อาหารธรรมด๊าธรรมดาแบบนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูของความทรงจำในวัยเด็กเลยแหละ
แม่ชอบทำอาหารที่มีถั่วงอกหัวโตขึ้นโต๊ะบ่อยมาก โดยเฉพาะผัดใส่เต้าหู้
กินจนหัวแทบจะโตเป็นถั่วงอก เหมือนโดนบังคับอ่ะนะ เลยพาลไม่ชอบมันซะเลย
ต่อมาไม่นาน ถั่วงอกหัวโตก็หายจากบ้านไปแบบเงียบๆ จนเราแทบจะลืมไปแล้ว
คิดเอาเองว่าแม่ก็คงจะเริ่มเบื่อเหมือนเราน่ะแหละ อิอิ







จนหลายสิบปีผ่านไป มีโอกาสไปกินข้าวบ้านเพื่อนคนจีนในปักกิ่ง
แม่เพื่อนผัดถั่วงอกหัวโตใส่เต้าหู้ ต้นหอม และพริกสด หน้าตาเดียวกับที่แม่เคยทำ
เลยทำให้เราได้นึกถึงอาหารจานนี้อีกครั้ง

หลายคนคงเป็นเหมือนเรา อาหารหลายอย่างที่เคยไม่ชอบ แต่พอโตขึ้นกลับมาชอบซะงั้น







เต้าหู้ที่ใช้ผัดจะเป็นแบบไหนก็ได้ ชอบแบบไหนก็ใช้แบบนั้น
ส่วนตัวชอบเราชอบเต้าหู้แบบนิ่ม แต่ข้อเสียคือเวลาเอามาผัดเต้าหู้จะเละง่าย
เราก็เลยต้องทำให้เต้าหู้แข็งตัวนิดหน่อยก่อน โดยใส่น้ำมันในกระทะเล็กน้อย
เอาเต้าหู้ลงไปจี่่ไฟกลางเอาแค่ให้เต้าหู้สะดุ้งไฟ พอเต้าหู้ได้ที่ก็เขี่ยไปพักไว้ข้างกระทะ
ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวกับน้ำมันที่เหลือให้พอเหลือง
ใส่ถั่วงอกลงไป ปรุงรสตามด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ผัดทุุกอย่างให้เข้ากัน
ใส่พริกแดงหั่นแฉลบ ต้นหอมตัดเป็นท่อน ก่อนปิดเตา







....ตอนนี้อาหารจานนี้เราทำกินเกือบทุกอาทิตย์และแม่คงแอบหัวเราะเราอยู่








บางครั้งอาหารที่ปรุงง่ายๆ แบบนี้ยังอร่อยกว่าเสต็ก พิซซ่า สปาเกตตี้เสียอีก
ถั่วงอกหัวโตเอามาปรุงอาหารได้มากมาย ฝรั่ง ไทย จีน อินเดีย เกาหลี ฯลฯ
จะกินดิบหรือปรุงสุก นำมาต้ม ยำ ผัด แกง ดอง หรือกินสดได้ทั้งนั้น ทั้งยังมีประโยชน์กับร่างกาย

ข้อมูลจาก //naipui.tripod.com
การรับประทานถั่วงอกหัวโต ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่มีอยู่ได้เลย
โดยไม่เสียพลังงานในการย่อย เพราะสารอาหารต่างๆ ถูกย่อยเป็นโมเลกุลเล็กแล้ว
ถั่วงอกหัวโตยังมีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระ ที่สร้างความเสื่อมให้กับร่างกาย
มีฮอร์โมนและเอนไซม์ ช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกัน
ยับยั้งการเกิดมะเร็ง มีเส้นใยอาหารช่วยขจัดสารพิษในลำไส้ใหญ่