นักสืบพราน - เรื่อง พยานสำคัญเป็นศพ (ตอนที่ 2)
โดย 4411
เรื่อง พยานสำคัญเป็นศพ ตอนที่ 2
สารวัตร ยุทธศักดิ์ ควักบุหรี่จากซองขึ้นมาสูบ และยื่นส่งให้พราน ซึ่งเขาสั่นศีรษะปฏิเสธและกล่าวขอบใจ
คุณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ได้ยินเสียงปืนดังเลย
ผมกำลังอยู่บนสำนักงาน ไม่ได้เห็น และไม่ได้ยินอะไรเลย พรานกล่าวตอบ
สารวัตรยุทธศักดิ์ หันมาทางกัลยาเป็นเชิงถาม
ดิฉันก็ไม่ได้ยินอะไรเลยค่ะ นอกจากเสียงเคาะประตู กัลยากล่าวขึ้น
มันเป็นฆาตกรรมที่ประหลาดมาก สารวัตร ยุทธศักดิ์ กล่าว จำเพาะเจาะจงที่จะมาล้มตายลงในสำนักงานของคุณเสียด้วย ผมได้สอบถามคนใกล้เคียงนี้แล้ว ไม่มีใครได้ยินเสียงผิดปกติเลย บาดแผลที่เกิดขึ้นเป็นบาดแผลจากลูกกระสุนปืนขนาด .๒๒ และเป็นการยิงที่แม่นอย่างวายร้าย ทะลุจากด้านหลังตรงหัวใจพอดี ลูกกระสุนฝังใน
ถ้าผมจะเรียนถามรายละเอียดการชัณสูตรพลิกศพของท่านสารวัตรสักเล็กน้อยจะรังเกียจไหมครับ พรานกล่าวขึ้น
ไม่ขัดข้องครับ คุณอยากจะทราบอะไรบ้าง สารวัตรผู้ใจดีกล่าวตอบ
ผมอยากทราบชื่อ ที่อยู่และอาชีพของผู้ตายเท่านั้นแหละครับ "
ผู้ตายชื่อ จิตร ใจหาญ เคยเป็นทหารผ่านศึก กลับจากเกาหลีเมื่อไม่กี่วันมานี้ เรารู้ชื่อเขาโดยพบในกองหนุนที่ในกระเป๋าเสื้อ ที่อยู่และอาชีพไม่ปรากฏ ผมจะประกาศหาญาติของผู้ตาย เผื่อว่าจะมีใครรู้จักหัวนอนปลายตีนของคน ๆนี้ดีขึ้น ทรัพย์สมบัติในตัวผู้ตายไม่มีอะไรเลย นอกจากบุหรี่เกล็ดทองซองเดียว มีบุหรี่เหลืออยู่ ๒ ๓ มวน ผมเลยยัดใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม ให้แกไปสูบในเมืองผี สารวัตรยุทธศักดิ์ หัวเราะเบา ๆ ผมจำเป็นต้องเชิญคุณไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ รวมทั้งคุณกัลยา และนายจอนด้วย
ยินดีครับ พรานกล่าว พร้อมกับยิ้ม เมื่อไร โปรดนัดมา "
แล้วผมจะนัดมาอีกที
ครับ ไม่ขัดข้อง
กัลยา คุณเห็นเป็นยังไง ที่จู่ ๆ ก็มีคนมาตายในสำนักงานของเรา พรานเอ่ย เมื่อนายตำรวจเจ้าของท้องที่อำลากลับไปแล้ว
ดิฉันคิดว่า เป็นเรื่องของตำรวจมากกว่าที่เราจะเข้าไปยุ่ง
พรานหรี่ตามองเลขานุการของเขา
คุณคิดว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับงานของเรา ผมคิดว่า คุณคงจะไม่คิดว่า นายจิตร ใจหาญ ผู้นี่แกจะมีความพิสมัยในสำนักงานของเรา จนถึงขนาดหอบร่างกายของแกมาเอาสำนักงานของเราเป็นสุสาน โดยไม่รู้ว่าจะไปตายที่ไหนดี นี่แน่ะ กัลยา ผมคิดว่า เราได้ต้อนรับลูกค้ารายใหม่ของเราเข้าให้แล้วโดยไม่รู้ตัว แปลกอยู่หน่อย ตรงที่ว่าเป็นลูกค้าที่ไม่มีชีวิต ไม่พูดอะไร และเอาร่างกายอันปราศจากวิญญาณของแกมาขอร้องให้เราช่วยเหลือ ผมได้กลิ่นอะไรบางอย่างเสียแล้ว กัลยา
กัลยายักไหล่ พลางเก็บแฟ้มเอกสารต่าง ๆบนโต๊ะทำงานของหล่อน
อาจเป็นไปได้อย่างหัวหน้าพูด แต่เวลานี้ สำนักงานของเราก็ยังมีเรื่องที่จะต้องเอาใจใส่อยู่เรื่องหนึ่งมิใช่หรือคะ เรื่องเครื่องเพชรของคุณหญิงราชพิเชษฐ์ หล่อนกระแทกเสียงหนักเล็กน้อย ตอนออกชื่อคุณหญิง ดิฉันคิดว่า เรารอฟังผลทางตำรวจก่อนดีกว่า สำหรับเรื่องนายจิตรผู้นี้ อย่าลืมว่าวันนี้ หัวหน้านัดคุณหญิงมาพบที่สำนักงานเวลา ๑๔นาฬิกานะคะ
พรานยิ้มอย่างอารมณ์เย็น
เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องหมู ๆ อย่างรายลูกชายเถ้าแก่งี่เซ้งเป็นแน่ อาคันตุกะผู้มาหาเราด้วยวิธีการอันประหลาดนี่ จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราอย่างแน่นอน และอะไรบางอย่างนั้น จะต้องสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา จนเขาต้องเสียชีวิตก่อนที่จะทันได้พูดอะไรกับเรา
พรานชะงักคล้ายกับคิดอะไรได้
เดี๋ยวก่อน กัลยา คุณได้ยินเสียงเคาะประตูที่กระจกของเรา ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นใช่ไหม
ใช่ค่ะ เคาะแรงๆ และถี่เสียด้วย จนดิฉันต้องลุกขึ้นดู กัลยากล่าวตอบ ปกติคนที่มาหาเรา มักผลักบานประตูเข้ามาเอง เพราะไม่ได้ปิดลงกลอนไว้
ตาจอนไปอยู่เสียที่ไหนล่ะ ตอนนั้น
แกว่า แกกำลังเข้าห้องน้ำข้างหลัง
พรานหยุดใช้ความคิดชั่วหนึ่ง เขาเหลือบสายตาขึ้นดูนาฬิกาที่ฝาผนัง ซึ่งบอกเวลา ๑๒.๐๐ น. พอดี เขาลุกขึ้นไปที่ ๆ แขวนเสื้อ ล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง
วันนี้ กินข้าวที่ร้านเจ๊กหน้าสำนักงานเราสักมื้อเถอะกัลยา คุณไม่มีนัดที่ไหนไม่ใช่หรือ
กัลยาชำเลืองดูนายจ้างของหล่อนแวบหนึ่ง ก่อนที่จะรับคำ
Create Date : 02 มิถุนายน 2555 |
|
7 comments |
Last Update : 4 มิถุนายน 2555 0:14:35 น. |
Counter : 796 Pageviews. |
|
|
|
มาอ่านต่อครับ ต้องอ่านย้อนหลังหลายตอน ติดใจในสำนวนที่ท่านเขียนครับ