|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
9W Magic #5: ชมพูเพลินพิศ พรรณราย + เมี่ยงบัวหลวงปทุมธานี & วุ้นแก้วมังกร +

รอบนี้ถึงคราที่เราเป็นผู้ตั้งโจทย์การบ้าน การกำหนดสีก็แอบคิดหนัก คิดไม่ตกอีกแล้วเรา ตั้งโจทย์สีชมพูหวานแหววแต่ในใจยังไม่มีเมนูใด ๆ ประมาณปากไวพูดโพล่งออกไปแบบไม่ทันคิด พอมีเสียงหนับหนุนเปรยว่าหากเป็นสีชมพู สบายบรื๋อ เพราะการบ้านสีนี้ทำเสร็จแล้วในคลังแสง โฮ่โฮ่ แค่ตั้งโจทย์ก็มีคนทำเสร็จแล้ว แล้วเราจะทำเมนูอะไรดี เอิ๊กก เมื่อโดนกดดันเริ่มคิดหนักอีก

สีขมพูส่วนใหญ่น่าจะเมนูขนมหวานซ๊ะมากกว่า หากเราจะทำของหวานดูจะยุ่งยากเกินไปสำหรับเรา เพราะขนมไทยส่วนใหญ่ต้องทำแป้งและผสมสี ใจอยากทำอาหารคาวที่ตัวเราค่อนข้างถนัดมากกว่า

คงจะมีบางท่านอยากถามว่า ทำไมถึงเลือกสีชมพู? ณ เวลานั้นถูกกดดันจาก หญิงโอ ณ บ้านเนินน้ำ เพิ่งส่งการบ้านสีม่วงครามไปหยก ๆ ยังไม่ทันพักหายเหนื่อย มากดดันตรูว์อีกแล้ว แหม๋ม ดันมาถาม "พี่หญิงใหญ่รีบเลือกสีมาเร็ว รอบหน้าอยากจะให้เป็นตีมสีอะไรบอกมาเลย" เด๋วน้องจะไปกระจายข่าว โอยจะเร่งอะไรนักหนา อิอิ แต่ก็บอกสีไปทันที เวลานั้นสมองดันนึกไปถึงสีชมพูทันควัน ชอบสีชมพู โดยเฉพาะชมพูกลีบบัว ชมพูกลีบบัวที่มีเอกลักษณ์ และเป็นหนึ่งในสีชมพูทั้งหมดที่สุดแสนคลาสสิค

กลับมาที่เรื่องของโจทย์ ยังคิดไม่ตกว่าอาหารคาวชนิดใดที่มีส่วนผสมของสีชมพูบ้าง คิดหัวแทบจะระเบิด คิดเยอะ คิดอยู่หลายอย่าง เริ่มจากขนมก่อน บัวลอย ทับทิมกรอบ วุ้นแก้วมังกรรวมมิตร คาวบ้าง ยำส้มโอทองดีสีชมพู ข้าวยำปักษ์ใต้ใส่ดอกดาหลา ยำเกสรชมพู่มะเหมี่ยว ขนมถั่วแปบปากหม้อบีทรูท จากที่คิดเยอะ ที่สุดก็มาลงตัวที่เมนูโบราณที่ถนัดอยู่ดี จัดไป ... เมี่ยงคำบัวหลวง-ชมพูเพลินพิศ-พรรณราย
ก่อนไปต่อกับสำรับเมี่ยงบัวหลวงที่ต้องมีน้ำจิ้มเมี่ยงคำเป็นตัวประกอบร่วม วันนี้จะไม่ขออธิบายกรรมวิธีทำน้ำเมี่ยงคำแบบละเอียด แต่หากสนใจสูตรนี้ และวิธีการทำทุกขั้นตอน กรุณาตามไปดูเรื่องราวได้จากที่บล๊อกนี้หล่ะคะ
วิธีทำน้ำเมี่ยงคำ คลิกที่นี่
ส่วนผสมน้ำเมี่ยงคำด้างล่างเป็นสูตรของ ผศ. พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ หมาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งอาจารย์ได้แพร่ภาพออกอากาศหลายรายการ อาทิ รายการกิน-อยู่-คือ สูตรของอาจารย์ผสมน้ำตาลทรายทำให้เข้มข้นมาก ซึ่งปกติที่เราทำประจำ เป็นสูตรใส่น้ำตาลปีบอย่างเดียว ไม่มีน้ำตาลทราย แต่โดยรวมแล้วคล้ายกัน บางครั้งเราโขลกมะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว และกุ้งแห้งป่นผสมใส่เข้าไปด้วย เพื่อความเข้มข้นและกลิ่นหอมของมะพร้าวคั่วทำให้น้ำเมี่ยงคำหอมยิ่งขึ้น
เมี่ยงบัวหลวง อ.พงษ์ศักด์ คลิกที่นี่
ส่วนผสม น้ำตาลปีบ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชี 1 ช้อนชา ข่าคั่วโขลก 1 ช้อนชา หรือมากน้อยตามชอบ

วิธีเคี่ยวให้เหนียวทำไม่ยาก ใช้เวลาไม่นานมาก ดูวิธีเคี่ยวได้ที่บล๊อก

หลายคนคงแอบคิดอีกว่า ดอกบัวกินได้ด้วยรึ บ่งบ๊งเองเคยทานแต่เมี่ยงคำดอกบัวขาว แต่อาจารย์แนะนำให้ทานสีชมพูพันธ์ราชินี หรือบัวหลวงปทุมธานี เป็นบัวตามธรรมชาติ อาจารย์บอกไว้ดอกบัวสีชมพูทานได้ เพื่อความแน่ใจบ่งบ๊งขอโทรไปสอบถามตามเบอร์โทร มือถือที่อาจารย์ให้ไว้ อาจารย์รับสายและสอบถามกลับมา บ่งบ๊งเป็นใคร?โทรจากที่ไหนครับ? เราก็สาธยายที่มาที่ไปให้ฟัง อาจารย์ว่า "ดอกบัวกิน คนโบร่ำโบราณเค้าก็รับประทานกันมา"
สำหรับบัวสีขาว อาจารย์ว่า ยังมิได้มีการทำวิจัย เราบอกไป 55 วิจัยไม่ทันแล้วอาจารย์คะขา บ๊งกินไปแหล่ว 555 ชีวิตนี้คงอมตะนิรันด์กาลแน่แล้วตรูว์ ดันกินบัวขาวที่เขายังมิได้ทำวิจัย หากจะม้วยมลายวายชีวาก็คงตายไปนานแล้วเพราะกินมาหลายเดือนแล้วน๊ะพี่น้อง เอิ๊กกกก
วิธีล้างกลีบบัว
เด็ดกลีบบัวออกเป็นใบ ๆ เอากลีบแก่ ๆ ทิ้งไป นำน้ำสะอาดใส่กาละมัง ใส่เกลือป่นลงไปนิดหน่อย นำกลีบบัวลงไปล้างทีละกลีบ ๆ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ

บางท่านอาจคิดว่าเมนูนี้เหมือนเราไม่ได้แสดงสีไม้ลายมือในการทำ ประมาณว่าเป็นเมนูของว่างง่าย ๆ ไปซื้อแบบสำเร็จแล้วมาจัดวาง ๆ ก็ได้ แบบนั้นเราก็ไม่เคยทำน๊ะ เราต้องปรุงน้ำเมี่ยงเอง ส่วนมะพร้าวซื้อสำเร็จ แต่คราวนี้เราใช่มะพร้าวคั้น ขูดแล้วมาคั่วเอง น้ำเมี่ยงคำมิใช่เรื่องง่ายนิ

ตอนแรกที่ตั้งใจคือจะทำยำเกสรดอกชมพู่มะเหมี่ยวใส่ส้มโอด้วย คิดไว้หลากหลายเมนู แต่ที่สุดแล้วก็ตัดออกหมด แต่พอล้มเลิกไปเสียดายของ

ก็เลยต้องเอาเกสรดอกชมพู่มะเหมี่ยวมาทานร่วมกับเมี่ยงคำ ใส่เครื่องและใส่ส้มโอไปด้วย กลายเป็นเมี่ยงยำส้มโอใส่เกสรชมพู่ไปซ๊ะเลย ราชาดของเกสรดอกชมพู่มะเหมี่ยวจะออกเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่ขมฝาด อร่อยดี คราวหน้าหากได้เกสรดอกชมพู่มาอีก จะทำยำเกสรชมพู่แบบโบราณจริง ๆ ให้ชมกัน

เกือบทุกครั้งที่ทานเมี่ยงคำจะแอบคิดเล็ก ๆ นึกคิดไปว่าทำไมคนโบราณช่างคิดจังหนอ จับเอาเครื่องเคียงต่าง ๆ มาผสมผสานกันได้แบบแบบลงตัว ทำไมเมี่ยงคำต้องทานกับ ขิง หอมแดง มะนาว ทานกับใบชะพลู ใบทองหลาง แล้วยังมีกุ้งแห้ง และถั่วลิสงอีกด้วย

ตอนที่โทรไปสอบถามเรื่องราวของดอกบัวกับอาจารย์ เรายังเปรย ๆ กับอาจารย์ไปว่า เห็นอาจารย์อยากให้เมนูเมี่ยงบัวหลวงนี้ได้รับความนิยมจากบรรดาร้านอาหารในบ้านเรา เพราะสรรพคุณของบัวมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หาบัวสายพันธุ์นี้ยากจังเลย ไม่มีขาย ส่วนใหญ่ตามท้องตลาดมีแต่บัวสัตบงกชซึ่งมีรสชาติฝาด ๆ ออกขม ๆ เป็นบัวเลี้ยงใส่ปุ๋ย อาจารย์บอกว่าที่สถาบันฯ มีพิพิธภัณฑ์บัวนานาชนิด และบัวหลวงราชินีก็มีการปลูกไว้ด้วย หากอยากได้เมล็ดพันธ์เพื่อนำไปปลูกก็มาขอกันได้ .. หายากจริง ๆ ที่เห็นนี้ได้มาจากปทุมฯ

สีชมพูจะมีรสฝาดนิด ๆ ส่วนสีขาวจะเนื้อกลีบจะนิ่มนวลเหมือนกำมะหยี่ ไม่มีรสฝาด อาจาร์ย์บอกว่ารสชาติของมันขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ปลูกด้วย

หั่นเครื่องเคียงให้ละเอียดยิบแบบนี้ทำให้หยิบจับใส่ง่ายดี

มุมนี้ ...

และมุมนี้ ...

กลีบดอกบัวหลวงจะมีกลิ่นหอมเย็น ๆ หากใครไม่เคยดอมดม คราวหน้าหากซื้อดอกบัวมาแล้วลองดมกลิ่นดูนะคะ กลิ่นหอมเย็น ๆ

หากเปรียบเทียมระหว่างบัวสองสี เราว่าสีขาวกินอร่อยกว่าชมพู กลีบบัวขาวจะเบา ๆ เวลาสัมผัสคล้ายกำมะหยี่ ไม่ฝาดด้วย

บ่งบ๊งว่ารสชาดมันฝาดแบบมีเสน่ห์ ทานได้แบบไม่ระคายลิ้น

ดูสิคะ สีชมพูช๊อกกิ้งพิ้งจากกลีบดอกบัวหลวงพันธุ์ปทุมธานี มันช่างสวยงาม มองแล้วสบายตา เป็นไม้น้ำที่มีสีสันคลาสสิคจริง ๆ

สูตรวุ้นแก้วมังกร
ส่วนผสม
แก้วมังกร 3 ลูก น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ ผงวุ้น 1/2 ช้อนชา ผงวุ้น Lobo กลิ่นผลไม้ไทย 1/2 ซอง
วิธีทำ
นำแก้วมังกรมาผ่าครึ่งแล้วคว้านเนื้อแก้วมังกรออกจากเปลือก หั่นเนื้อแก้วมังกรให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆ จนหมด เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟ แบ่งเปลือกแก้วมังกรส่วนหนึ่งลงไปต้ม ต้มเพื่อให้ได้สีธรรมชาติจากเปลือกแก้วมังกร จะได้สีชมพู พอน้ำเดือดแล้วใสผงวุ้นทั้งสองชนิดลงไป รอจนผงวุ้นละลาย

ดับไฟแล้วปล่อยให้เย็นตัวสักพัก จากนั้นนำเนื้อแก้วมังกรที่ หั่นไว้ใส่ลงไป ตักวุ้นแก้วมังกรใส่กลับไปที่เปลือกแล้วแช่ตู้เย็น

ระยะนี้แก้วมังกรที่บ้านเยอะมาก อิอิ ของฟรี ผู้คนที่เค้าไหว้เจ้า ไหว้ศาล พากันมาไล่แจกให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากินไม่ทันก็เลยต้องนำมาแปรรูปซ๊ะเลย ที่ได้มาเป็นเนื้อสีขาว ไปพบสีชมพูแอบซุกในตู้เย็นอีก 1 เลยเอามาช่วยกัน ครั้งแรกที่ทำสีขาวได้สีวุ้นชมพูอ่อน ๆ แต่พอผสมสีม่วงเข้มลงไปจัดจ้านมาก
สูตรนี้ไม่หวานมาก กลิ่นดอกไม้ไทย ๆ หวานหอมชื่นใจ

วุ้นแก้วมังกรช่างเหมาะเจาะกับอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงนี้จริง ๆ หากทำไม่หวานมากก็สามารถละเลียตกินไปได้เรื่อย ๆ กินคลายร้อน หอมชื่นใจจัง
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยือน เจื้อยแจ้วทักทาย ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์ที่เป็นกำลังใจให้กันเสมอมา ... สวัสดี
Create Date : 30 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 9 ธันวาคม 2560 13:22:55 น. |
|
70 comments
|
Counter : 38918 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:1:23:52 น. |
|
|
|
โดย: anigia วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:1:57:03 น. |
|
|
|
โดย: diamondsky วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:4:13:45 น. |
|
|
|
โดย: bear hunt วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:4:20:09 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:6:47:37 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:6:49:43 น. |
|
|
|
โดย: jamaica วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:7:18:22 น. |
|
|
|
โดย: Tristy วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:7:44:35 น. |
|
|
|
โดย: kapeak วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:8:45:18 น. |
|
|
|
โดย: kapeak วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:8:49:08 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:9:00:50 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:9:07:01 น. |
|
|
|
โดย: sun_ice วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:9:51:09 น. |
|
|
|
โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:9:57:30 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:10:36:32 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:11:03:47 น. |
|
|
|
โดย: koboreume วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:12:40:09 น. |
|
|
|
โดย: sinaporn วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:13:09:34 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:14:39:03 น. |
|
|
|
โดย: หมูตอนพ่อเต๊าะ IP: 58.137.174.225 วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:14:49:11 น. |
|
|
|
โดย: diamondsky วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:15:12:21 น. |
|
|
|
โดย: kapeak วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:15:15:11 น. |
|
|
|
โดย: bake@home IP: 223.25.193.171 วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:16:12:54 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:18:47:55 น. |
|
|
|
โดย: พลอยยินดี IP: 118.172.90.160 วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:18:53:29 น. |
|
|
|
โดย: newyorknurse (newyorknurse ) วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:20:59:02 น. |
|
|
|
โดย: ปูค่ะ (nulaw.m ) วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:21:15:38 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:21:26:30 น. |
|
|
|
โดย: vekalover วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:21:41:18 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:22:05:00 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:4:36:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:7:13:33 น. |
|
|
|
โดย: pim&jae วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:55:21 น. |
|
|
|
โดย: AnnsCrafts วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:54:09 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:29:12 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:54:46 น. |
|
|
|
โดย: coji IP: 119.42.82.175 วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:11:59 น. |
|
|
|
โดย: koboreume วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:44:26 น. |
|
|
|
โดย: ปูค่ะ (nulaw.m ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:13:42 น. |
|
|
|
โดย: anigia วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:06:47 น. |
|
|
|
โดย: AnnsCrafts วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:17:57 น. |
|
|
|
โดย: narellan วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:29:43 น. |
|
|
|
โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:14:26:12 น. |
|
|
|
โดย: ป้าเจ (คนขี้อาย ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:15:24 น. |
|
|
|
โดย: อุ้ย IP: 125.24.115.113 วันที่: 15 มีนาคม 2555 เวลา:10:59:40 น. |
|
|
|
โดย: เชฟช้าง IP: 123.201.46.250 วันที่: 13 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:37:46 น. |
|
|
|
โดย: ketsara (Ket_sara_N ) วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:14:26:40 น. |
|
|
|
โดย: masao IP: 182.52.116.245 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:22:02:14 น. |
|
|
|
โดย: poonsri IP: 115.31.141.3 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:18:56:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|