พรานกลับมาถึงสำนักงานของเขาในเวลาตอนบ่ายสองโมงครึ่ง ขณะหย่อนกายลงนั่ง เสียงเครื่องพูดเรียกขึ้น เขาจึงเปิดสวิชพูด
ว่ายังไง กัลยา
สารวัตรพจน์มาพบค่ะ จะให้เข้าไปได้หรือยังคะ "
เชิญเขาเข้ามาทีเดียว กัลยา
ประตูบังตาเปิดออก ชายร่างใหญ่ในเครื่องแบบสากลก้าวเข้ามา
สวัสดี พราน "
สวัสดีครับ ท่านสารวัตร ใจร้อนจริง ผมนัดเอาไว้ตั้งบ่ายสามโมง
เขาพูดพร้อมกับผายมือไปยังเก้าอี้ตรงหน้าเป็นการเชื้อเชิญ
ทุกครั้งที่คุณเรียกผม มักจะมีข่าวดีเสมอ นายตำรวจร่างใหญ่ใจดีพูด พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย ผมเข้าใจว่า คราวนี้ คุณก็มีงานให้ผมทำอีกตามเคย
ชิิ้นโบว์แดงทีเดียวครับ ท่านสารวัตร เขาพูด พร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดเครื่องพูดกับเลขา ฯสาว กัลยา ละม้ายมาส่งข่าวแล้วหรือยัง "
เรียบร้อยแล้วค่ะ ละม้ายไปตามคำสั่งตั้งแต่ ๑๑.๐๐ น. และกลับมารายงานเวลา ๑๓.๐๐ น. ดิฉันบันทึกรายงานไว้แล้ว หัวหน้าจะต้องการหรือยังคะ
ขอผมเดี๋ยวนี้ กัลยา ขอบใจมาก เขาปิดเครื่องพูด พร้อมกับหันมาทางนายตำรวจ อดใจรอสักครู่เถอะครับ
กัลยาเดินเข้ามาพร้อมกับส่งกระดาษให้แผ่นหนึ่ง แล้วก็กลับออกไป พรานรับมาอ่าน สีหน้าของเขาแสดงความพอใจ
วิสกี้สักคนละแก้วก่อนดีไหมครับท่านสารวัตร
ดีเหมือนกัน
พรานลุกขึ้นไปที่ตู้ข้างฝาผนัง หยิบขวดเหล้าตราขาวพร้อมด้วยแก้วสองใบ เปิดคู้น้ำแข็งซึ่งอยู่มุมห้อง หยิบโซดาออกมาหนึ่งขวด เขาเริ่มผสมส่วนตราขาวกับโซดาอย่างพอเหมาะ ส่งให้สารวัตรพจน์ถ้วยหนึ่ง อีกถ้วยหนึ่งถือไว้ในมือ ชูขึ้นตรงหน้านายตำรวจเพื่อนของเขา
เพื่อผลสำเร็จในงานของคุณ เขาพูด ทั้งสองยกแก้วขึ้นดื่มพร้อม ๆ กัน
ร.ต.อ. พจน์ วางแก้วเหล้าลง เลิกคิ้วอย่างสงสัย
ผมยังไม่รู้เรื่องเลยว่าเรื่องอะไร คุณเล่นตลกกับผมเสียก่อนเสมอ
พรานกลับมานั่งที่เก้าอี้ของเขา วางถ้วยแก้วเหล้าลงบนจานรองข้างตัว เขามองหน้านายตำรวจพลางว่า
มีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้คุณทราบ เถ้าแก่งี่เซ้งในสำเพ็ง ถูกคนร้ายลักเอาตัวนายเป็งอู๋ลูกชายไปเมื่อคืนวานนี้ ขณะที่ลงมาจากรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ห้อยเทียนเหลา ผู้ร้ายใช้รถเก๋งเป็นพาหนะจับเอาตัวนายเป็งอู๋ไป ส่งจดหมายที่เตรียมไว้แล้วให้กับเพื่อนที่มาด้วย ให้ไปให้กับเถ้าแก่งี่เซ้ง ซึ่งเป็นพ่อของเป็งอู๋ จดหมายฉบับนั้นขู่เอาเงินห้าแสนบาท เ เรื่องนี้ เพื่อไถ่ตัวและชีวิตของเป็งอู๋ เรื่องนี้ ท่านสาวีตรทราบเรื่องแล้วหรือยัง
สารวัตรพจน์ ส่ายหน้าเป็นคำตอบ พรานพูดต่อไป
เถ้าแก่งี่เซ้งไม่กล้าไปแจ้งตำรวจ เพราะคนร้ายขู่ไว้ในจดหมาย ไม่ให้นำความไปแจ้งกับตำรวจ นี่เป็นเรื่องที่ผมทราบมาจากคนของผมที่ใช้ฟังข่าวอยู่เวลานี้ หนังสือพิมพ์จึงยังไม่ได้ตีพิมพ์ข่าวนี้ลงไป
เมื่อคืนนี้ มีคนจับเอานายเองเตัอ ลูกชายเบ๊เฮงล้ง ร้านขายทองบ้านหม้อไปในขณะขึ้นรถแท็กซี่จะไปกินเลี้ยง สารวัตรพจน์กล่าวขัดขึ้น ผมจับตัวคนขับแท็กซี่ได้ตามที่นายเองเต้กแจ้งให้จับ ไอ้หมอนั่นปฏิเสธบอกว่าไม่รู้จักกับคนที่ตามมาจี้นายเองเต้กบนรถยนต์ เพราะเข้าใจว่าเป็นเพื่อนกันตามกันขึ้นมา แต่เสร็จแล้ว มันก็พานายเองเต้กมาส่งที่ร้านเบ๊เฮงล้งเรียบร้อย ไม่ยักกะจับตัวไป นายเองเต้กบอกว่า จำหน้าเจ้าคนนั้นไม่ได้ เพราะในรถมืด เห็นหน้าไม่ถนัด ทั้งไม่รู้ว่า เจ้าหมอนั่นตามมาตั้งแต่เมื่อใด
นายเองเต้กนั้นแหละครับคือเพื่อนคนที่ไปกินเลี้ยงกับเป้งอู๋ ก่อนถูกจับตัวไป
ถูกแล้ว สารวัตรรับรอง เขาบอกผมเช่นนั้นเหมือนกัน เจ้าคนที่เข้าไปจี้นายเองเต้กบนรถ อาจเป็นพรรคพวกของคนร้ายที่จับตัวเป้งอู๋ไปก็ได้ เวลานี้ ผมยังควบคุมตัวนายจัน คนขับรถแท็กซี่คนนั้นอยู่
พรานยักไหล่อย่างไม่สนใจ
ผมคิดว่าคงเป็นคนละกรณี มันเป็นเรื่องของตำรวจ ผมไม่ขอเกี่ยวข้อง ผมเพียงแต่จะเรียนให้คุณทราบว่า คนร้ายที่จับเป้งอู๋ไปนั้น อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๘ ซอนสมานใจ บางกะปิ และเวลานี้ เป้งอู๋ก็ถูกคุมตัวอยู่ที่นั่น ผมเห็นว่าคุณเป็นนายตำรวจคนเดียวที่ผมพอจะพูดอะไรให้ฟังได้ตรงๆ และเป็นประโยชน์ จึงอยากแจ้งให้ทราบ ถ้าคุณทำงานของคุณเสียก่อน ๑๘.๐๐ น. วันนี้ ผมคิดว่าเป้งอู๋คงจะปลอดภัย
สารวัตรพจน์ ใช้ความคิดอยู่สักครู่ ครั้นแล้วจึงพูดว่า
ขอบใจมาก พราน ผมเห็นจะลาคุณได้แล้ว เพื่อไปทำงานของผมในด้านนี้
วิสกี้อีกคนละถ้วย คงไม่ทำให้ท่านสารวัตรเสียเวลาไปเท่าใดนักกระมัง พรานกล่าวสัพยอก พร้อมยิ้มเล็กน้อย
เขาผสมวิสกี้กับโซดาอีกครั้งหนึ่งลงในถ้วยทั้งสอง และยกถ้วยชูขึ้นตรงหน้า
สำหรับความสำเร็จของท่านสารวัตร
ขอบใจอีกครั้ง สารวัตรพจน์กล่าวตอบ เขายกแก้วเหล้าดื่มรวดเดียวหมด คว่ำถ้วยแก้วลงบนจานรอง แล้วโบกมือกับพรานก่อนที่จะหันหลัง เดินกลับออกไป
พรานกดปุ่มเครื่องพูด เรียกเลขานุการิณีของเขา
ขอบใจมาก กัลยา สำหรับบันทึกของแม่ละม้ายจ่ายเงินให้แกสองร้อยบาท สำหรับรายงานของแก สำหรับเกรียงสองพันบาท และเรียกอเนกมารับเงินห้าร้อยบาทพรุ่งนี้ ส่วนคุณนั้น เย็นนี้ รับประทานอาหารเย็นกับผม ผมกำลังอยากอาหารจีนเต็มที่ ฉลองกันวักหน่อย มันช่างเป็นความสำเร็จที่ง่ายดายอะไรเช่นนี้
แล้วก็คุณหญิง ...
นี่เป็นคำสั่ง กัลยา
ค่ะ เครื่องพูดทั้งสองข้างปิดลงพร้อม ๆ กัน
พรานมาถึงสำนักงานในตอนเช้าตามปกติ พบจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ จ่าหน้าซองถึงเขา เขาฉีกมันออกอ่าน เป็นจดหมายมาจากกองตรวจตำรวจสันติบาล
คุณพรานที่รัก
ข่าวที่คุณให้ผมเป็นความจริง ผมและกำลังตำรวจ ๔ - ๕นาย ได้ไปที่บ้านเลขที่ ๑๑๘ ซอยใจสมาน เมื่อวานนี้ เวลา ๑๖.๐๐ น. บ้านหลังนี้ปิดเงียบ เราต้องปีนประตูบ้านเข้าไป เพื่อเปิดกลอนรับคนข้างนอกให้เข้าไป มีคน ๒ ๓คนวิ่งหนีออกไปทางทุ่งนาหลังบ้าน ตำรวจของผมไล่กวดไป ผมกับนายตำรวจอีกคนหนึ่งวิ่งตรงไปที่ตัวตึกใหญ่ พอก้าวขึ้นไปบนตึกก็สวนกับเจ้าตัวการคนหนึ่ง มันถือปืนอยู่ในมือ และอยู่ในระยะกระชั้นชิด ผมเหนี่ยวไกปืนของผม มันไม่นักกะลั่น - ผมเหลือบมองดูปืนของผมในชั่วพริบตานั้น - ลูกเลื่อนมันไม่เข้าที่สนิทปีนลำกล้องอยู่ เพราะลูกกระสุนขึ้นมาซ้อนกันสองลูก อาจเป็นเพราะขณะผมวิ่งไปนั้น ได้พยายามดึงลูกเลื่อนขึ้นลำปืนอย่างเบา ๆ ไม่ให้มีเสียง ความช้าของการเลื่อนลูกเลื่อน ทำให้แหนบส่งกระสุนปืน ๑๑ ม.ม. ที่ผมใช้อยู่ ส่งลูกกระสุนขึ้นมาเร็วเกินไป ลูกกระสุนจึงขึ้นมาซ้อนกันสองลูก ลูกเลื่อนปืนจึงไม่เข้าที่ ตัวผมเย็นวาบไปหมด เจ้าหมอนั่นถือปืนอยู่ในมือเสียด้วย ผมใช้วิธีการสุดท้าย ขู่ตะคอกมันไป ให้มันส่งปืนมาให้ผม มิฉะนั้น ผมยิงตาย มันคงกำลังขวัญบิน และไม่ทันได้พิจารณาสภาพปืนของผม จึงรีบส่งปืนของมันมาให้ และยอมให้จับโดยดี ผมรับปืนมาจากมันโดยเร็ว กระชากลูกเลื่อนออก มีลูกกระสุนหลุดออกมาหนึ่งนัด - ถ้ามันกระดิกนิ้วนิดเดียว ผมคงไม่มีโอกาสเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคุณแน่ ๆ
ผมลงไปทางห้องใต้ถุนตึก ลูกชายเถ้าแก่งี่เซ้งถูกล่ามโซ่อยู่กับเสาในห้องใต้ถุนนั่นเอง แกดีใจใหญ่ที่มีคนไปช่วย มันจับใส่แว่นตาดำ เอาเทียนลนที่แว่นตา ไม่ให้มองเห็นอะไรเสียด้วย และไม่ให้กินอะไรมาสองวันแล้ว เวลานี้นายเป้งอู๋กลับไปหาพ่อของเขาเรียบร้อยแล้ว เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องระวังภัยให้แกต่อไปอีกตามสมควร
ผมเขียนจดหมายฉบับนี้มาเพื่อขอบคุณคุณ และเล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วย
ระวังเจ้าปืน๑๑ ม.ม.ของคุณให้ดี มันจะทรยศเอาอย่างของผมเข้าให้บ้าง
รักและขอบคุณอีกครั้ง
ร.ต.อ.พจน์ พิทักษ์พล