คนละฟากฟัา - บทที่ 46


หลังจากจดทะเบียนสมรสกับนิคได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ พราวพรายก็รู้ชัดแจ้งว่าเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ เพราะประจำเดือนที่ขาดหายไปเกือบสองเดือนโผล่หน้ามาแล้วอย่างไม่คาดฝัน อาการคลื่นไส้เวียนหัวที่เป็นอยู่บ่อยๆก็หายไปด้วยพร้อมกันราวกับปลิดทิ้ง เธอดีใจจนแทบลุกขึ้นเต้นที่ไม่ต้องอุ้มท้องให้ใครรู้ความลับ ที่สำคัญคือไม่ต้องไปสารภาพเรื่องทั้งหมดให้บิดามารดารับรู้ แต่ดีใจได้เพียงพักเดียวก็คิดถึงเรื่องทะเบียนสมรสขึ้นมาได้ โธ่..ทำไมเพิ่งจะโผล่มาตอนนี้ ทำไมไม่มาเสียตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่เธอจะวิตกจริตจนยอมไปจดทะเบียนกับนิค

แล้วพราวพรายก็เพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่าความจริงวันที่ไปจดทะเบียนสมรสที่ศรีษะเกษ ก่อนที่จะเข้าไปในอำเภอเพื่อขอจดทะเบียนสมรส เธอควรจะขอให้นิคพาเธอไปพบหมอที่คลีนิคสักแห่งหนึ่งในจังหวัดนั้น เพราะที่นั่นไม่ใช่อุบลฯคงไม่มีใครรู้จักเธอ ถ้าไปตรวจเสียตอนนั้นหมอก็คงจะยืนยันให้เธอสบายใจได้ว่าไม่ได้ท้อง แล้วเธอก็คงไม่ต้องสติแตกไปจดทะเบียนฯกับนิตให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก คิดแล้วหญิงสาวก็หวนโกรธนิคขึ้นมาอีกจนได้ โทษเขาว่าไม่ยอมเตือนเธอให้ทำเช่นนั้น ไม่ยอมรับรู้แม้แต่น้อยว่าเธอเป็นคนที่คิดเอาเองว่าท้องแน่ๆ เขาเสียอีกที่เป็นฝ่ายเสนอจะพาเธอไปตรวจกับหมอให้แน่ชัดเสียก่อนทั้งที่ในค่ายและในเมือง เธอเองไม่ใช่หรือที่โยกโย้ว่าจะต้องเดินทางไปตรวจถึงกรุงเทพฯ

นั่งกลุ้มไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดีอยู่สองสามวัน ก่อนจะนึกออกว่าเคยตกลงกับนิคไว้แล้ว ว่าถ้าเธอไม่ได้ท้องเธอกับเขาก็จะไปจดทะเบียนหย่ากัน พอนึกได้หญิงสาวก็นั่งรอวันที่นิคจะมาหาในเดือนหน้าอย่างกระสับกระส่าย อยากให้เขามาเสียวันนี้พรุ่งนี้เลย จะได้ไปจัดการถอนทะเบียนกันเสียให้หมดเรื่องไป ไม่ต้องคอยปิดบังและหวาดวิตก กลัวบิดามารดาจะรู้เรื่องการจดทะเบียนแต่งงานกับชายต่างชาติ

ทันทีที่นิคมาอุบลฯในเดือนถัดไป พราวพรายซึ่งรู้กำหนดการทำงานในอุบลฯของเขา ก็รีบรุดไปพบเขาที่อพาร์ตเมนท์ด้วยความใจร้อน โดยไม่รอให้เขามารับเหมือนเคย หน้าตาสดชื่นแจ่มใสของเธอทำให้ชายหนุ่มดีใจ หลงคิดว่าเธอคิดถึงเขา คงอารมณ์ดีเพราะทำใจรับความจริงทุกอย่างได้แล้ว แต่เปล่าเลย พอลงนั่งเรียบร้อยเธอก็เอ่ยปากทันทีว่า

“นิค เราจะไปหย่ากันได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่?”
“อ้าว” ชายหนุ่มนั่งงง “เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ เจอหน้าก็ชวนหย่าเสียแล้ว”
พราวพรายละล่ำละลักบอกเขาว่า “ตกลงฉันไม่ได้ท้องหรอกนะ ฉันเข้าใจผิดไปเอง”
หลังจากหายงงเขาก็ถามว่า “อะไรนะ? ไม่ได้ท้อง? คุณไปให้หมอตรวจแล้วหรือ ทำไมไม่รอผม?”
อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธ “เปล่า ไม่ได้ไปหาหมอหรอก แต่ประจำเดือนฉันมาแล้ว หลังจากที่คุณกลับไปที่โน่นอาทิตย์เดียวเอง”
นิคมองหน้าพราวพรายอย่างสงสัย เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “จริงหรือ? แล้วที่คุณบอกว่าเวียนหัวคลื่นไส้เหมือนแพ้ท้องนั่นล่ะ ถ้าไม่ได้แพ้ท้องแล้วคุณเป็นอะไร?”

“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเพราะฉันเครียดมากก็ได้ แต่ช่างมันเถอะ ไม่ท้องก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องกังวลกลัวพ่อแม่จะรู้” แม้จะเห็นสีหน้าที่เผือดลงของเขา เธอก็ยังคาดคั้นเขาต่อว่า “ตกลงเราจะไปหย่ากันเมื่อไหร่? พรุ่งนี้คุณว่างไหม? จะได้จัดการให้จบๆไป”

พอเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร สีหน้าของนิคก็เปลี่ยนจากเผือดซีดด้วยความผิดหวังเรื่องลูก กลายเป็นทั้งบึ้งทั้งเครียดขึ้นมาทันใด กับข้อเรียกร้องที่ไม่คิดถึงจิตใจของเขาเลย ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เดินไปที่บาร์มุมห้อง รินเหล้าลงแก้วแล้วยกขึ้นดื่มติดๆกันหลายครั้ง ราวกับจะเอาเหล้าช่วยปลอบใจหรือระงับความโกรธ

พราวพรายมองตามนิคไปอย่างไม่เข้าใจ เขาเป็นอะไรไป ทำหน้าเหมือนโกรธเธอเสียเต็มประดา ไม่เห็นทำท่าดีใจเหมือนเธอเลย เขาน่าจะดีใจไม่ใช่หรือ จะได้ไม่ต้องมาถูกผูกติดเอาไว้กับเธอด้วยทะเบียนสมรสใบนั้น

นิคยืนดื่มเหล้าอยู่ตรงนั้นพักหนึ่งก็เดินกลับมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม ตรงข้ามกับพราวพราย จุดบุหรี่สูบพ่นควันเฉยอยู่ ตาก็จ้องผู้หญิงตรงหน้าเขม็งราวกับจะมองเข้าไปให้ถึงหัวใจของเธอ ว่าทำด้วยอะไรจึงได้แข็งกร้าวไม่สะทกสะท้านหวั่นไหวกับความรักของเขาบ้างเลย

“นิค เป็นอะไรเหรอ ไม่พูดไม่จา ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ?”
“ได้ยินชัดเจนดี” เขาตอบด้วยเสียงที่เรียบสนิท

“แล้วไง? ตกลงคุณจะว่างเมื่อไหร่? พรุ่งนี้ว่างไหม? มะรืนนี้ล่ะ? อ้อ..มะรืนไม่ได้เพราะเป็นวันเสาร์ งั้นต้องพรุ่งนี้แล้วละ ไม่งั้นก็วันจันทร์ถ้าคุณยังไม่ได้กลับไปที่โน่น เราต้องไปหย่ากันเสียให้เรียบร้อยก่อนที่พ่อแม่ฉันจะรู้”

คำตอบที่ทำให้พราวพรายสะดุ้งคือ “พรุ่งนี้ตอนบ่ายผมว่าง วันจันทร์ว่างตอนเช้า แต่ผมยังไม่ไปหย่าหรอก”

หญิงสาวอ้าปากค้าง “อ้าว..ถ้าว่างแล้วทำไมจะไม่ไปล่ะ หมายความว่าไง? จะเบี้ยวฉันหรือ? ไหนสัญญาว่าถ้าฉันไม่ได้ท้องก็จะยอมหย่าให้ไง เอ๊ะ..จะมากลับคำหน้าตาเฉยแบบนี้ได้หรือ”

นิคเดินกลับไปที่บาร์เหล้าอีกครั้ง คราวนี้ยกมาทั้งขวดและแก้วเลย วางขวดลงบนโต๊ะ รินเหล้าลงแก้วแล้วยกขึ้นดื่ม “ คุณพราวพราย ถ้าผมจำไม่ผิด ผมจำได้ว่าตอนที่คุณคาดคั้นเอากับผมว่า ถ้าหมอตรวจแล้วบอกว่าคุณไม่ได้ท้องเราจะหย่ากัน ผมตอบคุณว่าเรื่องหย่าเอาไว้คุยกันอีกทีเมื่อถึงเวลา จำได้ไหมว่าผมตอบคุณแบบนี้”

พราวพรายนิ่งคิด นึกออกว่าเขาพูดอย่างนั้นจริง เอ๊ะ..แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ ความหมายมันก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ จดทะเบียนกันก็เพราะคิดว่ามีลูกด้วยกัน เมื่อไม่มีแล้วก็ควรจะต้องถอนทะเบียนเสียสิ จะจดทะเบียนกันต่อไปเพื่ออะไรล่ะ “ก็ใช่น่ะสิ แล้วตอนนี้ทำไมคุณจะมาเบี้ยวไม่ทำตามคำพูดล่ะ?”

“ผมไม่ได้เบี้ยว และผมก็จะทำตามคำพูดด้วย แต่เราต้องคุยให้เข้าใจตรงกันก่อน เพราะคุณบอกผมแล้วว่าไม่ได้ท้อง”

หญิงสาวทำหน้าไม่เข้าใจ คิ้วเริ่มขมวด “ โอเค งั้นคุยกันเดี๋ยวนี้เลย จะได้จบๆเรื่องซะที”

นิคทำหน้าเฉยเมื่อถามว่า “ตกลงคุณจะเอายังไง?”

พราวพรายตอบทันทีโดยไม่เสียเวลาคิด เพราะตั้งใจมาแล้ว “ก็จะหย่าน่ะสิ แล้วคุณล่ะ?”

มีรอยยิ้มนิดๆที่หญิงสาวอ่านไม่ออก ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เคร่งขรึม “ผมยังไม่หย่า”
“เอ๊ะ..นี่คุณบ้าไปแล้วหรือ ฉันอยากหย่า ฉันไม่ได้อยากเป็นเมียคุณแบบนี้นี่”
“งั้นหรือ? แล้วคุณอยากเป็นเมียผมแบบไหน? ”
“แบบที่ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆไม่ให้พ่อแม่รู้ไง ฉันก็เคยบอกคุณแล้วนี่ว่าอยากรอให้พ่อแม่อนุญาตก่อน แต่คุณก็ไม่ยอมรอ”

“ใช่ ผมไม่ยอมรอ แต่ที่เราต้องจดทะเบียนกันโดยไม่รอให้พ่อแม่คุณอนุญาต ก็เพราะคุณเป็นคนบอกผมเองว่าคุณท้อง ผมก็ต้องรับผิดชอบคุณทันทีน่ะสิ ผมบอกให้คุณพาผมไปพบพ่อแม่คุณ จะได้อธิบายให้พวกท่านเข้าใจเรื่องความจำเป็นของเรา แล้วก็ขออนุญาตแต่งงานกัน แต่คุณก็ไม่ยอม อะไรๆก็ไม่ยอมสักอย่าง ผมก็เลยเห็นว่าเราควรจะจดทะเบียนกันเสียก่อนเพื่อลูก ปัญหาอื่นค่อยไปแก้ทีหลัง”

“แต่ตอนนี้เราไม่ได้มีลูกแล้วนี่ เราก็ควรไปหย่ากันให้เรียบร้อยก่อน จริงไหม? ถ้ายังไงก็ค่อยจดทะเบียนกันใหม่อีกทีก็ได้ถ้าพ่อแม่ฉันอนุญาต” พราวพรายยังยึดมั่นกับความต้องการดั้งเดิมของตัวเอง

“หมายความว่าไง ไปหย่ากันก่อนแล้วค่อยไปจดกันใหม่ทีหลังน่ะหรือ? ไม่ตลกไปหน่อยหรือ? เดี๋ยวจดเดี๋ยวหย่าแล้วอีกเดี๋ยวก็ไปจดกันใหม่อีก ทำอะไรเป็นเด็กๆไปได้ ผมว่าคุณคิดอะไรมากเกินไป ผมไม่เชื่อหรอกว่าพ่อแม่คุณจะอยากให้คุณทำแบบนั้น ผมว่าคุณเองนั่นแหละที่คิดเองเออเองทุกเรื่อง”

“ไม่รู้ละ ตอนนี้เราไปหย่ากันก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” หญิงสาวยังยืนกราน

“ยังจะมีเรื่องอะไรให้ว่ากันอีกหรือ? คุณว่าไปคนเดียวแล้วกันผมจบแล้วละ” หน้าของนิคเครียดด้วยความโกรธถึงที่สุด

“หนอย..มาทำขู่ นึกว่าฉันจะแคร์นักหรือ จบกันเลยก็ได้ ไปหย่าแล้วก็จบกันไปเลย ไม่ต้องคิดเรื่องจะไปจดใหม่อีกแล้ว” พราวพรายท้าอย่างคิดว่าเป็นต่อ ก็เขารักเธอไม่ใช่หรือ

“ถามจริงๆเถอะ พราว คุณเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ผมชักจะไม่เข้าใจคุณขึ้นทุกทีแล้ว เดี๋ยวก็ทำท่าเหมือนจะรักผม วิ่งไปร้องไห้ถึงข้างเตียงผมที่โรงพยาบาลเพราะกลัวผมตาย บอกผมว่าห้ามตาย คุณอยู่โดยไม่มีผมไม่ได้ เดี๋ยวก็ทำเหมือนรังเกียจผม พูดจาตัดรอนสารพัด แล้วอีกไม่นานก็เปลี่ยนอีกแล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอดเวลาเหมือนเด็กเล่นขายของ ถามจริงๆคุณคิดว่าผมเป็นอะไร ไอ้งั่งที่คุณจะสนตะพายยังไงก็ได้ตามใจคุณ งั้นหรือ?”

พราวพรายหน้าซีดเผือด รู้ว่าเขาโกรธมาก ส่วนใหญ่เธอจะเห็นนิคเหมือนคนใจเย็น ยอมให้เธอทำอะไรได้สารพัดที่อยากทำ แล้วทำไมวันนี้เกิดจะมาทำหน้าตาเคร่งเครียด พูดจาเหมือนคนแปลกหน้าไปได้ มันทำให้เธอนึกกลัวเขาขึ้นมาบ้างแล้ว

เมื่อเธอไม่ตอบ นัยน์ตาตกลงมองพื้น ชายหนุ่มก็ถามว่า “คุณรู้ใช่ไหมว่าผมรักคุณ?”
หญิงสาวไม่กล้ามองหน้าเขา ได้แต่ตอบเบาๆคำเดียวว่า “รู้”
“แล้วคุณล่ะ รักผมบ้างไหม?”
เธอเงียบอีก ยังไม่กล้ามองหน้าเขาอยู่ดี แต่เมื่อถูกคาดคั้นถามซ้ำก็ตอบอ่อยๆว่า “ไม่รู้สิ”

“พราว อย่าตอบปัดสวะแบบนั้น คุณต้องรู้ใจตัวเอง คุณรักหรือไม่รักผมก็ไม่เป็นไร ขอให้พูดความจริงเท่านั้น” นิคนิ่งไปอึดใจหนึ่งเหมือนตัดสินใจก่อนจะกล่าวต่อว่า “ถ้าคุณยืนยันได้เดี๋ยวนี้ว่าคุณไม่เคยรักผมเลย พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปหย่าตามที่คุณต้องการ แล้วผมก็จะไปจากคุณทันที จะไม่มาวุ่นวายให้คุณรำคาญใจอีกต่อไป ผมเองก็เหนื่อยใจกับคุณเต็มทีแล้ว งานของผมก็เครียดพออยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เครียดเท่ากับที่ต้องมารองรับอารมณ์ ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลาของคุณ”


พอได้ยินคำพูดที่เหมือนไม่สนใจใยดีเธออีกแล้ว พร้อมแล้วที่จะตัดขาดจากเธอ พราวพรายก็ใจหายวาบ สะอื้นไห้ออกมาอย่างบังคับตัวเองไม่ได้ หญิงสาวเหลียวหน้าเหลียวหลังหาทางจะหลบไปให้พ้นหน้าเขาชั่วคราว จะได้ไม่ต้องเห็นสีหน้าที่เฉยเมยและวาจาที่แม้จะพูดด้วยเสียงเรียบๆ แต่ก็บาดลึกลงไปถึงก้นบึ้งหัวใจเธอ วาจาที่พร้อมจะตัดขาดจากเธอได้อย่างเด็ดขาด ราวกับไม่ใช่ชายหนุ่มคนเดิม ที่แสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่ารักเธอขาดเธอไม่ได้ แม้จะกำลังร้องไห้และหัวใจสับสนวุ่นวาย แต่พราวพรายก็ยังมีสติพอที่จะรู้ว่า ถ้าเธอผลุนผลันวิ่งออกไปจากอพาร์ตเมนท์ของเขาตอนนี้ นั่นก็คือการลาจากกันโดยเด็ดขาด ทีท่าทะนงตนของนิคบอกเธอเช่นนั้น

ในที่สุดสิ่งที่พราวพรายทำได้ก็มีเพียงวิ่งเข้าไปร้องไห้ต่อในห้องนอนของเขา ปล่อยให้นิคมองตามหลังไปเงียบๆ ไม่คิดที่จะวิ่งตามเข้าไปปลอบหรืองอนง้อเธอเหมือนที่เคยทำมาแล้วทุกครั้ง

พราวพรายร้องไห้อยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นก็คิดไปด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะปล่อยเขาไปหรือจะรั้งเขาไว้ ทีท่าเหมือนคิดตกแล้วของนิคทำให้เธอใจหาย รู้โดยที่เขาไม่ต้องบอกว่าเรื่องราวระหว่างเขากับเธอ จะเป็นอย่างไรต่อไปขึ้นอยู่กับเธอแต่เพียงผู้เดียว เขาโยนให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะตัดความสัมพันธ์ที่ผูกกันเอาไว้ด้วยทะเบียนสมรส ให้ขาดสะบั้นไปแล้วกลายเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน หรือจะยอมเก็บทะเบียนสมรสนั้นไว้แล้วเดินหน้าไปด้วยกัน ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสรรคจากครอบครัวของเธอ

หลังจากตัดสินใจได้แล้วพราวพรายก็หยุดร้องไห้ เข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำจนหมดคราบน้ำตา ก่อนจะเดินออกจากห้องไปหาชายหนุ่มที่นั่งเอนๆหลับตาอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม มีบุหรี่ที่มีควันจางๆสีเทาลอยสูงอยู่ในอากาศคีบอยู่ในมือ เขาลืมตาขึ้นมองเมื่อเธอเดินเข้าไปหยุดตรงหน้า แต่ไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ

หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่ออกจากมือเขามากดให้ดับลงในที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ทรุดตัวลงนั่งบนตักแล้วเอนตัวลงกอดคอเขาเอาไว้ นิคยังคงนั่งเฉยเหมือนเดิมไม่ได้กอดตอบเธอ ตาที่มองเธออยู่เหมือนมีคำถาม

“นิคคะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ก็ได้”
“ยังไง?”
“ก็..ก็ ยังไม่ต้องหย่า รออีกสักพักก็ได้”
“หมายความว่าคุณก็ยังอยากหย่าอยู่ดี เพียงแต่ประวิงเวลาเอาไว้ก่อน” มีรอยยิ้มนิดๆที่มุมปากเมื่อเขาพูดต่อด้วยเสียงเยาะว่า “นานแค่ไหนล่ะ กว่าคุณจะลากผมไปหย่าใหม่น่ะ?”
“โธ่นิค ฉันไม่ได้คิดยังงั้น ฉันอาจจะกลัวแม่มากไปหน่อยเหมือนที่คุณพูดก็ได้ เรื่องก็เลยออกมาแบบนี้ นิคคะ ขอเวลาให้ฉันมั่งได้ไหม?”
“ผมน่ะให้เวลาคุณได้ทั้งชีวิตแหละ ขึ้นอยู่ที่คุณเท่านั้นว่าจะเอายังไง ถ้ายังยืนยันว่าจะต้องหย่าให้ได้ พรุ่งนี้เราก็ไปหย่ากัน”

พราวพรายรีบชะเง้อหน้าขึ้นจูบปลายคางเขาแผ่วๆอย่างประจบเอาใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจูบเขาก่อน ทำเสียงงอนๆบอกเขาว่า “ฉันไม่ไปหรอกพรุ่งนี้น่ะ อยากไปก็ไปคนเดียวสิ”

พอพูดจบเธอก็ซุกหน้าลงตรงอกเขา ไม่ทันเห็นแววตาดุกร้าวของนิคที่ตอนนี้คิดออกแล้วว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป กับผู้หญิงคนที่กำลังซบอกทำท่าเหมือนง้องอนเขาอยู่ในขณะนี้ เธอจะทำท่าจ๋องๆจ๋อยๆอย่างนี้ทุกที เวลาที่รู้ตัวว่าสู้เหตุผลเขาไม่ได้ แต่พอเขาวางใจเธอก็จะกลับไปแผลงฤทธิ์ใหม่ เขาไม่เชื่ออีกแล้วว่าเธอจะไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีก ถ้าอยากจะอยู่อย่างสงบสุขกับเธอ เขาก็จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีปฎิบัติต่อเธอเสียใหม่ ให้มันรู้ไปสิว่าคนอย่างเขาจะจัดการกับเมียคนเดียวไม่ได้ ไม่ใช่แค่เมียเฉยๆ แต่เป็นเมียที่อ่อนกว่าเขาตั้งสิบปีอีกด้วย

นิคจับตัวพราวพรายให้ลุกขึ้นจากตัก แล้วเดินหนีซึ่งๆหน้าไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง หญิงสาวเดินตามไปนั่งลงใกล้ๆ มองหน้าเขาด้วยสีหน้าจ๋อยๆ เมื่อเขาทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอ แถมยังเดินหนีเธอเสียอีก

“ตกลงคุณจะเอายังไง ยังไม่หย่าใช่ไหม?”
“ใช่”
“หมายความว่าเราจะอยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อยๆใช่ไหม? “
“ใช่”
“โอเค ถ้าคุณจะเอาแบบนั้น เราจะอยู่กันไปเรื่อยๆสักสามสี่เดือนก็ได้ ถ้าคุณนึกเบื่ออยากจะหย่าเมื่อไหร่ก็บอกได้เลยนะ ผมจะหย่าให้คุณทันที แต่ระหว่างที่ยังอยู่ด้วยกันเราควรจะตกลงกันก่อน ว่าต่างฝ่ายต่างมีเงื่อนไขในการอยู่ร่วมกันอย่างไรบ้าง คุณว่าดีไหม? จะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะแล้วโทษกันไปโทษกันมา”

ที่เขาพูดน่ะพราวพรายไม่เข้าใจหรอกแต่ก็ต้องพยักหน้ารับเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้เขาทำท่าเหมือนจะแข็งข้อและพูดจาแปลกๆ ไม่เหมือนผู้ชายคนเก่าที่เธอจะทำอย่างไรกับเขาก็ได้

“คุณมีเงื่อนไขอะไรไหม?” นิคเริ่มต้นก่อนเมื่อเห็นเธอยังนิ่งเงียบ

พราวพรายอึกอัก ไม่รู้ว่าแมวที่อยู่ๆก็กลายเป็นเสือไปเสียแล้วต่อหน้าต่อตาหน้าเธอ คิดจะทำอะไร “เอาเงื่อนไขของคุณก่อนแล้วกัน”

“เงื่อนไขของผมง่ายๆ มีข้อเดียวเอง” สีหน้าของนิคมีรอยยิ้มนิดๆที่หญิงสาวไม่เข้าใจ “คุณจะต้องทำหน้าที่เมียอย่างถูกต้องครบถ้วน คิดว่าไง ทำได้ไหม?”

ตาของพราวพรายเบิกกว้าง เขาหมายความว่าอย่างไร “เอ้อ..ฉันจะต้องทำอะไรมั่งล่ะ?”

“ไม่รู้เลยหรือว่าคนที่เป็นเมียน่ะเขาต้องทำอะไรบ้าง?”
“ไม่รู้ ยังไม่เคยเป็นเมียใครนี่ แล้วคุณรู้งั้นเหรอ? ถ้ารู้ก็บอกมาสิ”
“ทำตัวเป็นเมียที่ดี เอาใจผม ไม่หาเรื่องให้ปวดหัว เชื่อฟัง....”
“ไหนคุณบอกว่าข้อเดียวไง? นี่มันตั้งกี่ข้อเข้าไปแล้ว”
“แปลว่าทำไม่ได้ใช่ไหม?”
หญิงสาวทำตาปริบๆมองหน้าเฉยเมยของอีกฝ่าย ไม่อยากจะรับเลยแต่ก็จำใจต้องยอมรับ...ไปก่อน “ก็..ก็ได้”
“คุณล่ะ มีเงื่อนไขอะไร?”
“ก็..ก็หลายข้อเหมือนกันแหละ”
“อะไรบ้างล่ะ บอกมาเลย”

“อย่าฝืนใจให้ฉันทำสิ่งที่ฉันไม่อยากทำ ห้ามบอกเรื่องจดทะเบียนไม่ว่ากับใคร จนกว่าฉันจะบอกพ่อแม่เสียก่อน แค่นั้นแหละ” เธอพูดเร็วปรื๋อ แล้วก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ “อ้อ..ฉันจะต้องไม่ท้องด้วย”

ความจริงเงื่อนไขข้อสุดท้ายของพราวพรายมีนัยสำคัญว่า ‘ฉันจะไม่มีเซ็กส์กับคุณ’ หญิงสาวยังนึกไปไม่ถึงหรอก เรื่องการคุมกำเนิดที่มีหลายวิธีที่เขาอาจจะยกขึ้นมาอ้างกับเธอได้

นิคตอบโดยไม่เสียเวลาคิดเลยว่า “ตกลง”

แล้วต่างก็มองหน้ากันราวกับจะประลองกำลัง ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดต่อไปว่า “เงื่อนไขของเราจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ คืนพรุ่งนี้และคืนวันเสาร์ คุณต้องมาค้างที่นี่กับผม กลับไปบ้านคุณได้บ่ายวันอาทิตย์”

หญิงสาวตกใจจนหน้าซีด “ไม่ได้หรอก ฉันจะมาค้างคืนได้ยังไง เผื่อแอ๋วรู้ล่ะ ไหนคุณตกลงแล้วไงว่าจะปิดเป็นความลับ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “ แล้วใครบอกว่าจะเปิดเผยล่ะ เพื่อนคุณไม่มีทางรู้หรอก เขาไปค้างกับอรรณพตั้งแต่คืนวันศุกร์ไม่ใช่หรือ?”

พราวพรายเลยต้องเงียบ พูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งทำตาปริบๆ ทั้งๆที่ใจนึกขุ่นแค้นที่ต้องทำตามความต้องการของเขา ที่เธอคิดอย่างเดือดดาลว่าตอนนี้ทำเต๊ะท่าวางอำนาจเหมือนฮิตเลอร์ไม่มีผิด



 




Create Date : 30 มีนาคม 2565
Last Update : 30 มีนาคม 2565 22:31:05 น.
Counter : 627 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณหอมกร, คุณnewyorknurse, คุณSweet_pills

  
เป็นผู้หญิงที่ไม่รู้ใจตัวเองค่ะคุณตุ้ย



โดย: หอมกร วันที่: 31 มีนาคม 2565 เวลา:20:50:45 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
มีนาคม 2565

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com