Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 มกราคม 2557
 
All Blogs
 
นอกร้านหนังสือ ... ตอน Dejavu 4 ปิดจ็อบ

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ กินอิ่ม นอนหลับ ยังครบ 32 และยังสามารถมาเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยสำหรับฆ่าเวลากันได้อีกสัปดาห์หนึ่ง ช่วงนี้ที่ร้านก็เรื่อยๆครับ เพราะลูกค้าฝรั่งอพยพออกจากกรุงเทพไปเยอะแล้ว นัยว่าไปตั้งหลักเชียงใหม่หรือลงเกาะใต้ไปเลยสบายกว่า ไม่ต้องกังวลอะไรมากนักและก็ไม่เจอรถติดด้วย เพราะฉะนั้นเรามาว่าเรื่องนอกร้านหนังสือกันต่อกับ ภารกิจขายหนังสือมือสองที่ถนนคนเดิน ณ นิทรรศการรัตนโกสินทร์ ก็แล้วกัน

... ครับ หลังจากปวดเมื่อยกันไปเมื่อสัปดาห์ก่อน สัปดาห์นี้ผมเร่ร่อนมาหาที่ลงได้ตรงริมฟุตบาทหน้าร้านข้าวมันไก่ เยื้องๆกับโรงแรมนิวสยามที่มาขายวันแรก ... ใกล้ "ผัดไทย" และ "ข้าวขาหมู" ด้วย แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อุตส่าห์มาวางแผงขายหนังสืออยู่หน้าร้านข้าวมันไก่ ก็ต้องกินข้าวมันไก่สิ ว่าแล้วเลยได้ฉลองคอเลสเตอรอลเสีย 1 มื้อ เติมด้วยบัวลอยอีก 1 ถ้วย ก็เป็นอันจบมื้อเย็น ก่อนจะมานั่งเฝ้าดูลูกค้าที่แผง ในใจของผมอยากรู้อยู่ว่า "คน 2 โลก" ของเคนซาบุโร โอเอะ จะออกหรือไม่ สำหรับ

วันนี้ขายราคาปกติครับ และ น้ำตา 2 เม็ด / ขี่ม้าชมดอกไม้ กับ ปีนตลิ่ง ของ รงค์ ก็ไปเร็วและไปก่อนตามฟอร์มซึ่งต้องยอมรับว่าฮอตมากๆ ลูกค้าเป็นชายหนุ่มหล่อสูงสมาร์ทที่มาทีหลังและมือเปล่ากลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกับขอเบอร์โทรศัพท์ของผมไว้กันเหนียว ปรากฏว่าอาทิตย์นี้ได้ไปตามที่อยากได้ ... หนังสือเก่าของ รงค์ วงสวรรค์ กลายเป็นสมบัติที่เหล่านักอ่านตามล่า ตามหากันมากกว่าหนังสือธรรมดาไปแล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่จากไปหลายปีก่อน นี่ไม่รู้ว่าอีกสัก 10-20 ปีข้างหน้า ราคาจะพุ่งไปอีกสักเท่าไหร่เหมือนกันครับ

หลังจากนั้นอีก 1 สาวก็มานั่งคุยกันอยู่พักหนึ่ง เธอไม่แน่ใจว่า "ยังไม่สิ้นกลิ่นรัก" ของอีแร้งเล่มนั้นมันจบในตอนหรือเปล่า ผมเองก็ไม่แน่ใจ เพราะอ่านนานแล้วแต่เข้าใจว่าเป็นตอนย่อยๆต่อกันในเล่มและซีรี่ส์ของพี่แกก็อ่านต่อเนื่องกันสนุกมาก ตั้งแต่ชุดแรก "บินแหลก" มาถึงชุด "กลิ่นรัก" ทั้ง ยังไม่สิ้นกลิ่นรัก-กลิ่นรักลอยลม-กลิ่นรักในเมืองดิบ แล้วก็มีออกมาอีกไม่รู้กี่ชุด ผมว่านับเป็นนักเขียนที่ปล่อยงานเขียนออกมาเยอะมากจนจำได้ไม่หมด พอดีผมเองตามอ่านอยู่แต่ "บินแหลก" เท่านั้น เพราะอยากรู้เรื่องราวของพวกแอร์ หรือพวกสจ๊วตว่าบรรดาเทวดา-นางฟ้าเหล่านี้เขาเป็นไงบ้าง กิน-อยู่-หลับ-นอน เหมือนคนทั่วไปหรือเปล่า พอหมดชุดบินแหลกก็เลยไม่ได้ตามต่อจนซาๆไป ... สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจซื้อเล่มนั้นไปโดยดี เพราะเธออยากอ่านอยู่แล้ว ... ก็ไปวัดดวงเอาเองว่าต้องตามต่อหรือเปล่า

ลูกค้าสาวผมบ๊อบสะพายกล้องกับเสื้อเชิร์ต-กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ ลักษณะเป็นช่างภาพขาลุยอีกคนก็มาหยิบๆวางๆ "เร่ร่อนหาปลา" ปกสีขาวๆตัดลายเส้นสีดำของเสกสรรค์อยู่ในมือ พลิกไปพลิกมาอยู่พักใหญ่

"เล่มนั้น น่าจะเป็นรวมกิจกรรมตกปลา ทั้งตอนที่เป็นนักศึกษาอยู่ที่คอร์แนล และตอนที่กลับมาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ธรรมศาสตร์" ผมบอกไปยิ้มๆ ... ใช่ มันมีทั้งตกปลาในทะเลสาบเมืองนอกและทะเลไทย ... เก๋าดอกหมาก-สากสีเหลือง ...

ดูท่าทางเธอจะชอบ เหมือนๆกับลูกค้าช่างภาพสะพายกล้องถ่ายรูปอีกหลายคนที่เป็นนักอ่านด้วยเหมือนกัน เธอซื้อหนังสือเล่มนั้นไปโดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมเลย ไม่เหมือนกันกับนักเรียนอีกคนที่เดินมาถามหาหนังสือ เหมือนจะไปทำรายงาน "พี่ มีหนังสือ หม่อมหลวงบัว กิติยากร ไหมคะ"

ผมหัวเราะเล็กน้อย พร้อมกับตอบโดยมั่นใจออกไป "ไม่มีครับ ... เอ้อ หม่อมหลวงไม่มี เอาเป็นหม่อมเจ้าดีไหมครับ" พร้อมกับชี้ไปที่ "วิมานทลาย" ของหม่อมเจ้าอากาศดำเกิง ที่วางอยู่ไม่ไกลนัก

น้องเขาส่ายหน้าและรีบเดินจากไปโดยเร็ว ปล่อยให้ผมยิ้มเก้ออยู่คนเดียว ... เห็นน้องเขาเดินไปอย่างเร็วแล้ว ผมได้แต่เป่าปาก ดีใจที่เขาไม่ด่าเอา ... ลูกค้าหญิงสาวอีกคนเดินผมฟูถือไวน์มาทรุดตัวลงนั่งยองๆเลือกหนังสืออยู่ ปล่อยให้ฝรั่งหนุ่มที่มาด้วยกันไปนั่งกระดกเบียร์ในมือรออยู่ที่ฟุตบาทข้างๆ เธอเลือกได้หนังสือต้องห้ามเล่มนั้นไป "ประวัติ พคท. แห่งประเทศไทย" ปกแข็งสีแดงตัวหนังสือสีทองตัดกัน ทำให้ผมแซวเธอไปเล็กๆว่า "หนังสือต้องห้าม ระวังโดนจับนะครับ" ... เธอยิ้มและเก็บหนังสือใส่กระเป๋า ก่อนที่อีกหนึ่งหนุ่มจะมาหยิบดูหนังสือแปลเล่มหนึ่ง "กษัติรย์ชาวไร่" ของ "โทลเคียน"

"ใช่ของคนเขียน ลอร์ดออฟเดอะริงหรือเปล่าครับ" ลูกค้าหนุ่มถามพร้อมขอแกะถุงพลาสติกออกดู

"ใช่ครับ เจ อาร์ อาร์ โทลเคียน นั่นแหละ" ผมตอบพร้อมพยักหน้าให้ ก่อนที่ลูกค้าหนุ่มจะตกลงและซื้อหนังสือแปลเล่มอื่นไปอีกเล่ม

ลูกค้าฝรั่งและหนังสือฝรั่งก็มีมาครับ ฝรั่งผิวหมึกคนหนึ่งซื้อ "Illusion-มายา" ของเอ๊กซูเปรีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ยังแวบกลับมาดูอีก เห็นบอกว่าซื้อไปฝากเพื่อน ... หนุ่มไทยอีกคนก็คว้า "After dark" ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษของมูราคามิไป ก่อนที่แก๊ง 3 เกลอ - 1 สาวกับ 2 หนุ่ม มานั่งยองๆดูไกด์บุ๊คมือสองดีเค ประเทศอิตาล

"เอาสิแก ยี่ห้อนี้ดีนะ รูปเยอะดี สี่สีด้วย ไม่เหมือนกับอีกยี่ห้อหนึ่ง อันนั้นมีแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมด" เพื่อนหนุ่มทรงสูงบอกเชียร์มา หลังจากที่เพื่อนสาวเปิดดูอยู่ในมือ

"ใช่ เดี๋ยวต้องไปอยู่แล้วนี่" เพื่อนหนุ่ม (สาว) ร่างอวบอีกคนหนึ่งบอกมา

"เดี๋ยวสิแก ดูตังค์ก่อน ... ไม่มีแล้วว่ะ" เธอดูราคาแล้วตบๆกระเป๋ากระโปรงยาวสยายทั้งสองข้างก่อนหันไปถามเพื่อน "แกมีไหม"

"ไม่มีว่ะ" เพื่อนหนุ่มหันไปพยักเพยิดกับเพื่อนอีกคน

"ไม่มีเหมือนกันว่ะ ช็อปปิ้งหมดตัวเลย" ทั้ง 3 มองหน้ากันแล้วหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ทำเอาคนขายขำไม่หยุดอยู่ใกล้ๆ

"เอ้อ ข้างหลังนี่มีตู้เอทีเอ็มอยู่ครับ ถ้าสนใจ ... แหม ว่าแต่ช็อปจนหมดตัวนี่แสดงว่า ของขายที่นี่โดนทั้งนั้นเลยนะครับ" ผมชี้ไปตู้เอทีเอ็มสีเหลืองด้านหลัง พร้อมๆกับหัวเราะ บอกไป

หนึ่งในลูกค้าเดินไปกดเงินแล้วเอาแบงก์พันมาส่งให้พร้อมหนังสือ ผมรับเงินพร้อมกับหยิบหนังสือใส่ถุงและส่งเงินทอนกลับไป หญิงสาวรับหนังสือไปกอดไว้กับพุง ยิ้มอย่างมีความสุข พร้อมๆกับคนขายเองก็ยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกัน ... SmileySmileySmiley

... ในที่สุดสัปดาห์สุดท้ายของเทศกาลรัตนโกสินทร์ก็มาถึง เสาร์ที่สองของมกราคม วันเด็กประจำปี ที่เวียนผ่านมา แผงหนังสือสมัครเล่นได้พื้นที่อยู่ตรงซุ้มกลางถนนตรงข้ามโรงแรมนิวสยาม ข้างซ้ายเป็นร้านขายเครื่องประดับแฮนด์เมทจากหิน จากอัญมณี ระดับโอท็อปซีเล็คท์ที่มีใบประกาศเกียรติคุณมาตั้งโชว์เรียกลูกค้าเข้าร้านได้ทั้งไทย-เทศ ข้างขวาเป็นแผงใหญ่ของแม่ค้าขายเครื่องสำอางที่เปิดผิวเปลือยบางส่วนโชว์รอยสัก และเปิดเพลงเรียกลูกค้าอย่างคึกคัก ส่วนด้านหลังเป็น 3 แม่ลูกที่เอาสบู่หอมแกะลวดลายมาวางโชว์เรียกลูกค้าอยู่เงียบๆ ... ทั้ง 2 วัน ลูกค้านักอ่านหลากหน้าหลายตาเดินมาเดินไป บ้างยืนดูห่างๆ บ้างก็เข้ามานั่งพลิกๆดูหนังสืออย่างสนอกสนใจ วันสุดท้ายของการจัดงาน ลูกค้า 3 กลุ่มที่ได้เป็นพ่อค้า-ลูกค้ากันชัดเจนก่อนเก็บร้าน ... คู่แรกคือคู่หนุ่มสาวที่ฝ่ายชายยืนเงียบถือถุงพลาสติกใส่ของอย่างคู่ช็อปปิ้งที่ดี ส่วนฝ่ายหญิงหน้าใสเกาหลีเล็กๆ แต่งตัวสุภาพเรียบร้อยจนผมไม่กล้าทักเธอ

... ครับ ปกติผมจะทักทายปราศรัยกับลูกค้านิดๆหน่อยๆ แล้วแต่สถานการณ์ ตามประสาพ่อค้าที่ดี ถ้าลูกค้าถามมาก่อนเกี่ยวกับหนังสือ ผมก็จะบอกไปเพราะส่วนใหญ่จะอ่านมาแล้ว จำได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็อีกเรื่องหนึ่ง หรือถ้าลูกค้าจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง ผมก็จะให้ข้อมูลบ้างเล็กๆน้อยๆประกอบการตัดสินใจ ... แต่สำหรับลูกค้าสาวคนนี้ ผมไม่กล้าทักเธอ ... ไม่ใช่พราะเพื่อนชายที่ยืนอยู่ด้านหลัง แต่เพราะ ...

1) เล่มหนึ่งที่เธอถืออยู่คือ "ลอร์ดจิม" ของโจเซฟ คอนราด ... หนังสือของคอนราดอ่านยากอยู่แล้ว เวอร์ชันปกแข็งเล่มนั้น แปลติดกันเป็นพรืด แทบจะไม่มีย่อหน้าเลย อ่านแล้วเวียนเฮดมาก ... ไม่คุยดีกว่า เดี๋ยวลูกค้าเปลี่ยนใจ

2) อีกเล่มหนึ่งคือ "อลินา" รวมเรื่องสั้นอีโรติคของอนาอิส นิน ... หนอนหนังสือและนักดูหนังบางกลุ่มคงรู้อยู่แล้วว่า อนาอิส เป็นนักเขียนฝรั่งเศส เจ้าของผลงานอีโรติคหลายเล่ม โดยซัลแมน คิง ผู้กำกับหนังอีโรติค ที่หนุ่มๆวัยรุ่นสมัยก่อนแทบทุกคนคงจะเคยได้ยินชื่อกัน ก็เป็นผู้กำกับภาพยนตร์อีโรติคหลายเรื่อง ... "Wild orchid" นั้นมาจากหนังสือของใครไม่รู้ แต่ "Delta of venus" นี่ซัลแมนเอามาจากอนาอิสแน่นอน แล้วก็ ... อ้า ... แหะ แหะ ... กูเกิล ดีกว่าครับ ... เดี๋ยวคนเขียนจะเข้าตัว ... เอาว่าใครสนใจก็หาดูเอาเองละกัน ... ว่าแล้วผมก็เลยไม่ทักเลย กลัวลูกค้าสาวสวยจะอายไม่ซื้อซะ ก็ "อลินา" เล่มนั้นมันก็ประมาณนั้นแหละ ... อ้า ... แหะ แหะ ... (ตอนนี้เลยเหลือแค่วิดีโออย่างเดียวเลย) ... เอ้อ ... หุ หุ ...

( เอ๊ะ หรือเธอเป็น playgirl ... "กุลสตรีที่รักสนุก" ... ชอบไปบุก ตามผับตามบาร์ ... )



ขอขอบคุณ ภาพปกหนังสือจาก HTTP://LIFEBOOK.LNWSHOP.COM

คนที่สองคือลูกค้าลุงรุ่นใหญ่ที่มากับเพื่อนแต่งตัวเพื่อชีวิตอีกคน ลุงเข้ามาเลือกหนังสือไป 3 เล่ม โดย 2 เล่มเป็นหนังสือพ็อคเก็ทการเมืองหน้าปกอดีตนายกคึกฤทธิ์ และอีกหนึ่งคือคู่มือมนุษย์ของท่านพุทธทาสที่ผมแถมให้ไป

"หนังสือพวกนี้เยอะแยะเลย มายังไงนี่" ลุงถามมา หน้าตาชวนให้นึกถึง รงค์ วงสวรรค์

"ก็อ่านเองครับ สมัยก่อนนานแล้ว เก็บๆไว้กลัวเสียเปล่า ก็เลยเอามาปล่อย แบ่งๆกันอ่านดีกว่า" ผมตอบพร้อมกับใส่หนังสือทั้ง 3 เล่มลงในถุงส่งให้ ลุงพยักหน้าพร้อมกับจ่ายเงินแล้วเดินจากไป ... ผมจำได้ดีเพราะลูกเป็นลูกค้าคนสุดท้ายก่อนเก็บร้าน

คู่สุดท้ายเป็น 2 สาวสต๊าฟที่มาซื้อหนังสือไป 4 เล่ม ... 2 ในนั้นคือ "ขุนเดช" ปกแดงพิมพ์เก่าน่าจะก่อนผมเกิดของสุจิตต์ วงษ์เทศ ที่เธอหยิบมาก่อนเป็นเล่มแรก อีกเล่มเป็น "เด็กชายจากดาวอื่น" ของวาวแพร

"นี่แก ดูพี่เขาให้ด้วยนะ พักแป๊บนึง ... เชื่อป่ะ เมื่อกี้นะ ฉันยกคูลเลอร์น้ำคนเดียวตั้งไกล พวกผู้ชายมันอยู่ตรงนั้นตั้งหลายคน มันมองกันเฉย ไม่มีใครช่วยเลย" หญิงสาววัยรุ่นหน้าคมเข้มในชุดสต๊าฟเสื้อดำ กางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อนรัดรูปกับรองเท้าผ้าใบบ่นเบาๆกับเพื่อนสาวที่มาด้วยกัน และนั่งขัดสมาธิแปะลงไปบนพื้นเลือกหนังสือ

"เป็นสต๊าฟจัดงานกันเหรอครับ" ผมถามแล้วชี้มือไปที่เสื้อขาวของเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน

"ใช่ค่ะ แต่วันนี้หนูหยุด เขาทำ" เพื่อนว่าพร้อมชี้มาที่อีกคนที่ก้มหน้าก้มตาเลือกหนังสืออยู่

"คนจัดงานเขาเป็นบริษัทเหรอครับ หรือว่าหน่วยงานประเภทไหน" ผมถามอย่างอยากรู้เรื่องการออร์กาไนซ์งาน เพราะพี่เหมี่ยวคนขายสายไหมก็เคยพูดถึง "ทีมงาน" ทีนึงแล้ว

"อ๋อ พวกหนูเป็นนักศึกษาน่ะค่ะ เพื่อนๆกันเรียกกันมาช่วยเป็นสต๊าฟจัดงาน คนจัดเขาเป็นบริษัทน่ะค่ะ แล้วพี่เขาที่ทำอยู่ในบริษัทก็คงติดต่อหาคนมาช่วยจัดงาน ผ่านมาทางเพื่อนๆหนู" หญิงสาวเลือกหนังสือไปเล่าไปอย่างคล่องแคล่ว

"อ๋อ งั้นปีก่อนๆ ใช่พวกเธอหรือเปล่าล่ะ" ผมถามต่อ

"ใช่ค่ะ พี่ ปีหน้าถ้ามีก็พวกหนูนี่แหละค่ะ ถ้าพี่เขาได้ทำอีก" เธอว่า พยักหน้าและส่งหนังสือที่เลือกได้มาให้ทั้ง 4 เล่ม

"หนังสือเยอะเลย พี่เอามาขาย ไม่เสียดายเหรอ" หญิงสาวถามยิ้มสดใสวัยรุ่น

"ไม่หรอก เก็บไว้ไม่มีใครหยิบไปอ่าน น่าเสียดายกว่า หลายเรื่องเป็นหนังสือดีที่ไม่ควรพลาด" ผมยิ้ม ตอบเธอพร้อมกับชี้ไปที่ขุนเดชและเด็กชายจากดาวอื่น

"ใช่ พี่ หนูมาดูก็เพราะเห็นหน้าปกเล่มนี้แหละ" หญิงสาวว่าพร้อมกับชี้ไปที่หนังสือของวาวแพร

"เลือกได้ดี" ผมมองหนังสือทั้ง 4 เล่มที่เธอเลือกมา เงยขึ้นมองหน้าเธอแล้วยกหัวแม่มือให้ หญิงสาวกล่าวขอบคุณก่อนจะหิ้วถุงหนังสือจากไป

... ครับ แผงหนังสือมือสมัครเล่นสำหรับปีใหม่ 2014 ปีนี้ก็คงถึงเวลาต้องเก็บเสียที ปีหน้าฟ้าใหม่ มีโอกาสเอาหนังสือดีๆ ไปขายถูกๆ แบ่งๆกันอ่านเมื่อไหร่ คงได้เอามาเล่าให้ฟังกันอีก

สวัสดีครับ SmileySmileySmiley

เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858
jettajan227@yahoo.com

เก็บตก ภาพบรรยากาศชุดสุดท้ายของแผงหนังสือสมัครเล่น



ร้านตุ๊กตาบาร์บี้ พร้อมแอคเซสเซอรีครบชุด ตัวละ 100 บาท เยื้องกันไม่ไกลนัก



แก๊งจักรยานที่จูงเข้ามาในบริเวณงานอย่างสุภาพเรียบร้อย กำลังต่อรองราคากระเป๋าหนังแฮนด์เมดอย่างขะมักเขม้น



สาวเสื้อฟ้าลูกค้าเก่า ตามมาเก็บตก ... แต่วันนี้ไม่โดน ไม่เหมือนกับสาวมุสลิมข้างๆกันที่ได้หนังสือไปอ่าน



แก๊ง 3 คนนี้มาด้วยกัน แต่ดูเหมือนจะได้หนังสือไปเพียง 2 คน หนึ่งในนั้นคือชายหนุ่มกับ "ก้างปลา" ของณัฐกานต์ ลิ่มสถาพร ที่ถืออยู่ในมือ



หัวค่ำกำลังดี ลูกค้าเริ่มรุม



มุมนี้พ่อค้าเด็กรุ่นเล็กถูกบังมิด หลังจากลูกค้าคุณป้ารุ่นใหญ่ได้หนังสือไปอ่าน



ลูกค้าช่างภาพนักอ่าน กับกล้องถ่ายรูปในมือ



นี่ก็ลูกค้านักอ่านช่างภาพ พร้อมอุปกรณ์ชุดใหญ่ใส่สูท



ส่วนนี่ก็หญิงสาวช่างภาพที่ถ่ายรูปเพื่อนที่มาด้วยกัน ขณะเลือกหนังสืออยู่ ... ช่างภาพเยอะจริงๆ



ลูกค้าคุณลุงรุ่นใหญ่ กับหนังสือการเมืองรุ่นเก๋า ... ลูกค้าคนสุดท้ายก่อนปิดจ็อบ



Create Date : 25 มกราคม 2557
Last Update : 25 มกราคม 2557 12:39:15 น. 0 comments
Counter : 2395 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.