Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 
25 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงมีและทรงแสดงยถาภูตญาณที่ทำให้แจ้งอธิมุตติบท ท.

.



อานนท์ !
ธรรมคือญาณเหล่าใด เป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งอธิมุตติบท (ธรรมที่ต้องปล่อยวางทุกอย่างทุกประการ) ท. เหล่านั้น;

อานนท์ !
เราเป็นผู้แกล้วกล้า รู้เฉพาะในธรรมคือญาณเหล่านั้น เพื่อจะแสดงซึ่งธรรมอันเป็นธรรมชาติแห่งอธิมุตติบท ท. เหล่านั้น โดยประการที่ผู้ปฏิบัติแล้ว จักรู้อธิมุตติบทที่มีอยู่ ว่ามีอยู่, ที่ไม่มีอยู่ ว่าไม่มีอยู่, ที่เลว ว่าเลว, ที่ประณีต ว่าประณีต, ที่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า ว่ามีสิ่งอื่นยิ่งกว่า, ที่ไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า ว่าไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า; หรืออีกอย่างหนึ่ง ผู้ปฏิบัติแล้วนั้น จักรู้สิ่งที่ควรรู้ หรือว่าจักเห็นสิ่งที่ควรเห็น หรือว่าจักทำให้แจ้งสิ่งที่ควรทำให้แจ้ง ดังนี้นั้น. ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้อยู่.

อานนท์ !
ญาณนั่น เป็นญาณที่ไม่มีญาณอื่นยิ่งกว่า ในบรรดาญาณ ท. นั่นก็คือ ยถาภูตญาณในอธิมุตติบท ท. นั้น ๆ.

อานนท์ !
เรากล่าวว่า ญาณอื่นที่ยิ่งกว่าประณีตกว่าญาณนั้น ย่อมไม่มี.

(ต่อจากนี้ ได้ทรงแสดงตถาคตพลญาณ ๑๐ ในฐานะที่เป็นยถาภูตญาณ อันไม่มีญาณอื่นยิ่งกว่า ในกรณีนี้ ดูรายละเอียดที่หน้า ๑๓๕ แห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หัวข้อว่า "ทรงมีตถาคตพลญาณสิบ")
.
.
.
บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๓๘/๒๒.
ตรัสแก่พระอานนท์.




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2555
0 comments
Last Update : 25 มิถุนายน 2555 22:35:20 น.
Counter : 1380 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.