กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
ตุลาคม 2565
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
10 ตุลาคม 2565
space
space
space

ออกดีคือไม่ออก




    ทีนี้ เมื่อปวารณาออกพรรษาแล้ว    ออกพรรษา   หมายความว่า   พรุ่งนี้คือเช้ามืดก็เรียกว่าหมดพรรษา คืนนี้ มันยังอยู่ในพรรษา ยังต้องอยู่ในวัด ออกนอกวัดไปไหนไม่ได้ก่อน พรุ่งนี้ ถึงจะไปได้ เรียกว่าออกพรรษาแล้ว   ทีนี้ เมื่อออกพรรษาแล้ว  คำว่า  “ออก”  นี้เป็นไปได้ ๒ แง่ ออกดี ก็ได้ ออกเสีย ก็ได้ ออกดีก็มี ออกเสียก็มี  “ออกดี” นั้น  หมายความว่า “ไม่ออก”

    (๑) ออกดีคือไม่ออก (ไม่ออกไปจากความดี)  เช่นว่า  เราเข้ามาในพรรษา หรือว่าเราเข้ามาบวชในพระศาสนา  การเข้ามาบวชนั้นก็เพื่ออะไร ?   เราทุกคนก็ทราบดีว่า  บวชเพื่อศึกษา เพื่ออบรมบ่มนิสัย  ให้มีฐานทางจิตใจมั่นคง ด้วยศีลธรรมคำสอนในทางพระศาสนา นี่คือจุดหมายที่เราเข้ามาในพระศาสนา และเราก็ได้ปฏิบัติตามสมควร  บางคนก็ปฏิบัติเคร่งครัดดีงาม สนใจในการศึกษา สนใจในการปฏิบัติขัดเกลาจิตใจอย่างแท้จริง  บางคนก็ไม่ค่อยจะเอาใจใส่เท่าใด อยู่ไปตามเรื่องตามราวทำสักแต่ว่าทำไปตามประเพณี  แล้วก็ผ่านพ้นไป  มันก็เป็นธรรมดา เพราะว่าจิตใจคนเรานี้ระดับมันไม่เท่ากัน  บางคนก็ระดับจิตใจมันดีสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่บางคนก็ไม่ค่อยจะขึ้นเท่าใดยกไม่ค่อยขึ้นมันก็มีอยู่  ถึงกระนั้นก็ได้ชื่อว่าได้เข้ามาในพระศาสนา ได้พบพระพุทธเจ้าโดยโดยน้ำใจ ได้พบพระธรรมโดยน้ำใจ ได้พบพระสงฆ์โดยน้ำใจ เป็นผู้เข้าถึงพระ  ทีนี้  เมื่อเราเป็นผู้เข้าถึงพระอย่างนี้แล้ว  ออกพรรษาเราก็จะสึกไป


   การสึกนั้น มันเป็นเรื่องเปลี่ยนเครื่องนุ่งห่มเท่านั้นเอง เป็นการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบ เราบวชอยู่นี้แต่งเครื่องแบบพระ  ทีนี้ เมื่อสึกออกไปก็แต่งเครื่องแบบชาวบ้าน นุ่งกางแกง ใส่เสื้ออะไรไปตามเรื่องที่เขานิยมกัน นั่นคือการเปลี่ยนเครื่องแบบของร่างกาย
แต่เราไม่ควรเปลี่ยนจิตใจ คือไม่ออก จิตใจนี่ไม่ออก ยังเข้าอยู่เหมือนกับเราอยู่ในวัดในพระศาสนา อยู่ในศีลในธรรม ที่เราได้รับการศึกษาอบรมบ่มนิสัย เราจะไม่ออกไปจากสิ่งนั้น เราอยู่ในวัดทำอะไรได้ อดอะไรได้ เช่น อดบุหรี่ได้ อดเหล้าได้ อดการไปดูหนังไปฟังเพลงได้ อดการสนุกได้สามเดือนกว่า
ที่เราเข้ามาอยู่นี่สามเดือนกว่า  ก็ไม่เห็นมันเป็นอะไร  ร่างกายก็ปกติกินข้าวได้สองมื้อทุกวัน ฉันได้เป็นปกติ  นอนก็หลับได้เป็นปกติ  มันขาดสิ่งที่เราเคยทำแต่ว่าก็อยู่ได้ ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร
เมื่อเราจะออกไปอยู่บ้านก็ควรจะนึกว่า ในขณะที่เราบวชอยู่นั้นเรางดเว้นอะไรบ้าง สิ่งที่เรางดเว้นแล้ว นั่นมันเป็นประโยชน์แก่ชีวิตของเรา เมื่อเราบวชอยู่นั้น เราได้งดเว้นอะไรบ้าง และสิ่งที่เรางดเว้นนั้นมันให้ประโยชน์แก่ตัวเราอย่างไร มันเป็นเรื่องที่เราควรจะพิจารณา เช่นว่า คนที่เคยดื่มสุราจนเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
ทีนี้  เมื่อมาบวชไม่ได้ดื่ม  มันเป็นอย่างไรบ้าง มันก็ไม่มีอะไร ร่างกายก็ดีขึ้นเป็นน้ำเป็นนวลขึ้นหน่อย สุขภาพดีขึ้นทุกอย่าง   ครั้นเมื่อเราสึกออกไปแล้วก็ควรจะอยู่ในสภาพนั้นต่อไป คือไม่ออกจากการงดเว้นการดื่มสุรา เราอยู่เป็นพระเราไม่ได้ดื่ม  ออกไปเราก็ไม่ดื่ม  ก็เรียกว่า เราไม่ได้ออกจากศีลข้อนั้น


   ในข้ออื่นก็เหมือนกัน    เราถือไว้ตลอดไปเราไม่ออก   เช่นว่า   การไม่เที่ยวกลางคืน ความไม่สนุกสนานเฮฮาอะไรต่างๆ เราไม่ออกเรายังรักษาอยู่ เราไม่ได้สึกจากสิ่งเหล่านั้น เราไม่ได้ออกไปจากสิ่งเหล่านั้น  ให้ออกแต่เพียงว่าตามพระวินัย วินัยน่ะมันอยู่ในพรรษาสามเดือนแล้วก็ออกพรรษา นี้ออกพรรษาตามพระวินัย   แต่ในแง่ธรรมนั้น   เราจะไม่ออกเราจะอยู่ในกรอบศีลธรรมต่อไป แม้เราจะสึกออกไปเป็นชาวบ้าน แล้วเราก็ถือว่าเราอยู่ในกรอบ ในประเพณีอันดีอันงามของพระศาสนา เราได้สมัครเข้ามาเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรสแล้ว เราก็ควรอยู่ในสภาพนั้นต่อไปให้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

   ไปที่สงขลา...พบครูคนหนึ่ง แกก็ไม่ใช่ครูธรรมดา เป็นด๊อกเตอร์ สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ ฯ ที่โน่น เมื่อเห็นผมแกสั้นอยู่อย่างนั้นแหละ ก็ถามว่าครูนี่ไปบวชมาหรือ แต่เห็นคิ้วมันไม่โกนโกนแต่ผม ถามว่าไปบวชมาหรือเปล่า  ใช่ครับผมไปบวชมาสามเดือน  แล้วสึกตั้งแต่เมื่อไร
โน่นออกพรรษาก็สึก   แต่ผมยังสั้นอยู่   ผมมันชอบผมแบบนี้  จะแบบนี้เสมอไปคือว่าจะสั้นแบบนี้เสมอไปตราบใดที่นักศึกษาเขาชอบไว้ผมยาวรุ่มร่ามกัน  ผมก็จะไว้ผมสั้นอย่างนี้เสมอไป เพื่อเป็นการแสดงตัวอย่างว่า ไว้ผมสั้นนี่มันก็สบายไม่ได้เจ็บได้ป่วยอะไร ยังทำงานการสอนได้เป็นปกติ แล้วแกก็มาวัดอยู่เสมอ  มาเยี่ยมท่าน..ที่หาดทรายแก้ว  มาทุกอาทิตย์ มาคุยธรรมะกัน มาปรึกษาอะไรในเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่กัน ไม่ได้ออกพรรษา แล้วก็ไม่ได้ออกทางจิตใจ จิตใจยังคงถือระเบียบถือวินัยอยู่ตลอดเวลา อันนี้ มันจะได้ประโยชน์ช่วยคุ้มครองรักษาตัวเราได้

   ถ้าเราออกพรรษาแล้วออกไปเลย  คล้ายกับชาวบ้านที่ในพรรษาอดเหล้าสามเดือน อดได้เด็ดขาดสามเดือน   พรุ่งนี้เช้ามืดเอากันเลย  เตรียมตั้งแต่เย็นนี้เตรียมไปซื้อ ไปอะไรมาแล้ว ใจมันออกไปแล้วก่อนออกพรรษาด้วยซ้ำไป ไปซื้อมาไว้แล้วหลายขวด โซดาเอย อะไรต่ออะไร
บางทีก็สั่งเมียให้ต้มไก่อะไรต่ออะไรไว้ เพื่อนฝูงที่ได้เข้าพรรษา ก็ได้มาประชุมกัน ประชุมกันออกพรรษา อย่างนี้ก็เรียกว่ากลับลงไปสู่ฐานะเดิม ขึ้นมาแล้วถอยลงไปอีก
มันกล้ายๆกับว่าเราเลี้ยงสุนัขไว้ ทีนี้ เราก็จับมันไปอาบน้ำ อาบน้ำสะอาด ถูสบู่อะไรต่ออะไรเรียบร้อย พอปล่อยปั๊บไปคลุกขี้ฝุ่นอีกแล้ว คลุกอีกแล้ว ไอ้ที่ไปคลุกน่ะมันไม่ใช่เรื่องอะไรดอก มันรู้ว่าขยุกขยิกอย่างไรที่ผิวหนัง มันเลยไปคลุกตามวิสัยของมัน สัญชาติมันเป็นอย่างนั้นชอบไปคลุกในรูปอย่างนั้นแหละ

   ทีนี้ คนเรานี่ถ้าว่าถอนออกมาแล้วจากสิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดีไม่งาม ก็ไม่ควรจะถอยกลับไปสู่ในรูปอย่างนั้นอีก ชนะแล้วควรจะรักษาความชนะนั้นไว้ต่อไป ชิตญฺจ รกฺเข อนิเวสโน สิยา. เมื่อชนะแล้วพึงรักษาความชนะนั้นไว้.  นี่เป็นพุทธภาษิตบทหนึ่ง ที่พระองค์กล่าวเตือนภิกษุทั้งหลาย ว่าเมื่อเธอชนะแล้วจงรักษาความชนะนั้นไว้ อย่าให้มันกลับแพ้ไปอีก เพราะถ้าแพ้อีกมันแพ้หนัก แพ้หนักทีเดียว
นี่เป็นเรื่องที่เรียกว่าไม่ควรออก ออกพรรษาแล้วก็ไม่ควรออกจากสิ่งดีสิ่งงามทั้งหลาย แต่ว่าเราจะเอาของดีของงามนี่ไปอวดใครๆ ด้วย เช่นว่า เรามาบวชอยู่นี่ก็เหมือนกับเรามาสร้างพระอยู่ในใจของเรา มาสร้างพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้ในจิตใจของเรา เวลาเราออกไป เราก็เอาไปด้วย เอาไปใช้เป็นเครื่องรางเครื่องศักดิ์สิทธิ์

   เครื่องรางที่ขลังจริงๆนั้น มันไม่ใช่วัตถุที่ทำด้วยโลหะด้วยว่านหรือด้วยอะไรๆ แล้วก็ทำพิธีปลุกเสกกันด้วยอะไรต่างๆ นั่นมันไม่ขลังเท่าใด ไม่ขลังแท้จริง  เครื่องรางที่แท้จริงนั้นก็คือคุณธรรมนั่นเอง พระพุทธที่แท้ พระธรรมที่แท้ พระสงฆ์ที่แท้ ที่มาอยู่ในใจของเรา นั่นแหละคือ เครื่องรางที่แท้จริง ทำให้เราไม่ถูกยิง ไม่ถูกแทง ไม่ถูกทำร้าย อะไรๆ มาทำร้ายไม่ได้ เพราะเรามีเครื่องรางวิเศษ
เพราะฉะนั้น ในเวลาที่เรามาบวชนี้เท่ากับว่าเรามานั่งปลุกเสกกัน  ปลุกเสกตัวเอง ไม่ใช่ใครมาปลุกเสกเรา   ก็มีอาจารย์บ้าง   อาจารย์ปลุกเสก คือแนะแนวแนะวิธีชีวิตให้เราเข้าใจ  เรี่ยกว่ามาปลุกเสกเราเพื่อให้เรามีจิตใจเป็นพระ มีธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจ  ตัวเราเองอยู่ด้วยการประพฤติปฏิบัติตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านวางไว้   พยายามแก้ไขปรับปรุงจิตใจให้ดีขึ้น


   เมื่อเราได้อะไรๆแล้ว ก็ออกไปสู่ความเป็นคฤหัสถ์ เมื่อออกไปสู่ความเป็นคฤหัสถ์แล้ว มีคนเขาคอยจ้องอยู่นะ   คอยมองอยู่ว่า   เออ มันไปบวชแล้วมันเป็นอย่างไร เขามองอย่างนั้น ไปบวชมาแล้วมันเป็นยังไง  นิสัยใจคอเป็นอย่างไร  การเงินการทองจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างไร   เขามองเรา อันนี้แหละ  จะเสื่อมหรือจะเจริญมันก็อยู่ตรงนี้   เราจะช่วยรักษาสถาบันศาสนา หรือเราจะช่วยกันทำลายสถาบันศาสนา ก็อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน  อยู่ตรงนี้ละ
คือถ้าเราออกไปแล้วเรารักษาระเบียบชีวิตจิตใจให้อยู่ในกรอบแห่งศีลธรรมอันดีงามแล้ว เหมือนกับเราช่วยกันรักษาสถาบันทางศาสนาให้อยู่ต่อไป  เพราะคนเขาจะเลื่อมใสศรัทธา  เขาจะมองเห็นว่า เออ ไปบวชแล้วมันดีขึ้น เรียบร้อยขึ้นกว่าเมื่อก่อน จิตใจสงบเยือกเย็นเอางานเอาการไม่ประพฤติเหลวไหล ไม่เหมือนก่อน นี่สบายใจ   คนที่สบายใจคือคุณพ่อคุณแม่ ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะปลื้มใจที่สุดเลย ปลื้มใจว่าลูกชายของท่านบวชแล้วเรียบร้อยกว่าเมื่อก่อน ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน นี่ก็เท่ากับเรายกวิมานทั้งหลังไปวางไว้ในหัวใจของคุณพ่อคุณแม่ ให้ท่านได้นั่งสบายนอนสบายกินสบาย ทำอะไรสบาย โปรดพ่อโปรดแม่อยู่ในตัวแล้ว   ท่านก็ชื่นใจ

   คนที่อยู่ครองเรือน    แม่บ้านจะชื่นใจ   แม่บ้านจะอิ่มใจเหมือนได้ผัวคนใหม่ ไอ้คนเก่ามันไม่ได้เรื่อง มันไม่ได้ความ ไอ้คนเก่าเหมือนกับว่ามันตายแล้ว  ตายไปตั้งแต่วันโน้นน่ะ
ทีนี้ผัวคนใหม่น่าเอ็นดู  น่ารักขึ้นกว่าเป็นไหนๆ นี่ละสบายใจ แล้วก็จะได้ไปคุยกับใครๆ คุณของดิฉันน่ะตั้งแต่ไปบวชมาแล้วเรียบร้อย  นี่สบายใจ  แล้วมีลูกๆ ก็สบายใจ
อยู่กับใครอยู่กับคนงาน กับ ผู้บังคับบัญชาก็สบายใจ   มันดีทั้งหมด ไม่มีเรื่องเสียเลยแม้แต่น้อย แปลว่าทุกคนชื่นใจทั้งนั้น ในการที่เรามาเอาสิ่งที่ดีงามกลับไป  เอาไปใช้ในชีวิตของเราต่อไป นี่มันเป็นเรื่องประเสริฐ  แล้วก็ได้ชื่อว่าเป็นการบำรุงพระศาสนา นี่ล่ะคือการรักษาศาสนา พระศาสนาเราจะอยู่คู่ชาติได้ก็เพราะเราช่วยกันบำรุงอย่างนี้ เพราะฉะนั้น เมื่อเราออกไปแล้วขออย่าออกจากสิ่งดีสิ่งงามเป็นอันขาด นี่ออกไปแง่หนึ่ง   เรียกว่า เหมือนกับไม่ออก


   
    (๒) ทีนี้ ออกอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ออกจากความชั่ว สิ่งใดที่ไม่ดีไม่งาม เราออกไป นี่ก็ออกเหมือนกัน  ออกพรรษา  นี่มันออกสองแง่ คือว่า ออกจากความชั่ว ก็ได้ ไม่ออกไปจากความดี ก็ได้   ยังคงอยู่กับความดีต่อไป   สิ่งใดที่มันไม่ดีเราก็ทิ้งมันเสีย ออกไปจากสิ่งนั้น ก็เรียกว่าได้ทำประโยชน์แก่ชีวิตจิตใจของเรา
พวกเราที่เรียกว่าบวชสามเดือนนี่   พอพรุ่งนี้เช้าก็คงจะมีสึกบ้างแล้ว  ได้ไปเกริ่นๆไว้บ้างแล้ว ก็เรื่อยๆละ ออกไปเรื่อยๆ ทยอยกันไปเรื่อยๆ  จะสึกวันไหนเวลาไหนก็ได้ ไม่ว่าอะไรดอก ไม่มีอะไร ที่นี่ไม่ได้ถือดังกล่าวแล้ว คือไม่มีการถือฤกษ์ถือยาม ถือวันดีคืนดี
ถือว่าเราทำดีเราก็ได้ดี ทำชั่วเราก็ได้ชั่ว มันไม่ได้อยู่กับกาลเวลาดอก สึกออกไปเวลาไหนก็ได้ ออกไปแล้วยังอยู่ในความงามความดี รับรองว่าปลอดภัย

   แต่ถ้าสึกเวลาดี ออกไปแล้วทำไม่ดีก็ไม่ปลอดภัย เพราะฉะนั้น ผลที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น มันอยู่ที่การกระทำของเราเอง ไม่ได้อยู่ที่เวลา หรือฤกษ์ยามอะไรทั้งนั้น

   เพราะฉะนั้น ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสึกเวลานั้นเวลานี้ ฤกษ์นั้น ฤกษ์นี้ ไม่เป็นอะไรใช้ได้ทั้งนั้น สึกได้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรเสียหาย สึกแล้วก็ให้เอาของดีกลับไปด้วย เอาไปอวดเขาดังกล่าวแล้ว เรามีของดีอวด  ใครเขาอาจจะถามว่า   บวชแล้วคุณได้อะไรมาบ้าง  เราก็ไม่ต้องอวด บอกว่าคุณดูเอาเองก็แล้วกัน   เราว่าอย่างนั้น  บอกดูเอาเองก็แล้วกัน ว่าได้อะไรมาบ้าง แล้วเราก็ทำให้เขาดูทุกอิริยาบถ
การพูดแสดงออกมาทางวาจา  การทำอะไรให้เขาเห็นว่าเรานี้เป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล ไม่ใช่มิจฉาทิฏฐิ เป็นผู้ส่งเสริมความสงบ ไม่ส่งเสริมความวุ่นวาย
ส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกลุ่มชน ไม่ส่งเสริมความแตกแยก ไม่ว่าเราไปอยู่ในที่ใดเราถือหลักอันนี้ แล้วเราจะช่วยกันส่งเสริมสิ่งดีและสิ่งงามเหล่านี้ต่อไป ก็จะเป็นการช่วยกันให้เกิดความก้าวหน้าในชีวิตในการงาน
ขอให้พวกเราทุกคนได้คิดไว้อย่างนั้น อย่าให้เสียทีที่เราได้มาบวชในพระศาสนา ได้พบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นของมีค่า ควรจะเกิดเอาไปใช้ในชีวิตของเรา อย่าเป็นไก่แจ้ที่ไปพบพลอยเป็นอันขาด จึงจะได้ประโยชน์จากการบวชอย่างแท้จริง อันนี้เป็นเรื่องหนึ่ง.

 


Create Date : 10 ตุลาคม 2565
Last Update : 19 มกราคม 2567 9:19:13 น. 0 comments
Counter : 204 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space