เรามานึกดูถึงศีล ๕ ข้อ ว่าบัญญัติไว้เพื่ออะไร ? เพื่อรักษาชีวิต เพื่อคุ้มครองทรัพย์สมบัติ เพื่อคุ้มครองครอบครัว เพื่อเกียรติทางคำพูด เพื่อคุ้มครองสติสัมปชัญญะให้ปรกติ นี้ศีล ๕ ข้อ คุ้มครองอย่างนี้.
ข้อ ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต คุ้มครองชีวิต ชีวิตเขาชีวิตเรา คุ้มครอง
ข้อ ๒. ไม่ลักขโมย คุ้มครองทรัพย์สมบัติ
ข้อ ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม คุ้มครองวงศ์สกุลให้ตั้งมั่น และครอบครัวให้ตั้งมั่น คนประพฤติสำส่วนทำให้ครอบครัวไม่เรียบร้อย
ข้อ ๔. คุ้มครองการพูดจาให้คนเชื่อคนฟัง พูดอะไรเขาเชื่อเขาไว้ใจ
ข้อ ๕ เรียกว่า รักษาสติสัมปชัญญะให้คงอยู่ พอดื่มเหล้าแล้วก็เมาไป ไม่ได้เรื่องอะไร สูญเสียสติสัมปชัญญะ อีกอย่างหนึ่ง เรียกว่าไม่คุ้มครองสิ่งเหล่านี้ ที่กล่าวมาใน ๔ ข้อแล้วนั้น
อีกประการหนึ่ง ในการที่พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติศีลนี้ไว้ให้เป็นข้อบัญญัติ ก็เพราะว่ามนุษย์เรานี่ รักอะไรมากที่สุด เริ่มต้น (๑) รักชีวิต นัตถิ อัตตะสะมัง เปมัง คำบาลีว่า ความรักที่เสมอด้วยรักตนย่อมไม่มี รักอะไรมันอยู่ที่ตนทั้งนั้น เรารักเมีย นี่เรื่องอะไร รักเมียเพราะเมียให้ความสุขแก่เรา รักลูกเพราะให้ความสุขแก่เรา รักเงินทองเพราะเงินทองให้ความสุขแก่เรา มันอยู่ที่ตัวตั้งต้นที่ “ตัวเรา” เพราะฉะนั้น ชีวิตนี้เป็นของรัก ทุกคนอยากจะได้ความสุข กลัวความทุกข์ กลัวลำบาก จึงได้บัญญัติศีลข้อที่ ๓ นี้ขึ้นมาจากที่ทุกคนต้องรักชีวิต
ฐานต่อไป คนรักอะไรต่อไป (๒) รักทรัพย์สมบัติ เราหาอะไรมาได้เราก็รัก เราก็หวงแหน ไม่อยากให้คนอื่นเอาของเราไป จึงต้องมีศีลข้อที่ ๒ เข้ามารับความรักส่วนนี้
ทีนี้ รักต่อไปก็คือ (๓) รักครอบครัว มีสามีมีภรรยาก็รักกันหวงแหนกัน ข้อนี้แรง แรงกว่าสมบัติเสียอีก แรงนักหนา ผู้ชายก็หวงแหนมาก ผู้หญิงก็หวงแหนมาก ผู้หญิงเขาหวงแหนมากถึงกับมีคำพูดว่า “เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร” ผู้หญิงเขาหึงหวง ผู้ชายก็อย่างนั้นแหละ ไม่เท่าไร แต่ผู้หญิงเขาแรงกว่า เขาหวง เพื่อให้เกิดความสงบสุขในครอบครัว ก็มีศีลข้อ ๓ มารับ
ทีนี้ (๔) รักแต่จะฟังเรื่องที่จริง เรื่องที่แท้ ใครมาพูดโกหกให้ฟัง เราก็ไม่ชอบใจ โกหกเล่นๆน่ะไม่ว่าอะไรดอก แต่โกหกให้เสียประโยชน์นี่มันเคืองกัน เพราะฉะนั้น จึงต้องมีศีลข้อ ๔ ไว้
ส่วนศีลข้อ (๕) นั้น เพื่อให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์ พอดื่มของเมาเข้าแล้วมันเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ ลดเปอร์เซ็นต์ลงไป เช่น เราเป็นมนุษย์ร้อยหนึ่ง ดื่มไปก๊งหนึ่ง ลดลง ๑ เปอร์เซ็นต์ สองก๊ง ๒๐ สามก๊ง ๓๐ ลดลงไปเรื่อย อันนี้พอมากๆเข้าก็เดินสี่ขา พอเดิน ๔ ขา นี่ไม่ใช่มนุษย์แล้ว เป็นพวกนอนข้างโรงเรียนแล้ว นั่นเป็นอย่างนั้น เพื่อคุ้มความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์ไว้ จึงบัญญัติศีลข้อ ๕
นี่เรียกว่า ศีล ๕ อันนี้ ถ้าเขยิบขึ้นไปหน่อยเป็น ศีลอุโบสถ อุโบสถหรือศีล ๘ ถือกันในวันพระ ศีล ๘ สำหรับรักษากันในวันพระ เดือนหนึ่ง รักษากัน ๔ ครั้ง เดือนละ ๔ ครั้ง นี่เรียกว่าเป็นวันอุโบสถ
บัญญัติ การตั้งขึ้น, ข้อที่ตั้งขึ้น, การกำหนดเรียก, การเรียกชื่อ, การวางเป็นกฎไว้, ข้อบังคับ
Create Date : 05 มิถุนายน 2565 |
|
0 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2567 17:17:48 น. |
Counter : 377 Pageviews. |
|
|
|