พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. การตรัสรู้คือการทรงรู้แจ้งผัสสายตนะโดยอาการห้า
.(ครั้งหนึ่ง ประทับอยู่ที่เชตวัน ตรัสเรียกภิกษุ ท. มาแล้ว ได้ตรัสเรื่องสมณพราหมณ์ที่มีทิฏฐิต่าง ๆ กัน โดยแบ่งเป็นพวกๆ คือตรัส ..พวกอปรันตานุทิฏฐิมีทิฏฐิปรารภขันธ์ส่วนอนาคต ๕ พวก ได้แก่พวก ..- สัญญีวาท - อสัญญีวาท - เนวสัญญีนาสัญญีวาท - อุจเฉทวาท และ- ทิฏฐธัมมนิพพานวาทแล้วตรัสพวกปุพพันตานุทิฏฐิ มีทิฏฐิปรารภขันธ์ส่วนอดีต ๑๖ พวก และตรัสถึงทิฏฐิธัมมนิพพานวาทของพวกที่สลัดปรันตานุทิฏฐิและปุพพันตานุทิฏฐิเสีย แล้วไปถือเอานิรามิสสุขอันเกิดจากฌานทุกระดับว่าเป็นนิพพาน แล้วสำคัญตนว่า เป็นผู้สงบรำงับ ดับเย็น ไม่มีอุปาทาน ทรงระบุว่า นั่นเป็นเพียงอุปาทานของคนพวกนั้น ตถาคตทรงทราบว่าอุปาทานนั้นเป็นทิฏฐิหยาบที่คนเหล่านั้นปรุงขึ้น และธรรมเป็นที่ดับแห่งอุปาทานที่คน ท. เหล่านั้นปรุงขึ้นก็มีอยู่ ทรงเห็นธรรมเป็นเครื่องออกจากอุปาทานเหล่านั้น ไม่เวียนไปสู่อุปาทานเหล่านั้น ดังนี้แล้วได้ตรัสข้อความนี้สืบต่อไปว่า:-) ภิกษุ ท. ! ก็ บทแห่งธรรม นี้แล เป็นบทแห่งธรรมอันประเสริฐสงบรำงับ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อันตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้ว (ตรัสรู้); นั่นคือ ความที่ตถาคตรู้แจ้งตามที่เป็นจริง ..- ซึ่งเหตุให้เกิดขึ้น - ซึ่งความดับลง - ซึ่งรสอร่อย - ซึ่งโทษอันต่ำทราม - ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออก แห่งผัสสายตนะทั้ง ๖ แล้วจึงหลุดพ้นเพราะความไม่ยึดมั่นถือมั่น. ภิกษุ ท. ! นั่นแหละ คือข้อที่ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งบทแห่งธรรมอันประเสริฐ สงบรำงับ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า; กล่าวคือ ความที่ตถาคตรู้แจ้งตามที่เป็นจริง ..- ซึ่งเหตุให้เกิดขึ้น - ซึ่งความดับลง - ซึ่งรสอร่อย - ซึ่งโทษอันต่ำทราม - ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออก แห่งผัสสายตนะทั้ง ๖ แล้วจึงหลุดพ้นเพราะไม่มีความยึดมั่นถือมั่น. ...บาลี ปัจจัตตยสูตร อุปริ. ม. ๑๔/๔๐/๔๑. ตรัสแก่ภิกษุ ท. ที่เชตวัน
ตัวหนังสือสีเหลือง อ่านไม่ออกเลยครับ มันเข้ากับสีขาวมาก