ลำดับการศึกษาพระเครื่องที่ถูกต้อง
ลำดับการศึกษาพระเครื่องที่ถูกต้อง ลำดับการศึกษาเรียนรู้เรื่องพระพิมพ์หรือพระเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาตามวิธีเก่าแบบพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาตามวิธีเก่าแบบพื้นบ้าน หรือการศึกษาแบบผสมผสานในปัจจุบัน ล้วนมีโครงสร้างทางการศึกษาที่เป็นขั้นตอนเดียวกัน เมื่อท่านได้รับพระมา หรือมีพระในครอบครอง สิ่งแรกที่ต้องการรู้ คือ พระอะไร สร้างจากอะไร ดีอย่างไร และเป็นที่นิยมหรือไม่ คำถามทั้ง 4 ข้อนี้ นับเป็นหลักที่ผู้คนใคร่รู้ก่อนที่จะยอมรับทราบว่าพระองค์นั้น แท้หรือไม่ด้วยซ้ำไป การศึกษาเรียนรู้เรื่องพระ ก็เกิดจากคำถามทั้ง 4 ข้อดังกล่าว ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
1. เพราะอะไร คำว่าพระอะไร ในที่นี้มีความหมายได้ 2 ประการคือ
1.1 พระชื่ออะไร สร้างที่วัดไหน กรุใด เป็นต้น ซึ่งเป็นการกล่าวถึงต้นเนิดพระ
1.2 ใครเป็นผู้สร้าง การทราบว่าใครสร้าง สามารถบ่งยอกได้ถึงสกุลช่างศิลปะ เช่น ผู้สร้างหากเป็นชั้นราชาคณะ ช่างผู้แกะพิมพ์พระจะเป็นช่างหลวง หากผู้สร้างเป็นพระคณาจารย์โดยทั่วไป ช่างผู้แกะแม่พิมพ์จะเป็นช่างพื้นบ้าน เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลนำร่องในการพิจารณาสภาวการณ์หรือสาเหตุของการสร้าง ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลโดยตรงกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวขององค์พระได้ประการ หนึ่ง 2. สร้างจากอะไร การรู้ถึงวัตถุดิบในการสร้างพระ นับเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานต่อการพิจารณามวลสารของพระ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีคุณสมบัติทางกายวิภาคทางตรงที่ชัดเจนของพระเมื่อประกอบ กับอายุความเก่า ธรรมชาติภายนอก ที่ส่งผลกระทบกับองค์พระ จะหล่อหลอมรวมเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายถึงสาเหตุที่เกิด ขึ้น จนกลายมาเป็นองค์พระที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน 3. ดีอย่างไร ในที่นี้หมายถึง พุทธานุภาพขององค์พระ อันนับเป็นศรัทธาความเชื่อส่วนบุคคล หากแต่เป็นสิ่งที่สามารถชี้นำความสนใจ ไปสู่ความนิยมตลอดจนการค้นคว้าศึกษาต่อไป 4. นิยมหรือไม่ ความนิยมเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นถึงคุณค่าของพระองค์นั้น ๆ ในแง่ของสังคมนับเป็นเรื่องธรรมดาที่คนส่วนใหญ่ต้องการเก็บสะสมสิ่งที่มีคุณ ค่า ให้กับตนเองและผู้สืบทอด และความนิยมยังเป็นส่วนกระตุ้นการอนุรักษ์พระเครื่องที่ดีประการหนึ่ง เพราะหากขาดความนิยมไปแล้ว พระเครื่องอาจ เป็นสิ่งที่ไม่ได้รับความสนใจ ถูกทอดทิ้งละเลยไปอย่างไม่สมคุณค่า ดังนั้น ความนิยมจึงนับเป็นสิ่งจูงใจ ให้เกิดความแพร่หลายในรูปแบบต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในพระเครื่องดั่งเช่นปัจจุบัน นอกจากนี้ อาจจะมีคำถามอีกมากมาย ที่ต้องการคำอธิบายอย่างลึกซึ้งต่อองค์พระที่พบเห็น โดยส่วนมากคำถามที่นอกเหนือจากนี้ จะเกิดแก่ผู้ต้องการศึกษาเรียนรู้อย่างแท้จริงมากกว่าผู้อยากรู้เพียงฉาบฉวย จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า คำถาม คือ สิ่งที่กำหนดการเรียนรู้ ดังนั้นการที่ต้องการความกระจ่างเพื่อตอบคำถามจึงนำมาซึ่ง การค้นคว้าตำราบทเรียน ฯลฯ และลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องในการศึกษาจะเอื้อประโยชน์ ต่อการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิผลแก่ผู้ศึกษามากที่สุด อันมีลำดับในการศึกษาเรียนรู้ดังต่อไปนี้
1. การศึกษาประวัติความเป็นมา การที่เรารู้ถึงต้นกำเนิดของพระแต่ละองค์ว่าชื่อพระอะไร สร้างจากที่ใด ใคร สร้าง อายุการสร้างเท่าใด อยู่ในศิลปะยุคใด สกุลช่างอะไร สาเหตุการสร้าง และการเก็บรักษาพระจากอดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของรูปพรรณสัณฐานขององค์พระที่รวมเรียกว่า พิมพ์ทรง รวมทั้งกลไกของธรรมชาติ นอกจากนี้ความรู้เรื่องอายุพระ และการเก็บรักษาจะให้คำตอบแก่เราในเรื่องผลกระทบและสภาพพระที่ปรากฏให้เห็น ที่เรียกว่า ธรรมชาติ ขององค์พระอีกทั้งการศึกษาประวัติความเป็นมาของพระที่สมบูรณ์นั้น จะต้องทราบว่าพระในตระกูลนี้มีการสร้างด้วยกันทั้งหมดกี่พิมพ์ มีพิมพ์อะไรบ้าง เพื่อเป็นการจัดกลุ่มของพระแต่ละตระกูล มิให้ตกหล่น หลงกระจัดกระจายผิดหมวด ผิดกลุ่มหรือผิดประเภท ความสำคัญของต้นกำเนิดจึงเป็นพื้นฐานเบื้องต้นมีความสำคัญที่ต้องรู้ และสามารถศึกษาค้นคว้าได้จากตำรา หนังสือต่าง ๆ เพิ่มเติมได้มากมาย 2. การศึกษาโครงสร้างพื้นฐานทางกายวิภาคขององค์พระ หรือการทราบถึงวัตถุดิบในการนำมาสร้างพระ ว่าประกอบด้วยวัสดุหลักอะไร นับเป็นเรื่องจำเป็นขั้นพื้นฐาน ที่ต้องรู้ในศาสตร์แขนงนี้ เพราะวัตถุดิบที่สร้างพระจะเสมือน รหัสลับ ขององค์พระ เอกลักษณ์จากคุณสมบัติของมวลสารที่หลอมรวมเป็นองค์พระก่อให้เกิดโครงสร้าง จริงที่สามารถอธิบายได้ในทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่เข้าใจตรงกันในระดับสากล การเรียนรู้ว่าพระแต่ละองค์ สร้างจากอะไร มีเนื้อมวลสารแบบไหน จึงเป็นขบวนการศึกษาที่จำเป็นต้องเรียนรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาศาสตร์แขนงนี้และในเรื่องเหล่านี้ สามารถค้นคว้าเรียนรู้ได้จากตำรา ซึ่งผ่านการค้นคว้าทดลองมาแล้วจะสะดวกดีกว่า ที่จะเรียนรู้ ทดลอง ทดสอบ ทางการปฏิบัติ ด้วยตัวเอง จากที่กล่าวมา จะทำให้เห็นถึงขบวนการศึกษาเรื่องพระเครื่องที่ สามารถเรียนรู้ได้จากตำรา ทั้งยังคงความสำคัญ และให้ความสมบูรณ์ของเนื้อหา ในการช่วยสรุปบทพิสูจน์ด้าน พิมพ์ทรง และ มวลสาร ขั้นต้นของพระเครื่องได้ แม้จะไม่เคยเห็นพระองค์จริง เป็นที่ทราบกันดีว่า บทสรุปในการพิจารณาพระแท้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 3 ประการคือ 1.พิมพ์ถูกต้อง 2. เนื้อมวลสาร มีอายุความเก่า มีธรรมชาติความเก่า มีธรรมชาติของการเก็บรักษา 3. ธรรมชาติขององค์พระ ซึ่งพระแต่ละแบบมีธรรมชาติเฉพาะของตนเอง เช่น พระกรุเสน่ห์จันทร์ มีคราบกรุเป็นแป้งบางจับอยู่รอบองค์พระ, เหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเหรียญกะไหล่ทองซึ่งก็ไม่มีแบบรมดำ ถ้ามีซึ่งถือว่าผิดธรรมชาติ อาจเลียนแบบ หรือทำในยุคหลัง ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ ต้องใช่พระแท้ ดังนั้น บทพิสูจน์ต่อการพิจารณาพระแท้ ที่ผู้สนใจศึกษาสามารถเรียนรู้ได้จากตำราเป็นการนำร่องดังที่กล่าวมา จะเป็นสิ่งที่ช่วยในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการจัดการเรียนการสอน ที่ปรากฏในเอกสารการศึกษาครั้งนี้
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 1:38:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2785 Pageviews. |
|
|
|
|
|