พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงมีตถาคตพลญาณสิบอย่าง
.
ภิกษุ ท. ! ตถาคตเป็นผู้ประกอบด้วยพลญาณ ๑๐ อย่าง และประกอบด้วยเวสารัชชญาณ ๔ อย่าง จึง ปฏิญญาตำแหน่งจอมโลก บันลือสีหนาทประกาศพรหมจักร ในท่ามกลางบริษัททั้งหลาย. ๑
สารีบุตร ! เหล่านี้เป็นตถาคตพล ๑๐ อย่าง ของตถาคต ที่ตถาคตประกอบพร้อมแล้ว ปฏิญญาตำแหน่งจอมโลก บันลือสีหนาทประกาศพรหมจักรในท่ามกลางบริษัททั้งหลายได้, สิบอย่างคือ :- ๒
(๑) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งสิ่งเป็นฐานะ (คือมีได้เป็นได้) โดยความเป็นสิ่งมีฐานะ, ซึ่งสิ่งไม่เป็นฐานะ (คือไม่มีได้ไม่เป็นได้) โดยความเป็นสิ่งใช่ฐานะ : นี้เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๒) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งวิบาก (คือผล) ของการทำกรรมที่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน ได้ทั้งโดยฐานะและโดยเหตุ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๓) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งปฏิปทาเครื่องทำผู้ปฏิบัติให้ไปสู่ภูมิทั้งปวงได้ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๔) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งโลกนี้อันประกอบด้วยธาตุมิใช่อย่างเดียว ด้วยธาตุต่างๆ กัน ๓ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๕) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งอธิมุติ (คือฉันทะและอัธยาศัย) อันต่างๆ กัน ของสัตว์ทั้งหลาย : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๖) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความยิ่งและหย่อน แห่งอินทรีย์ของสัตว์เหล่าอื่น ของบุคคลเหล่าอื่น : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๗) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความเศร้าหมอง ความผ่องแผ้วความออก แห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิ และสมาบัติทั้งหลาย : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๘) ตถาคต ย่อมระลึกได้ ซึ่งขันธ์อันตนเคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีชนิดต่างๆ กัน คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง ๔ ---ฯลฯ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๙) ตถาคต ย่อมเห็นสัตว์ ท. ด้วยทิพยจักขุอันหมดจด ก้าวล่วงจักขุมนุษย์ : เห็นสัตว์ทั้งหลายผู้เคลื่อนอยู่บังเกิดอยู่ ๕---ฯลฯ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
(๑๐) ตถาคต ย่อมทำให้แจ้ง เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันไม่มีอาสวะเพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะ ท. ได้ ๖ ---ฯลฯ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.
สารีบุตร ! เหล่านี้แล เป็นตถาคตพลสิบอย่าง ของตถาคต ที่ตถาคตประกอบแล้ว ย่อมปฏิญญาตำแหน่งจอมโลก บันลือสีหนาทประกาศพรหมจักรให้เป็นไปในท่ามกลางบริษัททั้งหลาย.
๑. เช่นรูปธาตุ นามธาตุ เป็นต้น ซึ่งแยกกระจายออกได้อีกมาก. ๒. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่หนึ่ง. ๓. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สอง. ๔. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สาม.
(ในบาลีแห่งอื่น มีกล่าวถึงตถาคตพลญาณเป็นอย่างอื่น คือกล่าวถึงตถาคตพลญาณ เพียง ๖ โดยเว้นข้อ (๓) (๔) (๕) และ (๖) เสียจากจำนวน ๑๐ ที่มีกล่าวอยู่ในที่นี้. -ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๖/๓๓๕. บาลีอีกแห่งหนึ่ง กล่าวถึงตถาคตพลเพียง ๕ ดังที่มีอยู่ในหัวข้อถัดลงไปจากหัวข้อนี้.) ----------------------------------------------------------- ๑. บาลี นิทาน. สํ. ๑๖/๓๓/๖๕. ตถาคตพลสิบ เรียกกันว่า ทสพลญาณ.
๒. บาลี มหาสีหนาทสูตร มู.ม. ๑/๑๔๐/๑๖๖. ตรัสแก่พระสารีบุตร ที่ชัฏป่า นอกนครเวสาลี.
๓. เช่นรูปธาตุ นามธาตุ เป็นต้น ซึ่งแยกกระจายออกได้อีกมาก.
๔. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่หนึ่ง.
๕. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สอง.
๖. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สาม.
Create Date : 22 มิถุนายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2555 6:11:36 น. |
Counter : 1076 Pageviews. |
|
|
|