เห็นใคร ๆ ในเว็บฝรั่งก็ทำเค้กนี้กัน ลองดูบ้างค่ะ ว่ากันว่าที่เค้กนี้ได้ชื่อว่า Magic Cake ก็เพราะมีวิธีทำขั้นตอนเดียว .... ตีแบทเทอร์ครั้งเดียว ก็สามารถอบออกมาเป็นเค้กคัสเตาร์ดอร่อย 3 เลเยอร์ได้ ... อ่าน ๆ หลาย ๆ บล็อกก็ใช้สูตรเดียวกัน มีต่างกันเล็กน้อยตรงใส่น้ำมะนาวเหลือง หรือ น้ำส้ม ลงช่วงตีไข่ขาว ... เราเลยใช้สูตรของ Modern Taste เป็นสูตรที่ดีทีเดียวค่ะ ... ทำไปแล้ว 3 ครั้ง ผลออกมาดี อร่อยทุกครั้ง ...
ที่ว่าต้องทำ 3 ครั้ง ก็เพราะ ครั้งแรก ใช้ถาดอบแบบถอดก้นได้ (สี่เหลี่ยม - 2 ถาดเล็ก) เพราะเห็นว่าขอบสูงดีหน่อย ว่าห่ออลูมินั่มฟอยล์ ดีแล้ว มีแบทเทอร์ไหลออกจากถาดช่วงอบจนได้ ได้เค้กไม่กี่ชิ้นจากถาดอบเล็ก ๆ ที่แบทเทอร์ ไม่ซึมออก ... ไม่พอใจ เอาใหม่ 55 ... ครั้งที่สองเอาถาดอบขนาดยาวขึ้น ประมาณ 23 x 33 ซม. เพราะสังเกตเห็นว่าแบทเทอร์ ที่ทำครั้งแรกเยอะดี เอาถาดใหญ่หน่อย คงพอดี ... ปรากฏว่าเค้กที่ได้ไม่สูงมาก แบนเป็นคุ้กกี้บาร์ไป ... ครั้งที่สามเลยใช้ถาดสี่เหลี่ยม 8 x 8 นิ้ว ตามสูตรที่เค้านิยมทำกันทั่วไป ครั้งนี้ลองตีไข่ขาวยอดไม่ถึงกับยอดแข็งมาก ๆ ดู ... ก็ได้ผลดีเช่นกัน เดี๋ยวไปพูดช่วงทำตอนท้าย ๆ นะคะ ว่าการตีไข่ขาว มีผลยังไงกับเค้กที่ได้ ... มาดูวิธีทำกันค่ะ
Magic Custard Cake
slightly adapted from //moderntasteblog.blogspot.com.au/2013/08/magiczne-ciasto.html
ส่วนผสม
1. ไข่ (Large) ที่อุณหภูมิห้อง 4 ฟอง (แยกไข่ขาว ไข่แดง)
2. น้ำตาลไอซิ่ง 130 กรัม
3. เนยละลาย 125 กรัม (อุ่น)
4. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 115 กรัม
5. เกลือ ¼ ช้อนชา
6. นมสด 500 มล. หรือ 2 ถ้วย * (อุ่น)
7. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
8. vanilla extract 1 ช้อนโต๊ะ **
9. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
(มะนาวเหลือง หรือ เขียวก็ได้ค่ะ)
* เราใช้นมสด 2 % ค่ะ
** ไม่ควรลดปริมาณ วนิลา ลงค่ะ เดี๋ยวเค้กจะคาวไป
*** นมกับเนย ควรอุ่น ๆ ก่อนนำลงผสมในแบทเทอร์ค่ะ ... อันนี้เราว่าตามประสบการณ์ ความรู้สึก อิอิ ... ละลายเนยในไมโครเวฟ พอละลายดี เอาออกมาจากไมโครเวฟ แล้วอุ่นนมจนอุ่น ใช้วิธีเอานิ้ว จุ่ม เช็คดู ถ้ารู้สึกอุ่นหน่อย ๆ ก็ถือว่าใช้ได้
เสร็จแล้วก็นำถ้วยเนยละลาย เข้าไปพักในไมโครเวฟ พร้อมกับ นมที่อุ่นไว้แล้ว ... ปิดฝาไมโครเวฟ พักไว้ รอจนกว่าจะใช้งานในนั้นเลยค่ะ ... วิธีนี้ช่วยให้เนยไม่กลับมาข้นได้ด้วย
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 330 F หรือ 165 C .. เสร็จแล้วก็ทาเนยในพิมพ์อบสี่เหลี่ยม ขนาด 8 x 8 นิ้ว ให้ทั่ว (ทั้งก้นและขอบถาด) ปูกระดาษไข หรือ กระดาษอบ Parchment Paper ให้ขอบกระดาษโผล่เหนือขอบพิมพ์ขึ้นมาหน่อย เวลาขนมสุก จะได้ยกออกมาตัดได้ง่าย ๆ ... ปูแบบ 2 แผ่นไขว้จะดีค่ะ
2. ตีไข่แดง น้ำตาลไอซิ่ง น้ำเปล่า และวนิลา จนฟู ข้น สีจาง (เราใช้ hand mixer) .. ประมาณ 4 นาที ค่อย ๆ เทเนยละลาย ลงผสม อีกมือหนึ่งก็ตีผสมไปค่ะ พอส่วนผสมเข้ากันดี ก็ร่อนแป้งและเกลือลงผสม (แบ่งลงผสมประมาณ ครั้งละ 1/3 ส่วน) ... ตีส่วนผสมให้เข้ากันดี เสร็จแล้วก็ทยอยเทนมอุ่นลงผสม ตอนนี้ก็ยังใช้ hand mixer นะคะ ... ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี ตอนนี้ส่วนผสมที่ได้จะเป็นของเหลวข้น ๆ ค่ะ
3. ล้างหัวตีให้สะอาด ... ตีไข่ขาวด้วยความเร็วต่ำ จนเริ่มได้ฟองละเอียด ใส่น้ำมะนาวลงผสม ตีด้วยความเร็วสูง ตีจนได้ไข่ขาว จนตั้งยอด ... ไม่ถึงกับแข็งมาก ๆ เราว่ากำลังดีค่ะ จะช่วยให้ผสมแบทเทอร์ได้ง่าย
4. แบ่งไข่ขาวเป็น 3 ส่วน ลงผสมกับส่วนผสมไข่แดงในข้อ 2 คราวนี้ใช้พายยางตะล่มเอานะคะ เบา ๆ มือ... ถ้าพบว่าไข่ขาวทีตีได้ยอดแข็งไปหน่อย .. ใช้ส้อมคนผสมไปในทางเดียว จะง่ายขึ้นมากค่ะ เราใช้ส้อม 2 คัน คนไปพร้อมกันเลย 55 ...
5. เทแบทเทอร์ใส่พิมพ์ ส่งเข้าเตาอบประมาณ 1 ชั่วโมง (เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงหรือ 60 นาทีเป๊ะเลยค่ะ) ... สังเกตว่าหน้าเค้กเป็นสีเหลืองทองเข้ม ก็ใช้ได้ ... พักเค้กให้เย็นลงในพิมพ์ ... เสร็จแล้วก็ปิดหน้าด้วย plastic wrap นำเข้าตู้เย็นให้เซ็ทตัวต่อ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ค่อยนำออกมาตัดเสิร์ฟ
มาดูวิธีทำ ตามรูปอีกทีนะคะ
ตีไข่แดง น้ำตาลไอซิ่ง น้ำเปล่า และวนิลา จนฟู ข้น สีจาง (เราใช้ hand mixer) .. ประมาณ 4 นาที
ค่อย ๆ เทเนยละลาย ลงผสม .. อีกมือหนึ่งก็ใช้ hand mixer ตีผสมไปค่ะ
จะได้ส่วนผสมประมาณนี้
ร่อนแป้งและเกลือลงผสม (แบ่งลงผสมประมาณ ครั้งละ 1/3 ส่วน) ... ตีส่วนผสมให้เข้ากันดี
ทยอยเทนมอุ่นลงผสม ตอนนี้ก็ยังใช้ hand mixer นะคะ ... ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี ตอนนี้ส่วนผสมที่ได้จะเป็นของเหลวข้น ๆ
ล้างหัวตีให้สะอาด ... ตีไข่ขาวด้วยความเร็วต่ำ จนเริ่มได้ฟองละเอียด ใส่น้ำมะนาวลงผสม ตีด้วยความเร็วสูง ตีจนได้ไข่ขาว จนตั้งยอด
แบ่งไข่ขาวเป็น 3 ส่วน ลงผสมกับส่วนผสมไข่แดง
อย่างที่ว่าไว้นะคะ ถ้าตีไข่ขาวยอดแข็งหน่อย ใช้ส้อมคนผสมกับไข่แดง (เบา ๆ มือ) จะช่วยให้ง่ายขึ้นมากค่ะ .. ไข่ไม่ยุบตัวค่ะ ไม่ต้องกลัวเรื่องนี้
แต่ถ้าตีไข่พอได้ยอดตั้ง ไม่ทถึงกับแข็งมาก ... ตะล่อมผสมด้วยพายยายก็ง่ายดีค่ะ ... ไว้ไปดูความต่างของเค้กที่อบเสร็จ ช่วงล่างนะคะ
ส่งเข้าเตาอบที่อุ่นไว้แล้ว ที่ 330 F หรือ 165 C ... ใช้เวลาอบประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ 60 นาทีค่ะ
พอพักให้เค้กเย็นลงซักครู่ ขอบเค้กจะยุบลงหน่อย ๆ ... เป็นเรื่องธรรมดาของเค้กนี้ค่ะ เสร็จแล้วก็ใช้พลาสติกคลุมพิมพ์ นำเค้กเข้าพักในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนนำออกมาตัดเสิร์ฟ ...
อันนี้เป็นชุดที่ทำครั้งแรก ... ใช้พิมพ์อบเล็ก ๆ ถอดก้นได้ 2 พิมพ์อบ ... ว่ารองด้วยกระดาษอลูมินั่มดี มีแบทเทอร์รั่วออกถาดช่วงอบจนได้ ได้มาถาดเดียว อิอิ ... อันนี้ตีไข่ขาวยอดแข็งหน่อยค่ะ คนผสมแบทเทอร์ด้วยส้อม ... เนื้อเค้กละเอียด แข็งแรง เนียนผสานกับส่วนคัสตาร์ดดี แยกเป็น 3 ชั้น เห็นได้ชัด
ทำครั้งที่ 2 ถาดอบใหญ่ขึ้นอย่างที่เล่า ... เลยได้เป็นชิ้นแบน ๆ 55 ... แต่เนื้อเค้กก็ยังแยกเป็น 3 ชั้นค่ะ อันนี้ก็ตีไข่ขาวยอดแข็งหน่อย คนผสมแบทเทอร์ด้วยส้อมเช่นกัน
อันนี้ตีไข่พอตั้งยอด ไม่ถึงกับแข็งมาก ... คนแบทเทอร์ง่ายดีค่ะ เค้กแยกส่วนได้ชัดเจนมาก แต่เนื้อเค้กจะเนื้ออ่อนนุ่มมาก ๆ ... มีแยกจากชั้นคัสตาร์ด ได้ชัด... ไม่ผสานกันดีเท่าไหร่ ประเด็นนี้คงขึ้นอยู่การผสมแบทเทอร์ด้วยน่ะนะคะ .. อร่อยเหมือนกัน เพียงแต่เนื้อเค้กจะนุ่มมาก ๆ ลำบากช่วงตัดหน่อย
สรุป ... ส่วนตัวเราก็ว่าอร่อยทั้งสามครั้งที่ทำค่ะ ทานแล้วหยุดไม่ค่อยจะได้ สมชื่อ Magic Cake ของเธอ .. ใครชอบเค้กเนื้อนุ่ม ๆ ก็ตีไข่ขาวประมาณพอตั้งยอดพอ แต่ระวังอย่าให้ยอดอ่อนจนเกินไปนะคะ เดี๋ยวโครงสร้างเค้กไม่แข็งแรง ... เค้กนี้ถ้าเก็บไว้หลายวัน เวลาทานเอาออกมาไว้ที่อุณหภูมิห้องซักชั่วโมงก่อนก็ดีค่ะ เนื้อคัสตาร์ดจะได้นุ่ม ๆ
--------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมา มีเวลาดี ๆ กันค่ะ