ตลาดพระเครื่องไทยในประเทศสิงคโปร์ ตัน ฉี่กวง ผู้สร้างมาตรฐานพระแท้

“thaprachan.com” เป็นเว็บไชต์ของชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ ซึ่งปัจุบันถือว่าเป็นเว็บไซต์เช่าซื้อพระที่มีเป็นมาตรฐานมากที่สุดของวงการพระเครื่อง และด้วยความมีมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับวงการพระเครื่องนี่เองทำให้ “นายประเสริฐ จินดาบุญจรัส” หรือเจ้าของฉายา “หยู ท่าดินแดง” นำมาตั้งเป็นชื่อร้านพระเครื่องในศูนย์การค้าฟูรุชโซ่ คอมเพล็กซ์ ประเทศสิงคโปร์ โดยได้ใช้ชื่อร้านว่า “Thaprachan.com” ทั้งนี้ได้ร่วมทุนกับ นายตัน ฉี่กวง ผู้นิยมพระเครื่องชาวสิงคโปร์ และนโยบายการให้เช่าพระเครื่องอย่างหนึ่งของร้านที่ทำมาตลอดมากว่า ๕ ปี ของการเปิดร้าน คือ พระที่ออกจากร้านทุกองค์นอกจากรับประกันพระแท้แล้วยังรับประกันคืนเงินได้ทุกเวลา ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาคืนเลยสักองค์ แต่จะกลับมาเช่าเพิ่มภายหลัง

“คนสิงคโปร์เล่นพระเพราะเชื่อว่าพระมีพุทธคุณ แขวนแล้วหน้าที่การงาน ธุรกิจ รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น พระเครื่องที่ได้รับความนิยมมักจะเป็นพระเครื่องที่เลื่องชื่อพุทธคุณด้านค้าขาย เมตตามหานิยม รวมทั้งโชคลาภ ประโยคแรกที่ลูกค้ามักจะถามเสมอๆ ว่า อู่ชินมิไกเพวาเวอร์ (ภาษาจีนฮ๊กเกี้ยน) ซึ่งหมายถึง พระองค์นี้มีพุทธคุณเด่นด้านใด แม้ว่าจะตอบเป็นภาษาไทยว่า เมตตามหานิยม คนสิงคโปร์ก็เข้าใจ ส่วนพระเครื่องที่มีพุทธคุณด้านคงกระพันและเหนียวจะไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะเป็นประเทศที่ทำการค้าและเป็นประเทศที่สงบปลอดจากโจรผู้ร้าย” นี่เป็นคำยืนยันของ ตัน ฉีกวง

การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า นอกจากรับประกันซื้อคืนแล้ว ตัน ฉีกวง ยังบอกด้วยว่า การนำลูกค้าที่เช่าพระจากทางร้านมาส่งพระที่เช่าไปเข้าประกวดพระเครื่องในเมืองไทยที่สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยให้การสนับสนุนก็สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ไม่แพ้กัน พร้อมกับมีการรับประกันต่ออีกว่า หากพระที่ส่งเข้าประกวดกรรมการไม่รับและตัดสินเป็นพระเก๊ นอกจากจะคืนเงินให้ทั้งหมดแล้ว ทางร้านยินดีจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาส่งพระเข้าประกวดให้ทั้งหมด

จาก ๒ นโยบายของทางร้าน คือ การรับประกันซื้อคืน และพาผู้เช่านำพระมาส่งประกวด ส่งผลให้ลูกค้ามีความใจถึงความสำคัญของพระเก๊พระแท้มากขึ้น รวมทั้งราคาพระเครื่องที่เป็นมาตรฐาน สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ตลอดเวลา ส่งผลให้คนมาสะสมพระเครื่องทั้งที่หวังพึ่งพุทธคุณ และเป็นทรัพย์สินมากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้มักจะถูกผู้ค้ารายเก่าๆ สวดเช่นเดียวกับในเมืองไทย คือไม่อยากให้ใครได้ดีกว่ากัน

อย่างไรก็ตาม ในอดีตผู้ขายพระมักจะพูดกรอกหูผู้เช่าพระเสมอๆ มีอยู่ ๒ ประโยค คือ “เช่าพระไปแล้วอย่าเอาพระมาให้เซียนพระในเมืองไทยดูเด็ดขาด เพราะถ้าขอซื้อแล้วไม่ขายให้จะถูกยิงทิ้ง” ส่วนอีกประโยคหนึ่งคือ “เช่าพระไปแล้วอย่าไปเที่ยวอวดใครว่ามีของดี และห้ามนำพระมาส่งประกวดในเมืองไทยอย่างเด็ดขาด เพราะพระของท่านอาจจะถูกสับเปลี่ยน หรือกรรมการจะตัดสินให้เป็นพระเก๊” ๒ ประโยคดังกล่าวนี่เองทำให้คนสิงคโปร์เล่นพระผิดทางมานานแล้ว โดยเฉพาะพระสมเด็จน่าจะมีของแท้ไม่ถึง ๑% เพราะใครๆ ก็มีพระสมเด็จกันทั้งนั้น

พร้อมกันนี้ ตัน ฉีกวง ยังบอกด้วยว่า ผู้ขายพระปลอมในสิงคโปร์นอกจากคนปกติทั่วไปแล้ว ยังมีคนที่โกนหัวแล้วนุ่งเหลือห่มเหลืองโดยแอบอ้างว่าเป็นพระจากเมืองไทย นำพระเก๊ไปขายก็มีอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้คนสิงคโปร์มักจะเชื่อไปก่อนว่า เป็นพระเป็นนักบวชแล้วคงไม่พูดโกหก แต่ที่ไหนได้เช่าพระสมเด็จจากท่าพระจันทร์ไปองค์บาทไปขายที่สิงคโปร์องค์ละพันองค์ละหมื่น คนสิงคโปร์ที่สนใจเรื่องพระเครื่องในระยะแรกเริ่มจะโดนหลอกเช่าพระเก๊จากพระสงฆ์ปลอมกันทุกคน

สำหรับพระเครื่องที่ชาวสิงคโปร์เชื่อว่ามีพุทธคุณด้านโชคลาภนั้น ตัน ฉีกวง บอกว่า ต้องยกให้พระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. พุทธคุณเด่นทางหน้าที่การงาน ส่วนพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง พุทธคุณเด่นด้านโชคลาภ ทั้งนี้มีลูกค้ารายหนึ่งได้เช่าพระเครื่องหลวงปู่ทิมชนิดที่เรียกว่าเช่าวันนี้พรุ่งนี้ถูกหวย จากนั้นก็เช่าพระหลวงปู่ทิมอีก ๒ องค์ ปรากฏว่าผู้เช่าถูกหวยรางวัลที่ ๑ เป็นที่ร่ำลือของวงการพระเครื่องในสิงคโปร์มาก ส่งผลให้พระหลวงปู่ทิมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ส่วนความแตกต่างของราคาพระเครื่องที่ขายในประเทศสิงคโปร์กับในประเทศไทยนั้น ตัน ฉีกวง บอกว่า คนจำนวนไม่น้อยอาจจะคิดว่าสามารถบวกกำไรได้หลายเท่าตัว แต่ความจริงแล้วต่างกันประมาณ ๑๐-๒๐% เท่านั้น ทั้งนี้เพราะทางร้านรับประกันซื้อคืน การบวกกำไรมากๆ นั่นหมายถึงเมื่อมีการคืนพระเกิดขึ้นก็ต้องใช้เงินมากด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเปิดร้านมากว่า ๕ ปีก็ไม่เคยมีใครนำพระมาเลยสักองค์

“กระแสความศรัทธา และความนิยมพระเกจิอาจารย์ของชาวสิงคโปร์เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศไทย รวมทั้งพระเครื่องและวัตถุมงคลสร้างใหม่ด้วย ทั้งที่เก่งจริงโดยไม่ต้องโปรโมท และเก่งผ่านการโปรโมทของสื่อ” นี่เป็นคำยืนยันของ ตัน ฉีกวง

สำหรับพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมในอันดับต้นๆ ของชาวสิงคโปร์ ซึ่งทุกครั้งที่มีการนิมนต์ไปสิงคโปร์ มีคนมากราบไหว้ขอพรและชมบารมีหลักหมื่นคน

อันดับ ๑ คือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือพระราชวิทยาคม แห่งวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพระภิกษุของพุทธศาสนิกชนของชาวไทย และชาวต่างประเทศ พระผู้ได้รับการขนานนามว่า “เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด”

อันดับ ๒ ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ลูกศิษย์สายครูบาศรีวิชัย ซึ่งได้สร้างครูบาศรีวิชัย เนื้อโลหะองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดหน้าตักกว้าง ๙ เมตร สูง ๑๒ เมตร ให้ศรัทธาจากทั่วสารทิศ

อันดับที่ ๓ ครูบากฤษณะ อิณทวัณโณ แห่งสำนักสงฆ์เวฬุวัน หมู่ที่ ๑ บ้านคลองกระทิง ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เจ้าตำรับเทพจำแลงภมร และ เทพสาริกา ของภาคอีสานเมืองย่าโม ผู้ที่ชาวต่างชาติขนานนามให้เป็น “The King of Butterfly”

และอันดับที่ ๔ พระสารินทร์ ธัมมปาโล หรือ หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม บ้านไทยสามารถ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าตำรับมนต์เขมรโบราณ พระเกจิอาจารย์อาคมขลังแห่ง จ.สระแก้ว วัตถุมงคลของหลวงพ่อดำ ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมในบรรดานักเล่นเครื่องรางของขลังทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

ตลาดพระเครื่องไทย

Create Date : 05 มกราคม 2556
Last Update : 5 มกราคม 2556 0:36:33 น.		0 comments
Counter : 14925 Pageviews.
Share Tweet