อ่านใจภาษากายของเจ้าตัวน้อย

ปัญหาเชาว์คำถามหนึ่งถามว่า ทำไมทารกถึงชอบร้องไห้
คำตอบก็คือ ถ้าให้คนเราไม่มีผม ไม่มีฟัน พูดไม่ได้บ้างซิ จะร้องไห้ไหม
เมื่อทารกพูดไม่ได้ สิ่งที่สามารถสื่อสารถ่ายทอดได้ ก็คงมีเพียงอย่างเดียวนั่นคือภาษากาย(Body Language)
การเรียนรู้ภาษากายของทารกไม่ใช่ของใหม่ ส่วนใหญ่เน้นใช้ในการสื่อสารกับผู้ที่มีปัญหาทางการพูดและการฟัง

แต่ ปัจจุบันมีการนำมาศึกษาเพื่อให้เข้าใจทารก และเด็กเล็กที่ยังไม่ถึงวัยพูด ด้วยการสังเกตสีหน้าและเสียง
โดยจะค่อยๆ แสดงเด่นชัดขึ้นเมื่ออายุ 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งพี่เลี้ยงเด็กชาวอเมริกันผู้ศึกษาเรื่องนี้
ได้ทำการสังเกตและศึกษาจน กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ถึงกับเขียนออกมาเป็นหนังสือขายดีกันเลยทีเดียว

หากเราพอรู้ภาษากายสำหรับทารก ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเจ้าตัวน้อยร้องงอแง
ซึ่งคุณแม่บางท่านไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไร เป็นต้นว่า ทารกส่งเสียงร้อง โดยเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ
หมายความว่าอย่างไร หรือถ้าร้องสลับกับหยุดพักจะหมายความว่าอย่างไร รวมถึงภาษากายโดยทั่วไป
เราได้รวบรวมภาษากายบางส่วนนี้มานำเสนอ หวังว่าจะช่วยให้คุณแม่เข้าใจการสื่อสาร
รวมถึงหาวิธีการปลอบโยนให้ตรงกับความต้องการของเจ้าตัวน้อยค่ะ

ภาษากายบ่งบอกว่า
หน้าตามีชีวิตชีวา ยิ้มแย้ม สบตาเตะเท้า บางครั้งทำเสียงอูๆ และเล่นน้ำลาย

สิ่งที่คุณควรทำ
อารมณ์ดี เพราะมีความสุข หากเตะเท้าร่วมด้วยแสดงว่า กำลังตื่นเต้น ดีใจ
แต่ก็อาจหมายถึงว่ากำลังโกรธก็ได้ แสดงออกว่าคุณก็รู้สึกมีความสุขเช่นเดียวกัน

ภาษากายบ่งบอกว่า
เบ่งตา จ้องมองบางอย่างโดยอาจยันตัวมาข้างหน้าหรือทำให้หน้านิ่วคิ้วขมวด

สิ่งที่คุณควรทำ
ตื่นตัว สนใจ อยากรู้อยากเห็น
คุณมีหน้าที่ตอบสนองความสนใจและอยากรู้อยากเห็น ด้วยการสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ลูก
เช่น อนุญาตให้ลูกสำรวจได้ในพื้นที่และขอบเขตที่มั่นใจว่า ไม่มีอันตรายใดๆ


ภาษากายบ่งบอกว่า
กัดฟัน หายใจแรงถี่บางครั้งทำเสียงฟุดฟิดผ่านจมูก กำหมัดแน่น โยกตัวไปมา

สิ่งที่คุณควรทำ
อารมณ์ไม่ดี เบี่ยงเบนความสนใจของลูกไปจากเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิด
และพาไปที่อื่นเพื่อทำกิจกรรมอื่นแทน

ภาษากายบ่งบอกว่า
หลบสายตา หมดความสนใจกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ห่อไหล่ ทำตัวอ่อนปวกเปียก
อาจร้องไห้ ที่แสดงความน่าสงสาร มากกว่าทำให้รำคาญร่วมด้วย

สิ่งที่คุณควรทำ
รู้สึกเบื่อหรือถูกกระตุ้นมากเกินไป อยากให้คุณอยู่ใกล้ ๆ กอดเขาเพื่อให้เขารู้สึกอบอุ่นและมั่นคงขึ้น

ภาษากายบ่งบอกว่า
หลบตา เบียดตัวชิดหรือแอบอยู่ข้างหลังคุณ

สิ่งที่คุณควรทำ
อาย บ่งบอกว่าลูกเริ่มต้นมีปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่น นอกเหนือจากสมาชิกในบ้าน
การพยายามพาลูกเข้าสังคมเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกันบ้าง
ความประหม่าเขินอายเหล่านี้จะค่อยๆ ลดลงและหายไปในที่สุด


ภาษากายบ่งบอกว่า
แขนเหยียดตรงเหนือศีรษะ ขาเหยียดตรงหลังงอ ขยี้หน้าขยี้ตา

สิ่งที่คุณควรทำ
เหนื่อยและง่วง เห่กล่อม รวมถึงจัดที่นอนในที่ๆ ปลอดภัยและสงบ


ภาษากายบ่งบอกว่า
ร้องไห้ถี่ๆ ซ้ำๆ กระแทกเสียงแล้วหยุดพักหายใจชั่วขณะ จึงร้องต่อสลับกันไป

สิ่งที่คุณควรทำ
อยากหม่ำๆ ให้ดูดนมก็จะหยุดค่ะ


ภาษากายบ่งบอกว่า
ร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมขยุกขยิกตัวไปมาด้วย

สิ่งที่คุณควรทำ
มีสิ่งสกปรก ทำให้ไม่สบายตัว ส่วนใหญ่เพราะผ้าอ้อมแฉะหรือเลอะ เปลี่ยนผ้าอ้อมใหม่ก็เรียบร้อย


ภาษากายบ่งบอกว่า
ร้องเสียงยาวแหลมเหมือนกรีดร้อง

สิ่งที่คุณควรทำ
เจ็บปวด อาจมีมด แมลง ตกหมอน ฯลฯ


ภาษากายบ่งบอกว่า
ร้องเหมือนตะโกน และมองหาใครซักคน

สิ่งที่คุณควรทำ
มาเล่นกันเถอะ อุ้มไปชมนกชมไม้ เอาของเล่นมาเล่นกับเขาหรือชวนพูดคุยก็ได้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรวบรวมการอ่านใจภาษากายของเจ้าตัวน้อย
จะช่วยผ่อนแรงของคุณให้เข้าใจการแสดงของของเขา เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ตรงตามจุดประสงค์
เปลี่ยนเด็กที่เลี้ยงยากเพราะยากจะเข้าใจ ให้เป็นเด็กเลี้ยง่าย
เพราะคุณสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของเขาได้นะคะ


โดย อธิษฐาน
ขอขอบคุณ บันทึกคุณแม่


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ

ที่มา : //women.sanook.com

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553		0 comments
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2553 21:38:35 น.
Counter : 1235 Pageviews.
Share Tweet