คนละฟากฟ้า - บทที่ 28


หลังอาหาร นิคขับรถวกวนไปตามถนนสายเล็กๆที่คดเคี้ยวไปมาอีกประมาณสามกิโลเมตร ก็มาจอดลงตรงริมฝั่งแม่น้ำสายหนึ่งที่มีทั้งพงหญ้าและต้นไม้ใหญ่ขึ้นรก ชายหนุ่มลงจากรถ เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้พราวพราย ก่อนจะเดินไปเปิดกระโปรงหลังรถ คว้ากระเป๋าเดินทางเล็กๆสองใบลงมา เมื่อเห็นเธอยังนั่งนิ่งเฉยไม่ยอมลงจากรถ เขาก็ส่ายหน้าอย่างเอือมๆ

“นี่คุณ ถึงแล้ว ลงมาเสียทีสิ”
“ไหนล่ะที่พักที่ว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย มืดยังกับเข้าถ้ำ”
“ลงมาเร็ว ที่พักอยู่ฝั่งโน้น ต้องเดินข้ามสะพานไม้โน่นไป”
นิคชี้มือไปในความมืดที่พราวพรายมองตามไป แต่ก็ไม่เห็นอะไร
“ไม่ไปหรอก มืดออกยังงั้น ฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณจะไม่พาฉันไปทำอะไร?”
“ตามใจ จะนั่งอยู่ในรถทั้งคืนก็แล้วแต่คุณ งั้นผมไปก่อนละ”

พอเห็นนิคเดินลิ่วห่างออกไปในความมืดและความเงียบ พราวพรายก็รีบลุกออกจากรถ โวยวายว่า “รอด้วยสิ จะทิ้งฉันไว้คนเดียวตรงนี้หรือ บ้าที่สุด”


ชายหนุ่มหยุดรอจนเธอเดินตามไปทัน พื้นดินแถวนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อที่ทำให้เดินไม่สะดวก บริเวณนั้นค่อนข้างมืด เพราะมีเมฆฝนสีดำลอยตัวอยู่ในระดับต่ำ ดวงจันทร์ก็ยังไม่ขึ้น เมื่อมาถึงสะพานยาวที่ปูด้วยไม้กระดานแผ่นยาวตอกติดกันยาวเหยียดอย่างหยาบๆ ราวจับที่ทำจากท่อนไม้ไผ่ก็โย้ไปเย้มา แม้แต่แผ่นกระดานที่ปูพื้นก็มีช่องมีร่องจนน่ากลัวจะลอดตกลงไปได้ นิคก็ก้าวขึ้นไปก่อน เขาเหลียวมาบอกพราวพรายให้เดินตามเขาไป สะพานกึ่งสะพานแขวนแห่งนั้นอยู่สูงจากผิวน้ำดำมะเมื่อม ที่อยู่ต่ำลงไปประมาณสามเมตร 

“เดินระวังหน่อย สะพานมันเก่าแล้ว โยกเยกด้วย จับราวเอาไว้ก็แล้วกัน” นิคหันมาสั่งคนที่เดินตามหลังมาติดๆ

เมื่อเดินคลำไปในความมืดบนสะพานที่โยกเยกไปมาได้ประมาณสามสิบเมตร พราวพรายก็ร้องอุทธรณ์ขึ้นมาอีก “เมื่อไหร่จะถึงซะทีล่ะ เดินมาตั้งนานแล้วนะ ไอ้สะพานบ้านี่ก็แกว่งดีนัก ถ้าฉันตกลงไปในแม่น้ำนั่นจะว่ายังไง?”

“ตกลงไปก็ถูกไอ้เข้งับน่ะสิ” นิคนึกสนุกที่จะได้ยั่วให้เธอตกใจ
หญิงสาวหยุดชะงักกึกทันทีที่ได้ยิน “หา! มีจระเข้จริงๆหรือ?”
“รีบๆ เดินตามผมมาก็แล้วกัน อีกสัก 30-40 เมตรก็ถึงฝั่งโน้นแล้วละ”

“อะไรนะ ไกลขนาดนั้นเชียวเหรอ คุณหลอกฉันหรือเปล่าเนี่ย” พราวพรายชักตกใจ กลัวทั้งจระเข้ที่เขาว่าและความโยกเยกของสะพาน ที่ดูเหมือนจะต้องเดินไปอีกนานกว่าจะพ้น

นอกจากไม่ตอบแล้วนิคยังเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอีกจนทิ้งห่างออกไปหลายเมตร ทำให้หญิงสาวต้องแข็งใจก้าวพรวดๆตามเขาไป ปากก็ส่งเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งไปตลอดทาง แล้วในที่สุดคนทั้งสองก็มาถึงปลายสะพานพร้อมกับฝนเริ่มโปรยปรายละอองบางๆ ลงมา

“ไหนล่ะ บ้านพักที่ว่าน่ะ” พราวพรายถามอีก มองไปบนตลิ่งสูงชันที่เห็นอยู่ตรงหน้า ก็เห็นแต่ความมืดและเงาตะคุ่มของต้นไม้ “แน่ใจนะว่ามาถูกที่ รีสอร์ตบ้าอะไรมืดตึ้ดตื๋อขนาดนี้ ไม่มีไฟฟ้าใช้หรือไง”

“ขึ้นบันไดตรงนี้ก่อน” 

มีบันไดห้าขั้นที่มีลักษณะเหมือนดินที่ถูกสับเป็นขั้นๆ พอใช้เป็นทางเดินจาก ริมฝั่งน้ำขึ้นไปบนตลิ่ง นิคเหลียวมามองหญิงสาวที่สะพายกระเป๋าถือไว้บนไหล่ข้างหนึ่ง ตาก็กัมลงมองพื้นที่กำลังเดินอยู่เพราะคงกลัวว่าจะสะดุด 

“รอผมอยู่ตรงนั้นก่อน อย่าเพิ่งตามขึ้นมา มันชันแล้วก็มืด เดี๋ยวจะตกลงไป” 

สั่งเสร็จเขาก็สาวเท้ายาวๆก้าวขึ้นไปตามขั้นบันไดอย่างคล่องแคล่ว เมื่อถึงตลิ่งที่สูงชันก็วางกระเป๋าเดินทางที่ถืออยู่เต็มสองมือลงบนพื้นดิน ลงบันไดกลับมาหาพราวพรายที่ยืนรออยู่ ฉวยมือเธอได้ ก็จูงให้ขึ้นบันไดตามเขาไป ไม่สนใจเสียงบ่นโหวกเหวกของเธอ

“บ้าที่สุด รู้งี้อยู่ที่เวียงจันทน์ซะก็ดี ไม่ต้องมาทุลักทุเลแบบนี้ ดูสิ หัวหูฉันเปียกหมดแล้ว ไอ้ฝนบ้านี่ก็ไม่รู้จะตกลงมาทำไม จะรอให้ถึงที่พักก่อนก็ไม่ได้ น่าเบื่อชะมัด”

ทันทีที่นิคพามาหยุดอยู่หน้าบังกะโลชั้นเดียวหลังเล็กใต้ถุนสูง ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวหันหน้าไปทางแม่น้ำ รายล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่เป็นดง พราวพรายก็ร้องเสียงหลง

“อะไรเนี่ย นี่หรือบ้านพักในรีสอร์ตที่คุณว่า ยังกับอยู่ในป่าแน่ะ มาผิดที่หรือเปล่า?”
“อย่ามัวแต่บ่นอยู่เลย รีบๆขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านก่อนเถอะ ไหนว่ากลัวฝน ไม่รู้หรือไงว่ามันกำลังตกใหญ่แล้ว”

ขณะที่พราวพรายยังยืนเฉยไม่ยอมเคลื่อนที่ นิคก็ก้าวยาวๆผ่านเธอขึ้นไปตามขั้นบันไดสูงชัน หญิงสาวแหงนหน้ามองตามไปก็เห็นชายหนุ่มผู้นั้นวาง กระเป๋าสองใบในมือลงบนพื้นบ้าน เปิดประตูหายเข้าไปในห้องซึ่งคงมีอยู่เพียงห้องเดียว ทั้งๆที่ยังยืนตากฝนซึ่งเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆอยู่ แต่เธอก็ยังไม่ยอมขยับตัวตามเขาขึ้นไป

นิคโผล่หน้าออกมาจากประตูห้อง “จะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืนหรือไง?”

“ฉันไม่พักที่นี่หรอก ไหนคุณว่าจะหาบังกะโลว่างๆให้ฉันไง รีบๆลงมาพาฉันไปหาที่พักที่ดีกว่านี้หน่อย ฉันอยู่ที่นี่ไม่ไหวหรอก ท่าทางโทรมยังกะสลัมไม่มีผิด” หญิงสาวบ่นเสียงดังอย่างหัวเสีย

“ขึ้นมาดูก่อนเถอะ อย่าเพิ่งโวยวายเป็นเด็กๆเลย” เสียงของเขาชักจะแข็งๆขึ้นมาบ้างแล้ว

ในที่สุดพราวพรายก็จำใจต้องไต่บันไดขึ้นไปข้างบน ตอนนี้นิคหิ้วกระเป๋าสองใบเข้าไปในห้องแล้ว หญิงสาวเปิดประตูห้อง ชะโงกเข้าไปสำรวจหาข้อติ แล้วก็พบว่าถึงภายนอกจะดูโทรมๆในสายตาของเธอ แต่ห้องนั้นก็ดูดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก มันมีขนาดใหญ่พอสมควร มุมหนึ่งของห้องมีเตียงขนาดห้าฟุตพร้อมที่นอนหนาคลุมเอาไว้ด้วยผ้าคลุมเตียง ที่มีลักษณะเหมือนผ้าพื้นเมืองทอมือลวดลายปราณีตสีสวยขรึม ในห้องมีโต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้าติดฝาใบย่อม ตู้เย็นเล็กๆและโทรทัศน์เหมือนห้องในโรงแรมทั่วไป สิ่งเดียวที่ขาดไปคือเครื่องปรับอากาศ ตรงข้ามกับปลายเตียงมีประตูหนึ่งบานที่ปิดอยู่ ซึ่งเธอเดาว่าคงจะ เป็นห้องน้ำ ห้องนั้นมีหน้าต่างสองบานซึ่งมีม่านสีและลายเดียวกับผ้าคลุมเตียงติดอยู่


“เป็นไง ไหวไหม?” ชายหนุ่มถาม เมื่อเห็นสายตาของเธอที่มองสำรวจไปทั่วห้อง

พราวพรายยักไหล่ เดินเข้ามาหยุดอยู่กลางห้อง “ไหนคุณว่าจะหาบังกะโลให้ฉันอยู่ต่างหากไง รีบออกไปจัดการซะทีสิ”

“โอเค กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ คุณรออยู่ที่นี่ก่อนแล้วกัน”

นิคลงจากบังกะโลหายไปแล้วกลับมาภายในสิบนาที บอกเธอว่า “ขอโทษที คนดูแลที่พักบอกว่า คืนนี้ไม่มีบังกะโลว่างเลย ฝรั่งคู่ที่บอกว่าจะออกวันนี้เกิดเปลี่ยนใจ จะอยู่ต่ออีกคืนหนึ่ง คงจะเช็คเอาท์พรุ่งนี้หลังเที่ยง”

พอได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวก็ส่งเสียงแข็งขึ้นมาทันที “ทำแบบนี้ได้ไง คุณรู้ล่วงหน้าแล้วมั้งว่าไม่มีบังกะโลว่าง แต่หลอกให้ฉันมากับคุณ แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ”

“นี่คุณ อย่าหาความกันหน่อยเลย ผมจะหลอกคุณไปทำไมล่ะ ผมไม่รู้จริงๆ ตอนที่โทร.มาจองที่พักเมื่อเช้านี้ เขาบอกผมอย่างนั้นนี่นา ” ชายหนุ่มทำหน้าบึ้งกับข้อกล่าวหาของเธอ

“โอเค ถ้างั้นคืนนี้จะทำยังไง จะให้ฉันนอนที่ไหน บอกเสียก่อนนะว่าฉันไม่นอนห้องเดียวกับคุณหรอก” พราวพรายยื่นคำขาด

“หมายความว่าคุณจะให้ผมออกไปนอนข้างนอกโน่นหรือไง?”

“งั้นสิ หรือคุณจะเกี่ยงให้ฉันออกไปนอนข้างนอก ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ ตรงนั้นแคบเท่ารูหนูจะนอนได้ยังไง ลมก็แรงฝนก็ตก คงหนาวตายแน่ ดีไม่ดีอาจจะถูกยุงกัด จนเป็นไข้เลือดออกก็ได้”

นิคมองท่าลอยหน้าลอยตาพูดของพราวพรายอย่างขวางๆ “ที่นี่ไม่มียุงหรอก ผมมาพักหลายครั้งแล้วยังไม่เคยถูกยุงกัดเลย ไม่ต้องอ้างไปถึงไข้เลือดออกอะไรนั่นหรอก”

หญิงสาวยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ “ไม่รู้ละ ถ้าคิดจะให้ฉันออกไปนอนข้างนอกนั่น ก็พาฉันไปหาห้องพักดีๆฝั่งโน้นดีกว่า” เธอยืนกราน

ชายหนุ่มถอนใจเฮือก “คุณคิดจริงๆน่ะหรือ ว่าผมจะเอาเปรียบนอนสบายในห้อง ปล่อยให้คุณออกไปนอนข้างนอกโน่น”

“อ้าว..งั้นคุณก็ออกไปนอกห้องได้แล้ว ฉันจะนอนละ เพลียจะแย่อยู่แล้ว” แล้วเธอก็หาวออกมาหนึ่งทีประกอบคำพูด

“ใจคอจะไม่ให้ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนหรือไง” นิคอุทธรณ์ เขม้นมองหน้าพราวพรายอย่างเคืองๆ

“ใครห้ามคุณล่ะ จะทำอะไรก็รีบๆทำซะ ฉันจะได้นอนเสียที”

นิคเปิดกระเป๋าเดินทางใบที่เป็นของเขา หยิบกางเกงขายาวหลวมๆ เสื้อยืดและกระเป๋าใบเล็กที่บรรจุอุปกรณ์โกนหนวด แปรงและยาสีฟันออกมา แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูตามหลังดังโครมโดยเจตนา ในขณะที่พราวพรายอมยิ้มชอบใจที่แกล้งเขาได้ ลงนอนเขลงบนเตียง โดยไม่ได้ดึงผ้าคลุมเตียงออก คิดว่าจะนอนเล่นรอให้นิคออกจากห้องน้ำแล้วออกไปนอกห้องเสียก่อนจึงจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง


แต่เมื่อนิคออกจากห้องน้ำในอีกสิบนาทีต่อมา เขาพบว่าหญิงสาวเรื่องมากคนนั้น ซึ่งยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมหลับอุตุไปแล้ว เขาขยับจะเรียกเธอให้ตื่นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ บอกตัวเองว่าถ้าอยากอยู่อย่างสงบก็อย่าไปตอแยกับเจ้าหล่อนเลย ดีไม่ดีนอกจากจะเจ็บตัวแล้วยังอาจจะนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะความโกรธอีกด้วย คิดแล้วก็ถอนใจให้กับความอุตริของตัวเองที่เจ้ากี้เจ้าการชวนเจ้าหล่อนมาด้วย รู้งี้ทิ้งไว้ที่เวียงจันทน์เสียก็ดีหรอก ไม่ต้องมาเห็นสีหน้าบึ้งตึงกวนประสาท และถ้อยวาจาที่ห้วนกระด้างราวกับไม่ใช่ผู้หญิงของยายคนนี้ หลังจากนั้นนิคก็หยิบหมอนใบหนึ่งจากเตียง เปิดตู้เสื้อผ้าเล็กๆที่อยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง ค้นได้ผ้าห่มผืนหนึ่งก็เดินออกจากห้องไป


พราวพรายหลับสนิทจนประมาณตีสอง ก็สะดุ้งตกใจตื่นจากเสียงฝนฟ้าที่กระหน่ำหนัก เสียงกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้บ้านฟาดกับผนังด้านนอกดังสนั่น มีฝนสาดเข้ามาทางหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดอยู่ ทั่วทั้งห้องมืดมิด หญิงสาวลุกขึ้นนั่งงงบนเตียง มองไปรอบตัวแต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด จะกดสวิชต์เพื่อเปิดไฟก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน อาศัยแสงฟ้าที่แลบแปลบปลาบ เดินตรงไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่วางแอบอยู่ปลายเตียง ค้นได้เสื้อนอนกางเกงนอนชุดหนึ่ง ควานหาจนเจอไฟฉายกระบอกจิ๋ว ที่มักจะติดกระเป๋าอยู่เสมอเวลาเดินทาง แล้วเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ บอกตัวเองว่าคืนนี้ไม่ต้องอาบหรอก...น้ำน่ะ ดึกดื่นใกล้สว่างแล้วละมัง ไว้ค่อยอาบรวบยอดพรุ่งนี้ทีเดียวเลยดีกว่า หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่เตียงนอน 


แต่ก่อนจะขึ้นเตียงก็นึกถึงชายหนุ่มคนนั้นขึ้นมาได้ ฝนตกหนักขนาดนี้เขาจะนอนได้หรือเปล่า เพราะเธอจำได้ว่านอกชานตรงที่กะเกณฑ์ให้เป็นที่นอนของเขานั้น เป็นที่โล่งมีหลังคาคลุมอยู่นิดเดียวเท่านั้น พราวพรายเดินไปแง้มประตูออกเล็กน้อย เปล่า..ไม่ได้จะเรียกให้เขาเข้ามานอนในห้องหรอก อยากรู้ว่าเขานอนอย่างไรเท่านั้น แต่เมื่อไฟฉายในมือเธอส่องออกไป พราวพรายก็เห็นนิคนั่งคุดคู้กอดหมอนพิงฝาบ้านอยู่ พื้นกระดานตรงหน้าเขาเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ผ้าห่มที่กองอยู่บนพื้นเปียกโชก

พอเห็นพราวพราย ชายหนุ่มผู้นั้นก็ผุดลุกขึ้นยืน “ให้ผมเข้าไปข้างในเถอะ เห็นไหมว่าตรงนี้เปียกโชกไปหมด ผมนอนไม่ได้หรอก ถ้านอนตากฝนยังงี้ทั้งคืน พรุ่งนี้คงเป็นนิวโมเนียตายแน่” พูดจบเขาก็หอบหมอนเดินหลีกเธอเข้ามาในห้อง

พราวพรายมองตามหลังเขาอย่างงงๆ “ใครอนุญาตให้เข้ามานอนในนี้”

“อย่าใจดำนักเลย ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่อยากจะเข้ามานักหรอก ใจคอจะให้ผมนอนตากฝนอยู่ยังงั้นหรือ”

พอพูดจบเขาก็ผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ ใช้ผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้เช็ดไปตามหน้าตา ผมและแขนที่มีแต่น้ำจนแห้งสนิท เมื่อเดินออกมาอีกที ก็พบว่าพราวพรายนั่งอยู่ริมเตียง ไฟฉายในมือเธอส่องจ้ามาที่เขาจนตาฟาง

“ถ้าจะนอนในห้องนี้ คุณก็ต้องนอนบนพื้นโน่น” เธอยื่นคำขาด แกว่งไฟฉายในมือไปตรงมุมสุดของห้องด้านที่ใกล้ห้องน้ำ “ไม่มีอะไรปูก็นอนลงไปบนพื้นกระดานนั่นแหละ หมอนก็มีแล้วนี่ งั้นก็นอนได้แล้ว ฉันจะได้ปิดไฟนอนเสียที”

ชายหนุ่มท้วงว่า “ไม่คิดว่าผมจะหนาวตายมั่งหรือไง ผ้าห่มก็ไม่มี”
“อ้าว..แล้วทำไมไม่เอาผ้าห่มเข้ามาด้วยล่ะ”
“เอาเข้ามาได้ไงล่ะ เปียกโชกขนาดนั้น”
“ในตู้นั่นไม่มีผ้าห่มสำรองให้หรอกหรือ”
“ไม่มีหรอก มีแค่ผืนที่อยู่ข้างนอกโน่นกับผืนของคุณเท่านั้น”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้ คุณคงต้องนอนทั้งๆไม่มีผ้าห่มนั่นแหละ”
“ความจริงผ้าห่มนั่นใหญ่พอสำหรับสองคน” 

นิคพูดลอยๆขณะล้มตัวลงนอนบนพื้น ทำให้พราวพรายซึ่งนอนลงไปบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเรียบร้อยแล้ว ผงกหน้าขึ้นจากหมอน ทำตาโตอย่างตกใจ 

“คุณคิดจะมาขอแบ่งผ้าห่มกับฉันงั้นหรือ? คิดบ้าๆแบบนั้นได้ไงเนี่ย ตอนนั่งรถมาคุณสัญญาแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่มาวุ่นวายอะไรกับฉัน”

“ก็ผมหนาวนี่ กะอีแค่ห่มผ้าด้วยกันจะเป็นอะไรล่ะ ไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณสักหน่อย” นิคโต้อย่างเคืองๆ เขานั่งตากลมและละอองฝนอยู่ข้างนอกมาหลายชั่วโมงแล้ว ตัวเขาเย็นเฉียบและรู้สึกหนาวจนกลัวว่าจะเป็นไข้เสียด้วยซ้ำ

“เชอะ พูดเอาแต่ได้ ใครจะไปไว้ใจคุณ”
“ไม่รู้ละ ผมขอผ้าห่มครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน” 

พูดขาดคำชายหนุ่มคว้าหมอนได้ก็เดินพรวดพราดไปล้มตัวลงนอนบนเตียงติดเธอนิดเดียว มือก็ยื้อแย่งชายผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้บ้าง พราวพรายตกใจ ยื่นมือมาพยายามผลักไสเขาให้ออกไปนอกผ้าห่มแต่ไม่สำเร็จ เพราะนิคเอื้อมมือมาผลักตัวเธอให้นอนตะแคงหันหลังให้เขา กอดเอวเธอเอาไว้แน่นจนหลังของเธอแนบสนิทกับแผ่นอกของเขา

“นอนนิ่งๆเถอะ ไม่ต้องดิ้นไปหรอก” ชายหนุ่มผู้นั้นกระซิบอยู่ข้างหูเธอ “ทำยังกับว่าไม่เคยนอนด้วยกันมาก่อนงั้นแหละ รับรองว่าผมจะนอนเฉยๆไม่ทำอะไรคุณหรอก บอกแล้วไงว่าผมไม่เคยฝืนใจผู้หญิงคนไหน คุณนอนหลับให้สบายเถอะ ผมเองก็ทั้งง่วงทั้งเพลีย นั่งตากฝนอยู่ข้างนอกนั่นแล้วก็ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง อยากพักเต็มทีแล้ว”

พราวพรายเลยต้องนอนตัวแข็งลืมตาโพลงอยู่ในความมืด คิดอย่างตื่นตระหนกว่า ถ้าเขาเกิดบ้าขึ้นมาเธอจะเอาตัวรอดได้อย่างไร ภาวนาให้เขาไม่สนใจเธอในแง่นั้น เพราะเธอนั้นไม่ได้นึกอยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเก่าเลย ตอนแรกๆมันก็น่าตื่นเต้นดีอยู่หรอก แต่ทำไมตอนหลังมันถึงได้เจ็บและน่ารำคาญจนทนแทบไม่ไหวไปได้ก็ไม่รู้ ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้พราวพรายตัดสินไปแล้วว่าไม่ได้ความและไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับนิคหรือผู้ชายคนไหน ส่วนนิคก็รักษาสัญญาอย่างเคร่งครัด เขาเพียงแต่กอดเอวเธอเอาไว้ อาศัยไออุ่นจากตัวเธอช่วยให้ร่างกายที่เย็นเฉียบของเขา ค่อยๆอุ่นสบายขึ้นจนผลอยหลับไปอย่างรวดเร็ว ในอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น



 



Create Date : 18 พฤษภาคม 2562
Last Update : 18 พฤษภาคม 2562 16:28:36 น.
Counter : 872 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณหอมกร

  
ส่งกำลังใจค่า
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:17:06 น.
  
มาอ่านดึกเลยครับ พี่ตุ้ย
ช่วงเย็นค่ำๆฝนตก เข้าฤดูฝนแล้ว บรรยากาศเหมือนนิคนอนตากฝนกอยู่นอกห้อง
รอพรุ่งนี้เช้า พราวพรายเห็นวิวยามเช้า คงสวยน่าชม
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:1:00:21 น.
  
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เป็นบทประพันธ์ที่ทำให้นางเอกหญิงไทยของเรา
ดูเป็นคนไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายดีนะคะคุณตุ้ย

โดย: หอมกร วันที่: 31 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:30:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
พฤษภาคม 2562

 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com