วิวัฒนาการในการศึกษาพระเครื่อง
วิวัฒนาการในการศึกษาพระเครื่อง
จากข้อมูลที่ปรากฏเบื้องต้น สามารถวิเคราะห์ได้ว่า การเกิดพระพิมพ์หรือพระเครื่องนั้น นับเป็นการตอบสนองของอุปสงค์กับอุปทาน หรือความต้องการของผู้บริโภคต่อปริมาณการผลิต แม้แต่ในกรณีที่สร้างเพื่อเป็นการสืบพระศาสนา การประกอบกุศล หรือการสร้างเพื่อรองรับกับความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะหากมีการสร้างเฉพาะเท่าที่ปรารถนาในช่วงเวลานั้น พระเครื่องก็อาจกลายเป็นโบราณวัตถุที่น้อยคนจะรู้จัก และไม่แพร่หลายเช่นปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบว่า วิวัฒนาการในการสร้างพระพิมพ์หรือพระเครื่อง มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทางพุทธศิลปะ หรือวัสดุที่นำมาเป็นทิพสัมภาระ (วัสดุต่างๆ) ในการสร้าง รวมทั้งกรรมวิธีการสร้าง ความหลากหลายทางกายภาพของพระเครื่องดัง กล่าวเป็นจุดที่นำมาซึ่งการศึกษาค้นคว้าเอกลักษณ์เฉพาะของพระพิมพ์หรือพระ เครื่องแต่ละประเภท แต่ละตระกูล จนเกิดมีการจำแนก แยกแยะ เพื่อความสะดวกในการศึกษา จดจำ และมีวิวัฒนาการ จนมาเป็นแนวทางที่ดีในปัจจุบัน ในทำนองเดียวกันการศึกษาพระพิมพ์หรือพระเครื่อง ก็มีการพัฒนารูปแบบไปจากเดิม ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1. การศึกษาแบบพื้นบ้าน การศึกษาในรูปแบบนี้เกิดขึ้นมาช้านาน นับตั้งแต่เริ่มกำเนิดพระพิมพ์หรือพระเครื่อง นับเป็นการศึกษาแบบพื้นฐานที่ไม่มีองค์ประกอบอื่นช่วยเสริม จึงเป็นการศึกษาตามระบบธรรมชาติ ไม่ซับซ้อน เช่น การเรียนรู้จากคำบอกเล่า การศึกษาจากรูปพรรณของพระที่มีอยู่ การเรียนรู้โดยดูจากของจริง เป็นต้น ซึ่งการศึกษาเหล่านี้มีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้รู้ หรือผู้ที่มีโอกาสได้สัมผัสเห็นพระของจริง เพราะเป็นการศึกษาที่ขาดคำอธิบาย ในเชิงประวัติศาสตร์ โบราณคดี วิทยาศาสตร์ ตลอดจนบันทึกและจารึกต่าง ๆ ที่ชัดเจนเป็นหลักฐาน ที่สามารถพิสูจน์แน่นอนลงไปได้ 2. การศึกษาแบบผ่านสื่อหรืออุปกรณ์การศึกษา เมื่อความเจริญก้าวหน้าทางอิเลคทรอนิกส์และสื่อสารมวลชนดีขึ้น การถ่ายทอดเผยแพร่ความรู้ในวิทยาการต่าง ๆ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีการเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อสารมวลชนหลากหลายรูป แบบ ทำให้ความรู้ แพร่กระจายไปได้อย่างกว้างไกล ความรูเรื่องพระพิมพ์และพระเครื่อง นับเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่มีสื่อให้ความสนใจนำออกเผยแพร่มานานกว่า 40 ปี หนังสือพระนับเป็น สื่อการเรียนการสอน สิ่งแรกที่เกิดขึ้นในการเรียนรู้เรื่องพระ และเจริญเติบโตขยายฐานการศึกษาสู่การสื่อสารมวลชนทุกประเภทในปัจจุบัน วิวัฒนาการของการศึกษาพระเครื่องโดยผ่านสื่อต่าง ๆ ส่งผลให้มีจำนวนผู้นิยมสะสมพระมากเป็นเท่าทวีคูณ จากความนิยมเฉพาะกลุ่มสู่ความนิยมระดับประเทศและระดับสากล การเรียนรู้ด้วยสื่อสิ่งพิมพ์คือ โอกาสในการได้พบเห็นรู้จัก เรียนรู้จากพระแท้ เพราะนับวันพระเก่าพระแท้ เฉพาะอย่างยิ่งพระสวย เป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก แต่กระนั้นการได้เห็นภาพ ศึกษาจากประวัติ ก็ถือว่าช่วยได้มาก
เมื่อเทียบกับยุคแรก ๆ ที่มีผู้สนใจแต่ขาดโอกาสเห็นองค์จริง จึงรู้จักเพียงแต่ชื่อพระ และไม่อาจประเมินรูปพรรณสัณฐานได้เลย หากไม่เคยเห็นพระองค์จริง จึงมีคำกล่าวว่า จะรู้เรื่องพระให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งต้องเคยเห็นพระแท้ ซึ่งสำหรับคนรุ่นเก่ามีเพียงส่วนน้อยที่จะถือว่ามีโอกาสดี เพราะการมีความรู้ในแต่ละเรื่องต้องใช้เวลามาก เนื่องจากขาดข้อมูลพื้นฐานและปัจจัยสนับสนุน ขาดผู้ชี้แนะ ขาดตำราชี้นำแนวทางในการเรียนรู้ รวมทั้งขาดเหตุและผลที่จะอธิบายความเป็นมาอย่างมีหลักการเพื่อให้เป็นที่ยอม รับอย่างสากล ดังนั้นจึงต้องพยายามค้นหาประสบการณ์จากภาคสนาม แต่ในปัจจุบันจะพบว่า มีผู้ชำนาญการด้านพระพิมพ์และพระเครื่องเป็นจำนวนมาก ในอัตราการเพิ่มจำนวนแบบทวีคูณ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ดูแล้ว พบว่าการศึกษาเรียนรู้เรื่องพระพิมพ์หรือพระเครื่อง คือ มีการศึกษาจากตำราเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานก่อน แล้วเสาะแสวงหาประสบการณ์เพิ่มเติมโดยการดูพระองค์จริงจากภาคสนาม
ทำให้ผู้ชำนาญการหรือผู้รู้ในเรื่องนี้ ย่นระยะเวลาการศึกษาลงไปได้ครึ่งหนึ่งของที่เคยเป็นมาในอดีต ทั้งความรู้ที่ได้จากตำรา หรือสื่อต่าง ๆ ล้วนมีส่วนช่วยในการพิจารณาความเป็นมาของพระพิมพ์ หรือพระเครื่องได้กระจ่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยข้อเท็จจริงการศึกษาเรื่องนี้ไม่อาจแตกฉานได้หากไม่เคยเห็นพระแท้ แต่อย่างไรก็ตาม ตำราวิชาการที่ถูกต้องสมบูรณ์นับเป็นเครื่องช่วยย่นระยะเวลาการศึกษาให้สั้น ลง ทั้งเป็นแบบอย่างสากลที่อารยประเทศยอมรับ นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือต่อไปในอนาคต เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่เคยเป็นแต่นามธรรมคำกล่าวอ้าง บัดนี้ได้มีองค์ประกอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ มาอธิบายความเป็นไปสอดคล้องกับความเป็นจริง ตามประวัติศาสตร์และโบราณคดี ที่ถือเป็นแนวทางการเรียนรู้ตามแนววิทยาศาสตร์ที่เป็นวิทยาการสากล การศึกษาพระเครื่องในปัจจุบัน เป็นการศึกษาที่ผสมผสานระหว่างภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ จึงส่งผลให้เกิดความแม่นยำ มีทิศทางพร้อมที่จะก้าวสู่การยอมรับของสากล ทั้งเป็นที่น่ายินดีที่การศึกษาเรื่องพระเครื่องได้รับความสนใจ และมีการพัฒนารูปแบบจนมาถึงในปัจจุบัน หากเทียบกันกับในช่วงยุคการศึกษาแบบพื้นบ้านในอดีต ที่เป็นองค์ความรู้รูปแบบเดิม ๆ ไม่มีการขยายและกระจายความรู้ ทำให้การศึกษาและความนิยมในเรื่องพระเครื่องเติบโตอย่างเชื่องช้ามากในช่วง 30 ปีแรก ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้ว่าคนยุคแรกจะมีข้อได้เปรียบในการได้เห็นพระแท้ก็ตาม ด้วยวิทยาการที่ก้าวหน้าล้ำยุคของการผลิตสื่อความรู้ต่าง ๆ ในเรื่องพระ ปัจจุบันความเสมือนจริงของภาพพระได้ถูกบันทึกลงในสื่อจนอาจกล่าวได้ว่า ใกล้เคียงกับของจริงมาก รวมทั้งมีความชัดเจนและสะดวกในการศึกษามากกว่าเดิม ถ้าผู้ศึกษาในยุคปัจจุบันมีโอกาสเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ศึกษาในยุคแรกที่ได้ เห็นพระแท้ ก็เชื่อได้ว่าท่านจะเป็นผู้ที่มีความรู้แตกฉานได้ แม้โอกาสพบเห็นพระมีน้อย
เพราะความรู้จากตำราเป็นเสมือนเครื่องช่วยที่ดีในการเติมเต็มความรู้ที่ขาด หายไป ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งเหมาะสมกับความรู้เบื้องต้นขึ้นพื้นฐานจาก ตำราที่ถูกต้อง ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับจากสากลอย่างเป็นทางการ
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 0:53:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1727 Pageviews. |
|
|
|
|
|