คนละฟากฟ้า - บทที่ 5













สมมติว่าเป็น "นิค" ค่ะ (รูปนี้ผมยาว เป็นจิ๊กโก๋ไปหน่อย)





หลังจากติดต่อกันทางจดหมายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งฉบับ มาเป็นเวลาเกือบสองปี หลังจากนั้นพราวพรายก็ไม่ได้รับจดหมายจากวิชชาอีกเลย ในระยะแรกๆหญิงสาวไม่ได้คิดอะไรมาก พยายามมองในแง่ดีว่า เขาอาจติดสอบหรือมีเรื่องอะไรวุ่นวาย จนไม่มีเวลาจะเขียนจดหมายถึงเธอ แต่ละวันเมื่อกลับถึงบ้านที่พักอยู่กับสุนิสาหลังเลิกจากงานในฐานทัพ พราวพรายจะตรงดิ่งเข้าไปเปิดตู้จดหมาย หวังที่จะได้เห็นซองจดหมายสีฟ้าอ่อนที่ชินตา แม้จะไม่ปรากฏวี่แวว แต่เธอก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอและหวังต่อไป วันนี้ไม่มีเธอก็หวังว่าพรุ่งนี้อาจจะมี แต่คอยแล้วคอยเล่าจนอีกสองเดือนผ่านไป ก็ยังไม่มีจดหมายจากวิชชา

สุนิสาซึ่งรู้ว่าเธอรอจดหมายใครอยู่ เห็นสีหน้าหมองๆของเพื่อนก็ปลอบว่า “เขาคงยุ่งจนไม่มีเวลาเขียนจดหมายละมัง”

“ยุ่งยังไงก็ฟังไม่ขึ้น แล้วฉันล่ะ ว่างมากนักหรือไง”

“อย่าคิดมากเลยน่า เท่าที่พราวเคยเล่าให้ฟัง เราคิดว่าเขาเป็นคนดีนะ รอไปอีกสองสามวันอาจจะได้รับจดหมายจากเขาก็ได้”

“แอ๋ว..ฉันว่ามันผิดปกตินะ” พราวพรายค้าน “เขาไม่ตอบจดหมายฉันมาสองเดือนกว่าแล้ว เธอก็รู้ว่าปกติฉันได้รับจดหมายชองเขาเกือบทุกอาทิตย์”

เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเพื่อนสุนิสาก็นึกสงสาร ทั้งๆที่ความจริงเธอเองก็ไม่แน่ใจในความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียวของผู้ชายนักหรอก ก็ดูแต่ผู้พันอรรณพของเธอสิ แต่ก่อนนี้เขาก็รักลูกรักเมียจะตาย แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร เขากลับมาหลงเธอหัวปักหัวปำ ไม่ค่อยจะยอมกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่กรุงเทพฯเสียเลย แต่ถึงจะนึกเช่นนั้น สุนิสาก็ไม่ใจดำพอจะพูดให้เพื่อนเสียใจ


“คงไม่มีอะไรหรอกน่า เขาคงต้องดูหนังสือหนักเพื่อเตรียมสอบ เขาเรียนหนักมากไม่ใช่หรือ อย่าเพิ่งคิดอะไรให้วุ่นวายไปเลยนะ”

“แอ๋วคิดว่าเขาจะไปพบใครสักคน ที่เขาชอบมากกว่าเราไหมมหาวิทยาลัยที่เขาเรียน ก็มีผู้หญิงไทยหลายคนเหมือนกันนะ”

พราวพรายรู้สึกอายเหมือนกัน ที่ต้องปรับทุกข์กับสุนิสาในทำนองนั้น เหมือนไม่เชื่อใจวิชชาและดูถูกตัวเอง

“ไม่น่าเป็นไปได้ เขาต้องเรียนอีกนานเท่าไหร่ล่ะกว่าจะได้ปริญญาโท”

“เขาได้ทุนสามปี ปีแรกต้องไปเรียนภาษาเยอรมันก่อน อีกสองปีต้องเรียนหลักสูตรปริญญาโทที่เขาสมัครไป”

“ตอนนี้เขาไปนานแค่ไหนแล้ว"

“ก็ใกล้จะสองปีแล้วละ ตอนที่เขาไปฉันขึ้นปีสี่แล้ว”

“อ๋อ..งั้นก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาต้องเรียนหนัก ถ้าเราเป็นเขาก็คงไม่มีเวลาว่างมากนักหรอก ไหนจะภาษาเยอรมันซึ่งยากจะตาย แถมต้องเรียนแข่งกับพวกนักศึกษาเยอรมันอีกด้วยไม่ใช่หรือ เลิกคิดมากได้แล้วน่า เขาคงไม่ไปจีบใครหรอก พราวกับเขาก็ชอบกันมาตั้งหลายปี ”

แต่พราวพรายเหมือนมีลางสังหรณ์ เธอเชื่อว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับวิชชาที่ทำให้จดหมายของเขาขาดหายไป หญิงสาวคิดหนักมาสองสามคืนแล้วและตั้งใจเอาไว้อย่างหนึ่ง

“แอ๋ว.. ฉันเป็นฝ่ายเขียนจดหมายถึงเขาข้างเดียวมาสองเดือนแล้วนะ ฉันเลยคิดว่าจะให้เวลาเขาอีกสองเดือนเท่านั้น”

สุนิสามองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย “หมายความว่าไง จะเลิกกับเขาหรือ”

“ยังหรอก ตั้งใจว่าจะเขียนถึงเขาต่อไปอีกสองเดือน ถึงเขาจะไม่ตอบเลยก็ตาม”

“แล้วไง หลังจากนั้นพราวจะทำยังไง"

“ฉันจะเลิกเขียนถึงเขาแล้วก็ลืมเขาเสีย ฉันรอเขามาสองเดือนแล้ว จะให้โอกาสอีกสองเดือน ถ้าครบสองเดือนแล้วยังไม่มีจดหมายหรือข่าวอะไรจากเขา ฉันก็จะตัดใจจากเขาทันที”

“แน่ใจหรือว่าจะทำอย่างที่พูดได้”

สุนิสารู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะตัดใจลืมคนที่เคยรักกันมานานถึงสี่ห้าปีได้โดยไม่รู้สึกอะไร

“ความจริงฉันเป็นคนซื่อสัตย์นะแอ๋ว เมื่อตกลงเป็นแฟนกับใครแล้ว ก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ ต่อให้พบใครที่ดีกว่าก็ตาม”


เรื่องนี้สุนิสาก็รู้อีกเหมือนกัน เธอเห็นมีหนุ่มๆหลายคนแม้แต่เพื่อนของอรรณพ ที่สนใจพราวพราย แต่หญิงสาวคนนี้ก็ไม่สนใจใครเลย ตั้งหน้าตั้งตาซื่อสัตย์มั่นคงต่อคนที่เธอให้สัญญาว่าจะรอโดยไม่วอกแวกหวั่นไหว สุนิสาเคยเห็นภาพถ่ายของวิชชาที่พราวพรายเอามาให้ดู ดูแล้วก็ลงความเห็นอยู่ในใจว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูธรรมดามาก ทั้งรูปร่างหน้าตาและบุคลิกลักษณะ เทียบไม่ได้เลยกับเพื่อนของเธอ ที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามสะดุดตา แต่เมื่อไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอๆก็เลยไม่วิพากษ์วิจารณ์ว่าอย่างไร ส่วนอมราก็คิดแบบกลางๆว่าถึงเขาจะดูธรรมดามาก แต่เขาอาจจะมีอะไรบางอย่างที่พราวพรายพอใจก็ได้


“นั่นน่ะสิ เรากับแพตตี้” เธอหมายถึงอมรา “ก็รู้เหมือนกันว่าพราวเป็นคนแบบนั้น“ สุนิสารีรอ ก่อนจะถามคำถามที่อยากจะถามมานานแล้ว “ เรารู้ว่าพราวชอบกับวิชชาตั้งแต่ตอนที่อยู่ปีหนึ่ง แต่ถามจริงๆเถอะ เธอชอบเขาแบบแฟนจริงๆหรือ”


ที่ถามเช่นนั้นก็เพราะสุนิสาไม่เคยเห็นความรักความหวานหวาม หรือความซาบซึ้งดื่มด่ำในแววตาของพราวพรายเลย เวลาที่พูดถึงวิชชา หญิงสาวผู้มีประสบการณ์มากกว่าคนนี้ ยังคลางแคลงใจกับสิ่งที่พราวพรายเรียกว่าความรัก มันดูแห้งแล้ง ไม่มีอะไรหวือหวาเลยสักนิดเดียว


“ไม่รู้เหมือนกัน บอกตรงๆนะแอ๋ว ตอนนั้นฉันอยากมีแฟนมากเลย อาจจะเป็นเพราะแม่ห้ามมากไปหน่อยก็ได้ ฉันชอบต่อต้านแม่อยู่แล้ว พอวิชชาบอกว่าชอบฉันๆก็ตกลงเป็นแฟนกับเขาเลย ทั้งๆที่พวกเพื่อนๆในกลุ่มเดียวกันที่คณะฯ ก็ไม่เห็นด้วย”

“พราว ขอถามอะไรอีกหน่อยได้ไหม อย่าเข้าใจว่าเราดูถูก หรืออะไรทำนองนั้นเลยนะ”

“ถามมาเถอะ ถ้าตอบได้ฉันก็จะตอบ”

“เธอกับวิชชาเคยมีอะไรกันบ้างหรือเปล่า” สุนิสาเป็นคนพูดตรงจนบางครั้งเหมือนขวานผ่าซาก

“ว่าไงนะ” พราวพรายงง แต่แล้วก็นึกออก “อ๋อ..หมายถึงเรื่องแบบนั้นน่ะหรือ ไม่หรอก เราไม่เคยมีอะไรกันถึงเนื้อถึงตัว แม้แต่กอดๆจูบๆ ก็ไม่เคย ฉันกับวิชชาอายุใกล้เคียงกัน เขาเป็นคนเรียบร้อยสมถะ ไม่สนใจอะไรหรอก บ้าเรียนกับบ้าอ่านหนังสือกำลังภายในเท่านั้น ฉันเองยังเคยสงสัยเลยว่า เขาเคยมีอะไรกับผู้หญิงมั่งหรือเปล่า”


สุนิสาถอนใจยาวอย่างโล่งอก ตอนแรกเธอเคยแอบคิดเอาเองจากประสบการณ์แก่เกินวัยของเธอ ที่มีความสัมพันธ์กับอรรณพมาตั้งแต่อายุสิบเก้า ขณะที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง ว่าพราวพรายกับวิชชาอาจจะมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง เสียจนพราวพรายมองข้ามคุณสมบัติ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจของหนุ่มคนนั้นไปได้


แล้วพราวพรายก็ทำตามความตั้งใจของเธอ หลังจากรอแล้วรอเล่า วิชชาก็ไม่เคยตอบจดหมายทั้งหมดอีกแปดฉบับ ที่เธอเขียนไปหาเขาในช่วงนั้น เมื่อครบกำหนดเส้นตายที่ขีดเอาไว้ หญิงสาวก็เก็บอุปกรณ์ในการเขียนจดหมายถึงวิชชา ที่เลือกสรรมาอย่างดีเพื่อเขาโดยเฉพาะ รวมทั้งจดหมายทุกฉบับที่เขาเขียนถึงเธอ ในช่วงก่อนที่จะขาดการติดต่อ ลงกล่องปิดผนึกอย่างแน่นหนา นำไปซุกไว้ตรงมุมหนึ่งของตู้เสื้อผ้า


หลังจากนั้นก็ถามสุนิสาว่า “แอ๋ว คืนนี้นัดกับพี่ณพไว้หรือเปล่า”

“คืนนี้หรือ? เปล่าหรอก ไม่ได้นัด พี่ณพไม่อยู่ ไปกรุงเทพฯ” สีหน้าของสุนิสาไม่ค่อยมีความสุขนักเมื่อเล่าต่อว่า “เมียเขาโทรศัพท์มาบอกเมื่อวาน ว่าลูกเขาป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล พี่ณพเลยต้องไปกรุงเทพฯ ถามทำไมหรือ”

“งั้นคืนนี้เราไปเที่ยวกันหน่อยดีไหม”

“ไปเที่ยว? ไปไหน

สุนิสางง พราวพรายไม่ใช่คนที่จะออกไปเที่ยวกลางคืน อมรากับเธอเคยชวนหลายครั้งให้ไปเที่ยวบาร์หรือดิสโกเทคด้วยกัน เวลาที่พันตรีอรรณพหรือผู้กองชลธิศชวนพวกเธอไป แต่หญิงสาวคนนี้ปฏิเสธแทบทุกครั้ง ทำให้เพื่อนทั้งสองเข้าใจกันเอาเองว่าที่เธอไม่ยอมไปด้วย ก็เพราะพวกเธอมีคู่เดทไปด้วย ในขณะที่พราวพรายไม่มี


“วันนี้เป็นวันที่ฉันตัดขาดจากวิชชา ฉันก็เลยอยากไปฉลองอิสรภาพสักหน่อย”

หน้าของพราวพรายยิ้มอยู่ก็จริง แต่แววตาของเธออ้างว้างเศร้าหมองจนสุนิสารู้สึกสงสาร เลยตกปากรับคำเพื่อเอาใจเพื่อน

“ได้สิ อยากไปไหนล่ะ ”

“ไปไหนก็ได้ เออ..แอ๋ว เราไปกินเหล้ากันไหม” พราวพรายถามหน้าตาเฉย

“หา!  ไปกินเหล้า? เธอเนี่ยนะจะไปกินเหล้าสุนิสาไม่เชื่อหูตัวเอง

“ใช่ ไปหาเหล้ากินกัน ฉันอยากเมาสักครั้ง ชวนแพตตี้ไปด้วยอีกคน”

สุนิสามองหน้าเพื่อน คิดในใจว่าพราวพรายคงจะอาการหนัก คงทำใจตัดขาดจากวิชชาได้ยาก ถึงจะบอกว่าไม่รู้ว่ารักเขาหรือเปล่าก็ตาม

“แต่พราวไม่เคยกินเหล้านี่นา”

“ไม่เคยหรอก แต่คืนนี้ฉันอยากเมา เธอกับแพตตี้ยังกินได้เลย กินเก่งอีกด้วย เอาน่าช่วยเพื่อนสักครั้งเถอะ ฉันขอแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น”


คืนนั้นอมราซึ่งเป็นคนเดียวที่มีรถคันเล็กๆขับ พาสุนิสาและพราวพรายไปที่บาร์วิมานทอง ซึ่งเป็นบาร์ที่ใหญ่และหรูที่สุดในตัวเมืองอุบลฯในสมัยนั้น นอกจากคนไทยแล้ว ในบาร์ยังคับคั่งไปด้วยทหารต่างชาตินอกเครื่องแบบ ทั้งผิวขาวและผิวดำ แต่ละคนดื่มกินและออกไปเต้นรำ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับพาร์ตเนอร์สาวสวย หรือไม่ก็เมียเช่าของพวกเขาอย่างเมามัน หาความสุขกันอย่างเต็มที่ ราวกับกลัวว่าจะไม่มีชีวิตอยู่จนถึงวันรุ่งขึ้น


หญิงสาวทั้งสามเลือกได้โต๊ะตรงมุมหนึ่งแล้วสั่งเบียร์มาดื่ม ผู้ชายหลายตนในบาร์ต่างก็มองมาที่พวกเธอเป็นตาเดียวกัน เพราะไม่มีผู้ชายมาด้วยสักคน พราวพรายนั้นตั้งหน้าตั้งตาดื่มเบียร์ ไม่สนใจคำเตือนของเพื่อนทั้งสองที่ขอให้ดื่มช้าๆหน่อย เพราะรู้ว่าเธอไม่เคยแตะต้องเครื่องดองของเมามาก่อน หลังจากเบียร์หมดไปแล้วหลายแก้วพราวพรายก็เริ่มสนุก วงดนตรีกำลังบรรเลงเพลงจังหวะสนุกๆ อยู่อย่างเมามัน บนฟลอร์เต้นรำก็แน่นขนัดไปด้วยคู่เต้นจนแทบไม่มีที่ว่าง


พราวพรายมองไปรอบๆตัวในความมืดสลัว มีแต่ไฟกระพริบแวบๆจากบนเพดานตามจังหวะดนตรีเท่านั้น หญิงสาวรู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในสถานที่อโคจรแบบนี้ นึกอยากให้มารดาผู้เข้มงวดมาเห็นเธอในตอนนี้เหลือเกิน คุณจิตราคงจะเป็นลมล้มพับไปเลยด้วยความตกใจ เพราะสถานที่แบบนี้เป็นหนึ่งในสิ่งต้องห้ามที่บุตรสาวทั้งสอง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งห้ามของเธออย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะอายุเท่าใด


พราวพรายพยายามชักชวนอมราและสุนิสาให้ออกไปดิ้นด้วยกันบนฟลอร์ แต่หญิงสาวทั้งสองปฏิเสธ เมื่อเพื่อนไม่ยอมออกไปดิ้นด้วยพราวพรายก็ไม่ง้อ ออกไปดิ้นอยู่คนเดียวอย่างเมามัน จนมีหนุ่มต่างชาติท่าทางเมาแอ๋สองคนเข้ามาเต้นประกบ ซึ่งเธอก็ไม่ว่าอะไร เต้นไปกับเขาหน้าตาเฉย จนสุนิสาทนไม่ไหวต้องลุกออกไปลากเธอกลับมาที่โต๊ะ

พอถึงโต๊ะหญิงสาวก็กรอกเบียร์เข้าปากต่อแล้วก็พูดด้วยเสียงที่เริ่มอ้อแอ้

“ต่อไปนี้ฉันจาเป็นพราวพรายคนใหม่แล้วนะ แพตตี้...แอ๋ว ฉัน..จา ..เปลี่ยนตัวเอง อยากรู้มั้ย..ว่า.ฉัน..จาทำอะไร”

สุนิสากับอมรามองสบตากัน รู้ว่าพราวพรายเมาแล้ว 

อมราเตือนว่า “เธอเมาแล้วนะพราว กลับกันเสียทีดีไหม นี่ก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว”

“ใครว่า..มาว ฉัน..ไม่.มาว..หรอก ยังดื่มเบียร์ได้อีกหลายแก้ว”

พราวพรายยืนยันแม้จะเริ่มรู้สึกเวียนศีรษะก็ตาม

“กลับเถิดน่า “ สุนิสาขอร้อง

“ม่าย..ถ้าพวกเธออยากกลับก็กลับ..ปาย..ด้าย...เลย  ฉันอยู่คนเดียวก็ได้”

“จะบ้าหรือพราวจะอยู่คนเดียวได้ยังไง  รู้ไหมว่าที่นี่น่ะมีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดที่ออกล่าเหยื่อแบบเธอทั้งนั้น” อมราชักโมโหที่เพื่อนพูดไม่รู้เรือง

แต่สุนิสาเข้าใจพราวพรายมากกว่าอมรา เธอจึงพยายามชวนเพื่อนที่กำลังเมาคุย  

“พราว เมื่อกี้ที่บอกว่าจะทำอะไรต่อไปน่ะ จะทำอะไร บอกพวกเราได้ไหม”

พราวพรายเงยหน้าขึ้นมองสุนิสา นัยน์ตาของเธอหยาดเยิ้มแวววาวราวกับมีน้ำมันหล่อลื่นอยู่ข้างใน  

“ฉัน..จา..หา..แฟนใหม่ไงล่ะ  ดีมั้ย? จะได้เลิกนึกถึงนายวิชชาเสียที  ฉันจาต้องมีแฟนใหม่ให้ได้  เร็วๆนี้แหละ ไม่เชื่อก็คอยดู” พูดจบเธอก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอีก


อีกครู่ต่อมา พนักงานบาร์คนหนึ่งซึ่งคงจะคุ้นหน้าอมราดี เพราะเธอมาที่นี่บ่อยๆกับผู้กองชลธิศ นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ในเขตอำเภอเมืองก็รู้จักครอบครัวของเธอดี เข้ามาตามเธอไปรับโทรศัพท์ หญิงสาวผู้นั้นรีบเดินไปรับโทรศัพท์ พูดโต้ตอบกันได้เพียงสองสามประโยคก็รีบร้อนกลับมาที่โต๊ะ บอกเพื่อนอีกสองคนด้วยสีหน้าตกใจ

“ฉันต้องรีบไปก่อนละ ที่บ้านโทร.มาบอกว่าแม่ไม่สบาย” 

“อ้าว!  แล้วเรากับพราวจะทำยังไงล่ะ จะกลับกันยังไง พราวก็เมาแล้วด้วย แพตตี้ไปแล้วเราสองคนก็ไม่มีรถกลับน่ะสิ” สุนิสาเริ่มกังวล

“เอางี้แล้วกัน เราจะกลับไปดูแม่ก่อน ถ้าไม่เป็นอะไรมากเดี๋ยวจะกลับมารับ”

“โอเค เอางั้นก็ได้”


หลังจากอมรารีบร้อนออกไปแล้วสุนิสาก็มองพราวพรายอย่างกังวล เพราะเธอทำท่าเหมือนจะเมามาก จนลืมตาแทบไม่ขึ้นอยู่แล้ว แต่ก็ยังดื่มเบียร์ที่เหลืออยู่อีกไม่มากต่อไป อีกประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา อมราก็โทรศัพท์มาแจ้งว่าคงไม่สามารถกลับมารับได้ เพราะต้องพามารดาไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นสุนิสาก็คิดจะพาพราวพรายกลับบ้าน เพราะตอนนี้หญิงสาวผู้นั้นเมาพับไปแล้ว โดยซบหน้าลงบนโต๊ะหลับสนิทไม่กระดุกกระดิก เธอคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะขณะนั้นสองยามกว่าแล้ว สุนิสารู้ว่ามีรถแท็กซี่จอดรอลูกค้าอยู่ด้านนอก แต่ปัญหาก็คือจะพาพราวพรายออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร มีเธอเพียงคนเดียวและตัวเธอก็เล็กนิดเดียว จะมีปัญญาพาร่างของผู้หญิงที่กำลังเมาทั้งเหล้าเมาทั้งอารมณ์ ออกจากบาร์ไปได้อย่างไร


ขณะที่กำลังเหลียวซ้ายแลขวาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ก็มีใครคนหนึ่งลุกจากโต๊ะที่อยู่ในมุมมืดห่างออกไปไม่เท่าไรนัก ซึ่งมีคนนั่งอยู่ด้วยกันหลายคน เป็นผู้ชายทั้งหมด คนๆนั้นเดินเข้ามาที่โต๊ะของสุนิสา


“ไฮ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า

สุนิสาเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ คิดว่าขี้เมาที่ไหนมาวุ่นวายกับเธอ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอก็ยิ้มออกมาได้อย่างโล่งอก

“ไฮ นิค!  ดีใจจังที่พบคุณที่นี่” เธอเห็นเขามองเพื่อนเธอที่ฟุบหลับอยู่ ไม่เห็นหน้าเห็นตา  “ฉันกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี”

สุนิสาพยายามเขย่าตัวพราวพราย พร้อมกับบอกหนุ่มอเมริกันที่เธอเรียกว่านิคว่า “เพื่อนฉันเขาเมามาก ฉันจะพาเขาออกไปขึ้นแท็กซี่ข้างนอก แต่ไม่รู้ว่าจะพาออกไปได้ยังไง เขาเมาไม่รู้สึกตัวเลย”

“โอเค ผมจะช่วยคุณเอง คุณจัดการเช็คบิลให้เรียบร้อยก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวผมมา”

เขาบอกแล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะของเขา พูดอะไรสองสามคำกับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วเดินกลับมาหาสุนิสา ซึ่งกำลังพยายามฉุดรั้งพราวพรายให้ยืนขึ้น แต่ไม่สำเร็จ

ชายหนุ่มยืนมองอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นไม่ได้การก็เสนอว่า “ให้ผมช่วยดีกว่า”


เขาก้าวเข้าไปใกล้เก้าอี้ที่พราวพรายนั่งอยู่ ก้มตัวลงใช้มือช้อนเข้าที่ใต้ลำคอของผู้หญิงที่นั่งฟุบหน้าอยู่ ให้แหงนเงยขึ้น เมื่อเห็นหน้าเธอชัดเขาก็สะดุ้งอยู่ในใจ ‘นึกว่าใคร ที่แท้ก็ยายบ้านี่เอง’เขาประคองตัวเธอให้ยืนขึ้น ร่างที่ยืนขึ้นมาได้ตามมือของนิค ซวนเซไปมาเซเข้าปะทะอกเขา แล้วเลยซุกอยู่ตรงนั้นเสียเลย ไม่ลืมหูลืมตา ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น นิคจับตัวหญิงสาวให้หันมาพิงเขา โอบแขนข้างหนึ่งไปรอบเอว ค่อยๆกึ่งลากกึ่งพยุงเธอให้เดินคู่ไปกับเขา ออกประตูวิมานทองไป โดยมีสุนิสาซึ่งหอบกระเป๋าของพราวพรายมาด้วย วิ่งตามมาข้างหลัง


สุนิสามองหาแท็กซี่ที่เคยจอดอยู่มากมายแถวนั้นแต่ตอนนี้หาไม่ได้สักคัน

นิคซึ่งคงรู้ว่าสุนิสากำลังกลุ้มใจไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป หันมาบอกเธอว่า “ตามผมมาดีกว่า ผมเอารถมา จะไปส่งให้ที่บ้าน แท็กซี่ช่วงนี้หายาก อีกนานกว่าบาร์จะปิด”


หลังจากจอดรถจิ๊ปตรงหน้าบ้านเช่าเล็กๆของสองสาวเรียบร้อยแล้ว นิคก็ต้องลงจากรถ มาช่วยพาพราวพรายเข้าบ้าน เขาพยายามจับตัวเธอให้ตั้งตรง แต่ครั้งนี้แข้งขาของเธออ่อนปวกเปียกไม่ยอมยืน จะลงกองกับพื้นท่าเดียว ในที่สุดเขาต้องตัดปัญหาด้วยการอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน เดินตามหลังสุนิสาเข้าไปหน้าประตูบานหนึ่ง หญิงสาวผู้นั้นขอให้เขารอสักครู่หนึ่ง จุดประสงค์ก็เพื่อเข้าไปสำรวจความเรียบร้อยในห้องนอนเพื่อน


นิคก้มลงมองยายบ้าคนนั้นซึ่งยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างนึกเวทนา มองหน้าซีดๆที่ไว้ผมทรงแอฟโฟรพองฟูน่าเกลียดในสายตาของเขา ส่ายหน้าอย่างปลงอนิจจัง เมื่อหญิงสาวผู้นั้นส่ายศีรษะไปมาอย่างกระสับกระส่าย กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ชนิดหนึ่งก็ซ่านกำจายจากซอกคอของเธอ แทรกกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งจากลมหายใจ เข้ามาในจมูกที่มีประสาทสัมผัสไวของเขา


ขณะที่กำลังมองอยู่นั้นพราวพรายก็ลืมตาขึ้นมาครึ่งๆ พอเห็นเขาเธอก็ผงกขึ้นจากท่าที่นอนหัวซุกหัวซุนแนบอยู่กับอกเขา ใช้มือข้างหนึ่งจิ้มเข้าไปที่คางของนิค

“นี่ นาย นาย..อยาก..อยาก.เป็นแฟน..ฉันมั้ยเสียงของเธออ้อแอ้จนฟังแทบไม่รู้เรื่อง

เมื่อเห็นผู้ชายคนที่อุ้มเธออยู่ทำหน้างง เหมือนไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร พราวพรายก็จ้องหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่งด้วยดวงตาที่หรี่ปรือ

“อ๋อ ไอ้กันนี่นา” แล้วก็เปลี่ยนมาพูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษว่า “เฮ้!  ยู ยู... อยาก..เป็น..แฟนไอ..มั้ยล่ะ ไอ..น่ารักนา  ไม่เชื่อ..ก็..ก็..ถามนายวิชชา..ดูสิ”

พูดขาดคำเธอก็ซุกหลับลงไปอีก ไม่มีโอกาสได้เห็นว่าผู้ชายคนที่กำลังอุ้มเธออยู่ ทำหน้าประหลาด ส่ายหน้าอย่างปลงอนิจจัง

“อย่าไปสนใจคำพูดของเขาเลยนะนิค เพื่อนฉันเขาไม่เคยดื่มเหล้าดื่มเบียร์มาก่อน เลยสู้ไม่ไหว เมามากไปหน่อย ต้องขอบคุณคุณมากๆเลยนะ ถ้าไม่ได้คุณฉันยังไม่รู้เลย ว่าจะพาเขากลับบ้านได้ยังไง” 

สุนิสาซึ่งกลับออกมาทันได้ยินคำพูดของพราวพราย พยายามแก้ตัวให้เพื่อน

หลังจากที่หนุ่มอเมริกันผู้นั้น พาร่างที่อ่อนปวกเปียกของพราวพรายไปวางลงบนเตียงนอน สุนิสาก็ดึงผ้าแพรเพลาะสีฟ้าอ่อน ขึ้นคลุมร่างเพื่อนตั้งแต่หน้าอกลงไป ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพร้อมกับเขา หญิงสาวซึ่งรู้สึกไม่สบายใจกับแววตาแปลกๆกึ่งสมเพชของนิค ที่มองพราวพราย พยายามออกตัวให้เพื่อนต่อ


“เขามีปัญหาส่วนตัวน่ะ แพตตี้กับฉันก็เลยพาเขาไปฟังเพลง ดูคนเต้นรำ ดื่มเบียร์กันนิดๆหน่อยๆ แต่เขาไม่เคยดื่มเหล้าดื่มเบียร์มาก่อนก็เลยเมา”

“เขาเป็นเพื่อนกับคุณหรือ” นิคถามเรื่อยๆ

“ใช่ เราเป็นเพื่อนกัน เช่าบ้านอยู่ด้วยกันมาพักหนึ่งแล้ว”

ชายหนุ่มผู้นั้นฟังจบก็บอกว่า“ผมกลับละ พวกเพื่อนๆคอยผมอยู่ที่วิมานทอง”


วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเสาร์และเป็นวันหยุด พราวพรายลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อประมาณสิบนาฬิกา รู้สึกปวดศีรษะมาก แต่ก็แข็งใจลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อออกมาที่ห้องด้านนอกซึ่งเป็นห้องเอนกประสงค์ ใช้เป็นทั้งที่นั่งเล่น รับแขกและรับประทานอาหาร เธอพบสุนิสากำลังนั่งดูโทรทัศน์ด้วยท่าทางเบื่อๆ


พอเห็นพราวพรายหญิงสาวผู้นั้นก็ส่ายหน้าอย่างเอือมๆ 

“เป็นไงมั่งล่ะ หน้าตาซีดเซียวยังกับไก่ต้มแน่ะ”

“อืมม์ ปวดหัวจัง เออ..แอ๋ว เมื่อคืนเรากลับบ้านกันยังไง หรือว่าแพตตี้กลับมารับเรา"

สุนิสาค้อนขวับ  “จำไม่ได้จริงๆหรือ แพตตี้ไม่ได้กลับมาหรอก เขาต้องพาแม่ไปส่งโรงพยาบาล เมื่อคืนเธอเมามากรู้ไหม “

“จริงเหรอ” พราวพรายม่ค่อยเชื่อนักหรอก เบียร์เพียงไม่กี่แก้วจะเมาได้อย่างไร

“เมาไม่เมาก็ต้องมีคนอุ้มเธอมาส่งถึงเตียงนอนก็แล้วกันละ” สุนิสาพูดอย่างหมั่นไส้ความรั้นของเพื่อน

“ใคร? เธอน่ะหรืออุ้มฉัน” หญิงสาวหัวเราะขำ มองเพื่อนอย่างเอ็นดู “โถ ตัวเธอเล็กกว่าฉันตั้งเยอะ ยังอุตส่าห์อุ้มฉัน ขอบใจมากนะเพื่อน”

“ไม่ใช่ฉันหรอกย่ะ” สุนิสาค้อนขวับ “ห้ามดื่มเหมือนคนบ้าแบบนี้อีกนะ ทำให้ใครต่อใครต้องมาเดือดร้อนไปด้วย”

“อ้าว ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครล่ะ ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง"

“บอกไปเธอก็ไม่รู้จักหรอก เผอิญเจอเพื่อนพี่ณพในบาร์นั่น เขาคงเห็นฉันไม่มีปัญญาพาเธอกลับบ้าน เลยเข้ามาช่วย” แล้วก็เสริมอีกหน่อยว่า“พราวทำน่าเกลียดมากเลยนะ ดันไปชวนเขาเป็นแฟน เห็นพิษสงของเหล้าเบียร์หรือยังล่ะ กินเข้าไปแล้วกลายเป็นคนพูดจาเหลวไหลไม่ได้เรื่อง”

พราวพรายตกใจ “ฉันชวนเขาจริงๆหรือ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“เออ จำไม่ได้ก็ดีแล้วละ ว่าแต่วันนี้เราจะทำอะไรกันดีล่ะ เบื่อชะมัดเลย”

 ความเบื่อของสุนิสาเกิดจากสาเหตุเดียวเท่านั้น คือการที่พันตรีอรรณพเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปดูแลครอบครัวของเขา ตามหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว

“ไปเยี่ยมคุณแม่แพตตี้กันดีไหม” พราวพรายเสนอ

“ก็ได้ ดีกว่านั่งมองหน้ากันอยู่สองคน” สุนิสารีบสนองตอบทันที

แล้วหญิงสาวทั้งสองก็ออกจากบ้าน นั่งรถสามล้อไปเยี่ยมคุณนายสังวาลย์มารดาของอมรา ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ เพราะต่างก็ไม่อยากอยู่บ้านที่ไม่มีอะไรให้ทำมากมาย ต่างก็ไม่อยากคิดถึงผู้ชาย ที่คนหนึ่งเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงอื่น และอีกคนก็อาจจะกำลังอยู่กับหญิงคนใหม่ที่ใกล้ตัวกว่า




Create Date : 05 กันยายน 2559
Last Update : 5 กันยายน 2559 21:41:28 น.
Counter : 1360 Pageviews.

42 comments
  
ตัดริบบิ้น และ โหวต ก่อนนะคะ

เดี๋ยวค่อยอ่านตามหลัง




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:18:29:23 น.
  
ตามมาอ่านต่อครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ปล. คุณโฉลงของเรามาแล้ว หลังจากไปเรียนต่อโทต่างประเทศมาครับ
โดย: moresaw วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:19:35:25 น.
  
เข้ามเจอหนุ่มหล่อคมเข้ม พระเอกเรื่องนี้หน้าคล้ายแบบนี้หรือเปล่าคะพี่ตุ้ย
ถ้าคล้ายก็เหมาะสมกับพราวพรายมากนะคะ
เรื่องราววันนี้เห็นใจพราวพรายค่ะ

ลงชื่อไว้ก่อนนะคะ
พำรุ่งนี้มาใหม่ค่ะ
ขอบคุณโหวตค่ะพี่ตุ้ย

โดย: mambymam วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:20:08:33 น.
  
อืม เขียนกันไปกันมาจนจะเลิกเขียนถึงเลยนะ อืม.... รอลุ้นๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เจ้าการะเกด Food Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ควายเฒ่า Literature Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Cartoon Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:20:09:11 น.
  
เหตุการณ์ที่ดำเนินไป แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ สอดรับกันได้อย่างดีครับ
อ่านแล้วชวนคิดถึงวันที่รอจดหมาย หรือของที่ส่งมาทางไปรษณีย์ มีความตื่นเต้นทุกครั้งครับ

โหวต Literature Blog
โดย: Insignia_Museum วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:20:37:02 น.
  
สวัสดีค่ะ

รูปนิค อยากบอกว่าหล่ออะ

แจ่มว้าวววว เลย พระเอกใช่ปะคะคนนี้

แถมนางเอกของเราเมาแล้วชวนเป็นแฟนซะด้วย

อยากให้ถึงตอนเจอกันอีกครั้งขณะที่ไม่เมาว่าจะเป็นยังไงต่อไปนะ

พรุ่งนี้แวะมาใหม่นะคะ

***********************

ขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ

รุ้งเปล่าใจร้ายนะคะ บิกินี่ไม่ใช่ของรุ้ง

โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:21:23:25 น.
  
มาสั้นๆก่อนนะคะ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Topical Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:22:15:39 น.
  
อุยยย ต้องแปะไว้ก่อนนะคะ อ่านมือถือ ลายตา เด๋วเล่นคอมแล้วจะอ่านน้า

ขอบคุณค่าที่ไปแวะเที่ยวมาเลเซียด้วยกัน ^^
โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:22:49:05 น.
  
โหวตก่อนครับ เดี๋ยวมาใหม่ครับ

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:23:28:29 น.
  
นิคหล่อมาก พี่ตุ้ยก็สวยมากเหมือนกันค่า
คู่รักที่เริ่มไม่ปรกติก็ประมาณนี่เน๊าะ ไม่ว่างบ้างหล่ะ ยุ่งนั้นยุ่งนี่
อกหักให้เมาอยู่ที่บ้าน ยังโชดดีนะที่เจอกับนิคสุดหล่อ สุภาพบุรุษพาส่งกลับบ้าน

ดอยสะเก็ด Literature Blog

โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:2:31:27 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

โดย: mambymam วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:7:43:00 น.
  
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
แวะมาส่งคะแนนให้คุณตุ้ยนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:7:43:55 น.
  
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
อรุณสวัสดิ์นะขอรับ
โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:7:51:44 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

--------------------------------

ติดไว้สองตอนแล้วค่ะ ไว้มาเก็บทีเดียวเลยนะคะ แฮ่ ๆ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:10:46:14 น.
  
สวัสดีค่ะ

วันนี้แวะมาโหวตค่ะ

ดอยสะเก็ด Literature Blog
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:12:04:34 น.
  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
mcayenne94 Travel Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: pantawan วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:14:07:13 น.
  
มาทักทายและส่งกำลังใจค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:14:55:29 น.
  
"นิค" ดูดีเชียวค่ะ พี่ตุ้ย

เรื่องอีรุงตุงนัง ที่พราวพรายกับนิค หรือเปล่าน้อ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
อุ้มสี Hobby Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:15:56:46 น.
  
เรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ เริ่มมีผู้คนมากมายแล้ว



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ประกายพรึก Photo Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:16:10:25 น.
  
ดอยสะเก็ด Literature Blog
เมาเยอะเลยนะคะ
โดย: mcayenne94 วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:19:06:03 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ช่วงนี้ยุ่ง ๆ หน่อยค่ะคุณตุ้ย ไม่ค่อยได้เข้า
บล็อกนัก เพิ่งอ่านถึงตอนที่ 3 ค่ะ วันนี้
มาจองนิคสุดหล่อไว้ก่อนนะคะ
โดย: AppleWi วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:19:38:54 น.
  
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

มาโหวดให้ค่ะ

ยังไม่ได้อ่านค่ะ ต๊ะไว้ก่อนนะคะ
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:20:59:23 น.
  
หล่อจิงวุ๊ย ! คริ คริ
ตื่นเต้นๆ เรื่องรักๆ จกจิกไม่เข้าใครออกใครนิ
พราวพรายจะได้พบกับรักใหม่ มั๊ยน๊อ ...

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog
โดย: Tui Laksi วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:23:02:23 น.
  
มาอ่านจนจบครับ พี่ตุ้ย
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:23:54:19 น.
  
555 โห อ.เต๊ะ ก็ลุ้นน่าดูชมเลยนะครับ

ว่านางเอกของเรา จะอ้วกใส่เสื้อพระเอกมั้ยเนี่ย555


ถ้ามีอ้วกจะก็ ยาวแน่ เพราะไหนจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ต้องอาบน้ำที่บ้าน นางเอกอีก

ดูแล้วหวาดเสียวมากเลย คนกำลังเมา ว้าเหว่ อารมณ์อยากประชดแบบนี้ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นะครับ อิอิ

คุณตุ้ยบอก เหรอออ เดี๋ยวข้า ข้าจะเขียนให้ นางเอก โดดปล้ำ ขบติ่งหู พระเอก ให้เอ็งสมใจซะเลยดีมั้ย เย้ย 555

นางเอกข้า เค้าเป็นกุลสตรี เฟร้ย อย่างมากเค้าก็แค่แอบดุพระเอก แก้ผ้าอาบน้ำแค่นั้น เย้ย555 ข้าเผลอพุดอะไรออกไปเนี่ย แต่ก้ดีเหมือนกันเนอะ 555

ปล ลิง อ.เต๊ะ ไม่ได้มาเยี่ยมซะนานเลยนะครับ
คนนู้นลากไปทางนู้นที ทางนี้ที ชุลมุนตลอด

คุณตุ้ยงอนได้ แต่อย่าพึ่งโกรธ อ.เต๊ะ นะครับ อิอิ

ว่างๆสะดวกเมื่อไร ก้ไปทักทายกันได้นะครับ แฮ่ๆ555



บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: multiple วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:5:31:01 น.
  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Beauty Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

แวะมาอ่านและโหวตให้ค่ะ
โดย: LoveParadise วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:15:06:08 น.
  
คอมหนูอืดมากเลยคะกว่าจะอับบล๊อกได้นั่งแช่ตั้งนาน
เลยไม่ได้เข้ามาแวะนั่งรีสตาร์ทเครื่องอยู่คะเนี่ย
ใช้ไอแพดพิมพ์คะ พระเอกทำใมหล่อจับคะ
ปาดน้ำลายไม่ทัน พราวแพรวเมาเหมือนหนูสมัยตอนเป็นสาวเลยคะ
ป ล รูปโพฟายพี่ตุ้ยเองเหรอคะ พี่ตุ้ยก็เป็นคนสวยนะคะเนี่ย
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: Mitsubachi วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:15:15:18 น.
  
เค้าปรับปรุงสวยงาม สะอาดตาเลยค่ะพี่ตุ้ย สมกับที่ นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเที่ยวชม เป็นหน้าเป็นตาบ้านเรานะคะ

ขอบคุณโหวตค่ะพี่ตุ้ย
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:15:31:12 น.
  
แวะเยี่ยมพี่ตุ้ยก่อนค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ซองขาวเบอร์ 9 Craft Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:15:42:04 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

................................

ขอบคุณพี่ตุ้ยสำหรับกำลังใจนะคะ
สุข สดชื่นยามเย็นค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:18:02:41 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

โดย: ก้นกะลา วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:18:16:22 น.
  
เข้ามาก็เจอหนุ่มหล่อแอบกรี๊ดดังๆเลยค่ะหล่อมากกกกกกก มาให้กำลังใจพราวพรายด้วยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมจะบอกว่าอัพบล็อกใหม่ตามคำเรียกร้องแล้วค่ะ อิอิ

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: zungzaa วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:18:46:36 น.
  
เค้าให้เข้าไปได้นะคะเพียงแต่ผู้หญิงต้องแต่งกายสุภาพ และก็ไม่ใช่เวลาที่เค้าละหมาดน่ะค่ะ

ขอบคุณสำหรับโหวตด้วยนะคะ
โดย: zungzaa วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:20:39:33 น.
  
มาชวนพี่ตุ้ยไปกรี๊ดหนุ่มร็อคค่ะ
รับรองหล่อไม่แพ้นิคค่ะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:3:32:53 น.
  
มาทักทายค่ะคุณตุ้ย

ส่งกำลังใจให้ค่ะ

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: Raizin Heart วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:9:10:42 น.
  
พี่ๆ เคยสอนไว้ว่า เวลาเสียใจอย่าดื่มค่ะ
ควรเดื่มเมื่อมีความสุข
+
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:11:05:46 น.
  
ลงชื่อว่าอ่านรวดเดียว 2 ตอนจบแล้วค่ะ เย้ ๆ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:11:26:51 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ไอเอิร์ธ วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:15:30:16 น.
  
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันนะคะ

ช่วงนี้กลับมาเขียน blog. ต่อแล้ว แต่ยังมาๆไปๆอยู่ค่ะ
เพราะเป็นคนมีวินัยสูงมากกกกกก 5555
โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:16:44:11 น.
  
เริ่มมองเห็นแล้วว่าใครเป็นพระเอกนะคะ เริ่มสนุกขึ้นเรื่อย ๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Health Blog ดู Blog
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
โดย: ALDI วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:21:25:58 น.
  
ขอบคุณที่มาเยี่ยมและโหวตนะคะ
คุณตุ้ยชอบนกยูงแสดงว่าเป็นคนชอบของเก่าเหมือนกันนะคะ
อันนี้ของสะสมของสามีน่ะค่ะ เค้าชอบของเก่า
แม้แต่เครื่องประดับที่ซื้อให้กันก็ซื้อของเก่ามา พวกสร้อยข้อมือ สร้อยคอ กำไล เป็นเครื่องเก่าน่ะค่ะ ได้คุณค่าไปอีกแบบนะคะ
โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 8 กันยายน 2559 เวลา:23:09:33 น.
  


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย ขอบคุณที่ส่งภาพนิคไปให้ชมนะคะ นิคหล่อมากกกก
โหวตให้พี่ตุ้ยด้วยค่ะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 กันยายน 2559 เวลา:10:57:05 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
กันยายน 2559

 
 
 
 
2
3
4
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com