กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มิถุนายน 2565
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
15 มิถุนายน 2565
space
space
space

ตัวเราคืออะไร (ต่อ) ทวาร



   ทีนี้  เราควรรู้ต่อไปว่ามันทำหน้าที่อย่างไร มันไม่ใช่เป็นธาตุเฉยๆ  เมื่อธาตุทำหน้าที่ เขาเรียกมันว่าอายตนะ  ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะเป็นอายตนะเป็นเครื่องต่อ  ต่อเมื่อมันทำหน้าที่  อันนี้  ฟังให้ดี  มันเป็นอายตนะเครื่องต่อขึ้นมาเมื่อมันทำหน้าที่

ตา  มีหน้าที่ไป ดูรูป  พอมันทำหน้าที่  ก็เป็นอายตนะ - จักขวายตนะ  เกิดขึ้น

หู  ฟังเสียง  ก็เป็น อายตนะ - โสตายตนะ

จมูก  ได้กลิ่น  เป็น ฆานายตนะ

ลิ้น ได้รส เป็น ชิวหายตนะ

กาย ได้สัมผัสถูกต้องอะไรก็เป็น กายายตนะ

จิต รับรู้อารมณ์ก็เป็นมนายตนะ  คือ เป็นเครื่องต่อขึ้นมา

เมื่อมันไปต่อกับอะไร  มันก็เป็นอะไรตามมา  ซึ่งจะได้พูดกันต่อไป  อะไรๆ มันก็เกิดขึ้น นี่เรียกว่า อายตนะ หมายความว่า  เป็นเครื่องต่อ มีอยู่ในร่างกาย และไอ้นี่ เรียกว่า อายตนะ เรียกว่า ประตู ก็ได้ ภาษาธรรมะเรียกว่า ทวาร


   ทวาร   แปลว่า  ประตูเข้าออกของอารมณ์.

จักขุทวาร  ประตู ตา

โสตทวาร  ประตู หู

ฆานทวาร ประตู จมูก

ชิวหาทวาร ประตู ลิ้น

กายทวาร ประตู กาย

มโนทวาร ประตู ใจ

อันนี้เป็นศัพท์ทางเทคนิคอยู่   เราต้องจำอยู่เหมือนกัน   เวลาไปอ่านหนังสือธรรมะ  เขาใช้ศัพท์ใช้แสง พูดไม่เป็นศัพท์มันก็ไม่เข้าท่า   เลยต้องจำไว้ว่า จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน เป็นเครื่องที่จะไปติดต่อกับเรื่องภายนอก  เป็นทวาร  เป็นปากทางที่จะไหลเข้าไป

แล้ว ประตู ๕ ประตู มันไปรวมอยู่ที่ใจ ใจมันอยู่ตรงกลาง เส้นหนึ่งเป็นตา เส้นหนึ่งหู เส้นหนึ่งจมูก เส้นหนึ่งลิ้น เส้นหนึ่งเป็นกาย มันมีสายโยงมาที่ใจ

ใจนั้น  ทำหน้าที่อยู่สมอง  ถ้าพูดแบบสรีรวิทยา  สมองมันทำงาน  เกิดเป็นความรู้สึกขึ้น ที่รู้สึกนั้น เรียกว่า จิต เรื่องของจิต   แต่ว่ามีรูปเป็นเครื่องประกอบ  มีรูปตา มีรูปหู มีรูปจมูก รูปลิ้น รูปกาย เป็นเครื่องประกอบ

คนหูหนวกสัมผัสเสียงไม่ได้  แต่จมูกมันดีอยู่ตลอดเวลา  มีเหมือนกันนะ บางคนจมูกไม่รู้กลิ่น คือว่าฆานะประสาทเสีย

ลิ้น นี้ก็ต้องรู้รสทั้งนั้น เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม รู้

ร่างกายเป็นเหน็บชา  เราก็รู้เหมือนกัน  นี่เป็นเครื่องรับรู้  เรียกว่า อายตนะภายใน อยู่ที่ตัวของเรา สำหรับรับสิ่งภายนอกเข้ามา และก็สิ่งภายนอกนั้น  ก็เป็นอายตนะเหมือนกัน เรียกว่า อายตนะภายนอก.  อายตนะคือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ  มากระทบกับอายตนะคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปตามเรื่องของมัน.

   นี่เป็นเรื่องในตัวเราที่จะต้องเรียนรู้ไว้  เพราะมันเป็นเครื่องประกอบที่จะทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิดอะไรต่างๆ ขึ้นมา  ตานี้เป็นเหตุทำให้เกิดความรู้สึกได้ หูก็เป็นเหตุทำให้เกิดความรู้สึกได้ ฯลฯ กาย ใจ เป็นเครื่องประกอบทั้งนั้น อยู่ในตัวของเรา ในตัวเราทั้งหมด นี้เป็นเรื่องของรูป.


 




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2565
0 comments
Last Update : 20 มกราคม 2567 15:53:53 น.
Counter : 443 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space