไร  ความจริงมีพระที่รู้แต่พูดไม่ขึ้น พอไปพูดขึ้นท่านเจ้าคณะจังหวัดท่านบอกว่า  เพื่อนดีอย่าไปว่าท่าน  เจ้าคณะท่านก็ว่าเพื่อนดี ก็เพื่อนเอาสินบนไปให้เสียแล้ว   ญาติโยมถูกต้มไปงอมตามๆกัน  เป็นอย่างนี้

   นี่แหละ โทษของความเชื่อเหลวไหล ที่มันมีอยู่ในจิตสันดานของพุทธบริษัท ต้องแก้แล้ว ถ้าเราไม่แก้ความเชื่ออย่างนี้นะ จะถูกโจมตีจากผู้ไม่ปรารถนาดี (ท่านว่าพวกคอมมูนิสต์) ว่าพุทธศาสนานี่งมงาย ความจริงไม่ใช่ พระพุทธศาสนาบริสุทธิ์ ดังทองคำธรรมชาติ แต่ทว่ามันมีตะกอนเข้ามาจับเกาะอยู่ เขาเรียกว่า เนื้อร้าย โรคเนื้อร้ายมาเกาะกินพุทธศาสนา มีมากเวลานี้ ถ้าเราไม่ตัดเนื้อร้ายนี้ออก จะเป็นพิษเป็นภัยต่อไปข้างหน้า คนจะเจ็บปวดเรื่อยๆ
เด็กมันเปิดนิทรรศการ เพราะอะไร ?  นิทรรศการธรรมศาสตร์  ผ่าตัดพระพุทธศาสนา ผมดูแล้วมันเลือกรูปมาผ่าตัดเหมาะทั้งนั้น  พระเจิมป้าย พระรดน้ำมนต์ พระปลุกเสกลงเลขยันต์ พระสอนธรรมะไม่มีเลยในรายการนั้น เพราะมันมุ่งร้าย   ไม่ใช่นิทรรศการเพื่อประโยชน์อะไร  แต่เพื่อให้เห็นว่าพระสงฆ์องค์เจ้าไม่ได้เรื่อง  ไอ้ที่ได้เรื่องไม่ว่า  มันเป็นอย่างนี้  มันก็เสียหาย

   ถึงเวลาที่พวกเราทั้งหลาย   ควรจะกลับจิตกลับใจกัน  หันเข้าหาแสงสว่างทางธรรมะกันอย่างแท้จริง เรื่องเหลวไหลไม่ได้สาระแก่นสาร ซึ่งเขาเรียกว่า มงคลตื่นข่าว หรือ สีลัพพตปรามาส ไม่ได้เรื่อง ไม่เป็นสาระ ต้องค่อยๆแก้ ในบางทีเรายังแก้ไม่ได้ แต่เราต้องทำความเข้าใจกับญาติโยม ทำเพื่ออะไร ให้เขารู้นิดรู้หน่อยสะกิดขึ้นด้วยแหลมคมในคำพูด เท่าที่เราจะทำได้ นานๆ ไปเขามองเห็นขึ้นได้เอง อย่าไปนึกว่าเรื่องนี้มันแก้ไม่ได้ เราต้องค่อยๆแก้ แก้ไม่หมดในอายุเรา ลูกเราหลานเราศิษย์เราช่วยแก้ต่อไป ค่อยทำดีขึ้น เราศึกษาอย่างนี้.

    พระพุทธเจ้าของเราเป็นนักปฏิรูป Reformist ไม่ใช่ Revolutionist ทรงเปลี่ยนแปลงแต่ไม่ทำลายของเก่า จะยกตัวอย่างง่ายๆ  เช่น  ชายคนหนึ่งตื่นแต่เช้า (สิงคาลมาณพ) นุ่งผ้าเปียก ห่มผ้าเปียกไปยืนไหว้ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ไหว้ทิศเหนือ ทิศใต้ ทุกวันไม่เคยขาด  พระพุทธเจ้า   เสด็จผ่านมาทางนั้นทุกวัน  เห็นเจ้านั่นเสมอ เลยไปถาม หนูไหว้อะไร ?  ไหว้ทิศ พระเจ้าข้า   ใครบอกให้ไหว้อย่างนี้ ?   คุณพ่อก่อนตายสั่งไว้ว่าให้ไหว้ทิศ  อารยชนเขาไม่ทำกันอย่างนี้นะ   เธอไม่เข้าใจความหมายของคุณพ่อเธอที่สอนเธอให้ไหว้ทิศ ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก  พ่อของเธอไม่ได้อธิบาย   แต่ได้ตายเสียก่อน พูดว่าเธอต้องไหว้ทิศตลอดเวลา   พูดยังไม่ทันจบก็หมดลมตายเสียก่อน  เลยเขาก็ไหว้อย่างนั้น   อารยชนเขาไม่ทำอย่างนั้น  อารยชนเขาไม่ไหว้ทิศอย่างนั้น

ทิศตะวันออกมันเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร  ทิศต่างๆ คืออะไร พระองค์จึงได้ทรงแสดงธรรมเรื่องทิศ ๖ ให้นายหนุ่มคนนั้นฟังว่า  ทิศตะวันออก นี้คือ บิดามารดา  (ปุริมถิมทิศ คือทิศเบื้องหน้า มารดาบิดา)
ทิศใต้ คือ ครูอาจารย์   (ทักขิณทิศ คือทิศเบื้องขวา อาจารย์)
ทิศเหนือ คือ มิตรสหาย   (อุตตรทิศ คือทิศเบื้องซ้าย มิตร)
ทิศเบื้องหลัง คือ บุตรภรรยา   (ปัจฉิมทิศ คือทิศเบื้องหลัง บุตรภรรยา)
ทิศเบื้องบน คือ สมณพราหมณ์   (อุปริมทิศ คือทิศเบื้องบน สมณพราหมณ์)
ทิศเบื้องต่ำ คือ ทาสคนใช้   (เหฏฐิมทิศ คือทิศเบื้องต่ำ บ่าว)  เราควรจะปฏิบัติต่อคนเหล่านั้นอย่างไร ปฏิบัติพ่อแม่อย่างไร ปฏิบัติต่อครูอาจารย์อย่างไร นี่แหละเป็นการปฏิรูป ทรงเปลี่ยนแปลงให้สิ่งที่เขาทำนั้นให้มันถูกต้องขึ้น

173 175 173

    ปฏิรูป    สมควร, เหมาะสม, ปรับปรุงให้สมควร, ถ้าอยู่ท้ายในคำสมาสแปลว่า “เทียม”  “ปลอม” “ไม่แท้”  เช่น  สัทธรรมปฏิรูป  แปลว่า  “สัทธรรมเทียม”  หรือ  “ธรรมปลอม”

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgs-BpuUS8cZvb9tlDeQ6Xnx2CzbbggW6Lzo92Ab4pBzKJ429b4NEBRi6BaSU9JzbJLairMm3lDSXcVZ_J7eesG-6zY_9T_W8tXFtO8qs2hUGDBRBBRDo71d32OCUNqofzH6S9WE9RMZAf9aj0adFCKpWY-Qstj2nemPZYya59vaEqsW7kcL5Wkmmpz/s320/309676029_5746860318709667_6906548030122402155_n.jpg


Create Date : 02 ตุลาคม 2565
Last Update : 2 ตุลาคม 2565 13:43:02 น. 0 comments
Counter : 190 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space