วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร (๒)
สวัสดีวันแห่งความรักค่ะ ซะหน่อยเนาะ เดี๋ยวจะตกเทศกาลกับเค้า...วันนี้มาเที่ยววัดกันต่อตอนจบค่ะ....
พระบรมธาตุมหาเจดีย์องค์ใหญ่
พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงกลม สัณฐานรูปโอคว่ำ สูง ๖๐.๕๒๕ เมตร ฐานล่างส่วนนอกวัดโดยรอบได้ ๑๖๒ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๕๐ เมตร มีช่องคูหาเรียงรายล้อมรอบชั้นล่างพระเจดีย์ ๕๔ คูหา ชั้นบนถัดจากช่องคูหาขึ้นไปมีพระเจดีย์เล็ก ๑๘ องค์ เรียงรายพระเจดีย์องค์ใหญ่อยู่
ถ้าใครผ่านสะพานพุทธ หรือสะพานพระปกเกล้าจะมองเห็นพระบรมธาตุเจดีย์นี้แต่ไกลเลยค่ะ
เริ่มสร้างพระเจดีย์ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ เป็นผู้เริ่มสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่นี้ขึ้น แต่หลังสร้างวัดแล้ว พระเจดีย์ยังไม่ทันแล้วเสร็จ ผู้สร้างก็ถึงแก่พิราลัยเสียก่อน เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๘ ต่อมา สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ( ช่วง บุญนาค ) ได้สร้างพระเจดีย์ต่อจนเสร็จสมบูรณ์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
วันที่เราไป...งานที่ว่านี้ จัดเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ภาพที่เหล่าช่างภาพส่งมากันค่ะ....เดินดูเพลินเลย...
เงียบสงบดี...ไม่ต้องแย่งดู...ไม่ต้องแย่งถ่ายรูป...
บูรณะปฎิสังขรณ์ พ.ศ. ๒๔๑๔ พระเจดีย์องค์ใหญ่ถูกฟ้าผ่าจนยอดพระเจดีย์หักไม่ได้รับการบูรณะปฎิสังขรณ์เป็นเวลานานถึง ๔๗ ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๖๑ พระธรรมไตรโลกาจารย์ (อยู่ อุตฺตรภทฺโท) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารในขณะนั้น ได้จัดการบูรณะปฎิสังขรณ์ยอดพระเจดีย์ขึ้นดังเดิม พระบรมธาตุมหาเจดีย์นี้ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๕๐ เมื่อคราวที่พระปรากรมมุนี (เปลี่น) เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๐ บูรณปฎิสังขรณ์พระเจดีย์องค์เล็กรอบพระเจดีย์องค์ใหญ่ และซ่อมกำแพงรอบพระเจดีย์องค์ใหญ่ จากนั้นได้จัดงานฉลองพระเจดีย์และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานไว้บนพระเจดีย์องค์ใหญ่ ในโอกาสเดียวกันนี้ พระสมุห์ปุ่น (ต่อมาเป็นพระครูสาราณิยคุณ) ได้ให้จารึกข้อความลงในกระดานชนวน วางไว้ห้องบรรจุพระบรมสารีริกธาตุว่า "พระสมุห์ปุ่น ได้จารึกพระธรรมประจุพระเจดีย์ ณ วันศุกร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ หลังปีมะแม ๑๒๖๙ พระพุทธศาสนา ๒๔๕๐ เป็นส่วนอดีต ๒๕๔๙ ส่วนอนาคต ขอให้เป็นปัจจัยแด่พระวิริยาธิกโพธิญาณ ในอนาคตกาลเทอญ "
ครั้งล่าสุด พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารรูปปัจจุบัน ได้ดำเนินการบูรณปฎิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ และได้ค้นพบพระบรมสารีริกธาตุและพระกรุจำนวนมากบนองค์พระเจดีย์ใหญ่เมื่อวันที่ ๕ และ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๐ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระมหากรุณาโปรดเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานบนองค์พระเจดีย์ใหญ่ในโอกาสสมโภช ๑๘๐ ปีวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ในวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เวลา ๑๖.๕๕ น. นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยคณะกรรมาธิการอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม พิจารณาคัดเลือก พระบรมธาตุมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๓ ประเภท " ปูชนียสถานและวัดวาอาราม " ด้านการอนุรักษ์งานมรดกศิลปสถาปัตยกรรม โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาค
พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาคเป็นสถาปัตยกรรมแบบทรงไทย กว้าง ๑๖.๙๙ เมตร ยาว ๒๐.๑๙ เมตร เป็นวิหาร ๕ ห้อง หลังคาลด ๒ ชั้น หน้าบันสลักลวดลายดอกไม้สวยสดงดงามและปิดทองประดับกระจกแพรวพราว มีซุ้มประตู ๔ ประตู บานประตูประดับมุก วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนพระวิหารและพระพุทธนาคเป็นศิลปโบราณสถานวัตถุของชาติและพระศาสนา ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๖๖ ตอนที่ ๖๔ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒ ใน พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส รูปปัจจุบัน ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับจากประเทศศรีลังกา พม่า และที่ค้นพบในพระบรมธาตุมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาส มาประดิษฐานในพระวิหาร
ธรณีประตู
หลวงพ่อพระพุทธนาคศักดิ์สิทธิ์
พระวิหาร นี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๔.๒๕ เมตร สูง ๕.๗๐ เมตร มีพระนามว่า พระพุทธนาค เป็นพระพุทธรูปโบราณคู่กับพระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม พระพุทธรูปทั้งสองนี้ ประกอบด้วยพระพุทธลักษณะสมัยสุโขทัยเหมือนกัน คือ มีพระรัศมีเปลวแต่ไม่มีไรพระสก ชายผ้ารัดประคตเป็นเขี้ยวตะขาบและประทับนั่งขัดสมาธิราบเช่นเดียวกับ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก พระพุทธนาคนี้ได้รับอัญเชิญจากจังหวัดสุโขทัยมาประดิษฐานไว้ ณ พระวิหารวัดประยุรวงศาวาส เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๔
ซำปอกงของชาวจีน พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวจีน ให้ความเคารพบูชาในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนาคเป็นอย่างยิ่ง ด้วยได้รับสิ่งที่เป็นอัศจรรย์หลายประการ และโดยทั่วไปมักเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธนาคน้อย เพื่อให้คู่กับพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม ที่เรียกว่า พระพุทธนาคใหญ่ พุทธศาสนิกชนชาวจีนได้ขนานนามพระพุทธนาค นี้ว่า "ลักน้อย" แปลว่า กลีบบัว ๗ ชั้น เปรียบพระพุทธองค์คือ ซำปอกง (หลวงพ่อโต) ของชาวจีน
ขอบคุณข้อมูลจาก //watprayoon.org/
บล็อกหน้า....พิพิธภัณฑ์ประยูรภัณฑาคาร
ขอบคุณเฮดบล็อก และบีจี คุณญามี่
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
34 comments |
Last Update : 21 มิถุนายน 2555 13:41:55 น. |
Counter : 4023 Pageviews. |
|
|
|
ตามมาเที่ยววัดอีกแล้วครับ เจดีย์ที่วัดนี้ องค์ใหญ่ สีขาวบริสุทธิ์ ดูน่าเลื่อมใสศรัทธามากครับ .....
Happy Valentine's Day นะครับ